Start planning your trip
8 สิ่งน่าสนใจในสวนเซ็นกังเอ็น ที่เที่ยวขึ้นชื่อของคาโกชิมะ (Sengan-en, Kagoshima)
สวนเซ็นกังเอ็นที่ขึ้นชื่อในคาโกชิมะ มีสิ่งน่าสนใจมากมาย อาทิ จุดชมวิวเกาะซากุระจิมะ, คฤหาสน์ที่ไดเมียวเคยพำนัก, แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของคาโกชิมะ รวมถึงโลเคชั่นถ่ายละคร
สวนเซ็นกังเอ็น สวนญี่ปุ่นอันดับต้นๆ ในคาโกชิมะ
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในจังหวัดคาโกชิมะ คงเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก "สวนเซ็นกังเอ็น" สวนกว้างใหญ่ที่มีขนาดถึง 50,000 ตารางเมตร
จากพื้นที่จุดศูนย์กลางของคาโกชิมะมีรถบัสเดินทางไปสวนแห่งนี้โดยตรง ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ที่นี่มักจะคลาคล่ำไปด้วยผู้คนมากมาย
สวนเซ็นกังเอ็นเป็นที่รู้กันดีถึงความงดงามของสวนญี่ปุ่น นอกจากนั้นที่นี่ยังมีจุดต่างๆ ให้ชมอีกมาก เช่น โกะเท็น (Goten) คฤหาสน์ที่สามารถสัมผัสวิถีชีวิตของไดเมียวได้ และโรงงานที่สามารถชมการผลิตงานฝีมือแบบดั้งเดิมอย่างใกล้ชิดด้วย ปี 2018 ที่นี่ได้เป็นโลเคชั่นถ่ายทำละครเรื่อง "เซะโกะดง (Segodon)" ละครไทกะ (*1) ของญี่ปุ่น ทำให้ได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น
ในบทความนี้เราจะบอกเล่า 8 สิ่งน่าสนใจ เพื่อให้คุณได้เพลิดเพลินกับสวนเซ็งกังเอ็นได้มากที่สุดกันครับ!
*1 : ละครไทกะ ... ละครย้อนยุคที่ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ NHK ทุกปีเป็นระยะเวลา 1 ปี มีบุคคลทางประวัติศาสตร์เป็นตัวละครเอกของเรื่อง สถานที่ที่เป็นโลเคชั่นถ่ายทำละครมักมีนักท่องเที่ยวไปเยือนเป็นจำนวนมาก
จังหวัดคาโกชิมะซึ่งเป็นที่ตั้งของสวนเซ็นกังเอ็นนั้น เป็นพื้นที่ที่เรียกกันจนถึงศตวรรษที่ 19 ว่า "ซาสึมะ (Satsuma)"
ชิมาซุ มิสึฮิซะ (Shimazu Mitsuhisa) ซึ่งเคยปกครองซาสึมะได้สร้างสวนเซ็นกังเอ็นขึ้นเมื่อปี 1658 ในช่วงสมัยเอโดะ ตระกูลชิมาซุสร้างคฤหาสน์ที่พำนักประจำอยู่ในตัวเมืองคาโกชิมะในปัจจุบัน และใช้สวนเซ็นกังเอ็นเป็นบ้านพักตากอากาศ ปัจจุบันยังคงเหลือสวนและสิ่งก่อสร้างบางส่วนในสมัยนั้นอยู่ และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้
เดี๋ยวเราลองเข้าไปดูในสวนเซ็นกังเอ็นกันดีกว่า!
8 สิ่งที่น่าสนใจในสวนเซ็นกังเอ็น
1. ถ่ายรูปกับจุดชมวิวที่มองเห็นเกาะซากุระจิมะ (Sakurajima Island)!
ทิวทัศน์ที่แสนงดงามอันดับต้นๆ ของสวนเซ็นกังเอ็นคือเกาะซากุระจิมะที่คั่นกลางด้วยอ่าวคาโกชิมะ ซึ่งมองเห็นได้จากสวน เกาะซากุระจิมะเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดคาโกชิมะ ปัจจุบันยังมีการปะทุเกิดขึ้นเล็กน้อย
แม้จะสามารถมองเห็นเกาะซากุระจิมะได้จากสถานที่ต่างๆ ในเมืองคาโกชิมะ แต่มักกล่าวกันว่าทิวทัศน์ของเกาะซากุระจิมะที่มองจากสวนเซ็นกังเอ็นนั้นงดงามที่สุด เราสามารถเพลิดเพลินกับความงามที่สอดผสานกันของสวนญี่ปุ่นและเกาะซากุระจิมะ
Picture courtesy of Sengan-En Park
แม้สวนเซ็นกังเอ็นจะเป็นสวนญี่ปุ่นที่กว้างใหญ่มากๆ แต่ก็ไม่มีสระน้ำและเนินเขาเทียมแบบที่เห็นบ่อยๆ ในสวนญี่ปุ่น
เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่ เพราะอันที่จริงมองกันว่าอ่าวคาโกชิมะที่อยู่ตรงหน้าสวนเซ็นกังเอ็นก็คือสระน้ำ และเกาะซากุระจิมะที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็คือเนินเขาเทียมนั่นเอง
นี่เป็นวิธีคิดแบบไดนามิกที่สร้างสรรค์ ที่มองว่าธรรมชาติที่อยู่รอบๆ เป็นส่วนหนึ่งของสวนซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ชัคเคชิคิเทเอ็น (Shakkeishiki Teien)" สวนญี่ปุ่นหลายแห่งก็มีแนวคิดแบบนี้ อาทิ สวนญี่ปุ่นในพิพิธภัณฑ์ศิลปะอาดาจิ (Adachi Museum of Art)ในจังหวัดชิมาเนะ (Shimane)
2. เดินผ่านประตูซุซุมง (Suzumon) ด้วยความรู้สึกแบบไดเมียว
นี่คือประตูที่เรียกว่าซุซุมง สมัยเอโดะเคยใช้เป็นประตูด้านหน้า แม้ภายนอกดูเล็ก แต่ทำจากดีบุก หลังคาจึงมีน้ำหนักมากถึง 1 ตันเลยทีเดียว!
ซุซุมงเป็นประตูสำหรับผู้สูงศักดิ์ จึงมีแค่ผู้ครองแคว้นซาสึมะในสมัยนั้นและลูกชายคนโตซึ่งเป็นผู้สืบทอดเท่านั้นที่สามารถผ่านได้ แต่ถือเป็นความโชคดีที่ในปัจจุบันทุกคนสามารถผ่านประตูนี้ได้แล้วครับ
ประตูด้านหน้านี้ยังเป็นประตูที่คุณวาตานาเบะ เคน (Watanabe Ken) นักแสดงจากเรื่อง "เซะโกะดง" ละครไทกะที่ออกอากาศในปี 2018 เคยเดินผ่านด้วย คุณวาตานาเบะแสดงเป็นชิมาซุ นาริอาคิระ (Shimazu Nariakira) ในวัย 28 ปี
ภายในสวนยังมีจุดอื่นๆ ที่ใช้ถ่ายทำละครอีกหลายแห่ง
3. สัมผัสวิถีชีวิตของตระกูลชิมาซุในโกะเท็น!
เมื่อผ่านประตูซุซุมงเข้าไป จะเห็นคฤหาสน์ญี่ปุ่นที่งามสง่าเรียกว่า "โกะเท็น" ซึ่งผู้นำตระกูลชิมาซุแต่ละรุ่นใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ และบางช่วงก็ใช้เป็นบ้านที่พำนักประจำ รวมทั้งยังทำหน้าที่เป็นสถานที่รับรองบุคคลสำคัญทั้งในและต่างประเทศด้วย
ด้านในโกะเท็นเปิดให้บุคคลภายนอกเข้าชมได้ เราลองเข้าไปชมด้านในกันครับ
พื้นต่างระดับนี้มีไว้เพื่อแบ่งพื้นที่ของโอโทโนซามะ (เจ้านายหรือชนชั้นสูง) กับข้ารับใช้ (ลูกน้อง) ที่อาศัยอยู่ในโกะเท็น ห้องที่มีพื้นสูงกว่านี้จะเป็นโซนที่โอโทโนซามะอยู่อาศัยครับ
"เอ็กเค็นโนะมะ (Ekkennoma)" สร้างขึ้นเพื่อเป็นห้องรับรองอาคันตุกะที่มาเยือน เมื่อครั้งที่จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 แห่งรัสเซียและสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 แห่งสหราชอาณาจักรมาเยือนก็ใช้ห้องนี้เป็นที่รับรอง
นี่เป็นห้องที่โอโทโนซามะใช้เวลาเกือบทั้งวัน ทำงานบ้างกินอาหารบ้าง
ห้องนี้ยังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ซึ่งสามารถมองเห็นสวนทั้งหมด ลองมาชมวิวเกาะซากุระจิมะในอารมณ์เดียวกับเจ้านายตระกูลชิมาซุดูนะครับ
การตกแต่งภายในของโกะเท็นหรูหราสมกับเป็นที่พักอาศัยของเจ้านายในสมัยนั้น หากลองสังเกตห้องและโถงทางเดินดีๆ จะรู้สึกได้ถึงลูกเล่นที่ใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อย ๆ
ในภาพเป็นของตกแต่งเพื่อซ่อนตะปูที่เรียกว่า "คุกิคาคุชิ (Kugikakushi)" โดยมีการออกแบบแตกต่างกันไปตามแต่ละห้องและโถงทางเดินถึง 11 ชนิด ด้านบนซ้ายในภาพที่มีสีแต้มคือหัวไชเท้าซากุระจิมะ ของขึ้นชื่อของจังหวัดคาโกชิมะ ส่วนค้างคาวที่ด้านล่างซ้ายว่ากันว่าเป็นผู้ส่งสาสน์แห่งความสุข
4. เดินชมสวนที่มีธรรมชาติสมบูรณ์
ด้านหลังโกะเท็นมีทางเดินขึ้นเขาทอดยาว สามารถเพลิดเพลินกับการเดินชมธรรมชาติได้
โดยเฉพาะเส้นทางที่มอสขึ้นก็เป็นอีกจุดยอดนิยมที่มีความสวยงาม ภายในสวนมีทางเข้าสำหรับทางเดินเขา เป็นเส้นทางเดินป่าเที่ยวละประมาณ 30 นาที สำหรับคนที่อยากลองปีนเขาแบบจริงจัง ขอแนะนำให้เตรียมรองเท้าและชุดที่สวมแล้วเดินสบายๆ ไปให้พร้อมนะครับ
* เส้นทางปีนเขาเปิดตั้งแต่ 8:30 - 16:00 น. ในกรณีที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยอาจจะไม่สามารถปีนเขาได้
5. ไปสนุกกับศิลปะการต่อสู้โบราณ "จิเก็นริว (Jigenryu)" กัน!
สำหรับคนที่อยากยืดเส้นยืดสายกันสักหน่อยที่นี่ยังมีจุดให้ได้สัมผัสกับศิลปะการต่อสู้โบราณของคาโกชิมะด้วย เราสามารถทดลองเล่น "จิเก็นริว (Jigenryu)" ได้ที่นี่ครับ
จิเก็นริวเป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้แบบเก่าที่สืบทอดต่อกันมาที่คาโกชิมะ เราจะต้องใช้ดาบไม้ตีลงไปบนไม้ และตอนที่ตีจะต้องเปล่งเสียงดังออกมาจากท้อง
มีดาบไม้ที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมจริงและไม้รองรับการตีจัดเตรียมไว้ สามารถลองฝึกตีได้โดยอิสระ ในภาพนี้คือคุณอเล็กซ์ ชาวอังกฤษ เป็นพนักงานของสวนเซ็นกังเอ็นและยังเป็นศิษย์ของสำนักจิเก็นริวด้วย ตอนที่เขาตีไม้ลงบนไม้ จะเปล่งเสียงดังมากออกมาจนผู้คนแถวๆ นั้นเหลียวกลับมามอง
ผู้เขียนลองตีเหมือนกัน แต่ดาบไม้หนักมาก! วันรุ่งขึ้นปวดกล้ามเนื้อมากครับ
6. ลิ้มรสอาหารคาโกชิมะแสนอร่อย
ภายในสวนมีร้านอาหารอยู่ 2 ร้าน รวมทั้งคาเฟ่กับจุดแวะพักที่สามารถเพลิดเพลินกับของหวานได้ด้วย
วันที่ไปเก็บข้อมูล เราได้ลองชิม "ชุดหมูคุโรบุตะทอด (Kurobuta pork loin cutlet set)" (ราคา 1,380 เยน) ที่ทำจากหมูคุโรบุตะในจังหวัดคาโกชิมะที่ร้าน "โชฟูเค็น (Shofuken)" เนื้อหมูที่ซ้อนกันเป็นชั้นๆ คล้ายกับขนม Mille Feuille (มิลเฟย) ของฝรั่งเศส เนื้อมีความนุ่มเคี้ยวง่าย มีความอร่อยของเนื้อแบบเต็มๆ
นอกจากนี้ยังสามารถดื่มด่ำกับของอร่อยๆ ของคาโกชิมะ เช่น "คุโรเกะวากิวและคุโรบุตะชาบูชาบูเซ็น ( Kuroge wagyu and Kurobuta shabu shabu hot pot)" (ราคารวมภาษี 1,980 เยน) เป็นชาบุชาบุที่สามารถกินได้ทั้งเนื้อหมูคุโรบุตะและเนื้อวากิวของจังหวัดคาโกชิมะ หรือ "ซาชิมิโมริเซ็น (sashimi platter)" (ราคารวมภาษี 1,890 เยน) ที่มีซาชิมิสดใหม่ที่ใช้วัตถุดิบจากทะเลในละแวกนี้
7. เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของสวนเซ็นกังเอ็นซึ่งเป็นมรดกโลก
เสน่ห์ของสวนเซ็นกังเอ็นไม่ได้มีแค่สวนญี่ปุ่นเท่านั้น หากรู้ประวัติศาสตร์ด้วย ก็ยิ่งสนุกมากขึ้น
ในภาพคือซากปรักหักพังของ "ฮันชาโระ (Hansharo เตาหลอมแบบสะท้อนความร้อน)" ที่สร้างขึ้นเพื่อผลิตปืนใหญ่ที่ทำด้วยเหล็ก ในอดีตที่ด้านหนึ่งของสวนเซ็นกังเอ็นมีโรงงานต่างๆ ตั้งเรียงรายอยู่
ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 19 ชิมาซุ นาริอาคิระ ผู้นำตระกูลชิมาซุรุ่นที่ 28 ได้ผลักดันความทันสมัยและการพัฒนาอุตสาหกรรมไปสู่พื้นที่อื่นๆ ของญี่ปุ่น โดยสร้างโรงงานสไตล์ยุโรปเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นบนพื้นที่ของสวนเซ็นกังเอ็น ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นที่นี่ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีของญี่ปุ่น
ดังนั้นพื้นที่ทั้งหมดของสวนเซ็นกังเอ็นจึงได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็น "มรดกโลกทางวัฒนธรรม" ในฐานะ"มรดกแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมญี่ปุ่นสมัยเมจิ" ในปี 2015 แม้ในปัจจุบันเตาเผาสะท้อนความร้อนในภาพจะเหลือเพียงส่วนฐานเท่านั้น แต่ในอดีตเคยเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงถึง 20 เมตรและเป็นแกนหลักของโรงงานทั้งหลาย
สำหรับคนที่อยากเรียนรู้ประวัติศาสตร์ให้ลึกซึ้งมากกว่านี้ขอแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่พิพิธภัณฑ์โชโคชูเซคัง (Shoko Shuseikan Museum)นะครับ
ที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของตระกูลชิมาซุและวัฒนธรรมของมินามิคิวชูที่มีซาสึมะเป็นศูนย์กลาง
8. ซื้อแก้วเจียระไน "ซาสึมะคิริโกะ (Satsuma Kiriko)" สินค้าหัตถกรรมของคาโกชิมะไปเป็นของฝาก
โรงงานแห่งนี้เป็นธุรกิจอีกอย่างที่ตระกูลชิมาซุเป็นผู้ริเริ่มและยังสานต่อจนถึงปัจจุบัน
นั่นก็คือเครื่องแก้วเจียระไนที่เรียกว่าซาสึมะคิริโกะ
ซาสึมะคิริโกะเป็นการนำแก้วสีต่างๆ สวมบนแก้วใสแล้วเจียระไนเป็นลวดลายต่างๆ อย่างสวยงาม
เทคนิคนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 แม้จะหยุดผลิตไปช่วงหนึ่ง แต่ในช่วงปี 1980 ได้ฟื้นฟูขึ้นใหม่ ปัจจุบันเป็นที่รู้จักกันดีว่านี่คืองานฝีมือดั้งเดิมของคาโกชิมะ
โรงงานที่ตั้งอยู่ข้างๆ สวนเซ็นกังเอ็นสามารถเข้าไปทัศนศึกษาได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าด้วยครับ เราจะได้เห็นภาพของเหล่าช่างฝีมือที่กำลังสร้างผลงานศิลปะเล็กๆ นี้ขึ้นมาแบบใกล้ชิดเลยครับ
วันหยุดประจำของโรงงานคือวันจันทร์และวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือน (กรณีตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์จะหยุดในวันถัดไปแทน)
ซาสึมะคิริโกะมีจำหน่ายในร้านติดกับโรงงานและร้านขายของในสวนเซ็นกังเอ็น แม้แก้วจะมีราคาหลายหมื่นเยนก็จริง แต่ถ้ามีของขึ้นชื่อที่ใช้ยังไงก็ไม่เบื่อประดับบ้านคงดีไม่น้อยนะครับ
เริ่มเที่ยวคาโกชิมะจากสวนเซ็นกังเอ็น
แม้จะแวะชมเฉพาะจุดสำคัญๆ ในสวนเซ็นกังเอ็นก็ใช้เวลาราว 1-2 ชั่วโมง หากตั้งใจชมแต่ละที่อย่างละเอียดไม่รีบร้อนก็ต้องมีเวลาอย่างน้อยครึ่งวันครับ อยากให้เผื่อเวลาเดินชมสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ในสวนนะครับ
แวะมาเยือนสวนเซ็นกังเอ็นซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์อันหลากหลายกันให้ได้นะครับ
In cooperation with Sengan-En Park
MATCHA Editer.
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง