Start planning your trip
พาชมทุกซอกมุมของ MUJI HOTEL GINZA และ MUJI สาขาใหญ่ที่สุดในโลกที่กินซ่า!
พาไปชมทุกซอกมุมของโรงแรม "MUJI HOTEL GINZA" กับการตกแต่งสไตล์มูจิ แถมยังใช้ผลิตภัณฑ์ของมูจิแทบทุกมุม รวมไปถึงร้าน MUJI สาขาล่าสุดที่กินซ่า ร้าน Flagship Store ใหญ่ที่สุดในโลก มีถึง 6 ชั้น! พร้อมทั้งอิ่มกายกับร้านอาหาร อิ่มใจกับแกลเลอรี่จากมูจิอีกด้วยนะ
ดำดิ่งสู่โลกของมูจิที่ MUJI HOTEL GINZA และ MUJI สาขาล่าสุด ณ กินซ่า!
MUJI (มูจิ) คือชื่อของแบรนด์ดังระดับโลกด้วยสินค้าที่ออกแบบสวยเรียบ เน้นถึงประโยชน์ใช้สอย คุณภาพ ราคาที่สมเหตุสมผล และรักธรรมชาติ
ความเรียบง่าย แต่เป็นมิตร ให้ความรู้สึกอบอุ่นนี้เองที่ทำให้ครองใจคนจำนวนมาก รวมไปถึงคนไทยจำนวนไม่น้อยที่พูดกันฮิตติดปากว่าชอบ "ดีไซน์สไตล์ MUJI"
วันนี้ MATCHA ขอชวนไปดำดิ่งสู่ "โลกของ MUJI" กันให้เต็มที่กับโรงแรม "MUJI HOTEL GINZA" ซึ่งเป็นโรงแรมจากฝีมือของ MUJI เองที่จะทำให้คุณได้สัมผัสกับ MUJI ตั้งแต่ลืมตาตื่นจนหัวถึงหมอน พร้อมกับแนะนำร้าน MUJI สาขากินซ่า สาขาล่าสุดซึ่งเป็น Flagship Store ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ครบทั้งสินค้า ร้านอาหาร และแกลเลอรี่ใน 6 ชั้น
พร้อมจะเดินทางสู่ "โลกของ MUJI" กันแล้วหรือยังคะ!
ร้าน MUJI สาขากินซ่าและโรงแรม MUJI HOTEL GINZA
MUJI สาขากินซ่าและโรงแรม MUJI HOTEL GINZA นั้นสร้างขึ้นด้วยคอนเซ็ปท์ "การเชื่อมโยง" ทั้งเชื่อมโยงผู้คนต่อผู้คน เชื่อมโยงเมืองกับเมือง เชื่อมโยงกินซ่ากับทั้งโลก และให้เป็นสถานที่ผู้คนที่ใช้ชีวิตในกินซ่านี้ได้ผ่อนคลายอีกด้วย
โดยเป็นอาคารรวม 11 ชั้น (10 ชั้น + ชั้นใต้ดิน 1 ชั้น) มีชั้นใต้ดินเป็นร้านอาหาร MUJI DINER ส่วนชั้น 1-5 เป็นร้านขายสินค้าของ MUJI ที่ชั้น 6 เป็นแกลเลอรี่และล็อบบี้ของโรงแรม ส่วนชั้น 7-10 เป็นห้องพัก 79 ห้องซึ่งมี 9 แบบให้เลือกตามความต้องการ
เรียกว่าจะใช้เวลาทั้งวันซึมซับความเป็น MUJI ภายในอาคารก็ยังได้เลยทีเดียวค่ะ
ชั้น | |
7-10 | ห้องพักโรงแรม MUJI HOTEL GINZA |
6 | ล็อบบี้โรงแรม ห้องอาหาร "WA" และแกลเลอรี่ ATELIER MUJI GINZA |
5 | เครื่องเรือน เครื่องใช้ในบ้าน และ MUJI SUPPORT |
4 | เครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้าเด็ก บริการ custom MUJI BOOKS และ Found MUJI รวมถึงเคาน์เตอร์ปลอดภาษี |
3 | สินค้าในชีวิตประจำวัน เช่น เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องเขียน |
2 | สินค้าที่เน้นเรื่องวัสดุ (เสื้อผ้า) MUJI Labo และ MUJI WALKER |
1 | อาหาร ขนมในชีวิตประจำวัน เบเกอรี่ ชา น้ำผลไม้ |
B1 | ร้านอาหาร MUJI DINER และสินค้าอาหาร Found MUJI |
เรามาดูกันไปทีละชั้นเลยดีกว่า!
ชั้นใต้ดิน B1 อร่อยกับอาหารที่ดีต่อสุขภาพกับ MUJI DINER
ลงกันมาที่ชั้นใต้ดินก่อนค่ะ ชั้นนี้เป็นร้านอาหารในชื่อ MUJI DINER และมีสินค้าอาหารของ Found MUJI
ภายในร้านตกแต่งด้วยอิฐแดง ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นโกดัง ใช้ครัวแบบเปิดเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสกับกลิ่นและกระบวนการทำอาหารได้ และยังมีครัวผลิตเต้าหู้ในร้าน
ภาพล่าง : Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ร้านอาหารเปิดเกือบตลอดวัน แต่จะแบ่งเมนูอาหารที่เสิร์ฟตามเวลา คือ
อาหารเช้า เวลา 7:30 - 11:00
อาหารกลางวัน เวลา 11:00 - 15:00
อาหารเย็น เวลา 17:00 - 22:00
มื้อเช้านั้นมีอาหารง่ายๆ ในราคาย่อมเยา เพียง 500 เยนก็จะได้ทานอาหารประเภทขนมปังปิ้ง ไข่กวน หรือข้าวปั้น
ส่วนมื้อกลางวันจะเป็นอาหารเซ็ท (เทโชคุ) ที่จะมีทั้งข้าว กับข้าวจานหลัก ซุปมิโซะ และเครืองเคียง เมนูที่เสิร์ฟก็อย่างเช่น เซ็ทปลาย่างหรือไก่ทอดคาราอาเกะ (850 เยน) เซ็ทแฮมเบิร์กหรือข้าวห่อไข่ (950) เป็นต้น
และมื้อเย็นจะเป็นอาหารจานเดียวหลากหลายเมนูให้สามารถนั่งล้อมวงทานกันอย่างสนุกสนานกับเพื่อนๆ หรือครอบครัวได้ โดยราคาอาหารอยู่ที่เมนูละ 400 - 2,900 เยน
นอกจากนี้ทางร้านยังคอยมีการเชิญพ่อครัวพิเศษเพื่อมาปรุงอาหารของแต่ละท้องถิ่นให้ได้ลิ้มลองกันของทั้งในและต่างประเทศ
ชั้น 1 ช้อปปิ้งของอร่อยทานเองและเป็นของฝาก!
ตั้งแต่ชั้น 1-5 จะเป็นร้านขายสินค้าของ MUJI ซึ่งตั้งมาเป็น Flagship store แทนสาขายูราคุโจ (Yurakucho) ที่ต้องปิดตัวไปเพราะพื้นที่จะถูกนำไปใช้ในโครงการโตเกียวโอลิมปิค
ชั้น 1 ถูกออกแบบให้เป็นเหมือนตลาดที่มีทั้งผักผลไม้สดใหม่ให้จับจ่าย ไปพร้อมๆ กับขายขนม อาหารสำเร็จที่เป็นหนึ่งในของฝากยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ค่ะ
ถ้าใครหิวแล้ว อยากเติมพลังเลยหรือซื้อของเตรียมไปทานที่อื่น ชั้นนี้มีทั้งเบเกอรี่และข้าวกล่องให้จับจ่ายเช่นกัน ราคาก็ย่อมเยา เช่น ข้าวกล่องอาหารญี่ปุ่นประจำวันจะอยู่ที่ 750 เยนเท่านั้น แถมยังมีข้าวกล่องอาหารนานาชาติราคา 650 เยน ซึ่งในนั้นมีเมนูอาหารไทยด้วยล่ะค่ะ!
ที่ซุ้มน้ำปั่นมีน้ำผักผลไม้ปั่นดีต่อสุขภาพและอร่อยในสูตรเฉพาะตัวของ MUJI ราคาแก้วเล็ก 350 เยนและแก้วกลาง 480 เยน มีซอฟท์ครีมขายด้วยนะ
"ซุ้ม Blending Tea" นอกจากจะขายชาตามปกติของ MUJI แล้ว ยังมีบริการเบลนด์ชาตามความชอบของเราอีกด้วย ใครที่ชอบชา ขอบอกว่าห้ามพลาดเลยค่ะ
ภาพบน : Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ความพิเศษอีกอย่างคือร้านเบเกอรี่นั้นเปิดให้บริการตั้งแต่ 7:30 ใครที่เตรียมไปเที่ยวแต่เช้าก็สามารถแวะซื้อไว้ทานระหว่างทางได้อีก
ชั้น 2 เสื้อผ้าและสินค้าที่มีเรื่องราว
เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้น 2 เราจะพบกับร้านที่ได้บรรยากาศเก่าๆ
ชั้นนี้จะเป็นเสื้อผ้าที่เน้นถึงวัสดุ สินค้าที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม และสินค้าในกลุ่ม MUJI Labo และ MUJI WALKER
MUJI Labo นั้นเป็นเสื้อผ้าที่ออกแบบโดยให้สามารถใส่ได้ทุกเพศทุกวัย
และ MUJI WALKER เป็นเสื้อผ้า รองเท้าที่ใส่สบาย ชวนให้ออกไปเดินไหนต่อไหน
ชั้น 3 เสื้อผ้า เครื่องสำอาง เครื่องเขียนเพื่อนคู่ใจในทุกๆ วัน
ชั้นนี้จะรวมเอาสิ่งของที่เราใช้ในชีวิตประจำวันมาเรียงรายเต็มไปหมดจนต้องร้องโอ้โห โดยมีทั้งเสื้อผ้า ถุงเท้าสำหรับบุรุษและสตรี
และสินค้าพวกเครื่องสำอางโดนใจสาวๆ เครื่องเขียนมากมาย มีมุมจักรยาน กระเป๋าเดินทางด้วย
สินค้าในชั้นนี้เรียกว่าแทบไม่ต้องอธิบายเลย เพราะเป็นสินค้ายอดนิยมอยู่แล้ว!
ชั้น 4 เครื่องใช้ในบ้าน เสื้อผ้าเด็ก ร้านหนังสือ และเคาน์เตอร์ปลอดภาษี
ที่ชั้น 4 จะรวบรวมเอาเครื่องใช้ในบ้านต่างๆ ทั้งมุมห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้ามารวมกัน และยังมีเสื้อผ้า ของเล่นเด็ก มุมเด็กเล่นด้วย
ใครซื้อของในร้านมาแล้ว ชั้นนี้จะมีบริการปักลวดลายเพื่อ customize เป็นดีไซน์ส่วนตัว
ส่วนใครที่อ่านภาษาญี่ปุ่นได้ หรือเพลินกับการดูภาพแม้จะอ่านไม่ออก ชั้นนี้ก็มี MUJI BOOKS ให้เลือกซื้อพร้อมมุมกาแฟให้นั่งจิบพลางอ่านหนังสือ
สำหรับคนรักหนังสือ ชั้นนี้มีบริการซ่อมหนังสือเล่มโปรดของคุณอีกต่างหาก
และมีมุมสินค้าของ IDEE ซึ่งเป็นของใช้และของแต่งบ้านที่เน้นให้ "เกิดความงดงามในชีวิตประจำวัน"
รวมถึงสินค้า Found MUJI ที่มีคอนเซ็ปท์ในการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมดั้งเดิม ธรรมชาติของทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ
ที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวก็คือ ... อย่าลืมแวะมาชั้นนี้เพื่อทำ Tax Refund นะคะ!
ชั้น 5 ทำบ้านให้น่าอยู่ด้วยเครื่องเรือนและเครื่องใช้ในบ้าน
พอขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงชั้นนี้ อาจจะไม่ค่อยเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ เพราะชั้นนี้จะขายเฟอร์นิเจอร์ และของใช้จำพวกกล่องเอนกประสงค์เก็บของ อุปกรณ์ทำความสะอาด แต่หากใครชอบดีไซน์และการแต่งร้านแบบ MUJI แล้วล่ะก็ ถือว่าเป็นชั้นที่เดินเพลินๆ ได้เช่นกัน อย่างวิถีการโชว์ไม้ถูพื้นแบบต่างๆ นี่ก็น่าตื่นตามาก!
ทางร้านมีบริการผลิตเฟอร์นิเจอร์แบบ made to order และมีบริการ MUJI SUPPORT ให้คำปรึกษาในเรื่องการจัดบ้าน
ชั้น 6 เปิดประสบการณ์ใหม่ทั้งแกลเลอรี่และโรงแรม MUJI HOTEL GINZA
ส่วนชั้น 6 ถือว่าหมดโซนขายของแล้ว เราจะก้าวสู่ประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งแกลเลอรี่งานศิลปะที่คัดสรรมา รวมถึงเป็นล็อบบี้ของโรงแรม MUJI HOTEL GINZA ด้วย
Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
โดยแกลเลอรี่ในชื่อ ATELIER MUJI GINZA มีห้องจัดแสดงสองห้อง และมีโซนห้องสมุดกับเคาน์เตอร์ซาลอนให้บริการเครื่องดื่ม คอกเทล และของหวานในราคาราว 800 - 1,500 เยน
โรงแรม MUJI HOTEL GINZA
อีกด้านหนึ่งจะเป็นทางเข้าสู่โรงแรม MUJI HOTEL GINZA มีล็อบบี้ต้อนรับที่ลูกค้าจะต้องแวะมาเช็คอินที่นี่ และห้องอาหารของโรงแรม เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นในชื่อ "WA"
โรงแรม MUJI HOTEL GINZA นั้นถือเป็นอีกหนึ่งความฝันของผู้บริการบริษัท MUJI ที่อยากจะสร้างโลกที่สัมผัสกับความเป็น MUJI ขึ้นมาค่ะ
ที่นี่จึงถือกำเนิดขึ้นในฐานะโรงแรม MUJI แห่งแรกในญี่ปุ่น ภายใต้คอนเซ็ปท์ "anti-gorgeous, anti-cheap" หรือก็คือ ความไม่หรูหรา แต่ก็ไม่ได้ถูกจนไร้คุณภาพ ให้เป็นที่พักที่ "อยู่กึ่งกลางพอดิบพอดี" การตกแต่งภายในจึงให้ความสำคัญกับแนว MUJI เน้นการใช้ไม้ ดิน และผ้า รวมถึงดึงจุดเด่นของที่ตั้งออกมา เช่น การใช้หินปูรางรถไฟในกินซ่าสมัยก่อนมาประดับเป็นกำแพงล็อบบี้
อีกสิ่งที่ MUJI คำนึงคือ สร้างที่พักที่สบายจนแม้ระหว่างเดินทางก็ผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้านของตนเอง และไม่ลืมที่จะมอบสิ่งที่ "คุณภาพดี ในราคาคุ้มค่า" ตามหลักการอีกด้วย
ด้วยหลักการที่ว่ามา สิ่งหนึ่งที่โดดเด่นน่าสนใจสุดๆ ของโรงแรม MUJI HOTEL GINZA ก็คือ ... ราคาที่พักเท่ากันตลอดทั้งปี!
ไม่ต้องห่วงว่ามาช่วงฮิตแล้วราคาจะยิ่งแพง เพราะราคาจะถูกตรึงเอาไว้เท่ากันตลอดค่ะ
ส่วนห้องอาหารญี่ปุ่น WA นั้นมีบริการอาหารเช้าจนถึงมืด โดยมื้อเช้าเป็นบุฟเฟต์คนละ 1,800 เยน มื้อกลางวันเป็นอาหารเซ็ท และมื้อเย็นเป็นอาหารจานเดียว ราคาอยู่ที่เมนูละประมาณ 1,000 เยนขึ้นไป ทางร้านยังจะคอยจัดเมนูอาหารประจำแต่ละท้องถิ่นญี่ปุ่นหมุนเวียนกันไปด้วย
เวลาทำการของห้องอาหารคือ
อาหารเช้า เวลา 7:30 - 10:00 (Last Order 9:30)
อาหารกลางวัน เวลา 11:30 - 15:30 (Last Order 15:00)
อาหารเย็น เวลา 17:30 - 22:30 (Last Order 22:00)
ชั้น 7-10 "โลกของ MUJI" ตั้งแต่ตื่นนอนจนหลับในห้องพัก MUJI HOTEL GINZA
สำหรับชั้น 7-10 เป็นห้องพักของโรงแรม MUJI HOTEL GINZA ซึ่งมีให้เลือกถึง 9 แบบ รวม 79 ห้อง
แม้บางห้องจะขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ด้วยวิธีการตกแต่งที่ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า และมีลูกเล่น รวมถึงเพดานที่สูง ทำให้ห้องดูกว้างขวางขึ้นและไม่อึดอัดเลย
*ห้องประเภทใดที่ผู้เขียนได้เข้าไปถ่ายรูปเอง ก็จะลงรูปที่ถ่ายเองค่ะ ส่วนห้องไหนที่ไม่มีจะลงรูปที่ได้รับการเอื้อเฟื้อจาก MUJI
TYPE A
Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ขอบอกว่าจัดสรรพื้นที่ได้คุ้มค่าและน่าสนใจ! โดยเฉพาะตู้เก็บของที่เป็นประตูบานเลื่อนห้องน้ำไปในตัว
ขนาด : 14 - 15 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 8 ห้อง
เตียง : Semi-Double
จำนวนคนเข้าพัก : 1 - 2 คน
ราคา : 14,900 เยน หากเข้าพัก 2 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน
TYPE B
Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ห้องไซส์เล็กเป็นอันดับสอง ขนาดพอดิบพอดี ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคามาก
ขนาด : 20 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 4 ห้อง
เตียง : Double
จำนวนคนเข้าพัก : 2 คน
ราคา : 27,900 เยน
TYPE C
ถ้ามากันสองคนแล้วอยากพักแบบสบายๆ ในราคาไม่สูงจนเกินไป ก็ต้องเป็ฯห้องนี้ เพราะห้องจะกว้างขวางกว่าแบบ B ขึ้นมาอีกนิด และมีโซฟาให้นั่งดูทีวีสบายๆ ด้วย
ห้องไทป์นี้เป็นห้องที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้เยอะที่สุดเลยค่ะ
ขนาด : 24 - 25 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 44 ห้อง
เตียง : Double
จำนวนคนเข้าพัก : 2 คน
ราคา : 29,900 เยน
TYPE D
ห้องพักตั้งแต่แบบ D เป็นต้นไปจะกว้างขวางสบายขึ้น และมีอ่างอาบน้ำด้วย ห้องนี้มีโซฟาเบดที่สามารถใช้นอนอีกคนได้
ขนาด : 34 - 35 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 12 ห้อง
เตียง : Twin
จำนวนคนเข้าพัก : 2 - 3 คน
ราคา : 35,900 เยน หากเข้าพัก 3 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน
TYPE E
ห้องพักแบบ E มีความพิเศษโดนใจคนต่างชาติตรงที่ ... พื้นปูเสื่อทาทามิ! ส่วนเตียงก็วางลงบนเสื่อเลยเพื่อให้ได้ความรู้สึกเหมือนมานอนฟูกปูบนเสื่อทาทามิสไตล์ญี่ปุ่นเลย
ขนาด : 36 - 37 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 4 ห้อง
เตียง : Twin
จำนวนคนเข้าพัก : 2 - 3 คน
ราคา : 36,900 เยน หากเข้าพัก 3 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน
TYPE F
Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ห้องพักแบบ F มีลักษณะเหมือนแบบ E แต่จะวางเตียงทั้งสองติดกัน และเป็นห้องที่มีเพียงห้องเดียว แถมเป็นห้องที่ "ยาว" ที่สุดด้วย
ใครอยากพักห้องพัก "หนึ่งเดียว" ของ MUJI ห้องนี้ก็น่าสนนะ!
ขนาด : 36 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 1 ห้อง
เตียง : Twin
จำนวนคนเข้าพัก : 2 - 3 คน
ราคา : 36,900 เยน หากเข้าพัก 3 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน
TYPE G
แม้จะเป็นห้องที่ไม่กว้างขวางมาก แต่ห้องนี้มีลูกเล่นด้วย "เตียงสองชั้น" ทำให้มีพื้นที่สบายๆ ในห้อง
ข้างๆ เตียงยังมีตู้หนังสือให้นอนอ่านเล่นเพลินๆ ได้เลย
ขนาด : 25 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 4 ห้อง
เตียง : เตียงสองชั้น
จำนวนคนเข้าพัก : 2 - 3 คน
ราคา : 29,900 เยน หากเข้าพัก 3 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน
TYPE H
Picture courtesy of Ryohin Keikaku Co., Ltd
ห้องพักแบบ H ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถันให้มีทางเดินกว้าง ไม่มีขั้นบันได เพื่อให้ใช้รถเข็นได้ ถือเป็นห้องที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้จริงๆ ค่ะ (Universal design)
ใครเดินทางกับผู้ที่จำเป็นต้องใช้รถเข็น ห้องนี้คือคำตอบ!
ขนาด : 27 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 1 ห้อง
เตียง : Double
จำนวนคนเข้าพัก : 2 คน
ราคา : 29,900 เยน
TYPE I
ห้องพักที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมี "หนึ่งเดียว" ของโรงแรมเช่นกัน ใครมาเที่ยวเป็นกลุ่ม ห้องนี้ก็รองรับคนได้สูงสุด 4 คนเลยทีเดียว
นอกจากที่นอนแล้วยังมีมุมโซฟา และมุมหนังสือปูเสื่อทาทามิ แถมด้วยอ่างอาบน้ำไม้ให้กลิ่นหอมธรรมชาติ รับประกันว่าผ่อนคลายได้เต็มที่ค่ะ
ขนาด : 52 ตร. ม.
จำนวนห้อง : 1 ห้อง
เตียง : Twin
จำนวนคนเข้าพัก : 2 - 4 คน
ราคา : 55,900 เยน หากเข้าพัก 3 คน บวกเพิ่ม 5,000 เยน และหากเข้าพัก 4 คน บวกเพิ่ม 10,000 เยน
อาจจะดูมีห้องมากมายหลายแบบชวนงง เราเลยรวมเป็นตารางอ่านง่ายๆ ให้ตรงนี้
เลือกขนาดห้องให้ตรงตามสมาชิกทริปกันได้เลย!
Type | เตียง | ราคา (2 คน) | ราคา (3 คน) | ราคา (4 คน) |
A | Semi-double | 19,900 | - | - |
B | Double | 27,900 | - | - |
C | Double | 29,900 | - | - |
D | Twin | 35,900 | 40,900 | - |
E | Twin | 36,900 | 41,900 | - |
F | Twin | 36,900 | 41,900 | - |
G | เตียง 2 ชั้น | 29,900 | 34,900 | - |
H | Double | 29,900 | - | - |
I | Twin | 55,900 | 60,900 | 65,900 |
*หมายเหตุ : ห้องแบบ A หากเข้าพักคนเดียว ราคา 14,900 เยน
ทุกซอกมุมคือความพิเศษจาก MUJI
ภายในห้องพักของโรงแรม MUJI HOTEL GINZA ก็ย่อมใช้สินค้าคณภาพของ MUJI ในห้อง หากถูกใจอะไร ก็เดินลงมาหาซื้อที่ร้านได้เลย มีตั้งแต่แก้วน้ำ จานชาม สบู่ แชมพู ขนมในห้อง ไปจนถึงลำโพง bluetooth และ Aroma Diffuser
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องก็น่าสนใจ เช่น การสั่งงานปิดเปิดไฟ ผ้าม่านด้วย Tablet ซึ่งรองรับภาษาอังกฤษเรียบร้อยแล้ว ใครอยากจะตื่นเช้าเหมือนนางเอกในละคร ก็สามารถตั้งเวลาปลุกยามเช้าพร้อมกับให้ม่านเปิดรับแสงอาทิตย์ก็ยังได้ และยังมีบริการข้อมูลท่องเที่ยวแนะนำจาก MUJI อีกด้วย
ที่เฉพาะตัวอีกเรื่องก็คือห้องพักส่วนใหญ่นั้นมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว เพราะเดิมอาคารนี้เป็นอาคารที่สร้างเพื่อทำเป็นอาคารสำนักงาน ห้องพักอาจจะทรงแปลกตาไปสักหน่อย กลับกันเราจะได้ข้อดีคือได้ห้องเพดานสูงทุกห้อง ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ไม่อึดอัด แถมเราจะได้ตื่นตาไปกับวิธีการตกแต่งภายในที่ทำให้ห้องดูสวยงาม แถมใช้พื้นที่ได้อย่างแสนคุ้มค่า
แม้ว่าจริงๆ แล้วทาง MUJI จะทุบกำแพงห้องที่สร้างไว้แล้วก็ได้ แต่หากทำอย่างนั้นอาจทำให้ต้องเพิ่มค่าบริการห้องพักด้วย ซึ่งขัดกับหลักการในการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในราคาสุดคุ้มที่สุด จึงออกมาเป็นห้องเช่นนี้ค่ะ
วิธีเดินทางไปร้านและโรงแรม MUJI HOTEL GINZA
ร้านค้า MUJI สาขากินซ่าและโรงแรม MUJI HOTEL GINZA ชื่อก็บอกแล้วว่าอยู่ย่านกินซ่า
สามารถเดินทางไปได้จากสถานีรถไฟถึง 3 สถานี คือ
จากรถไฟใต้ดินสถานีกินซ่า (Ginza) เดิน 3 นาที
เมื่อนั่งรถไฟใต้ดินมาถึงสถานีกินซ่าด้วยสายกินซ่า สายมารุโนะอุจิ (Marunouchi) หรือสายฮิบิยะ (Hibiya) แล้ว ให้มองหาทางออกหมายเลข B4 จะเป็นทางออกที่ใกล้ที่สุดค่ะ
แต่สำหรับคนที่มีกระเป๋าเดินทางหรือข้าวของเยอะแยะมาด้วย แนะนำให้ใช้ทางออก B2 ที่อยู่ติดๆ กันซึ่งเป็นลิฟท์ (ให้บริการเวลา 6:00 - 22:00)
พอขึ้นมาบนพื้นดินแล้วเข้าถนนแรกทางขวามือได้เลยค่ะ (ถ้าออกทางออก B2 จะเป็นถนนที่สอง) เดินไปเรื่อยๆ จะพบกับ MUJI ทางขวามือ
เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินในโตเกียวอย่างสุดคุ้ม
ซื้อตั๋ว Tokyo Subway Ticket จาก Klook ได้ที่นี่
จากรถไฟ JR สถานียูราคุโจ (Yurakucho) เดิน 5 นาที
ส่วนใครมาทางสถานียูราคุโจ ให้ออกทางออก Central ออกมาแล้วเดินตรงไปตามถนนโค้งข้างๆ ห้าง OIOI หากมาถูกทางจะเห็นห้าง INs 1 และ 2 อยู่ใต้สะพานทางรถไฟ (ในรูปด้านบน) และเจอห้าง Marronnier Gate Ginza ที่สี่แยกติดๆ กัน เดินข้ามสี่แยกตรงไปจนเจอถนนทางขวามือถนนแรก หันขวาไปปุ๊บจะเห็นป้าย MUJI เลยค่ะ
นอกจากนี้ยังเดินจากรถไฟใต้ดินสถานีกินซ่าอิจโจเมะ (Ginza itchome) ทางออก 5 เดิน 3 นาทีได้ด้วย
MUJI สาขากินซ่านี้อยู่บนถนนที่ชื่อ "นามิกิโดริ (Namiki Dori)" ถ้าเจอป้ายที่เขียนแบบในรูปนี้ ก็เลี้ยวเข้าถนนนั้นได้เลย
หมายเหตุ : ในบทความแนะนำทางไปประตูหน้าร้าน MUJI สำหรับผู้ใช้บริการโรงแรมหลังจากร้านขายของ MUJI ปิด (หลัง 21:00) จะต้องไปใช้ทางเข้าออกสำหรับโรงแรมซึ่งจะอยู่ด้านหลังของอาคาร
เที่ยวโตเกียวครั้งหน้า มาสัมผัส MUJI กับร้านค้าและโรงแรม MUJI HOTEL GINZA!
MUJI ต้องถือว่าเป็นสินค้าและวัฒนธรรมญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่น่าทึ่งอย่างหนึ่งทีเดียวค่ะ
ด้วยดีไซน์ คุณภาพ และราคาที่แสนคุ้ม ดึงดูดให้แม้แต่คนต่างชาติยังหลงไหลในแบรนด์นี้
หากใครอยากจะช้อปสินค้าของ MUJI ให้เต็มที่ หรือดื่มด่ำกับโลกของ MUJI ตั้งแต่ลืมตาตื่น จนกระทั่งหลับตาลงนอน ขอบอกว่าห้ามพลาดมาที่นี่เด็ดขาด!
สำหรับโรงแรมนั้นสามารถจองผ่านเว็บไซต์ทางการของ MUJI HOTEL GINZA ได้เลย
ขอบอกว่าตอนนี้โรงแรมได้รับความสนใจจากทั้งคนญี่ปุ่นและคนต่างชาติ
แทนที่จะลังเล กดคลิ๊กจองเลยดีกว่า!
โรงแรมแนะนำใกล้มูจิน เรียวฮิน กินซ่า
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง