ไกด์นำเที่ยว “กินซ่า” ใกล้ตลาดซึกิจิแบบจัดเต็ม【ฉบับพิเศษ】

กินซ่า

กินซ่า เป็นย่านแหล่งรวมร้านค้าสุดหรูและแหล่งช้อปปิ้งมากมาย เนื่องจากแต่เดิมแล้วพื้นที่ที่เกิดจากการถมทะเลแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของโรงกษาปณ์ “Ginza Yakusho” มาก่อน ผู้คนจึงเรียกที่นี่ว่า “กินซ่า” ไปโดยปริยาย

โดยครอบคลุมอาณาบริเวณตั้งแต่บล็อก 1 – 8(1Chome-8chome) ถนนรูปตารางแต่ละสายล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองภายใต้ถนนสายหลักอย่างถนนจูโอโดริ

ที่นี่แสดงให้เห็นถึงการรับวัฒนธรรมตะวันตกทั้งด้านอาหารและแฟชั่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นคาบูกิสะและตลาดซึกิจิอยู่จนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้ก็ยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่กำลังได้รับการจับตามองอีกด้วย โดยมีทั้งห้างสรรพสินค้า, ถนนร้านค้าสุดหรู, ร้านค้าแบรนด์ต่างประเทศ และโชว์รูมเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง Sony Building เป็นต้น แถมยังตั้งอยู่ใกล้กับตลาดซึกิจิซึ่งเรียกได้ว่าเป็นครัวแห่งโตเกียวอีกต่างหาก

สารบัญ：

1.ข้อมูลโรงแรมในกินซ่า
2.〜วิธีการเดินทางไปยังกินซ่า〜
3.ข้อมูลการเดินทางภายในกินซ่า
4.แหล่งช้อปปิ้งในกินซ่า
5.เที่ยวโรงละครคาบูกิสะ
6.สัมผัสกิจกรรมในตลาดซึกิจิ
7.เพลิดเพลินกับสวนญี่ปุ่นและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนฮิบิย่า
8.สัมผัสเทคโนโลยีอันทันสมัยของญี่ปุ่นที่ตึกโซนี่
9.เพลิดเพลินกับรสชาติของญี่ปุ่นใต้รางรถไฟในยูราคุโจ
10.เพลิดเพลินกับอาหารในกินซ่า (ซูชิ・ปลาไหล・ชาบูชาบู)
11.〜โรงแรมในกินซ่า〜

ข้อมูลโรงแรมในกินซ่า

ในกินซ่าประกอบด้วยโรงแรมระดับ 4 ดาวทั้งหมด 6 แห่ง, โรงแรมระดับ 3 ดาว 12 แห่ง (รวมถึง Sotetsu Fresa Inn Ginza Sanchome ที่กำลังจะเปิดให้บริการในฤดูหนาวปี 2017), โรงแรมระดับ 2 ดาว 1 แห่ง และโรงแรมแคปซูล 1 แห่ง

โรงแรมระดับ 4 ดาวมีค่าห้องพักประมาณ 30,000～40,000 เยน, โรงแรมระดับ 3 ดาว 20,000 เยน แต่เนื่องจากโรงแรมระดับ 2 ดาวอย่าง Hotel Ginza Daiei นั้นบางวันก็สามารถเข้าพักได้ในราคาเพียง 5,000 เยน / คน / คืน จึงบอกเลยว่าห้ามพลาด!

นอกจากนี้ ในย่านยูราคุโจและชิมบาชิซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากกินซ่า (สามารถเดินเท้ามาถึงกันได้) ก็ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมมากมายตั้งแต่โรงแรมระดับ 5 ดาว 2 แห่งอย่าง The Peninsula Tokyo และ Imperial Hotel Tokyo ไปจนถึงโรงแรมธุรกิจมากมายที่สามารถเข้าพักได้ในราคาสมเหตุสมผลเลยทีเดียว

เนื่องจากแต่ละโรงแรมก็มีแพ็คเกจสุดคุ้มให้เลือกสรรมากมายไม่ว่าจะเป็นแพลนสำหรับผู้หญิง, ส่วนลดสำหรับการเข้าพักติดต่อกันหลายคืน หรือส่วนลดสำหรับคนจองเร็วผ่านทางเว็บไซต์หลัก จึงขอแนะนำให้ลองเข้าไปเช็คผ่านทางเว็บไซต์ก่อนเสมอ

〜วิธีการเดินทางไปยังกินซ่า〜

วิธีการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังกินซ่า

การเดินทางจากสนามบินนาริตะมาถึง Tokyo Metro Ginza Station มี 「The Access Narita」 รถบัสด่วนร่วมบริการที่บริหารโดย JR Bus Kanto, Asukakotsu Company และ Heiwakotsu Company วิ่งให้บริการ ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 90 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร) ค่าโดยสารสุดคุ้มเพียง 1,000 เยนเท่านั้น นอกจากนี้ก็ยังมี Tokyo Shuttle ของ Keisei Bus (1,000 เยน) และ Airport Limousine (3,100 เยน) ของ Aiport Transport Service Company ไปยัง Tokyo Station ให้เลือกใช้บริการกันอีกด้วย ต่อจากนั้น เราสามารถนั่ง Tokyo Metro Marunouchi Line มาถึง Ginza Station ได้โดยมีระยะทางเพียง 1 สถานีเท่านั้น ค่าโดยสาร 170 เยน

สำหรับใครที่ต้องการนั่งรถไฟสามารถนั่ง JR Narita Express ไปถึง Tokyo Station ได้โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าตั๋วรถไฟ 1,320 เยน + ค่าตั๋วด่วนอีก 1,700 เยน

วิธีการเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไปยังกินซ่า

การเดินทางจากสนามบินฮาเนดะให้นั่ง Keikyu Line ไปยัง Shinbashi Station ค่าโดยสาร 570 เยน หรือนั่งไปยัง Higashi-ginza Station ค่าโดยสาร 610 เยน โดยทั้งคู่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในกรณีที่ใช้บริการ Tokyo Monorail ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีในการเดินทางไปยัง Hamamatsucho Station ต่อจากนั้นก็นั่ง JR Yamanote Line ไปลง Shinbashi Station ซึ่งห่างเพียงสถานีเดียวเท่านั้น ค่าโดยสารรวม 630 เยน JR Shinbashi Station ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของกินซ่า โดยสามารถเดินมาถึง Tokyo Metro Ginza Station ได้โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น สำหรับใครที่ไม่อยากเดินหรือต้องถือสัมภาระหนักก็สามารถนั่ง Tokyo Metro Ginza Line มาถึง Ginza Station ได้เหมือนกันจ้า เพราะว่าตั้งอยู่ห่างกันเพียง 1 สถานีเท่านั้นเอง

วิธีการเดินทางจากกินซ่าไปยังตลาดซึกิจิ

เดินจากถนนฮารูมิซึ่งเป็นที่ตั้งของ Sony Building และ Ginza Mitsukoshi store ไปทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อเดินเลย Tokyo Metro Ginza Station และทางด่วนมาก็จะถึง “ตลาดซึกิจิ” แล้วล่ะค่ะ โดยตั้งอยู่ติดกับวัด Tsukiji Hongan-ji เลย เราสามารถเดินเท้ามาถึงได้โดยใช้เวลาถึง 10 นาทีก็จริง แต่ก็สามารถนั่ง Tokyo Metro Hibiya Line จาก Ginza Station มาถึง Tsukiji Station ได้เหมือนกันจ้า... โดยตั้งอยู่ห่างกันเพียง 2 สถานีเท่านั้น ค่าโดยสาร 170 เยน

ข้อมูลการเดินทางภายในกินซ่า

เนื่องจาก Tokyo Metro Ginza Station มีรถไฟใต้ดินวิ่งผ่านทั้งหมด 3 สายด้วยกัน ประกอบด้วย Ginza Line, Marunouchi Line และ Hibiya Line จึงบอกได้เลยว่าเพียงแค่นั่งรถไฟใต้ดินหรือเดินเท้าเที่ยวกินซ่าก็เพียงพอแล้ว

ชานชาลาของ Ginza Line ตั้งอยู่ข้างใต้ถนน Chuo-dori ส่วนชานชาลาของ Marunouchi Line ตั้งอยู่ข้างใต้ถนน Sotobori-dori และชานชาลาของ Hibiya Line ตั้งอยู่ข้างใต้ถนน Harumi-dori โดยประกอบด้วยประตูทางออก A1 – A13 (A4 ปิด) ยกเว้น A6, B1 – B10 และ C1 – C9 แหล่งท่องเที่ยวหลักๆที่ตั้งอยู่ใกล้กับประตูทางออกแต่ละแห่งมีดังต่อไปนี้

・A7, A8, A11…… Ginza Mitsukoshi store (ห้างสรรพสินค้ากินซ่ามิตสึโกชิ)
・A9, A10……Ginza Wako (กินซ่าวาโค)
・A12, A13……Matsuya Ginza (มัตสึยะกินซ่า)
・B9……Sony-dori (ถนนโซนี่)
・C2, C4……Sukiyabashi Intersection (สี่แยกไฟแดงสุกิยาบาชิ)
・C4……JR Yurakucho Station (สถานียูราคุโจ)
・C6……Printemps Ginza (ปรินเท็มป์กินซ่า)

นอกจากนี้ ประตูทางออกที่มีลิฟท์ขึ้นไปยังบนดินประกอบด้วย A8, B2, B7 และ B8 ระยะทางจากประตูทางออกซึ่งเป็นที่ตั้งของ Mitsukoshi Ginza store มาถึงตลาดซึกิจิประมาณ 1 กิโลเมตร

Ginza-itchome Station ของ Tokyo Metro Yurakucho Line ตั้งอยู่ข้างใต้ถนน Yanagi-dori เมื่อเดินออกจากประตูทางออกหมายเลข 2 ก็จะพบกับ JR Yurakucho Station ส่วน Higashi-Ginza Station ของ Tokyo Metro Hibiya Line และ Toei Asakusa Line นั้นสามารถพาเราเดินทางไปถึงคาบูกิสะได้อย่างสะดวกสบายสุดๆ

เราสามารถเดินจาก JR Yurakucho Station และ Shinbashi Station มาถึง Ginza Station ได้ด้วย เนื่องจากมี Toei Bus 「業10(Nari 10)」 ที่เชื่อมระหว่างชิมบาชิ - โตเกียวสกายทรี รวมถึง 「都05(To 05)」 ที่เชื่อมระหว่าง Tokyo Station - Harumifuto และ Tokyo Big Sight วิ่งให้บริการด้วย จึงขอแนะนำให้เลือกใช้บริการตามแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการไปเลยค่ะ ^^

〜สิ่งที่ควรทำในกินซ่า〜

1. ช้อปปิ้ง

Tokyu Plaza (โตคิวพลาซ่า)

สำหรับใครที่กำลังหาซื้อของฝากจากญี่ปุ่นก็ขอแนะนำให้แวะมาที่ Tokyu Plaza (โตคิวพลาซ่า) ซึ่งตั้งอยู่ห่างจาก Tokyo Metro Ginza Station ประตูทางออก C2 และ C3 ประมาณเดินเท้า 1 นาทีแห่งนี้เลยค่ะ ที่นี่เป็นศูนย์การค้าแห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดให้บริการไปเมื่อฤดูใบไม้ผลิปี 2016 ที่ผ่านมานี้เอง โดยเต็มไปด้วยร้านจำหน่ายสินค้าที่ผลิตในญี่ปุ่นและร้านค้าแบรนด์ดังมากมาย เช่น SAKE LABO แหล่งรวมผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเหล้าญี่ปุ่นและร้านจำหน่ายผลงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมของแต่ละท้องถิ่นในญี่ปุ่น เป็นต้น

นอกจากนี้ก็ยังมี “LOTTE DUTY FREE GINZA” ร้านค้าปลอดภาษีที่ปลอดทั้งภาษีผู้บริโภค, ภาษีศุลกากร, ภาษีเหล้า และภาษีบุหรี่ในระบบเดียวกับสนามบินตั้งอยู่บนชั้น 8 – 9F อีกด้วย โดยเป็นระบบสุดเอกลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวจะได้รับสินค้าที่ซื้อจากทางร้านที่เคาน์เตอร์รับสินค้าปลอดภาษีหลังผ่านตม.ออกนอกประเทศมาแล้ว สำหรับใครที่ช้อปปิ้งกันจนเหนื่อยแล้วก็ขอแนะนำให้ลองขึ้นไปชมวิวเมืองกินซ่าที่ KIRIKO LOUNGE และใช้เวลาอันแสนสบายบนชั้นดาดฟ้า KIRIKO TERRASSE เลยค่ะ นอกจากนี้ เนื่องจากที่นี่เต็มไปด้วยร้านอาหารและคาเฟ่มากมายละลานตา ไม่ว่าจะท้องหิวแค่ไหนก็ไม่หวั่นอ่ะบอกเลย... ที่นี่จึงเรียกได้ว่าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งวันจริงๆค่ะ

ที่อยู่：5 Chome-2-1 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3571-0109

Uniqlo (ยูนิโคล่)

Uniqlo (ยูนิโคล่) เป็นร้านค้าที่มีสาขามากมายทั่วโลก ยูนิโคล่สาขากินซ่า เป็นสาขาที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลกโดยกินอาณาบริเวณกว่า 12 ชั้นเลยทีเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาสเปน, ภาษาจีน และภาษาเกาหลีได้ด้วย เราสามารถเดินจาก Tokyo Metro Ginza Station ทางออก A2 มาถึงได้โดยใช้เวลาเพียง 4 นาทีเท่านั้น

ที่อยู่：6-9-5, Ginza, Chuo-ku, Tokyo Ginza komatsu East Building 1-12F
เบอร์โทรศัพท์：03-6252-5181

Matsuya Ginza (มัตสึยะกินซ่า)

Matsuya Ginza (มัตสึยะกินซ่า) ที่เชื่อมระหว่าง Tokyo Metro Ginza Station ทางออก A12 โดยตรงแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเป็น Tsuruya Gofukuten (ร้านกิโมโน) ในโยโกฮาม่าเมื่อปี 1869 หลังจากนั้นก็ขยายสาขามาเปิดในโตเกียวเมื่อปี 1890 จนกลายเป็นห้างสรรพสินค้าแห่งแรกในโตเกียว

อาคารภายนอกที่ได้รับการรีโนเวทไปเมื่อปี 2001 สร้างเป็นกระจกล้อมรอบสีขาวฝัง LED ห้องโถงกลางสไตล์เปิดโล่งโปร่งสบายครอบคลุมพื้นที่กว่า 7 ชั้น โดยมีการประดับร่มเอาไว้หลายร้อยคันราวกับเป็นผลงานศิลปะสมัยใหม่เลยทีเดียว บนชั้น 7F มีการจัดแกลเลอรี่และนิทรรศการมากมายหลากหลายประเภทตั้งแต่ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมไปจนถึงศิลปะสไตล์โมเดิร์น

ที่อยู่：3 Chome-6-1 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3567-1211

Printemps Ginza (ปรินเท็มป์กินซ่า)

Printemps Ginza (ปรินเท็มป์กินซ่า) ร้านในเครือของ Printemps ห้างสรรพสินค้าในปารีส ประเทศฝรั่งเศสที่เปิดให้บริการในปี 1984 แห่งนี้จำหน่ายสินค้าแฟชั่นอันทันสมัยและสินค้าจิปาถะมากมาย นอกจากนี้ก็ยังเป็นที่ตั้งของ “Angelina” คาเฟ่น้ำชาเก่าแก่ในปารีสที่มีประวัติความเป็นมายาวนานตั้งแต่ปี 1903 อีกด้วย โดยมีจำหน่ายมองบลังรสชาติเข้มข้นสูตรออริจินอลของญี่ปุ่นแบบครึ่งชิ้นด้วยนะเออ...

ที่อยู่：3 Chome-2-1 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3567-0077 (ตัวแทน)

Ginza Wako (กินซ่าวาโค)

Ginza Wako (กินซ่าวาโค) เปิดให้บริการครั้งแรกเป็นสาขาร้านจำหน่ายนาฬิกา Hattori Tokeiten ในปี 1881 โดยมีสัญลักษณ์เป็นหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในปี 1932 นอกจากนี้ เนื่องจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ร้านตู้กระจกได้มีการประดับประดาแข่งขันกันระหว่างเหล่าดีไซเนอร์มากมายจนทำให้กลายเป็น “ภาพลักษณ์แห่งกินซ่า” ขึ้นชื่อระดับโลกไปโดยปริยาย ในปัจจุบัน ที่นี่เป็นห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานซึ่งจำหน่ายสินค้าหรูหราคุณภาพคับแก้ว นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดงานนิทรรศการฟรีที่จัดแสดงรูปภาพและผลงานศิลปหัตถกรรมภายในห้องโถงวาโคบนชั้น 6F อีกด้วย

ที่อยู่：4 Chome-5-11 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：(03)3562-2111 (ตัวแทน)

Mitsukoshi Ginza store (ห้างสรรพสินค้ากินซ่ามิตสึโกชิ)

Mitsukoshi Ginza store (ห้างสรรพสินค้ากินซ่ามิตสึโกชิ) แห่งนี้ตั้งอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงGinza 4-chome โดยอยู่ตรงข้ามกับถนนจูโอโดริฝั่งกินซ่าวาโค ที่นี่เริ่มเปิดกิจการครั้งแรกเป็นร้านกิโมโน “Echigoya(越後屋)” ในปี 1673 ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น “Mitsui Gofukuten(三井呉服店)” หลังจากนั้นในปี 1904 ได้มีการนำตัวอักษรคันจิ 2 ตัว คือ “三 (Mitsu)” และ “越 (Koshi)” จากชื่อเดิมออกมาตั้งเป็นชื่อใหม่ว่า “Mitsukoshi” แทน

ภายในอาคารตั้งแต่ชั้น B4F -12F เป็นแหล่งรวมสินค้าแบรนด์ระดับโลกมากมาย “Ginza Terrace” บนชั้น 9F เป็นโซนสนามหญ้าแบบเปิดโล่งโปร่งสบายที่สามารถสัมผัสญี่ปุ่นทั้ง 4 ฤดูกาลได้ จึงเหมาะสำหรับการแวะขึ้นมาพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ส่วนชั้น B1F เป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์ปลอดภาษีและเคาน์เตอร์แลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ แถมทุกชั้นก็ยังสามารถใช้บริการ Wi-Fi ได้ฟรีอีกต่างหาก เนื่องจากทางห้างรองรับบริการส่งของไปยังโรงแรมและสนามบินด้วย จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...

ที่อยู่：4 Chome-6-16 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3562-1111

Fancl Ginza Square (ฟังก์เคลกินซ่าสแควร์)

「Fancl (ฟังก์เคล)」คือ แบรนด์เครื่องสำอางปลอดสารเคมีสัญชาติญี่ปุ่นขึ้นชื่อระดับโลก โดยได้รับความนิยมในหมู่คนเอเชียที่ชื่นชอบเครื่องสำอางปลอดภัยจากธรรมชาติ

Fancl Ginza Square แห่งนี้ไม่ได้มีจำหน่ายแค่เครื่องสำอางเท่านั้นแต่ยังเป็นที่ตั้งของบิวตี้ช็อป เช่น ช็อปตรวจเช็คสภาพผิว, ห้องวิจัยสำหรับตรวจเช็คผิวแห้งและผิวบอบบาง, เฮลท์เฮ้าส์สำหรับตรวจเช็คสุขภาพร่างกาย รวมถึงร้านอาหารที่ปรุงอาหารโดยใช้วัตถุดิบออร์แกนิคอีกด้วย ที่นี่มีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาเกาหลีได้ประจำอยู่ แถมยังมีบริการปลอดภาษีสำหรับนักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้ามูลค่ารวมมากกว่า 5,400 เยนขึ้นไปด้วยนะเออ...

ที่อยู่：5 Chome-8-16 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-5537-0231 (ตัวแทน)

Itoya (อิโตยะ)

「Itoya (อิโตยะ)」คือ ร้านจำหน่ายเครื่องเขียนที่เปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในปี 1904 โดยเพิ่งผ่านการรีโนเวทไปไม่นาน สาขาหลักกินซ่าแห่งนี้มีจุดสังเกตอยู่ที่ป้ายรูปปากกาหมึกซึม สินค้าของที่นี่ล้วนเป็นเครื่องเขียนญี่ปุ่นคุณภาพสูง สไตล์ญี่ปุ่น ทำให้เหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝากสุดๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมทำเครื่องเขียนออริจินอลเฉพาะของตัวเอง สัมผัสกระดาษมากมายหลากหลายแบบ และเช่า-ยืมเครื่องเขียนด้วยนะจ๊ะ

ที่อยู่：2 Chome-7-15 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3561-8311 (G. Itoya), 03-3567-1108 (CAFE Stylo)

2. เที่ยวโรงละครคาบูกิสะ

คาบูกิ เป็นศิลปะการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 400 ปี โรงละครคาบูกิสะแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านกินซ่า เนื่องจากเป็นศิลปะการแสดงเก่าแก่ ดังนั้น บางจุดแม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเหมือนกัน แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพียงแค่ซื้อหนังสือคู่มือที่เรียกว่า “ซุจิกาคิ” (1,300 เยน) ที่มีคำอธิบายภาษาอังกฤษอยู่ด้านหลังด้วยก็สามารถชมการแสดงได้รู้เรื่องแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมีหนังสือซัปไตเติ้ลภาษาอังกฤษ (1,000 เยน) ด้วยนะเออ...

เนื่องจากการแสดงคาบูกิกินระยะเวลายาวนานกว่า 4 – 5 ชั่วโมง หนึ่งในความสนุกของการชมคาบูกิจึงอยู่ที่การซื้อข้าวกล่องทานระหว่างพักจากการแสดงคาบูกินี่แหละ สำหรับใครที่ไม่มีเวลาชมการแสดงจนจบหรือไม่ชอบดูอะไรนานๆก็ขอแนะนำให้ลองซื้อตั๋วพิเศษสำหรับชมเฉพาะการแสดงฉากเดียวที่ชื่อว่า “ฮิโตะมาคุมิเซกิ” เลยค่ะ ^^

ที่อยู่：4 Chome-12-15 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3545-6800 (ตัวแทน)

3. สัมผัสกิจกรรมในตลาดซึกิจิ

ชมโชว์แล่ปลามากุโระ

หลังจากชมการประมูลปลาอันแสนคึกคักจบแล้ว เพื่อนๆก็น่าจะสงสัยกันใช่มั้ยเอ่ยว่าปลาที่ซื้อไปจะกลายเป็นซาชิมิหรือซูชิได้ยังไง? ด้านหน้าร้านซูชิ “Tsukiji Sushi Ichiban” ในตลาดซึกิจิแห่งนี้มีการจัดโชว์แล่ปลามากุโระให้ชมฟรีในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนด้วยล่ะค่ะ

บรรยากาศที่เชฟให้มีดแล่ปลามากุโระตัวใหญ่เป็นอะไรที่สุดยอดมาก! เมื่อถ่ายรูปกันจนเต็มอิ่มแล้วก็อย่าลืมลิ้มลองซูชิสดใหม่กันด้วยน้า～

ทัวร์ปั้นซูชิ

นอกจากนี้ ที่ตลาดซึกิจิแห่งนี้ก็ยังมีการจัดเตรียมทัวร์ไกด์มากมายหลายแบบรองรับนักท่องเที่ยวอย่างเราๆเอาไว้ด้วย เช่น ทัวร์ปั้นซูชิ นั่นเอง โดยเราจะได้เดินทางไปยังร้านซูชิต้นตำรับหลังเดินเยี่ยมชมตลาดปลาซึกิจิจนครบเพื่อเรียบรู้วิธีการทำนิกิริซูชิและมากิซูชิ โดยเราจะได้เปลี่ยนชุดกลายเป็นเชฟทำซูชิจริงๆเลยทีเดียว หลังจากทำเสร็จก็จัดแจงถ่ายรูปที่ระลึกพอเป็นพิธีแล้วลิ้มลองซูชิฝีมือตัวเองกันได้เลย!

4. เพลิดเพลินกับสวนญี่ปุ่นและใบไม้เปลี่ยนสีที่สวนฮิบิย่า

เริ่มเบื่อกับความวุ่นวายของเมืองซะแล้วล่ะสิ เวลาแบบนี้ขอแนะนำให้เดินทางมาเที่ยว Hibiya Park (สวนฮิบิย่า) ที่ตั้งอยู่ห่างจากกินซ่าประมาณเดินเท้า 10 นาทีแห่งนี้เลยค่ะ ภายในสวนที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 100 ปีเป็นที่ตั้งของโรงละครกลางแจ้งขนาดใหญ่-เล็กและศาลาประชาคม ส่วนบริเวณแปลงดอกไม้จะบานสะพรั่งไปด้วยดอกไม้ตามฤดูกาลทั้ง 4

คูน้ำบริเวณโดยรอบกำแพงหินซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์ไดเมียวในอดีตนั้นยังคงหลงเหลืออยู่ในฐานะที่เป็น “ชินจิอิเคะ” หรือบ่อน้ำรูปคันจิตัวโคโคโระ (หัวใจ) โดยมีการสร้างสวนญี่ปุ่นขึ้นมาตรงนั้นเอง นอกจากนี้ก็ยังมีบ่อน้ำ “คุโมกาตะอิเคะ” ซึ่งเป็นที่ตั้งของน้ำพุนกกระเรียนอีกด้วย ในฤดูใบไม้ผลิจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระและดอกฟูจิ ส่วนฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวจะสามารถสัมผัสความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีของต้นแปะก๊วยและต้นเมเปิ้ลได้ ที่นี่จึงนับเป็นแหล่งชมใบไม้เปลี่ยนสีชั้นเยี่ยมแห่งหนึ่งเลยล่ะค่ะ

ที่อยู่：Hibiiya Koen, Chiyoda-ku, Tokyo, Tokyo

5. สัมผัสเทคโนโลยีอันทันสมัยของญี่ปุ่นที่ตึกโซนี่ (มีศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยว)

Sony Building (ตึกโซนี่) ที่ตั้งอยู่ตรงสี่แยกไฟแดงสุกิยะบาชิซึ่งตัดกันระหว่างถนน Sotobori-dori และถนน Harumi-dori แห่งนี้เป็นสถานที่ที่สามารถสัมผัสถึงเทคโนโลยีอันทันสมัยของญี่ปุ่นและซื้อสินค้าของโซนี่ได้ โดยเปิดทำการเป็นโชว์รูมของโซนี่ แต่ในวันที่ 31 มีนาคม 2017 ตึกโซนี่จะปิดตัวลงและถูกทุบทิ้ง ระหว่างปี 2018 – 2020 ซึ่งคาดหวังว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต้อนรับเทศกาลโอลิมปิกโตเกียวนั้นจะมีการเปิดโซนอีเว้นท์ชั่วคราวในชื่อ “Ginza Sony Park” หลังจากฤดูใบไม้ร่วงปี 2020 จะเริ่มก่อสร้างอาคารใหม่เพื่อเปิดตึกโซนี่แห่งใหม่ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022

ที่อยู่：5 Chome-3-1 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3573-2371

6. เพลิดเพลินกับรสชาติของญี่ปุ่นใต้รางรถไฟในยูราคุโจ

เมื่อออกจาก Yurakucho Station และมุ่งหน้าไปทางฝั่ง Shinbashi Station ก็จะพบกับร้านอาหารตั้งเรียงรายกันมากมายใต้สะพานรางรถไฟรูปประตูโค้งที่สร้างด้วยอิฐ โดยมีร้านค้ามากมายตั้งแต่ร้านเหล้า, ร้านยากิโทริ, ร้านซูชิ ไปจนถึงร้านอาหารอิตาเลียน, เยอรมัน และเกาหลีเลยทีเดียว ในสมัยก่อนเป็นร้านค้าที่เหล่าพนักงานบริษัทนิยมแวะมาทานอาหารหลังเลิกงาน แต่ในปัจจุบันเริ่มมีผู้หญิงและนักท่องเที่ยวมาเดินกันบ้างแล้ว เนื่องจากมีราคาไม่แพง จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดจ้า...

ที่อยู่：3 Chome-4 Marunouchi, Chiyoda-ku, Tōkyō-to

7. เพลิดเพลินกับอาหารในกินซ่า (ซูชิ・ปลาไหล・ชาบูชาบู)

กินซ่า อิจิรัน (Ginza Ichiran)

กินซ่า อิจิรัน (Ginza Ichiran) ราเม็งข้อสอบ อิจิรัน ราเม็ง บนถนนกินซ่า ราเม็งซุปกระดูกหมูทงคตสึสไตล์ฟุกูโอกะชื่อดังสาขานี้มีความพิเศษกว่าสาขาอื่นๆ ทั้งชามทรงสี่เหลี่ยมเหมือนกล่องข้าวญี่ปุ่น เส้นราเม็งที่เลือกใช้แป้งสาลีโม่ละเอียดเป็นพิเศษ และหมูชาชูหมักซอสสูตรลับแสนอร่อย สั่งง่ายเพราะมีเมนูเดียว ราเม็งชามปกติราคารวมภาษีชามละ 1,180 เยน แล้วก็สั่งเพิ่มท็อปปิ้งอื่นๆ ได้ตามชอบ

แน่นอนว่าที่นั่งแบบเคาน์เตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ก็ยังมีมาครบ แถมการแต่งร้านให้ดูได้บรรยากาศของกินซ่าในอดีตก็สวยเหมือนหลุดเข้าไปอีกโลกหนึ่งเลย

กินซ่า อิจิรัน (Ginza Ichiran)
ที่อยู่ : ชั้นใต้ดิน B1 Wako Bld., 8-3-11 Ginza, Chuo, Tokyo MAPS
การเดินทาง :
สถานีชิมบาชิ (Shinbashi) รถไฟโตเกียวเมโทร (Tokyo Metro) รถไฟโทเอ (Toei) รถไฟ JR ทางออก A5 เดิน 3 นาที
สถานีกินซ่า (Ginza) รถไฟโทเอ (Toei) ทางออก C3 เดิน 9 นาที
เว็บไซต์ : https://en.ichiran.com/shop/tokyo/ginza/

ร้านซูชิในกินซ่า

“ซูชิ” เป็นอาหารญี่ปุ่นขึ้นชื่อ เนื่องจากกินซ่าตั้งอยู่ใกล้กับตลาดซึกิจิ ที่นี่จึงเต็มไปด้วยร้านซูชิรสเลิศมากมายละลานตา เนื่องจากซูชิมีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงราคาหลายหมื่นเยนโดยเฉพาะในย่านกินซ่าที่เต็มไปด้วยร้านดังแห่งนี้ จึงขอแนะนำให้เลือกร้านค้าที่จำหน่ายเซ็ตมื้อเที่ยงสุดคุ้มหรือร้านแบบบุฟเฟ่ต์เพื่อเพลิดเพลินกับซูชิแสนอร่อยได้อย่างเต็มที่เลยค่ะ ส่วนร้านซูชิแนะนำมีดังต่อไปนี้

Unagi Noboritei

เพื่อนๆเคยกินปลาไหลกันรึเปล่าเอ่ย? เนื่องจากปลาไหลเป็นวัตถุดิบราคาแพง จึงเป็นเมนูที่ค่อนข้างสะเทือนกระเป๋าสตางค์พอสมควร แต่ที่ Unagi Noboritei แห่งนี้ เราสามารถทานปลาไหลย่างเสียบไม้ได้ในราคาสบายกระเป๋า เพียงแค่เดินจาก Tokyo Metro Ginza Station ทางออก B2 ก็จะพบกับร้านสาขากินซ่าตั้งอยู่บนชั้น 1F ของตึก Subaru Building แล้วล่ะค่ะ ส่วนบนชั้น 1F ของตึก Higashi-Ginza (Toei) ใกล้กับโรงละครคาบูกิสะนั้นเป็นที่ตั้งของ Tomimatsu (สาขาฮิกาชิกินซ่า)

ที่อยู่：Subaru Building 1F, 4 Chome-3-7 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3535-5341

“Rengatei” อาหารตะวันตก

Rengatei ที่เปิดกิจการเป็นครั้งแรกในปี 1895 แห่งนี้ เราสามารถเพลิดเพลินกับ “อาหารตะวันตก” ที่ได้รับการพัฒนาสูตรในญี่ปุ่นจนกลายเป็นเมนูเอกลักษณ์ได้มากมายไม่ว่าจะเป็นออมเล็ต, ข้าวหน้าซอสฮายาชิ, ซุปผักโพทาจ, กุ้งชุบแป้งทอด และหมูทอด เป็นต้น เพียงแค่เดินจาก Tokyo Metro Ginza Station ทางออก B1 บนถนน Suzuran-dori มาทางฝั่งเหนือประมาณ 2 นาทีก็ถึงแล้วล่ะค่ะ

ที่อยู่：Tsukamoto Sozan Buliding B1F, 4 Chome-2-15 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-5250-1081

“Birdland สาขากินซ่า” ร้านยากิโทริระดับมิชลินสตาร์

ยากิโทริ หรือเมนูไก่เสียบไม้ย่างด้วยเตาถ่านนั้นเป็นเมนูยอดนิยมของญี่ปุ่นเลยทีเดียว โดยในกินซ่าแห่งนี้เป็นที่ตั้งของร้านยากิโทริระดับมิชลินสตาร์ 1 ดาว (ปี 2015) โดย Michelin Guide ประเทศฝรั่งเศส นั่นก็คือ Birdland สาขากินซ่า นั่นเองค่ะ ที่นี่ตั้งอยู่บนชั้น B1F ของตึกที่เชื่อมกับ Tokyo Metro Ginza Station ทางออก C6 โดยตรง ยังไงเพื่อนๆก็แวะมาลิ้มลองอาหารญี่ปุ่นยอดนิยมที่แม้แต่คนฝรั่งเศสยังยอมรับที่นี่กันดูนะคะ ^^

ที่อยู่：1 Chome-2-3 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-5524-3641

“Shabusen” ชาบูชาบู

“ชาบูชาบู” คือ เมนูอาหารญี่ปุ่นสไตล์ทำเองที่เราจะต้องนำเนื้อสไลซ์บางจิ้มจุ่มลงในน้ำซุปเดือดปุดๆอย่างรวดเร็วและนำไปจิ้มกับซอสพอนสึหรือซอสงารับประทานคู่กับผักหรือเต้าหู้ต้มในหม้อ ที่ Shabusen ในกินซ่าแห่งนี้มีการจัดเตรียมเมนูภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน และภาษาไทยเอาไว้ให้ด้วย แถมเมนูมื้อเที่ยงก็คุ้มสุดๆ

ที่อยู่：Ginza Core B2F, 5 Chome-8-20 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3572-3806

“Ginza Swiss” ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอด

ข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอดที่มีท็อปปิ้งเป็นหมูชุบแป้งทอดรสเลิศนั้นมีต้นกำเนิดมาจากร้าน Ginza Swiss ที่เปิดกิจการเป็นครั้งแรกในปี 1947 เมนูแปลกใหม่ในตอนนั้นกลับกลายเป็นเมนูยอดนิยมซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในปัจจุบัน ยังไงเพื่อนๆก็แวะมาลิ้มลองข้าวหน้าแกงกะหรี่หมูทอดรสชาติเข้มข้นปริมาณสุดคุ้มที่นี่กันดูนะคะ ^^

ที่อยู่：3 Chome-5-16 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-03-3563-3206

“Tofuro” ร้านเหล้าสาขา Ginza-1chome

ถึงแม้ว่าในญี่ปุ่นจะเต็มไปด้วยร้านเหล้ามากมายก็จริง แต่ไม่มีร้านเหล้าร้านไหนที่ประดับตกแต่งภายในอย่างพิถีพิถันได้เหมือนกับ Tofuro อีกแล้วล่ะค่ะ ภายในร้านที่ประดับตกแต่งภายใต้คอนเส็ปต์ “ถ่ายทอดวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นผ่าน “วาบิ・ซาบิ” ที่ทำให้นึกถึงพิธีชงชาญี่ปุ่น” แห่งนี้เพียงแค่ก้าวเข้ามาก็จะรู้สึกราวกับว่าย้อนเวลากลับไปในสมัยเอโดะเลยทีเดียว แถมยังมีเมนูภาษาอังกฤษและภาษาจีนอีกด้วย บอกเลยว่านักท่องเที่ยวต้องร้องเย้～

ที่อยู่：Ginza First Building B2F, 1 Chome-10-6 Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3563-3033

“SAKE HALL HIBIYA BAR” ค็อกเทลสาเกญี่ปุ่น

สาเกญี่ปุ่นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในต่างประเทศ แล้วเพื่อนๆเคยดื่มสาเกญี่ปุ่นเวอร์ชั่นค็อกเทลกันรึเปล่าเอ่ย? SAKE HALL HIBIYA BAR แห่งนี้สานฝันของทุกคนให้เป็นจริงแล้ว... สำหรับใครที่กำลังมองหาค็อกเทลดื่มง่ายแต่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของสาเกญี่ปุ่นรสเลิศหรือใครที่ดื่มสาเกญี่ปุ่นไม่เก่งก็ขอแนะนำเลยค่ะ

ที่อยู่：Miyuki Building B1F, 5 Chome Ginza, Chūō-ku, Tōkyō-to
เบอร์โทรศัพท์：03-3572-7123

〜โรงแรมในกินซ่า〜

ในกินซ่าที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารและช้อปปิ้งได้แห่งนี้เต็มไปด้วยโรงแรมมากมาย

Ginza Bellevue Hotel

Ginza Bellevue Hotel คือ โรงแรมระดับ 3 ดาวราคาไม่แพงที่สามารถเข้าพักได้ในราคา 6,000 เยน～ / คน (รวมอาหารเช้า) โดยสามารถเดินมาจาก Tokyo Metro Ginza Station ทางออก C2 ได้อย่างสะดวกสบายเพียง 2 นาทีเท่านั้น แถมยังมีบริการ Wi-Fi ฟรีติดตั้งเอาไว้ทุกห้องอีกต่างหาก

Mitsui Garden Hotel Ginza Premier

โรงแรมระดับ 4 ดาวที่ถูกตีพิมพ์ลงใน Michelin Guide ของโตเกียว เราสามารถเพลิดเพลินกับช่วงเวลาอันหรูหราพลางชมทัศนียภาพยามค่ำคืนของโตเกียวได้จากล็อบบี้ชั้น 16F หรือห้องพักของตัวเอง ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพง แต่เนื่องจากมีแพ็คเกจสุดคุ้มให้เลือกเหมือนกัน จึงขอแนะนำให้ลองใช้บริการกันดูสักครั้ง

Hotel Monterey Ginza

โรงแรมระดับ 4 ดาวที่ตั้งอยู่บนทำเลทอง โดยมีแพ็คเกจสุดคุ้มอย่างส่วนลดสำหรับผู้เข้าพักติดต่อกันหลายวันและส่วนลดสำหรับผู้จองเร็วด้วย ทำให้เราสามารถเข้าพักได้ในราคาสุดคุ้มเพียง 4,700 เยน～ ที่นี่ประกอบด้วยอาคารหลักซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องพักจากวัสดุธรรมชาติ, อาคารใหม่ที่ได้รับการดีไซน์สไตล์ฝรั่งเศสร่วมสมัย และ La Soeur Ginza ที่ดูราวกับเป็น Appartement Paris เลยทีเดียว

Hotel Gracery Ginza

โรงแรมยอดนิยมสำหรับนักธุรกิจที่สามารถเดินทางมาถึงได้อย่างสะดวกสบาย, มีบริการ Wi-Fi ฟรีทุกห้อง และบริการกาแฟ-น้ำแร่ฟรีที่เลานจ์สำหรับลูกค้าบนชั้น 3F นอกจากนี้ก็ยังมีการจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้หญิงในห้องพักสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะอีกด้วย

Ginza Capital Hotel

โรงแรมแสนสะดวกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเดินเที่ยวตลาดซึกิจิสุดๆ เนื่องจากที่นี่บริหารโดย “Hato Bus” ผู้จัดทัวร์ท่องเที่ยวโตเกียวและทัวร์แบบไป-กลับ จึงมีบริการรถรับ-ส่งถึงสถานีโตเกียวทุกเช้าฟรี แถมยังสามารถจองทัวร์ได้ที่โรงแรมเลยอีกด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีบริการกาแฟฟรีทุกเช้าด้วยนะเออ...

Tokyu Stay Tsukiji

Tokyu Stay Higashi-Ginza ที่มีจุดสังเกตอยู่ที่ภาพปลาไทขนาดใหญ่บนอาคารแห่งนี้ผ่านการรีโนเวทและเปิดให้บริการไปเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 โดยเป็นชื่อเป็น Tokyu Stay Tsukiji โดยเป็นโรงแรมแสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าพักในระยะยาว เนื่องจากมีห้องพร้อมมครัวขนาดเล็ก เครื่องซักผ้า และตู้อบผ้าอัตโนมัติด้วย