ตะลุยตลาดสด ตลาดเช้าและย่านช้อปปิ้ง นาโกย่า! ตระเวนสถานที่ลับและร้านอาหารอร่อยของคนในท้องถิ่น (Nagoya)
ในเมืองใหญ่อย่างนาโกย่าก็ยังมีสถานที่ที่สามารถสัมผัสกับบรรยากาศของคนในท้องถิ่น ครั้งนี้เราได้รวบรวมแหล่งช้อปปิ้งที่คนในพื้นที่ชื่นชอบ ร้านอาหารยอดนิยม เมนูขึ้นชื่อของคาเฟ่เก่าแก่มาให้แล้ว!
ตลาดสด ตลาดเช้า และย่านร้านค้าเป็นแหล่งช้อปปิ้งที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีสำหรับคนญี่ปุ่นในท้องถิ่น
ในบทความนี้เราจะพาไปเที่ยวนาโกย่าในรูปแบบที่ต่างไปจากเดิม โดยจะพาไปทานอาหารทะเลที่ตลาดสด ไปเลือกซื้อของกระจุกกระจิกงานแฮนด์เมดที่ตลาดเช้า และไปทานอาหารอร่อยๆ ในย่านร้านค้าแสนคึกคัก ลองไปสัมผัสเสน่ห์ที่แท้จริงของเมืองนาโกย่าด้วยกันค่ะ!
ห้องครัวของนาโกย่า!
ตลาดกลางยานากิบาชิ มารุนาคะ โชคุฮินเซ็นเตอร์
Photo by pixta
จากสถานีนาโกย่าเดินประมาณ 10 นาทีก็จะถึง ตลาดกลางยานากิบาชิ มารุนาคะ โชคุฮินเซ็นเตอร์ (Yanagibashi Chuo Ichiba Marunaka Shokuhin Center) ตลาดแห่งนี้มีพื้นที่ประมาณ 13,200 ตารางเมตร มีร้านค้ามากมายกว่า 300 ร้าน สินค้าครบครันตั้งแต่อาหารทะเลนานาชนิด ผักสด สาหร่าย ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องครัวต่างๆ เป็นตลาดของเอกชนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น
นอกจากจะขายวัตถุดิบให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารแล้วที่ตลาดแห่งนี้ยังยินดีต้อนรับลูกค้าที่เป็นคนธรรมดาทั่วไปด้วย เราสามารถไปเลือกซื้ออาหารทะเลที่จับมาสดใหม่ในแต่ละวันได้ในราคาย่อมเยา
นอกจากนี้ก็ยังมีร้านขายเครื่องใส่หม้อไฟนาเบะหรือโอเด้งที่ทำจากเนื้อปลาบดเหมือนลูกชิ้นปลา (ในภาพคือซัตสึมะอาเกะ ทำจากเนื้อปลาผสมหอมใหญ่ ราคารวมภาษี 49 เยน) ซื้อมาเดินทานไปเพลินๆ ได้
ร้านค้าบางร้านจะเปิดในตอนกลางวันหรือเปิดตอนกลางคืนเป็นร้านอาหารหรือเป็นร้านเหล้าสไตล์อิซากายะ และในช่วงกลางวันก็จะได้เห็นภาพของคนที่ทำงานในละแวกนี้มาต่อคิวหน้าร้านอาหารกัน
อาหารสดใหม่! ร้านเท็มปุระ & ไวน์โคจิมะ (Tempura & Wine Kojima)
เจ้าของร้าน เท็มปุระ & ไวน์โคจิมะ (Tempura & Wine Kojima) ในตลาดเป็นคนที่ชอบทานเท็มปุระมาก และก่อนหน้านี้ยังเคยไปฝึกฝนการทำอาหารที่ร้านอาหารอิตาเลียน เขาได้เปิดร้านนี้ขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะคิดค้นเท็มปุระที่รสชาติเข้ากับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมนูมื้อกลางวันยอดฮิตของที่ร้านคือเซ็ต อานาโกะเท็น เทโชคุ (Anagoten Teishoku) (ราคารวมภาษี 890 เยน) ในเซ็ตจะมีเท็มปุระปลาไหลทะเล (ปลาอานาโกะ) ผักตามฤดูกาล ไข่ยางมะตูม กุ้ง มะเขือยาว รากบัว อร่อยฟินไม่เลี่ยนเลย
เราขอแนะนำเคล็ดลับเพิ่มความอร่อยโดยให้โรยเกลือโฮจิฉะ (Hojicha Shio) โฮมเมดของร้านลงไปเล็กน้อย เวลาทานจะได้กลิ่นหอมของชา ทำให้เท็มปุระยิ่งอร่อยมากขึ้น และยังมีทาคุอัน หัวไชเท้าดองสีเหลืองที่ร้านทำเองอีกเหมือนกัน รสเผ็ดนิดๆ ทานเป็นเครื่องเคียง อร่อยจนหยุดไม่อยู่กันเลยทีเดียว!
ย่านร้านค้าโอซุ (Osu Shopping District) หนึ่งในย่านร้านค้าที่คึกคักที่สุดในนาโกย่า
พื้นที่ในย่านโอซุถือเป็นเมืองรอบปราสาทของนาโกย่า เดินไปก็จะเจอวัดและศาลเจ้าอยู่หลายแห่ง แต่ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือ วัดโอซุคันนง (Osu Kannon Temple) ที่ช่วยทำให้บริเวณรอบๆ วัดเกิดเป็นย่านชุมชนและกลายมาเป็น ย่านร้านค้าโอซุ (Osu Shopping District) อันคึกคักแห่งนี้
ปัจจุบันย่านร้านค้าโอซุเป็นหนึ่งใน 3 ย่านอิเล็กทรอนิกส์และอนิเมที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นเช่นเดียวกับ อากิฮาบาระ (Akihabara) ของโตเกียว และนิปปงบาชิ (Nipponbashi) ของโอซาก้า และยังเป็นที่รู้จักในฐานะต้นกำเนิดของเมดคาเฟ่อีกด้วย
ที่ย่านร้านค้านี้มักจะมีงานอีเว้นท์เป็นประจำ ทำให้คึกคักมีชีวิตชีวาอยู่เสมอ ที่สำคัญคือมีของกินอร่อยๆ ในราคาที่เป็นมิตรด้วย!
ไก่ทอดคาราอาเกะ เป็นของกินที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับหนึ่งของย่านร้านค้าโอซุ เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอร้านไก่ทอดอีกแล้ว ตลอดทางจึงหอมอบอวลไปด้วยกลิ่นของไก่ทอดคาราอาเกะ ครั้งนี้กองบรรณาธิการ Matcha จึงได้คัดเลือก 3 ร้านเด็ดมาแนะนำให้กับผู้อ่านกันค่ะ!
1. มารุโยชิ (Maruyoshi)
มารุโยชิ (Maruyoshi) ต้นตำรับมิโซะคาราอาเกะเจ้าแรก (ภาพบนซ้าย ราคารวมภาษี 530 เยน) เป็นไก่ทอดคาราอาเกะที่มีรางวัลชนะเลิศจากการประกวดอาหารเด็ดของนาโกย่า ชินนาโกย่าเมชิ โซเซ็นเคียว (Nagoya Meshi Contest) มาการันตีความสุดยอด ทางร้านปรุงรสด้วยซอสมิโซะ ไม่ใช้กระเทียมและไข่ และยังทอดด้วยน้ำมันรำข้าวที่ผลิตในประเทศ ดีต่อสุขภาพอย่างนี้เลยได้รับความนิยมจากสาวๆ เป็นอย่างมาก!
พอกัดเข้าไปคำแรกจะสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมของมิโซะที่กระจายอยู่เต็มปาก และรสสัมผัสกรอบนอกนุ่มในของเนื้อไก่ที่โดดเด่น
2. คินโนะโทริคาระ (Kinnotorikara)
คินโนะโทริคาระ (Kinnotorikara) ไก่ทอดของร้านใช้เนื้อส่วนอกไม่ติดหนังของไก่ที่เลี้ยงในญี่ปุ่น (ภาพบนขวา ราคารวมภาษี 430 เยน) และยังมีสูตรลับที่ทำให้ด้านนอกของไก่กรอบแต่ชุ่มฉ่ำข้างใน มีท็อปปิ้งโรยหน้าอย่างเครื่องเทศสูตรพิเศษหรือมายองเนสให้เลือกใส่ได้
เราได้ลองชิมแบบยังไม่ใส่ท็อปปิ้งอะไรเลย ข้างนอกกรอบแต่เนื้อข้างในนุ่มมากๆ ไม่ว่าจะมีกี่ชิ้นรับรองว่าหมดเรียบแน่นอน!
3. โทริกาเนะโชเท็น (Toriganeshoten)
โทริกาเนะโชเท็น (Toriganeshoten) ไก่ทอดของร้านมีให้เลือกหลากชนิดหลายรส (ภาพล่างซ้าย: ราคารวมภาษี 530 เยน) ตั้งแต่ไก่ทอดสูตรออริจินัล ไก่ทอดรสโอโรชิพอนสึ (ไชเท้าบดกับซอสพอนสึ) ไก่ทอดรสเผ็ดสไตล์เกาหลี หรือจะเป็นไก่ทอดซอสแกงกะหรี่สไตล์อินเดีย ขนาดของเนื้อไก่ค่อนข้างใหญ่กว่าอีก 2 ร้านก่อนหน้านี้
รสชาติที่เราอยากแนะนำก็คือโอโรชิพอนสึ ไก่ทอดหอมๆ พอมีรสเปรี้ยวที่ทำให้รู้สึกสดชื่นเพิ่มเข้ามาก็ยิ่งอร่อย!
ร้านกาแฟเก่าแก่ คมพารุ (Konparu) สาขาใหญ่
คมพารุ (Konparu) สาขาใหญ่ โอซุ เปิดกิจการมาแล้วกว่า 70 ปี เป็นร้านที่ช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมร้านกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ของนาโกย่าให้เป็นที่รู้จัก การตกแต่งภายในยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้เหมือนสมัยก่อตั้งร้าน ภายในร้านจึงอบอวลด้วยบรรยากาศย้อนยุค เก้าอี้บุนวมสีแดงและวัสดุจากไม้ทำให้มีกลิ่นอายของยุคโชวะ
เมนูแซนด์วิชของที่ร้านมีมากกว่า 25 ชนิด เช่น แซนด์วิชหมูทอด (Katsu Sandwich) แซนด์วิชผลไม้ (Fruit Sandwich) แซนด์วิชไข่ (Tamago Sandwich) และเมนูที่เป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือ แซนด์วิชกุ้งทอด (Ebi Katsu Sandwich) ราคารวมภาษี 930 เยน รสสัมผัสกรอบอร่อยของแป้งทอดสีทองด้านนอกเข้ากับเนื้อกุ้งเด้งดึ๋งอย่างลงตัวสุดๆ
หนึ่งไฮไลท์ของร้านที่ไม่ควรพลาดคือกาแฟ ทางร้านจะนำเมล็ดกาแฟที่คัดสรรมาเป็นอย่างดีไปดริปด้วยตัวกรองแบบผ้า (Nel Drip) นมที่ใช้เติมในกาแฟก็เป็นสูตรพิเศษออริจินัลของที่ร้าน ทั้งหมดนี้เป็นสไตล์เฉพาะตัวของที่ Konparu เท่านั้น
สำหรับเมนูกาแฟเย็น (ราคารวมภาษี 400 เยน) ทางร้านจะเสิร์ฟกาแฟร้อนเข้มข้นมาในถ้วยให้ลูกค้าเทใส่แก้วที่มีน้ำแข็งได้เอง แล้วเพิ่มน้ำตาลหรือนมได้ตามชอบ เป็นกาแฟรสเข้มที่ดื่มเพลินได้เรื่อยๆ
หาของถูกใจกันที่ตลาดเช้าสินค้าแฮนด์เมด วัดฮิกาชิเบ็ตสึอิน!
ตลาดเช้าสินค้าแฮนด์เมด ฮิกาชิเบ็ตสึอิน (Higashi Betsuin Handmade Morning Market) จัดขึ้นเป็นประจำทุกวันที่ 28 ของเดือนในบริเวณวัดฮิกาชิเบ็ตสึอิน (Higashi Betsuin Temple) มาตั้งแต่ปี 2013 ในแต่ละครั้งมีร้านมาออกบูธกว่า 170 ร้านค้า ถือเป็นตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดไอจิเลย
สินค้าที่วางขายมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ผักสด แยม ขนมปัง ข้าวของเครื่องใช้กระจุกกระจิก ไปจนถึงดอกไม้ คนที่ชอบช้อปปิ้งจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน เพราะจะได้พบกับของมากมายละลานตาไปหมด
นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟที่ชงกันสดๆ เลยด้วย กลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วทั้งตลาดเลย ร้านขนมที่มีดิสเพลย์น่ารักๆ ก็มี ให้ความรู้สึกราวกับยกร้านกาแฟมาไว้กลางแจ้งก็ว่าได้
ช่วงฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมดอกซากุระที่บานสะพรั่งด้วยนะคะ
ถนนชิเคมิจิ (Shikemichi) ผสานความเก่าและใหม่อย่างลงตัว
ถนนชิเคมิจิ (Shikemichi) เป็นเมืองการค้าที่สร้างขึ้นพร้อมๆ กับการก่อสร้างปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle) เนื่องจากเคยเกิดเหตุเพลิงไหม้อยู่บ่อยครั้งจึงขยายถนนให้มีความกว้างถึงประมาณ 7 เมตร หรือเทียบกับหน่วยวัดแบบญี่ปุ่นแล้วจะเรียกว่า ชิเค (Shike) เพื่อช่วยป้องกันไฟลาม เลยเป็นที่มาของชื่อถนนสายนี้
นอกจากนี้โรงเก็บของที่อยู่บนกำแพงหินทั้งหมดในบริเวณนี้ยังช่วยป้องกันไฟไหม้ลามด้วย มีร้านค้าเก่าแก่ที่เปิดมายาวนานหลายต่อหลายรุ่น ร้านใหม่ๆ บางร้านก็รีโนเวทมาจากบ้านเรือนเก่า จึงสัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่ผสมผสานระหว่างความเก่าและใหม่ไว้ด้วยกันของย่านนี้ ครั้งนี้เราจะแนะนำร้านที่ไม่ควรพลาดถ้ามาเยือนที่ชิเคมิจิให้ด้วยค่ะ
สุดยอดพาร์เฟ่ต์ของร้าน Cafe de Lyon Bleu
Cafe de Lyon Bleu ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโฮริคาวะ (Horikawa River) ที่ไหลผ่านถนนชิเคมิจิ ที่นี่เป็นสาขาที่ 2 จากทั้งหมด 3 สาขาในนาโกย่า เจ้าของร้านที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับประเทศฝรั่งเศสได้รับแรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนฝรั่งเศส จึงตั้งใจที่จะสร้างร้านของตัวเองให้มีบรรยากาศเหมือนคาเฟ่ในฝรั่งเศส
เมนูของหวานยอดฮิตซึ่งเคยมีหลายสื่อแนะนำกันมาแล้วคือพาร์เฟ่ต์ ทางร้าน Cafe de Lyon Bleu มีเมนูพาร์เฟ่ต์ที่ใช้ผลไม้ตามฤดูกาลรวมตลอดทั้งปีมากถึง 40 - 50 ชนิด ทางร้านใส่ใจแม้กระทั่งลำดับในการจัดเรียงแต่ละชั้น เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มรสความอร่อยจนถึงคำสุดท้าย
คราวนี้กองบรรณาธิการ MATCHA ได้สั่งเมนูสตรอเบอร์รีพาร์เฟ่ต์ พรีเมียมอิจิโกะพาร์เฟ่ต์ (Premium Ichigo Parfait) ราคาไม่รวมภาษี 1,650 เยน หน้าตาดูดีจนไม่กล้าทานกันเลยค่ะ สตรอเบอร์รีที่ใช้เป็นพันธ์เบนิฮปเปะ (Benihoppe) ของชิซุโอกะ ผลใหญ่และมีสีแดงสดกว่าพันธุ์อื่นๆ มีรสเปรี้ยวอมหวาน
เราสามารถลิ้มรสครีมสดฮอกไกโด โยเกิร์ต แยม และพายโฮมเมดได้ในถ้วยเดียว
*สตรอเบอร์รีพาร์เฟ่ต์มีขายเฉพาะฤดูสตรอเบอร์รี (มีนาคม - พฤษภาคม) เท่านั้น
เดินทางสะดวกสบายจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์
ถ้าอยากตามรอยเราไปเที่ยวนาโกย่าสามารถเดินทางได้สะดวกสบายจากท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) ถ้ามีโอกาสไปท่องเที่ยวในสถานที่ที่สามารถสัมผัสกับผู้คนและบรรยากาศในท้องถิ่นเราก็จะได้พบกับอีกด้านของเมืองใหญ่อย่างนาโกย่าค่ะ!
เว็บไซต์ทางการท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ : https://www.centrair.jp/th/
บริเวณใกล้เคียงท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่รวมบทความพิเศษ ภูมิภาคชูบุ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by miho
Sponsored by Chubu Centrair International Airport
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง