แผนเที่ยวกินสุดคุ้มแค่ 3,000 เยนรอบปราสาทอินุยามะ (Inuyama) ใกล้นาโกย่า (Nagoya) เดินทางง่ายจากเซ็นแทรร์!
แนะนำแผนเที่ยวกินจุใจด้วยงบแค่ประมาณ 3,000 เยน เที่ยว "ปราสาทอินุยามะ" สมบัติแห่งชาติในภูมิภาคชูบุ และศาลเจ้าซังโคอินาริ ศาลเจ้าแห่งความรักชื่อดัง พร้อมเต็มอิ่มกับร้านอาหารอร่อยมากมาย มาเที่ยวเมืองรอบปราสาท เดินทางง่ายจากสนามบินเซ็นแทรร์ (นาโกย่า) กัน!
"ปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)" คือ ปราสาทขึ้นชื่อที่เป็นเจ้าของป้อมปราการไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวภูมิภาคชูบุเลยค่ะ นอกจากนี้เมืองรอบปราสาทก็ยังคงหลงเหลือบรรยากาศในสมัยเอโดะให้ได้เห็นกันอยู่จนถึงปัจจุบัน เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดผู้คนให้มาเที่ยวอยู่เรื่อยมา
และอีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามพลาดเมื่อได้มาเที่ยวเมืองรอบปราสาทแห่งนี้เลยก็คือของกินแสนอร่อยนั่นเอง! บอกเลยว่าต้องมาเพลิดเพลินกับอาหารแสนอร่อย รูปร่างหน้าตาสวยงามน่าถ่ายรูปลงโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นดังโกะสีสันสดใส ซูชิขนาดพอดีคำ และอื่นๆ กันให้ได้ค่ะ!
ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนเที่ยวรอบปราสาทอินุยามะ ก่อนจะไปอิ่มอร่อยให้เต็มที่กันแถวเมืองรอบปราสาทในงบแค่ 3,000 เยนเท่านั้น
มาเริ่มเดินทางจากเซ็นแทรร์ (ท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ : Chubu Centrair International Airport) กันเลยค่ะ!
07:20 น. นั่งรถไฟ Airport Rapid Limited Express
จากเซ็นแทรร์ตรงไปยังปราสาทอินุยามะ (Inuyama Castle)
วิธีการเดินทางไปยังปราสาทอินุยามะ
สถานีรถไฟที่ใกล้ปราสาทอินุยามะที่สุดคือสถานีอินุยามะยูเอ็น (Inuyama-Yuen) ให้เรานั่งรถไฟ "Meitetsu μ-SKY" (อ่านว่า เมเทตสึ มิวสกาย) ที่มุ่งหน้าไปยังชินอุนุมะ (Shin-Unuma) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงโดยไม่ต้องเปลี่ยนรถ
รายละเอียดเกี่ยวกับตารางเดินรถไฟคลิกที่นี่ (วันธรรมดาและวันเสาร์ / วันหยุด) ค่าโดยสาร 1,700 เยน หลังจากนั้นก็เดินจากสถานีอินุยามะยูเอ็นมาประมาณ 15 นาทีก็จะถึงปราสาทอินุยามะแล้วล่ะค่ะ
สำหรับใครที่พกสัมภาระมาเยอะก็ขอแนะนำให้ฝากเอาไว้ที่ตู้ล็อคเกอร์หยอดเหรียญภายในสถานีรถไฟหรือที่ปราสาทอินุยามะจะดีที่สุด
ค่าเข้าชมปราสาทอินุยามะ
ค่าเข้าชมปราสาทอินุยามะสำหรับผู้ใหญ่ 550 เยนและนักเรียนประถม / มัธยมต้น 110 เยน
09:00 น. สมบัติชาติ ปราสาทอินุยามะ
และป้อมปราการไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
ปราสาทอินุยามะที่มีประวัติอันยาวนานแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเตี้ยเลียบแม่น้ำคิโสะ (Kiso River) สร้างขึ้นโดย "โอดะ โนบุยาสึ" ผู้เป็นอาของโอดะ โนบุนากะ (*1) นักรบชื่อดังแห่งสมัยเซ็นโกคุ ในสมัยนั้นที่นี่นับเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารที่สำคัญเลยก็ว่าได้
เมื่อย่างเข้าสู่สมัยเอโดะ ตระกูลนารูเสะ (*2) ก็เข้ามาปกครองปราสาทแห่งนี้เรื่อยมาจนถึงสมัยเมจิ
*1 : โอดะ โนบุนากะ ... นักรบสมัยเซ็นโกคุ
*2 : ตระกูลนารูเสะ ... ผู้มีตำแหน่งสำคัญในฐานะผู้ช่วยตระกูลโทกุกาวะ
ด้วยกฎหมายทำลายปราสาท (*3) ในสมัยเมจิ ปราสาทอินุยามะก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงชะตากรรมนี้ได้เช่นเดียวกับปราสาทแห่งอื่นๆ ตัวปราสาทหลายส่วนนอกจากป้อมปราการปราสาท เช่น หอคอยและประตูปราสาท ถูกทำลายลงไปอย่างน่าเสียดาย
ต่อมาในปี 1891 ตัวปราสาทส่วนใหญ่ที่หลงเหลืออยู่ยิ่งได้รับความเสียหายหนักจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในภูมิภาคชูบุ หลายปีถัดมา จังหวัดไอจิจึงได้โอนกรรมสิทธิ์ของปราสาทแห่งนี้ให้กับเจ้าของเก่าอย่างตระกูลนารูเสะภายใต้เงื่อนไขที่ว่า "ต้องฟื้นฟูและทำนุบำรุงปราสาทอินุยามะให้คงอยู่ต่อไป" ทำให้ปราสาทอินุยามะกลายเป็นปราสาทส่วนบุคคลเพียงแห่งเดียวในญี่ปุ่นมาจนถึงปี 2004
หนึ่งในไฮไลท์ของปราสาทอินุยามะแห่งนี้เลยก็คือป้อมปราราการปราสาทไม้ ว่ากันว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1537 ซึ่งนับเป็นป้อมปราการปราสาทที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ยังคงหลงเหลือในปัจจุบัน
*กฎหมายทำลายปราสาท ... หนึ่งในกฎหมายที่ออกโดยรัฐบาลญี่ปุ่นในสมัยก่อน บังคับให้ทำลายปราสาทและอาณาบริเวณที่ตั้งปราสาททุกแห่งในญี่ปุ่น ปราสาทญี่ปุ่นหลายแห่งจึงถูกขายทิ้งให้กับภาคเอกชนบ้าง ถูกทำลายบ้าง
ปราสาทอินุยามะมีทางเข้าอยู่ที่ชั้นใต้ดิน B2 และมีบันไดขึ้นไปจนถึงชั้น 4
เนื่องจากบันไดภายในปราสาทสูงชันมาก จึงควรระวังเวลาขึ้นลงบันไดกันด้วย
ชั้น 1 และชั้น 2 เป็นโซนจัดแสดงชุดเกราะและเอกสารทางประวัติศาสตร์เป็นหลัก
รวมถึงภาพถ่ายของปราการปราสาทที่ยังคงหลงเหลือให้ได้ชมกันอยู่ในปัจจุบันด้วย
ส่วนชั้น 4 เป็นจุดชมวิวสำหรับชมวิวแม่น้ำคิโสะและอาคารบ้านเมืองรอบปราสาท
บนหลังคาปราสาทมีการประดับกระเบื้องสำหรับไล่ภูตผีปีศาจรูปลูกท้อบนกระดองเต่าเอาไว้ด้วย
ว่ากันว่าปราสาทอินุยามะติดกระเบื้องแบบนี้เอาไว้ถึง 8 ชิ้นเลยทีเดียว
แบบนี้เราต้องลองมาสังเกตกันดูแล้วล่ะค่ะ ... ดูสิว่าจะหาเจอกันกี่ชิ้น
10:00 น. ไปขอพรด้านความรักที่ ศาลเจ้าซังโคอินาริ
(Sankoinari Shrine)
เมื่อได้มาเที่ยวปราสาทอินุยามะ ที่เที่ยวอีกที่ที่ห้ามพลาดเลยก็คือ ศาลเจ้าซังโคอินาริ (Sankoinari Shrine) ที่เดินจากจากปราสาทอินุยามะไปเพียง 3 นาทีนั่นเอง
ศาลเจ้านี้เป็นที่สถิตของ "อินาริ" เทพเจ้าผู้พิทักษ์ของตระกูลนารูเสะเจ้าของปราสาทอินุยามะ แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ด้านการผูกดวงและความรักเป็นพิเศษด้วยค่ะ นอกจากเรื่องความรักแล้วก็ยังมีผู้คนเดินทางมาขอพรให้ชีวิตคู่ราบรื่นและขอพรเรื่องโชคลาภเงินทองด้วยนะ
เสาโทริอิสีแดงภายในศาลเจ้านับเป็นจุดถ่ายรูปห้ามพลาดเลยล่ะ
ปกสมุดรวมตราประทับที่จำหน่ายภายในศาลเจ้าก็เป็นภาพปราสาทอินุยามะและเสาโทริอิสีแดงนี้ค่ะ
เอมะ แผ่นไม้เขียนคำอธิษฐานเรื่องความรักก็เป็นรูปหัวใจสีชมพูดูน่ารักสุดๆ
น่ารักขนาดนี้ มาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันได้เลยค่ะ เอมะรูปหัวใจราคารวมภาษี 500 เยน
11:00 น. เต็มอิ่มกับอาหารแบบชาวบ้านที่เมืองรอบปราสาท
ด้วยเงิน 3,000 เยน!
เดินจากศาลเจ้าซังโคอินาริมาประมาณ 5 นาทีก็จะถึงเมืองรอบปราสาท ที่นี่เป็นขุมทรัพย์ของอร่อยหน้าตาน่าทาน เห็นแล้วต้องอดถ่ายรูปไม่ได้ มีเมนูที่ซื้อแล้วเดินทานไปด้วยได้เพียบ!
เดี๋ยวเราพาเดินทานหลากหลายเมนูสุดอร่อยจนจุใจในงบประมาณทั้งหมดแค่ 3,000 เยนกันค่ะ! ^^
ชวนกิน "เด็งกาขุคุชิ" ของขึ้นชื่อประจำอินุยามะที่ร้าน "ซากุระชายะ (Sakura Chaya)"!
น้ำจากแม่น้ำคิโสะนั้นมีคุณภาพดีมาก ทำให้บริเวณอินุยามะมีชื่อเสียงเรื่องการผลิตเต้าหู้มาตั้งแต่สมัยก่อน ปัจจุบันก็ยังเต็มไปด้วยร้านเต้าหู้มากมายไม่เปลี่ยน "เด็งกาขุ" (*4) เต้าหู้ราดมิโซะย่างนับเป็นของขึ้นชื่อประจำอินุยามะเลยก็ว่าได้
*4 : เด็งกาขุ ... เต้าหู้ เผือก หรืออื่นๆ เสียบไม้ ราดมิโซะ และนำไปย่าง
ก่อนอื่นเรามาลิ้มลองเจ้าเด็งกาขุที่ว่านี้กันหน่อยดีกว่า
ซากุระชายะ (Sakura Chaya) แห่งนี้เป็นร้านจำหน่ายเมนูเด็งกาขุคุชิแบบซื้อกลับบ้าน ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของเด็งกาขุได้ง่าย ๆ ในราคาสบายกระเป๋าเพียงไม้ละ 100 เยนเท่านั้น (ราคารวมภาษี) แนะนำให้นั่งทานบนม้านั่งหน้าร้านพลางชมวิวอาคารบ้านเมืองสวยๆ ไปด้วยจะฟินสุดๆ
เต้าหู้เนื้อนุ่มหอมกลิ่นถั่วเหลือง เมื่อผ่านการย่างอย่างได้ที่ก็ยิ่งดึงความอร่อยให้ชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
*ที่นั่งภายในร้านรองรับเฉพาะลูกค้าที่สั่งเมนูเซ็ตเท่านั้น
อิ่มอร่อยไปกับโกะเฮโมจิโฮมเมดของร้าน ยามาดะ โกะเฮโมจิเต็น
(Yamada Goheimochi-ten)
ร้านน่าแวะร้านต่อมาก็คือ "ยามาดะ โกะเฮโมจิเต็น (Yamada Goheimochi-ten)" ที่โด่งดังเรื่องโกะเฮโมจิ (*5) ตัวร้านได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องได้ มีเก้าอี้นั่งให้บริการ สามารถนั่งทานไป พักผ่อนไปได้อย่างสบายๆ
*5 : โกะเฮโมจิ ... เมนูจากการบดข้าวหยาบๆ แล้วปั้นเป็นรูปวงรีแบนๆ เสียบด้วยไม้เรียวยาว ก่อนนำไปราดด้วยซอสมิโซะแล้วย่างไฟ
ปกติแล้วโกะเฮโมจิจะเป็นรูปวงรี แต่โกะเฮโมจิของร้าน "ยามาดะ โกะเฮโมจิเต็น" ทำเป็นทรงลูกบอลเล็กๆ แทน จึงมีเอกลักษณ์อยู่ที่รูปร่างหน้าตาน่ารัก แถมยังกินง่ายอีกต่างหาก ราคาไม้ละ 100 เยน (ราคารวมภาษี)
โกะเฮโมจิของทางร้านเป็นแบบโฮมเมดทำมือเองทั้งหมด เพียงแค่เอาเข้าปาก รสสัมผัสและกลิ่นหอมของข้าวก็กระจายไปทั่ว ซอสมิโซะที่ราดบนโมจิมีส่วนผสมของทั้งงา เกาลัด และถั่วลิสง ให้รสชาติเข้มข้นถึงใจ
ฮมมาจิชาเรียว (Hommachisaryou) ร้านซอฟท์ครีมแสนน่ารักในบ้านโบราณ
"ฮมมาจิชาเรียว (Hommachisaryou)" คือ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นโดยรีโนเวทมาจากบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี ร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องเมนูท้องถิ่นของอินุยามะแห่งนี้ได้รับความนิยมถล่มทลายในหมู่นักท่องเที่ยวสุดๆ ด้วยเมนูซอฟท์ครีมสีสีนสดใส
เมนูยอดนิยมจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก "ซอฟท์ครีมพรีเมียมสูตรเข้มข้นพิเศษ" (Tokuno Premium Soft Cream) ที่โรยหน้าด้วย "โออิริ" (*6) สีสันสดใสนั่นเอง
ราคา 350 เยน (ราคารวมภาษี) บอกเลยว่าหน้าตาน่ารักถึงขนาดต้องหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปก่อนทานเลยล่ะค่ะ
*6 : โออิริ ... ขนมโมจิรสชาติหวานเล็กน้อย เมื่อทานเข้าปากก็จะละลายทันที
อิเซยะ ซุนะโอโรชิ (Iseya Sunaoroshi)
ร้านซูชิลูกบอลเทมาริสุดน่ารักราวกับของเล่น
เมนูที่เหมาะกับการกินเป็นมื้อเที่ยงเบาๆ ระหว่างทริปเดินไปทานไปก็ต้องยกให้ "เทมาริซูชิ" ของร้าน "อิเซยะ ซุนะโอโรชิ (Iseya Sunaoroshi)" ค่ะ เมนูเทมาริซูชินั้นมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับ "ลูกบอลเทมาริ" ของเล่นดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีสีสันสดใส จึงเป็นที่มาของชื่อเมนู "เทมาริซูชิ" นั่นเอง
ข้าวเทมาริซูชิของร้าน "อิเซยะ ซุนะโอโรชิ" ใช้ "ข้าวบุก" ซึ่งแปรรูปมาจากบุกผสมลงไปด้วย จึงให้แคลอรีน้อยกว่าซูชิทั่วไปถึงครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว เมนูแสนอร่อยและอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่ดีต่อสุขภาพแบบนี้ดีต่อใจสุดๆ ราคา 5 ชิ้น 750 เยน (ราคารวมภาษี) เท่านั้น นอกจากจะดังเรื่องเทมาริซูชิที่น่ารักแล้ว ร้านนี้ยังเสิร์ฟอาหารจากบุกอีกด้วย
คุรายะ (Kuraya) ร้านของหวานสีสันสดใสที่กำลังฮิตบนโลกโซเชียลขณะนี้
ของหวานหลังมื้ออาหารก็ขอแนะนำเป็นดังโกะสีสันสดใสของร้าน "คุรายะ (Kuraya)" เลยค่ะ
"เซ็ต ไฮคาระ โคอิโคมาจิ (Haikara Koikomachi Set)" เมนูยอดนิยมอันดับ 1 ที่วามารถเพลิดเพลินกับรสชาติทั้ง 8 นี้กำลังเป็นที่พูดถึงกันบนโลกโซเชียลอย่างมากจากรูปร่างหน้าตาน่ารัก ถ่ายรูปสวย ราคา 2 ไม้พร้อมชาเขียว 600 เยน (ราคารวมภาษี)
ในบรรดาดังโกะทั้ง 8 รสชาติมี 4 รสชาติเป็นรสชาติมาตรฐานที่มีจำหน่ายตลอดทั้งปี คือ รสสตรอว์เบอร์รีอามาโอ, รสถั่วแระ, รสลูกพีช และรสสตรอว์เบอร์รีกวนละเอียด
ส่วนอีก 2 รสชาติจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล อย่างรสส้มยูซุน้ำผึ้งและรสส้มซัทสึมะในฤดูหนาว และรสเลม่อนน้ำผึ้งและรสส้มจีนในฤดูร้อน
2 รสชาติที่เหลือเราสามารถเลือกรสโปรดจากบรรดารสชาติตามฤดูกาลที่มี 6 – 7 แบบได้ตามใจชอบ ดังโกะจะจัดเสิร์ฟพร้อมกับชาเขียวผสมข้าวกล้องที่ผลิตในอินุยามะซึ่งมีรสชาติเบาๆ เข้ากับดังโกะรสหวาน จึงบอกเลยว่าอร่อยเต็มอิ่มถูกใจแน่นอน!
ดื่มด่ำกับขนมญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น ร้าน ซากุรายะคาโฮะ (Sakurayakaho)
หลังจากพักผ่อนที่ร้าน "คุรายะ" จนเต็มอิ่มแล้วก็อย่าลืมแวะมาที่ร้าน "ซากุรายะคาโฮะ (Sakurayakaho)" อายุมากกว่า 50 ปีที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันด้วยนะคะ
ที่นี่มีของขึ้นชื่อเป็น "ขนมญี่ปุ่นเสียบไม้" ที่มีจำหน่ายเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง โดยมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับอุปกรณ์ประดับผมในชุดกิโมโน ตัวขนมนั้นงดงามถึงขนาดชาวเน็ตพูดกันว่าเป็นขนมญี่ปุ่นที่สวยที่สุดในประเทศกันเลยทีเดียว
"ไมโนะคาซาชิ (Mai no Kazashi)" ขนมญี่ปุ่นเสียบไม้ประจำฤดูใบไม้ผลิทำมาจากถั่วแดงกวน ขนมโยกัง และวุ้น ตกแต่งรูปร่างหน้าตาออกมาได้น่ารักมาก ราคาไม้ละ 250 เยน (ราคารวมภาษี)
ลิ้มลองพาเฟ่ต์อัดแน่นไปด้วยผลไม้ของร้าน โยชิคาวายะ (Yoshikawaya)
ส่วนร้านต่อไปที่น่ามาเยือนก็คือ "โยชิคาวายะ (Yoshikawaya)" เดิมร้านนี้ขายผลไม้มาก่อน แต่ในปัจจุบันหันมาขายของหวานที่ใช้ผลไม้แบบเน้นๆ แทน
เมนูพาเฟ่ต์ผลไม้ตามฤดูกาล ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เช่น สตรอว์เบอร์รีในฤดูใบไม้ผลิและฤดูหนาว ลูกพีชในฤดูร้อน และสาลี่ในฤดูใบไม้ร่วง ราคา 780 เยน (ราคารวมภาษี)
เนื่องจากผลไม้จะหั่นแบบสดๆ หลังได้รับออเดอร์เท่านั้น เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติผลไม้สดใหม่ได้อย่างเต็มอิ่ม แล้วที่ตกใจยิ่งกว่านั้นคือเมนูใส่ผลไม้มาแบบจัดเต็มแต่ขายในราคาไม่ถึง 1,000 เยน!!
เพลิดเพลินกับของหวานดั้งเดิมของนาโกย่าที่ร้าน โอโนยะ (Oonoya)
ไหนลองมาเยือนร้านจำหน่าย "อุอิโระ" ขึ้นชื่อภายในเมืองรอบปราสาทกันบ้างดีกว่า "โอโนยะ (Oonoya)" แห่งนี้เป็นร้านซึ่งเป็นที่รักของผู้คนท้องถิ่น ได้จำหน่ายอุอิโระมาเป็นเวลามากกว่า 80 ปีแล้ว
"อุอิโระ" คือ ขนมญี่ปุ่นที่ทำโดยการผสมน้ำเข้ากับแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาลแล้วนำไปผ่านความร้อน ถึงแม้จะมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับขนมโยกัง แต่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่ม อร่อยมากเลยนะจะบอกให้!
"อุอิโระเสียบไม้ดังโกะ" (Uirodangokushi) ที่จำหน่ายภายในร้านประกอบด้วยอุอิโระ 3 รสชาติในไม้เดียวทั้งรสส้มยูซุ รสธรรมชาติ และรสชาเขียว
โดยขอแนะนำเมนูนี้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งลองทานอุอิโระเป็นครั้งแรกเลยค่ะ ราคา 130 เยน (ราคารวมภาษี)
รสส้มยูซุกินแล้วสดชื่น ส่วนรสธรรมชาติก็หวานกำลังดี และทานรสชาเขียวเป็นลูกสุดท้าย กลิ่นหอมของชาเขียวก็จะอบอวลในปาก
15:30 น. จบทริปเที่ยวอินุยามะ ไปเที่ยวนาโกย่ากันต่อเลยดีกว่า!
หลังจากเที่ยวโซนอินุยามะกันจนเต็มอิ่มแล้วก็ลองแวะไปเที่ยวเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่ติดกันอย่างนาโกย่ากันดูดีไหมคะ?
จากเมืองรอบปราสาทอินุยามะไปยังนาโกย่า สามารถนั่งรถไฟของ Meitetsu แบบ Limited Express จากสถานีอินุยามะ (Inuyama) หรือสถานีอินุยามะ-ยูเอ็น (Inuyama-Yuen) ได้ มีรถไฟวิ่งให้บริการประมาณชั่วโมงละ 9 ขบวน ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที
ออกทริปพลางลิ้มลองอาหารแสนอร่อยที่ปราสาทอินุยามะกัน!
โซนอินุยามะเต็มไปด้วยสถานที่น่าเที่ยวอีกมากมายไม่ใช่แค่ปราสาทอินุยามะ ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าขอพรเรื่องความรักและร้านอาหารแสนอร่อยภายในเมืองรอบปราสาท ถ้าเกิดใครนั่งรถไฟ "Meitetsu μ-SKY" มาจากเซ็นแทรร์ก็จะใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงเท่านั้นเอง!
สำหรับใครที่มีโอกาสได้มาใช้บริการเซ็นแทรร์ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวเมืองอินุยามะที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานแห่งนี้กันให้ได้นะคะ ^^
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
รวมบทความท่องเที่ยวภูมิภาคชูบุ
เว็บไซต์ทางการของท่าอากาศยานนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ : http://www.centrair.jp/
Written by Callie Chen
Sponsored by Chubu Centrair International Airport
Written by
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง