พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า แหล่งรวมราเม็งรสเลิศของญี่ปุ่น! (Shin-Yokohama Ramen Museum)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน

สำหรับคอราเม็งขอแนะนำ พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ธีมพาร์คที่รวมร้านราเม็งชื่อดัง 8 ร้านตั้งแต่ฮอกไกโดไปจนถึงคิวชู มาที่เดียวก็ได้ชิมราเม็งตั้งแต่เหนือจรดใต้ เราขอมาแนะนำร้านดัง สิ่งน่าสนใจและวิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าค่ะ

บทความโดย

yuki hamakawa

1994年生まれの横浜市在住。クーポンサイト運営兼ライター。日本酒とひとり旅、割引が大好き。ひとりでもお得に楽しめる日本の魅力をもとめて日々探索中。

อาหารที่ทุกคนตั้งใจมาลองให้ได้ที่ญี่ปุ่นคืออะไร ถ้าคำตอบคือราเม็งล่ะก็เราขอแนะนำให้ไปที่พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama Ramen Museum) ค่ะ

พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า เค้ามีชื่อย่อสั้นๆ ว่า "ราฮาคุ" (มาจากชื่อภาษาญี่ปุ่น ราเม็งฮาคุบุตสึคัง) ถึงจะใช้ชื่อว่าพิพิธภัณฑ์แต่จริงๆ แล้วที่นี่เป็นธีมพาร์คที่รวบรวมร้านราเม็งจากทั่วญี่ปุ่นตั้งแต่ฮอกไกโดทางเหนือจนถึงคิวชูทางใต้มาไว้ในที่เดียว ไปดูบรรยากาศด้านในพร้อมร้านที่เราอยากแนะนำกันค่ะ

ร้านราเม็งแนะนำ 2 ร้าน

พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า ชั้น 1 เป็นแกลอรี่และมิวเซียมชอป ส่วนชั้นใต้ดิน 1 กับ 2 เป็นร้านราเม็งทั้งหมด 8 ร้าน (ข้อมูลเดือนกรกฎาคม 2019) เราขอแนะนำ 2 ร้านเด็ดที่กำลังได้รับความนิยมตอนนี้ค่ะ

เคล็ดลับเล็กน้อยตอนสั่งราเม็งก็คือให้เลือกสั่งเป็น "มินิราเม็ง" ชามเล็กก็พอค่ะ จะมีปริมาณประมาณ 3 ใน 5 ของราเม็งชามปกติ ทำให้ทานได้หลายชามเหมาะสำหรับคนที่อยากลองชิมหลายๆ ร้านไว้เทียบรสชาติกัน สาวๆ กับเด็กๆ ก็สามารถทานได้ 2-3 ชาม ถ้าจะให้ดีต้องมาตอนท้องว่างค่ะ

มินิราเม็งมีให้สั่งได้ทุกร้านในพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าค่ะ

1. ฮัตจังราเม็ง จากเมืองฟุกุโอกะ จังหวัดฟุกุโอกะ

ร้านแรกคือ ฮัตจังราเม็ง (Hacchan Ramen) จากจังหวัดฟุกุโอกะ ภูมิภาคคิวชูทางใต้ หนึ่งในเมืองสมรภูมิแห่งทงคตสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู)

ร้านฮัตจังราเม็งเริ่มเปิดกิจการที่ฟุกุโอกะในปี 1968 ไม่มีสาขาใดๆ มาตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี และเปิดตั้งแต่ 21:00 - ตี 2:30 ของเช้าวันถัดไปเท่านั้น เว็บไซต์ของร้านก็ไม่มี จึงเป็นร้านทงคตสึราเม็งขึ้นชื่อที่ใครได้รู้ก็ถือว่าโชคดีไป

เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าบอกว่าทางพิพิธภัณฑ์ได้ไปเจรจาให้ร้านฮัตจังราเม็งมาเปิดสาขาที่นี่ตั้งแต่เมื่อ 25 ปีที่แล้ว แต่เจ้าของร้านก็ยืนกรานมาตลอดว่ายังไงก็ไม่เปิดร้านสาขาเด็ดขาดมาตลอด จนกระทั่งเดือนมีนาคม 2019 ทางร้านก็ได้ฤกษ์มาเปิดสาขาที่พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าเสียที

เห็นว่าเหตุผลก็คืออยากลองมาเปิดเพื่อต้อนรับนักท่องที่ยวต่างชาติที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงโตเกียวโอลิมปิก 2020

ซุปทงคตสึเข้มข้นสุดๆ คือเสน่ห์ของฮัตจังราเม็ง

มินิราเม็ง (ราคารวมภาษี 570 เยน)

เสน่ห์ของฮัตจังราเม็งคือซุปทงคตสึเข้มข้นที่ทำจากกระดูกหมูปริมาณมาก ต้มในหม้อแบบพิเศษด้วยไฟแรงจนความอร่อยจากกระดูกหมูละลายออกมาในซุป ไม่มีกลิ่นเหม็น รสชาติกลมกล่อมและเข้มข้น

เครื่องในชามมีแค่หัวหอมกับหมูชาชูเท่านั้นเพื่อจะได้ชิมความอร่อยของซุปได้เต็มที่ พอได้ลองทานจริงๆ ก็ต้องยอมรับเลยว่าเข้มข้นมาก

บนโต๊ะมีขิงดอง กระเทียมบด และราเม็งโชยุสำหรับคนที่อยากเปลี่ยนรสชาติ โดยเฉพาะขิงดองที่ช่วยแก้เลี่ยนได้ดี ช่วยเพิ่มความหลากหลายของรสชาติให้ทานได้เอร็ดอร่อยค่ะ

ฮัตจังราเม็ง : http://www.raumen.co.jp/shop/hacchanramen.html

2. ริชิริราเม็ง มิราคุ จากเกาะริชิริ จังหวัดฮอกไกโด

ร้านที่ 2 คือ ริชิริราเม็ง มิราคุ (Rishiri Ramen Miraku) จากฮอกไกโด ถ้าจะไปทานถึงร้านต้นตำรับบนเกาะริชิริ จังหวัดฮอกไกโด ต้องใช้เวลานั่งเครื่องบินแล้วต่อเรือจากชินโยโกฮาม่าไป 8 ชั่วโมงนู่น แถมยังเปิดขายแค่ 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น

ราเม็งที่หาทานยากแบบนี้มีให้ทานที่พิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าค่ะ

ซุปรสเลิศจากน้ำสต็อกริชิริคมบุ

มินิยากิโชยุราเม็ง (ราคารวมภาษี 570 เยน)

เมนูเด่นคือ ยากิโชยุราเม็ง ที่หลายคนมาพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าเพื่อเมนูนี้โดยเฉพาะก็มี

เคล็ดลับความอร่อยคือซุปที่ใช้ดาชิ (น้ำสต็อก) รสออกเค็มจากสาหร่ายคมบุที่ผลิตในริชิริ นี่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ร้านอาหารหรูในเกียวโตและโอซาก้าก็นำไปใช้เหมือนกัน

ซุปแสนอร่อยนี้ต้มด้วยกระดูกหมู กระดูกไก่ และดาชิจากริชิริคมบุในกระทะเหล็กแบบจีน ออกมาเป็นซุปที่เข้มทั้งสีและรส แต่ก็ไม่จัดจ้านจนเกินไป เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมกับเส้นเหนียวนุ่ม ใช้เวลาแป๊ปเดียวก็เกลี้ยงชาม

ท็อปปิ้งแนะนำคือโทโรโระคมบุค่ะ (100 เยน) เป็นการเอาริชิริคมบุไปดองน้ำส้มสายชูแล้วฝานให้เป็นฝอยช่วยเพิ่มรสชาติของซุปให้เข้มข้นไปอีกขั้น

ริชิริราเม็ง มิราคุ : http://www.raumen.co.jp/shop/rishiri.html

เดินชมรอบๆ พิพิธภัณฑ์ที่ตกแต่งแบบย้อนยุคสไตล์โชวะ

ในพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่าไม่ได้มีแค่ราเม็งแสนอร่อยอย่างเดียว ยังมีไฮไลท์อื่นๆ ที่น่าสนใจอีก เช่น การตกแต่งภายในแบบย้อนยุคที่จำลองญี่ปุ่นยุคโชวะ ร้านขายขนมดากาชิ และพื้นที่สาธารณะที่มีแสดงการเล่นกลและหุ่นละครกระดาษด้วย

หลังจากทานราเม็งเสร็จก็แวะมาเดินเล่นถ่ายรูป หาซื้อของฝากเป็นที่ระลึกกันได้นะคะ

ด้านในจำลองเป็นบ้านเมืองญี่ปุ่นในช่วงเวลาโพล้เพล้ของปี 1958 ปีที่ ชิคเก้นราเม็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก หนึ่งในสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นภาคภูมิใจมาก

เพดานทำเป็นสีของท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์ตก และยังมีของตบแต่งอื่นๆ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศแบบวันวาน เช่น ป้ายโรงภาพยนตร์ ตรอกซอยเล็กๆ และเซ็นโต (โรงอาบน้ำสาธารณะ) เพียงแค่เดินเล่นในพิพิธภัณฑ์ก็รู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในอดีตแล้ว

โปสเตอร์และป้ายต่างๆ ที่อยู่ในเมือง ทำดีมากเพราะเก็บไปจนถึงรายละเอียด เหมาะแก่การถ่ายรูปอัพลงโซเชี่ยลสุดๆ!

ยูยาเคะโชเท็น (ร้านพระอาทิตย์ตก) ร้านดากาชิย้อนยุคที่ไม่ควรพลาด!

สิ่งที่ไม่ควรพลาดหากมาถึงที่นี่แล้วอีกอย่างนึงก็คือ ร้านขนมดากาชิ ยูยาเคะโชเท็น (Yuyake Shoten)

ที่นี่จำลองร้านขายขนมที่เด็กๆ นิยมไปซื้อมาทานกันตั้งแต่อดีต เช่น หมากฝรั่งรูปแท่งบุหรี่ เบบี้สตาร์ราเม็ง ขนมจากเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และ โอซัตสึยากิคามะ ปลาหมึกซุรุเมะบดแผ่นยักษ์ ราคาก็ถูกชิ้นละไม่ถึง 100 เยนก็มี

หากโชคดีเราจะได้เจอกับคุณลุงผู้จัดการร้านที่แลดูอารมณ์ดีตลอดเวลาด้วย เงินทอน 100 เยน แต่ลุงจะพูดพลางยื่นให้ว่า "เงินทอน 1 ล้านเยนครับ" เป็นมุกตลกที่ได้รับความนิยมมาก

บางครั้งก็มีแก๊กขำๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษ เพราะงั้นถึงจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นก็ไม่มีปัญหา แวะมาซื้อขนมที่ร้านตอนเดินย่อยหลังทานราเม็งก็ได้นะคะ

ยูยาเคะโชเท็น : http://www.raumen.co.jp/floor/dagashi.html

การเดินทางไปพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่า

สถานีที่อยู่ใกล้กับพิพิธภัณฑ์ราเม็งชินโยโกฮาม่ามากที่สุดคือสถานีชินโยโกฮาม่า (Shin-Yokohama) ของรถไฟใต้ดินเมืองโยโกฮาม่า (Yokohama Municipal Subway) ทางออกหมายเลข 8 เดินแค่ 1 นาทีเท่านั้น

ส่วนวิธีเดินทางจากสถานีชินโยโกฮาม่าของ JR ลองดูจากวิดีโอข้างบนนี้ได้ค่ะ

พิพิธภัณฑ์ราเมนชินโยโกฮาม่า

222-0033 2-14-21 ชิน-โยโกฮาม่า, โคโฮคุ-คุ, โยโกฮาม่า, จังหวัดคานากาว่า

พิพิธภัณฑ์ราเมนชินโยโกฮาม่าเป็นสวรรค์ของอาหารในธีมราเม็ง ภายในอาคารมีข้อมูลเกี่ยวกับราเมนและมุมจำหน่ายผลิตภัณฑ์ รวมถึงร้านราเมง 10 อันดับแรก...

ค่าเข้า 1 วัน : ผู้ใหญ่ (ตั้งแต่มัธยมต้นขึ้นไป) 310 เยน / เด็กเล็ก (ประถม) 100 เยน / ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) 100 เยน

In cooperation with Shin-Yokohama Raumen Museum

บทความโดย

yuki hamakawa

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง