Start planning your trip
ไปสักการะเทพเจ้าที่จะช่วยเรื่องการเรียนของคุณที่ “ศาลเจ้ายูชิมะเท็น” ในโตเกียวกันเถอะ!
ที่ญี่ปุ่นนั้นมีคำที่กล่าวเอาไว้ว่า “ยะโอโรสุโนะคามิ” (เหล่าทวยเทพทั้งหลาย) อยู่ โดยคำว่า “ยะโอโรสุ” นั้นมีความหมายว่า “มีมากมายจนนับไม่ถ้วน” อันมีเหตุมาจากความเชื่อของญี่ปุ่นที่ว่าของทุก ๆ สิ่งจะมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ จึงเกิดวลีคำนี้ขึ้นมา แม้แต่ในความเป็น
ที่ญี่ปุ่นนั้นมีคำที่กล่าวเอาไว้ว่า “ยะโอโรสุโนะคามิ” (เหล่าทวยเทพทั้งหลาย) อยู่ โดยคำว่า “ยะโอโรสุ” นั้นมีความหมายว่า “มีมากมายจนนับไม่ถ้วน” อันมีเหตุมาจากความเชื่อของญี่ปุ่นที่ว่าของทุก ๆ สิ่งจะมีเทพเจ้าสิงสถิตอยู่ จึงเกิดวลีคำนี้ขึ้นมา แม้แต่ในความเป็นจริงเอง เทพเจ้าของญี่ปุ่นทั่วประเทศ ก็ยังมากมายหลายองค์ให้ได้ไปสักการะ
ไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าโฮกิโฮกิ เทพเจ้าแห่งล็อตเตอรี่, ศาลเจ้าโฮรินจิ อันเป็นที่สิงสถิตของเทพเจ้าแห่งไฟฟ้า แม้แต่เทพเจ้าแห่งห้องน้ำก็ยังมีให้สักการะกันที่วัดเมียวโทคุจิ ได้เลย
และไม่ว่าจะเป็นศาลเจ้าแห่งไหน ก็ต่างมีประวัติศาสตร์ของเทพที่สถิตอยู่ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้คนที่มาสักการะกันทั้งนั้น โดยสิ่งที่เราจะมาแนะนำกันในครั้งนี้ก็คือ “ศาลเจ้ายูชิมะเท็น (เทพยูชิมะ เท็นมังงุ) ที่อยู่ในเมืองยูชิมะ โตเกียว อันเป็นเทพเจ้าแห่งการศึกษาที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่นองค์หนึ่ง
นักเรียนเตรียมสอบเข้าทั้งหลายที่มารวมตัวกันที่ศาลเจ้ายูชิมะในทุก ๆ ปี
ศาลเจ้ายูชิมะเท็นเป็นศาลเจ้า (เท็นมังงุ) ที่เรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวเลยก็ว่าได้ โดยเท็นมังงุนั้น เป็นศาลเจ้าสำหรับสักการะเทพเจ้าแห่งการศึกษา และสุกาวาระ มิจิซาเนโกะ และจะมีนักเรียนมากราบไหว้สักการะกันมากเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสอบเข้าต่าง ๆ
นอกจากนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม บริเวณลานหน้าอาคารวัดยังเต็มไปด้วยผู้คนที่มาชมดอกซากุระบานกันอย่างคับคั่ง
ประตูโทริอิ
ส่วนนี้เป็นส่วนของประตูทางเข้าศาลเจ้ายูชิมะเท็น โดยซุ้มประตูโทริอินี้ ถูกสร้างขึ้นด้วยทองแดงเมื่อปี 1667 และเนื่องจากเป็นซุ้มประตูที่เก่าแก่มากแล้ว จึงต้องมีการบำรุงและซ่อมแซมอยู่เสมอ และประวัติศาสตร์อันยาวนานนี้ ยังถูกตีค่าทางวัฒนธรรมด้วยการกำหนดเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมของโตเกียวเมื่อเดือนสิงหาคม 1970 อีกด้วย
คลังสมบัติ
บริเวณนี้เป็นที่สำหรับเก็บรักษาของมีค่าและของที่มีความสำคัญกับวัฒนธรรมที่เก็บรักษาอยู่ ไม่ว่าจะเป็นมิโคจิ (ศาลเจ้าเคลื่อนที่) หรือแม้แต่รูปวาดสมัยก่อน และทรัพย์สินของมีค่าอื่น ๆ ก็ถูกเก็บเอาไว้ที่นี่เช่นกัน
นาเดอุชิ
ภายในศาลเจ้ายูชิมะเท็นมีรูปปั้นวัวที่ทำจากหินตั้งอยู่ด้วย ตั้งเอาไว้ทำไมกันนะ?
สาเหตุที่มีรูปปั้นนี้อยู่ก็คือ เทพเจ้าของที่นี่ (สุกาวาระ มิจิซาเนะ) นั้น มีคำพังเพยที่เอ่ยถึงวัวมากมาย เช่น เมื่อตอนที่มิจิซาเนะตาย เขาได้กล่าวเอาไว้ว่า “ช่วยเอาศพเราไปไว้บนหลังวัว ไม่ต้องให้ใครมาขนไป ปล่อยให้วัวพาเราไปในที่ ๆ มันอยากจะไปเท่านั้นพอ” และวัวที่แบกศพของเขาไปนั้น ก็ได้เดินทางไปทางทิศตะวันออก และหยุดเดินที่วัดอันราคุจิ อันเป็นที่ตั้งของสุสานของมิจิซาเนะในเวลาต่อมา
นอกเหนือจากนี้ยังมีคำสอนของเทพเจ้าที่เกี่ยวข้องกับวัวอีกมากมาย จึงเป็นที่มาว่าทำไมศาลเจ้ายูชิมะเท็นจึงมีรูปปั้นของวัววางไว้
และในศาลเจ้ายูชิมะเท็นนี้เอง ก็มีผู้มาสักการะที่มีเป้าหมายเพื่อมาสัมผัสเขาของวัว หรือเพื่อมาสักการะรูปปั้นโดยเฉพาะอยู่เช่นเดียวกัน โดยมีความเชื่อกันมายาวนานจนหาต้นตอแน่ชัดไม่ได้กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าจมูกไม่ดี ให้ลูบจมูก ถ้าขาไม่ดี ให้ลูบขา เกิดเป็นขนบธรรมเนียมที่เรียกว่า “นาเดอุชิ” (ลูบวัว) สืบเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
อาคารศาลเจ้าหลัก
อาคารศาลเจ้าหลักนี้ สร้างขึ้นมาโดยใช้วัตถุดิบจากต้นฮิโนคิในเมืองคิโสะ (*1) ที่เชื่อกันว่ามีอายุกว่า 250 ปี
*เมืองคิโสะในปัจจุบันเป็นเมืองหนึ่งในจังหวัดนางาโนะ
นอกจากนี้ อาคารหลักของที่ดึงเอาสเน่ห์ของศาลเจ้ายูชิมะเท็นขึ้นมาได้นั้น ยังมีลักษณะห้องเป็นสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่โดดเด่นสะดุดตาอีกด้วย
ใบเซียมซี (โอมิคุจิ)
ศาลเจ้ายูชิมะเท็นเอง ก็มีใบทำนายดวง (โอมิคุจิ) เหมือนกับศาลเจ้าอื่น ๆ ในญี่ปุ่นเหมือนกันนะ
กล่องที่ใส่ใบทำนายดวงที่ทำมาจากไม้นั้นจะมีใบของแต่ละปีเกิดใส่อยู่ หลังจากดึงใบทำนายดวงออกมาแล้ว จะถือกลับบ้านไป หรือจะอ่านแล้วผูกเอาไว้ในศาลเจ้าก็ได้เช่นเดียวกัน
เอมะ (ป้ายขอพร)
เมื่อเป็นถึงศาลเจ้ายูชิมะเท็นอันเป็นที่สักการะในฐานะเทพเจ้าแห่งการศึกษาแล้ว ก็ย่อมมีชื่อของมหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนมัธยมที่อยากเข้า เขียนเอาไว้บนป้ายขอพร (เอมะ) เต็มไปหมด และหากพวกเข้าสอบติดได้ดังใจหวัง ก็จะกลับมาที่ศาลเจ้ายูชิมะเท็น เพื่อกลับมาแสดงความขอบคุณเทพเจ้าที่ช่วยเหลือจนสมหวังได้ในที่สุด (เรียกว่า โอเระไมริ)
ศาลเจ้ายูชิมะเท็นนั้นมีชื่อเสียงในญี่ปุ่นในฐานะเทพเจ้าแห่งการศึกษา และมีคนหลากหลายประเภทเข้ามาถวายสักการะเทพเจ้ากันมากมาย แถมยังตั้งอยู่ใกล้กับบ่อน้ำชิโนบาสึ และสถานีรถไฟอุเอโนะอีกด้วย ถ้าผู้อ่านมีโอกาสได้แวะเข้าไปเยี่ยมเยียนแถว ๆ นั้นล่ะก็ ลองเข้าไปเยี่ยมชมกันดูนะ
แน่นอนว่าศาลเจ้าแห่งนี้จะให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมอันมีเสน่ห์ของญี่ปุ่น และได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่นได้อีกขั้นหนึ่งแน่นอน
Information
ศาลเจ้ายูชิมะเท็น
Hello, I'm Keisuke. living Asakusa Tokyo Japan. Love triathlon(Ironman), traveling, reading, eating and my job. I really really like Japan but I think Japan should be more kindly to traveler. https://www.facebook.com/keisukeyamada84
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง