Start planning your trip
หนึ่งวันในโยโกฮาม่า (Yokohama) งบ 5,000 เยน! ใช้เป็นที่พักเที่ยวโตเกียว คามาคุระ ฮาโกเน่ก็สะดวก
โยโกฮาม่าใกล้โตเกียว มีสถานที่น่าเที่ยวเพียบ มินาโตะมิไรกับวิวแสนสวย Yokohama HAMMERHEAD ที่รวมร้านราเม็งเอาไว้ ช้อปปิ้งที่ตึกอิฐแดง ฯลฯ แนะนำแผนเที่ยว 1 วันในงบ 5,000 เยน พร้อมแนะนำที่พักสำหรับเที่ยวโตเกียว หรือไปเที่ยวคามาคุระกับฮาโกเน่ต่อได้ด้วย!
โยโกฮาม่า (Yokohama) เมืองท่าสุดสวย ใกล้โตเกียว คามาคุระ และฮาโกเน่!
Picture courtesy of Yokohama Visitors Guide
โยโกฮาม่าคือเมืองใหญ่ที่มีจำนวนประชากรเป็นลำดับที่ 2 ของญี่ปุ่น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเสน่ห์ทั้งความร่มรื่นของแมกไม้ และทิวทัศน์งดงามจากทะเล เรือ และความเป็นเมืองท่า
เมืองท่าแห่งนี้มีสถานที่เที่ยวน่าสนใจมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านขนมหวานยอดนิยม ถนนชอปปิ้ง อาคารที่สวยงามน่าถ่ายรูป และชิงช้าสวรรค์ที่ส่องแสงประดับยามค่ำคืน แถมยังอยู่ใกล้กับฮาโกเน่ที่มีธรรมชาติงดงามและคามาคุระ หากวางแผนเที่ยวไปพร้อมๆ กัน จะทำให้เราได้เต็มอิ่มกับเสน่ห์หลากหลายแบบของญี่ปุ่นอย่างแน่นอน
หลายคนอาจจะกังวลว่า "โยโกฮาม่ามีร้านหรูๆ เยอะ ต้องใช้เงินเที่ยวเยอะแน่เลย" แต่จริงๆ แล้วเราสามารถเที่ยวโยโกฮาม่าได้อย่างจุใจภายในงบเพียง 5,000 เยน (ประมาณ 1,430 บาท) เท่านั้นค่ะ!
ในตอนท้ายบทความเราจะแนะนำที่พักที่เดินทางสะดวกด้วย โยโกฮาม่านั้นถือเป็นแหล่งที่พักที่สะดวกในการเที่ยวทั้งโตเกียว คามาคุระ ฮาโกเน่ที่คนยังไม่ค่อยรู้จัก ทั้งยังมักมีราคาค่าห้องถูกกว่าที่พักในโตเกียว และหาห้องว่างง่ายกว่าด้วย
9:00 ออกเดินทางจากชิบูย่า (Shibuya) ด้วยฟรีพาส 1 วันสุดคุ้ม!
วิธีการเดินทางไปยังโยโกฮาม่านั้นมีหลายทางด้วยกัน แต่วิธีการที่สะดวกและราคาถูกสุดๆ ก็คือ รถไฟโตคิว (Tokyu) สายโทโยโค (Toyoko) สามารถขึ้นได้จากสถานีชิบูย่าค่ะ นอกจากจะนั่งตรงปื้ดเดียวถึงสถานีโยโกฮาม่าได้แล้ว ยังมีรถที่วิ่งตรงเข้าไปในเส้นทางของสายมินาโตะมิไร (Minatomirai) ที่เป็นสายท้องถิ่นของโยโกฮาม่า วิ่งผ่านบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ อีกด้วย
ยังไม่พอ! เพราะเรายังสามารถซื้อตั๋วแบบ One day pass สำหรับนั่งรถไฟของโตคิวไปกลับจากระหว่างชิบูย่ากับโยโกฮาม่า พร้อมกับนั่งรถไฟสายมินาโตะมิไรอย่างไม่จำกัดใน 1 วัน ในราคาเพียง 870 เยน
วันนี้เรานั่งรถที่วิ่งตรงเข้าสายมินาโตะมิไร ปลายทางที่ไชน่าทาวน์ (สถานี Motomachi Chukagai) จากสถานีชิบูย่า ใช้เวลา 35 นาทีก็มาถึงสถานี "มินาโตะมิไร (Minato Mirai)" ชื่อเดียวกับสายรถไฟเลยค่ะ
9:40 เดินเล่นชมวิวสวยๆ ของมินาโตะมิไร (Minato Mirai)
ออกจากสถานีมินาโตะมิไร เราจะอยู่ท่ามกลางหมู่อาคารสูงใหญ่ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน โรงแรม และอื่นๆ คำว่า "มินาโตะมิไร" เป็นชื่อของย่านพัฒนาใหม่ให้เป็นศูนย์กลางธุรกิจของเมืองโยโกฮาม่านั่นเองค่ะ
เราจะเดินออกมาด้านนอก มุ่งหน้าไปทางริมทะเล เพื่อเดินไปยัง "พิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล" ที่เที่ยวยอดนิยมนั่นเอง
โยโกฮาม่าเป็นเมืองโรแมนติคยอดนิยมในการเดทของญี่ปุ่น ถูกใช้ถ่ายทำละคร ภาพยนตร์มาหลายเรื่อง
ระหว่างทางเราจะได้เดินชิลๆ ชมบ้านเมืองที่สวยงามกับฟ้าที่เปิดกว้างให้สบายใจ แถมยังได้เดินผ่านชิงช้าสวรรค์แสนสวยของเมืองนี้อีกด้วย อย่าลืมเก็บภาพไปเป็นความทรงจำดีๆ กันนะ
10:10 พิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล เรียนรู้และทำบะหมี่ถ้วยของเราเอง!
ข้ามสะพานมานิดจะเจอสี่แยก ตรงนั้นเราจะเห็นอาคารสีอิฐใหญ่ซึ่งเป็นอาคารของพิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ล (CUPNOODLES MUSEUM YOKOHAMA) สถานที่ท่องเที่ยวขวัญใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ
ภายในจัดแสดงประวัติความเป็นมาของบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบถ้วย เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมของญี่ปุ่นที่โด่งดังไปทั่วโลกเลย นอกจากนี้ยังมีนิทรรศการเกี่ยวกับคุณอันโด โมโมะฟุกุ (Ando Momofuku) ผู้คิดค้นคัพนู้ดเดิ้ลและผู้ก่อตั้งบริษัทนิชชิน (Nissin Food Products Co., Ltd.)
แล้วยังมีกิจกรรมแสนสนุกให้ได้ทำด้วย ไม่ว่าจะเป็นการทดลองทำบะหมี่สำเร็จรูปตั้งแต่เริ่มต้นในกิจกรรม Chicken Ramen Factory (ต้องจองเวลากิจกรรม) ลานเด็กเล่นในธีมบะหมี่สำเร็จรูป CUPNOODLES Park
ทำบะหมี่ถ้วยที่มีเพียงถ้วยเดียวในโลก
เราขอแนะนำกิจกรรมง่ายๆ เพลินๆ My CUPNOODLES Factory ที่เราจะได้ทำคัพนู้ดเดิ้ลแสนพิเศษของเราเท่านั้น! ตอนเข้ามาในอาคาร เมื่อซื้อบัตรเข้าราคา 500 เยนแล้ว เราสามารถตรวจสอบเพื่อจองเวลาร่วมกิจกรรม workshop ได้จากเคาน์เตอร์เลยค่ะ
หากอยู่ในช่วงวันหยุดยาวของญี่ปุ่น แนะนำให้แวะมาจองแต่เช้า เพราะกิจกรรมนี้เป็นที่นิยมมาก กิจกรรม My CUPNOODLES Factory มีค่าใช้จ่าย 300 เยน แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 45 นาที
*จุดรับจองอาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาสอบถามที่เคานเตอร์จำหน่ายบัตรเข้า
เมื่อถึงเวลาที่จองไว้ เราก็ขึ้นไปบนชั้น 3 เริ่มจากหยอดเงินซื้อถ้วยบะหมี่สำเร็จรูป 300 เยน (ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม 2020 ราคา 400 เยน) จากนั้นก็ไปลงมือ "วาด" ถ้วยบะหมี่ตามความชอบ
ก่อนอื่นเขียนวันที่ลงไปด้านล่าง บะหมี่ถ้วยจะมีอายุ 1 เดือนนับจากวันที่ทำ จากนั้นก็วาดรูปกันสุดแต่จินตนาการจะบรรเลงกัน! พอวาดถ้วยเสร็จแล้ว เดินไปต่อที่ซุ้มด้านหลัง เราจะได้ใส่เส้นบะหมี่ ใส่ผงซุป เครื่อง สามารถเลือกซุปได้จาก 4 รส ส่วนเครื่องเลือกได้ 4 อย่างจาก 12 อย่าง เรียกว่าเลือกผสมกันได้ถึง 5,460 แบบเลยทีเดียว
เมื่อซีลปิดก็สำเร็จเป็นบะหมี่ถ้วยหนึ่งเดียวในโลกฝีมือเรา
โรงแรมแนะนำใกล้พิพิธภัณฑ์บะหมี่ถ้วย โยโกฮาม่า
12:30 อร่อยกับสุดยอดราเม็งที่ห้างใหม่ล่าสุด Yokohama HAMMERHEAD
ต่อจากทำบะหมี่สำเร็จรูปแล้ว หลายท่านอาจจะอยากทานราเม็งอร่อยๆ ขึ้นมา
เดินต่อจากพิพิธภัณฑ์คัพนู้ดเดิ้ลไปทางริมทะเลเพียงราว 5 นาที เราจะมาถึงห้างใหม่ล่าสุดของโยโกฮาม่า Yokohama HAMMERHEAD
Yokohama HAMMERHEAD เป็นอาคารที่รวมห้าง ท่าเรือสำราญและโรงแรมเข้าไว้ด้วยกัน ภายในอัดแน่นไปด้วยร้านค้า และที่เป็นจุดเด่นก็คือร้านชื่อดังของโยโกฮาม่าและจังหวัดคานากาว่าด้วย
รวมสุดยอดราเม็งที่ JAPAN RAMEN FOOD HALL
ชั้น 1 ของที่นี่มีศูนย์รวมราเม็งชั้นยอดจากทั่วประเทศ 5 ร้านในฟู้ดคอร์ท JAPAN RAMEN FOOD HALL มีทั้งราเม็งซุปโชยุ ซุปมิโสะ ซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) และอื่นๆ
ที่นี่ใช้ระบบบริการตัวเอง กดซื้อคูปองจากตู้ ยื่นคูปองให้พนักงาน แล้วรอเครื่องส่งสัญญาณดังว่าอาหารเสร็จแล้วไปรับราเม็งที่เคานเตอร์ได้เลยได้เลย
วันนี้ผู้เขียนได้ทานราเม็งแบบ ซัมมาเม็ง (Sanmamen) ใส่ไข่ ของร้าน K's collection ซึ่งดูแลโดยคุณจิบะ เค็นยะ เจ้าของร้านจิบาคิยะ (Chibakiya) ราคารวมภาษี 1,020 เยน
ซัมมาเม็งเป็นราเม็งขึ้นชื่อของโยโกฮาม่า โดยจะผัดผักน้ำซอสหนืดๆ ราดด้านบน เพิ่มความอร่อยเข้มข้นให้กับราเม็ง
โรงแรมแนะนำใกล้หัวค้อนโยโกฮาม่า
14:10 ช้อปปิ้งสินค้าน่าสนใจในตึกอิฐแดงสุดคลาสสิค (Yokohama Red Brick Warehouse)
หลังทานอาหารกัน หลังจากนี้เราจะไปเดินช้อปและถ่ายรูปสวยๆ หลากรูปแบบในสไตล์ที่หาได้เฉพาะในเมืองหลากวัฒนธรรมอย่างโยโกฮาม่าเท่านั้นค่ะ!
เดินจาก Yokohama HAMMERHEAD ราวๆ 5 นาทีอีกครั้ง เราจะพบกับโกดังอิฐแดง อากาเร็งกะ (Yokohama Red Brick Warehouse) ซึ่งเป็นโกดังเก่าในอดีต และได้รับการปรับปรุงให้เป็นห้างสรรพสินค้าที่รวมเอาสินค้าเก๋ไก๋น่าสนใจไว้มากมาย
ลานกว้างตรงกลางจะมีการจัดกิจกรรมหมุนเวียนไปเรื่อยๆ อีกด้วย
สินค้าไอเดียสร้างสรรค์ นิฮงเฮียกคะเท็น อากาเร็งกะ (Nihonhyakkaten Akarenga)
ร้านแนะนำร้านแรกคือ นิฮงเฮียกคะเท็น อากาเร็งกะ (Nihonhyakkaten Akarenga) มีสินค้าจากหลายพื้นที่ของญี่ปุ่น แต่เน้นสินค้าที่มีไอเดียและดีไซน์ที่น่าสนใจ ทั้งขนมญี่ปุ่นหลากรสในแพคเกจสวยๆ กระดาษทิชชู่หอมลายญี่ปุ่น เครื่องประดับ เครื่องแต่งบ้าน และอื่นๆ
ของกระจุกกระจิกน่ารัก คุราชิ (Kurashi)
สินค้าในร้านนี้เป็นข้าวของในชีวิตประจำวัน เช่น ของแต่งบ้าน ที่วางตะเกียบ กระเป๋า ผ้าเช็ดหน้า ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่มีดีไซน์น่ารักจนยากจะอดใจได้
พกความทรงจำกลับบ้าน Souvenir Gallery YOKOHAMA
ภายในร้านมีทั้งกระเป๋าผ้าหลากสี หลายไซส์ แก้วน้ำ พวงกุญแจ ผ้าเช็ดหน้า ซึ่งมีลวดลายเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ของเมืองโยโกฮาม่า เหมาะทั้งซื้อฝากและเป็นของที่ระลึกให้ตัวเอง
โรงแรมแนะนำใกล้โกดังอิฐแดงโยโกฮาม่า
16:00 หลากหลายแบรนด์ท้องถิ่นที่ถนนโมโตมาจิ (Motomachi)
เดินจากโกดังอิฐแดงไปต่อราวๆ 10 นาที จะถึงสถานีนิฮงโอโดริ (Nihon-Odori) ใช้บัตรฟรีพาสของเราแตะแล้วนั่งรถไปยังสถานีโมโตมาจิจูกะไก (Motomachi Chukagai) กันต่อค่ะ
สถานีนี้เป็นที่ตั้งของทั้งไชน่าทาวน์ที่ใหญ่แห่งหนึ่งที่สุดในเอเชีย แต่วันนี้เราจะแวะไปคาเฟ่สุดฮิตทันสมัยของสาวๆ ชาวญี่ปุ่นกันก่อนที่ถนนโมโตมาจิ ถนนสายช้อปปิ้งของชาวโยโกฮาม่า!
ออกจากสถานีตรงทางออก 5 Motomachi Exit เราจะโผล่มาด้านข้างของถนนโมโตมาจิ เลี้ยวซ้ายจะเห็นซุ้มสัญลักษณ์เป็นรูปนกเลย
ถนนสายนี้มีความยาวประมาณ 700 เมตร อายุกว่า 150 ปี สามารถเดินเล่นชมถนนสวยๆ ได้สบายๆ แถมมีร้านค้าชื่อดังไปจนถึงร้านแบรนด์ท้องถิ่นซึ่งเป็นที่รักของคนโยโกฮาม่าอย่าง ร้านกระเป๋า Kitamura ร้านสาขาแรกของเบเกอรี่ที่มีสาขามากมายอย่าง POMPADOUR ร้านขนมปังอุจิคิ (Uchiki) ที่เชื่อว่าเป็นผู้อบขนมปังปอนด์ขายเจ้าแรกในญี่ปุ่น เป็นต้น
ไปทานพุดดิ้งแบบใหม่ล่าสุดที่กำลังอินเทรนด์ โชยุคาเฟ (Shoyu Cafe)
ระหว่างเดินเล่น เราขอแนะนำให้แวะคาเฟ่ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ชาวญี่ปุ่นที่ชื่นชอบทั้งของอร่อยและมีหน้าตาสวยเก๋ค่ะ
โชยุคาเฟมีเมนู พุดดิ้งสด (Nama Purin) (850 เยน) ที่ปรุงจากวัตถุดิบชั้นเยี่ยมจากวิธีการคิดแบบใหม่ของเชฟผู้สร้างสรรค์เมนู โดยแยกวัตถุดิบแต่ละส่วนออกจากกัน ทำให้เราได้รับรสชาติหอมหวานกลมกล่อมของวัตถุดิบแต่ละอย่างได้อย่างเต็มที่ ความอร่อยนี้การันตีโดยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันทำขนมของจังหวัดคานากาวะมาแล้ว
ไข่ในเมนูพุดดิ้งสดนั้นเป็นไข่ดิบเนื่องจากคนญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมในการทานไข่ดิบ แต่หากใครไม่คุ้น ทางร้านได้เตรียมพุดดิ้งสดแบบใส่ไข่ลวก โรยเกล็ดคาราเมลเอาไว้ให้ด้วยค่ะ
นอกจากเมนูพุดดิ้งสดอย่างเดียวแล้ว ยังมีพุดดิ้งเสิร์ฟพร้อมผลไม้ตามฤดูกาลและอื่นๆ อีก
โรงแรมแนะนำใกล้เอลิเซ่ โมโตมาจิ
17:30 เดินชิมชิลๆ ที่ไชน่าทาวน์ (Yokohama Chinatown)
มาถึงโยโกฮาม่าทั้งที ไม่อยากให้พลาดไชน่าทาวน์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นและกล่าวกันว่ายังใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียอีกด้วย จากถนนโมโตมาจิเดินข้ามมาแค่แยกเดียวก็ถึงแล้ว
ร้านรวงที่เรียงอยู่กันภายในบริเวณมีทั้งร้านสินค้ากระจุกกระจิกหรือเครื่องปรุงแบบจีนๆ และแน่นอนว่าเต็มไปด้วยร้านอาหารจีน! ใครจะเดินทานหลายๆ อย่าง ร้านละนิดละหน่อย หรือจะหาร้านอาหารเย็นทานเลยก็ย่อมได้
เมื่อท้องฟ้ามืดลง ร้านรวงจะเปิดไฟส่องสว่าง ตามถนนและตรอกซอกซอยจะมีโคมไฟส่องแสงได้บรรยากาศสมเป็นไชน่าทาวน์เลยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
18:30 ชมวิวกลางคืนสุดสวยและโรแมนติคของโยโกฮาม่า
ก่อนจะปิดวัน การเที่ยวโยโกฮาม่าจะไม่ครบสมบูรณ์หากไม่ได้ใช้เวลากลางคืนชมวิวทิวทัศน์ที่สุดแสนจะโรแมนติค
บริเวณที่แนะนำให้ชมก็คือบริเวณเดียวกับที่เราเที่ยวกันมาตอนเช้า ไปแบบง่ายที่สุดก็คือใช้ตั๋วรถไฟนั่งกลับมายังสถานีมินาโตะมิไร เมื่อเดินออกมาจากอาคารเราจะได้เห็นชิงช้าสวรรค์ขนาดใหญ่เมื่อตอนกลางวันกำลังส่องแสงสว่างหลากสีสันสลับกันไปมา เดินแค่แถวๆ นี้ก็สวยไม่เบาแล้ว
หรือหากใครยังมีเรี่ยวแรง ก็ลงรถไฟที่สถานีบาชะมิจิ (Bashamichi) แล้วเดินย้อนกลับเส้นทางตอนช้าไปตามโกดังอิฐแดง ผ่านชิงช้าสวรรค์ ไปยังสถานีมินาโตะมิไร หรือจะเดินไปอีกทางบนทางรถไฟเก่าเหนือแม่น้ำที่ชื่อว่าคิชะมิจิ (Kishamichi) ผ่านเรือนิปปงมารุ (Nipponmaru) ที่จอดริมน้ำเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน อ้อมไปที่สถานีมินาโตะมิไรก็ได้เหมือนกัน
รวมค่าใช้จ่ายสำหรับหนึ่งวันในการเที่ยวโยโกฮาม่าตามแผนนี้อยู่ที่ 3,540 เยน (ยังไม่รวมช้อปปิ้ง) หรือประมาณ 1,012 บาทเท่านั้น หากทานอาหารเย็นอีกสักหนึ่งมื้อ อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มอีกราวๆ 1,000 - 2,500 เยนต่อคนได้ (ราคาของอาหารหนึ่งมื้อในห้าง)
แนะนำที่พักในโยโกฮาม่า! แล้วไปเที่ยวคามาคุระหรือฮาโกเน่ต่อกัน
Picture courtesy of Yokohama Visitors Guide
ในแผนนี้เราแนะนำที่เที่ยวชื่อดังและที่เที่ยวใหม่ๆ ของเมืองโยโกฮาม่าให้รู้จักกัน แต่ขอบอกว่านี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
ใครที่ติดใจในเมืองที่มีสเน่ห์หลากหลาย จะพักค้างสักคืนในเมืองโยโกฮาม่า แล้วใช้เวลาวันต่อมาอีกสักวันเที่ยวสถานที่อื่นๆ เช่น เดินเล่นที่สวนสาธารณะยามาชิตะ (Yamashita Park) ชมวิวทะเลสุดสวยที่ท่าเรือโอซัมบาชิ (Osanbashi Yokohama International Passenger Terminal) ขึ้นไปชมวิว 360 องศาที่แลนด์มาร์คทาวเวอร์ (Landmark Tower) และสถานที่อื่นๆ อีก
หรือจะพักที่นี่สักคืนแล้วเดินทางไปเที่ยวสถานที่อื่นๆ อย่างคามาคุระ (Kamakura) หรือฮาโกเน่ (Hakone) ก็ได้เหมือนกัน
โยโกฮาม่ามีที่พักที่สะดวกต่อการท่องเที่ยวมากมาย ที่พักที่เป็นที่นิยมในแถบมินาโตะมิไรได้แก่ Yokohama Royal Park Hotel บนชั้นสูงสุดของอาคาร Yokohama Landmark Tower หรือจะเป็น InterContinental Yokohama Grand Hotel ที่มีวิวกลางคืนแสนงดงาม
จากสถานีบาชะมิจิเพียงเดิน 4 นาทียังมี PROSTYLE Ryokan Yokohama Bashamichi ที่เราจะได้พักผ่อนในบรรยากาศที่ผสานกลมกลืนกันระหว่างญี่ปุ่นและตะวันตกอย่างสุดยอด
หรือจะหาที่พักในราคาประหยัดก็ยังมีที่พักอย่าง Guest House FUTARENO และอื่นๆ เป็นอีกตัวเลือกด้วย
มาลองสนุกไปกับเมืองโยโกฮาม่าที่ใกล้โตเกียวแค่นิดเดียว แต่ทั้งสวยงามและโรแมนติคกันนะคะ!
*อัตราแลกเปลี่ยนในบทความนี้คำนวณที่เรต 28.6 บาท/100 เยน ซึ่งเป็นเรต ณ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2020
โรงแรมแนะนำใกล้โรงแรมโยโกฮาม่า รอยัล พาร์ค
โรงแรมแนะนำใกล้โรงแรมโยโกฮาม่า แกรนด์ อินเตอร์คอนติเนนตัล
โรงแรมแนะนำใกล้โรงแรมสไตล์มืออาชีพ โยโกฮาม่า บาชามิจิ
โรงแรมแนะนำใกล้เกสต์เฮาส์ FUTARENO
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Kogetsu
Sponsored by Yokohama Convention & Visitors Bureau
Main image courtesy of Yokohama Visitors Guide
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง