Ready For Japan! Vol.3 - อยู่บ้านก็เหมือนได้ไปญี่ปุ่น! กับ 8 หนังญี่ปุ่นห้ามพลาด

สัมผัสความเป็นญี่ปุ่นจากภาพยนตร์

สิ่งที่ทำให้เราตระเวนเที่ยวทั่วโลกได้ในขณะที่ยังอยู่ในบ้านก็คือภาพยนตร์!

ก่อนจะไปเที่ยวญี่ปุ่น ถ้าได้ดูหนังญี่ปุ่นที่ทำให้ได้เห็นวิวและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นไว้ก่อนก็จะยิ่งทำให้รู้สึกอยากไปเที่ยวมากขึ้นใช่มั้ยคะ Ready For Japan! ตอนที่ 3 นี้ได้รวบรวมหนังที่ความนิยมสูง หาดูได้ง่ายจากเว็บไซต์ให้บริการสตรีมมิ่งภาพยนตร์ (ดูหนังออนไลน์) และเราจะขอแนะนำโลเคชั่นหรือสถานที่ต้นแบบที่ปรากฎอยู่ในเรื่องไว้ด้วย

หนังยอดฮิตเหล่านี้อาจจะมีหลายคนได้ดูไปแล้ว แต่พอกลับมาดูใหม่อีกรอบก็อาจจะได้ข้อคิดใหม่ๆ เพิ่มเติม ถ้ามีเรื่องไหนยังไม่ได้ดูก็ห้ามพลาดนะ!

* ตัวเลขด้านหลังชื่อหนังคือปีที่ออกฉายในประเทศญี่ปุ่น

อ่านเพิ่มเติม

บทความพิเศษ รวมเสน่ห์เจแปน Ready For Japan!

1. มิติวิญญาณมหัศจรรย์ - Spirited Away (2001)

เซคิเซ็นคัง (Sekizenkan) ที่ชิมะออนเซ็น (Shima Onsen) จังหวัดกุนมะ กล่าวกันว่าเป็น 1 ในต้นแบบของโรงอาบน้ำในเรื่อง / Photo by Pixta

Spirited Away คือหนังอนิเมชั่นหนึ่งที่เป็นดั่งตัวแทนของญี่ปุ่น เรื่องราวของเด็กสมัยใหม่เอาแต่ใจชื่อจิฮิโระ (Chihiro) กับพ่อแม่ที่หลงเข้าไปในโลกลี้ลับด้วยกันในระหว่างที่กำลังเดินทางย้ายบ้าน ในโลกลี้ลับแห่งนี้พ่อกับแม่ได้กลายเป็นหมู จิฮิโระที่เหลือรอดอยู่จึงต้องไปทำงานให้กับแม่มดแห่งโรงอาบน้ำยูบาบาผู้แสนโลภ

ที่ทำงานของจิฮิโระคือโรงอาบน้ำที่เหล่าเทพทั้งหลายมาชำระล้างร่างกาย พอได้เห็นภาพโรงอาบน้ำสีสันตระการตาในเรื่องแล้วหลายคนคงรู้สึกอยากลองไปเที่ยวที่แบบนั้นขึ้นมาบ้าง

โดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) / Photo by Pixta

ถึงทางจิบลิจะไม่เคยประกาศอย่างเป็นทางการว่าเอาต้นแบบของโรงอาบน้ำมาจากเมืองออนเซ็นไหน แต่แฟนๆ ก็เชื่อว่าต้องเป็นการเอาเอกลักษณ์ของหลายๆ ที่มาผสมกัน หนึ่งในนั้นคือโดโกะออนเซ็น (Dogo Onsen) ในจังหวัดเอฮิเมะ (Ehime) ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นออนเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1894 และหลังจากนั้นมีการสร้างต่อเติมปรับปรุงเรื่อยๆ จนมีสภาพอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

เรียวกังเซคิเซ็นคัง (Sekizenkan) ที่ชิมะออนเซ็น (Shima Onsen) ในจังหวัดกุนมะ (Gunma) ก็มีสะพานสีแดงคล้ายกับโรงอาบน้ำในเรื่อง เซคิเซ็นคังสร้างในปี 1691 และเป็นอาคารเรียวกังออนเซ็นทำจากไม้ที่เก่าที่สุดซึ่งยังคงหลงเหลืออยู่มาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้แล้วยังมี พิพิธภัณฑ์สิ่งก่อสร้างเอโดะโตเกียว (Edo-Tokyo Open Air Architectural Museum) ในโตเกียวที่เว็บไซต์ทางการของสตูดิโอจิบลิ (ภาษาญี่ปุ่น) ระบุว่าเป็นสถานที่ที่ใช้ในการอ้างอิงเป็นหลักด้วย

อาคารหลักโดโกะออนเซ็น

5-6 Dogoyunomachi เมืองมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ 790-0842

2. ป๊อปปี้ ฮิลล์ ร่ำร้องขอปาฏิหาริย์ - From Up on Poppy Hill (2011)

คฤหาสน์คิวยากิชิตะเท (Kyu Yagishitatei) ต้นแบบบ้านโคคุริโกะที่ตัวละครหลักอาศัยอยู่ / Photo by Pixta

From Up on Poppy Hill เป็นอนิเมะของจิบลิที่แตกต่างจากเรื่องอื่นเพราะระบุสถานที่จริงและช่วงปีที่อยู่ในเรื่องด้วย

ฉากของเรื่องคือเมืองโยโกฮาม่า (Yokohama) ในปี 1963 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะจัดโตเกียวโอลิมปิก มีการเปิดให้บริการชินคันเซ็นสายโทไคโดและเร่งสร้างอาคารต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นยุคเศรษฐกิจเฟื่องฟูของญี่ปุ่น

ในช่วงที่เป็นจุดเปลี่ยนของยุคสมัยนี้ ที่โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งในโยโกฮาม่าได้มีโครงการรื้อถอนอาคารชมรมวัฒนธรรม "ละติน ควอเตอร์" ซึ่งเป็นอาคารเก่าแก่สไตล์ตะวันตกจึงเกิดการต่อต้านจากนักเรียนกลุ่มหนึ่ง และนี่คือหนึ่งในแกนหลักของเรื่องนี้

เนื้อเรื่องไม่ได้สร้างขึ้นมาจากโรงเรียนหรือเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแต่ภาพวิวเมืองท่าเรือและเรื่องราวของชมรมละติน ควอเตอร์ที่ถ่ายทอดออกมาก็สามารถทำให้เราได้สัมผัสถึงบรรยากาศย้อนยุคของโยโกฮาม่าในอดีตได้อย่างดี

สวนยามาชิตะ (Yamashita Park) และเรือฮิคาวะมารุ (Hikawamaru) / Photo by Pixta

ช่วงครึ่งหลังของเรื่องมีฉากที่ตัวละครหลัก คาซามะ (Kazama) และ อุมิ (Umi) เดินอยู่บริเวณท่าเรือกัน 2 คน โลเคชั่นของฉากนี้คือสวนยามาชิตะ (Yamashita Park) ที่โยโกฮามะในปัจจุบัน และมีเรือขนาดใหญ่ชื่อ ฮิคาวะมารุ (Hikawamaru) ทอดสมออยู่เป็นแลนด์มาร์กของโยโกฮาม่า ถ้าได้มาเดินเล่นแถวนี้ก็คงรู้สึกเหมือนได้เข้าไปอยู่ในหนังเลยล่ะค่ะ

นอกจากนี้ในเรื่องยังมีบทสนทนาของพนักงานบริษัทแถวย่านชิมบาชิ (Shimbashi) ในโตเกียวพูดว่า "ถ้าพูดถึงขนมปังไส้ถั่วแดงก็ต้องร้านคิมุระสิ" นี่คงจะหมายถึงร้าน "คิมุระยะ (Kimuraya)" ที่เป็นร้านขนมปังไส้ถั่วแดงหรือที่เรียกว่าอันปังร้านเก่าแก่ในย่านกินซ่าแน่เลยค่ะ

สวนสาธารณะยามาชิตะ

231-0023 279 Yamashita-cho, Naka-ku, โยโกฮาม่า, จังหวัดคานากาว่า

สวนสาธารณะยามาชิตะเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวทะเล ดอกไม้นานาชนิดบานสะพรั่งที่นี่และยังเป็นที่รู้จักในฐานะสถานที่แห่งดอกกุหลาบที่มีชื...

3. Our Little Sister (2015)

สถานีโกคุราคุจิ (Gokurakuji) และเมืองที่ 4 สาวพี่น้องอาศัยอยู่ / Photo by Pixta

Our Little Sister เป็นหนังที่ฉายภาพบรรยากาศริมทะเลเหมือนกับ From Up on Poppy Hill โลเคชั่นของหนังเรื่องนี้อยู่ที่เมืองคามาคุระ (Kamakura) ซึ่งอยู่ใกล้ทะเล เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการสานสายสัมพันธ์ในครอบครัวระหว่าง 3 สาวพี่น้องกับน้องสาวคนละแม่ให้แน่นแฟ้นโดยทั้งหมดอาศัยอยู่ในบ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่นในเมืองคามาคุระ ในเรื่องมีทั้งภาพวิวธรรมชาติเขียวชอุ่มของคามาคุระ รถไฟท้องถิ่นสายเอโนะเด็น (Enoden) และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เช่น เกาะเอโนะชิมะ (Enoshima) ที่ชวนให้อยากไปเดินเล่นริมทะเลที่คามาคุระขึ้นมาเลย

สวนอาชิทากะ (Ashitaka Large Park) / Photo by Pixta

ฉากในเรื่องที่สวยจนยากจะลืมคือฉากที่ซูซุ (Suzu) น้องสาวคนสุดท้องนั่งซ้อนท้ายจักรยานวิ่งผ่านบรรดาต้นซากุระที่ดอกกำลังบานสะพรั่งเป็นทิวแถว โลเคชั่นของฉากนี้ไม่ได้อยู่ที่คามาคุระแต่เป็นที่สวนอาชิทากะ (Ashitaka Large Park) ในเมืองนุมาซุ (Namuzu) จังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka)

สวนสาธารณะอาชิทากะ Wide

202 Ashitaka เมือง Numazu จังหวัด Shizuoka 410-0001

4. Tampopo (1985)

จาก "30 Great Tokyo Ramen Shops Selected By A Ramen Expert"

Tampopo (ทัมโปโปะ) เป็นผลงานของผู้กำกับอิตามิ จูโซ (Itami Juzo) ผู้มีผลงานโดดเด่นในช่วงปี 1980 - 1990

คนขับรถบรรทุกที่จู่ๆ ต้องมากอบกู้ร้านราเม็งที่ขายไม่ออกอย่างไม่คาดคิดจึงเกิดเป็นเรื่องราวสู้ยิบตาสุดคอมเมดี้ของเขากับหญิงเจ้าของร้านราเม็ง เนื้อเรื่องมีเรื่องราวยิบย่อยที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่องหลังแต่ทั้งหมดก็เชื่อมโยงเข้ากับ "อาหาร" จึงเป็นหนังที่อาหารในเรื่องเตะตามากกว่าสถานที่ถ่ายทำ

Photo by Pixta

ราเมงที่ตัวละครหลักร่วมกันค้นคว้าครั้งแล้วครั้งเล่าคือ โชยุราเม็งซึ่งเป็นราเม็งรสอ่อนที่ได้รับความนิยมในโตเกียว ถึงราเม็งในเรื่องจะเป็นราเม็งพื้นๆ แบบทั่วๆ ไปแต่ก็พูดได้ว่ามีความลึกซึ้งอยู่ในนั้นตามที่ภาพยนตร์ได้เล่าเอาไว้

ในช่วงต้นเรื่องมีฉากผู้สูงอายุอธิบายวิธีทานราเม็งอย่างจริงจังด้วย หากคุณผู้อ่านมีปัญหาว่าไปร้านราเม็งครั้งแรกแล้วไม่รู้ว่าต้องสั่งอย่างไร หรือไม่รู้ว่าราเม็งมีประเภทไหนบ้างก็ลองศึกษาจากบทความด้านล่างนี้กันดูนะ

5. หลับตาฝัน ถึงชื่อเธอ - Your Name (2016)

บันไดศาลเจ้าซุกะ (Suga Shrine) ที่เขตยตสึยะ (Yotsuya) จังหวัดโตเกียว / Photo by Pixta

Your Name เข้าฉายในปี 2016 และเป็นหนังอนิเมะที่ทำให้เกิดกระแสไปทั่วโลก

มิตสึฮะ (Mitsuha) เด็กสาวมัธยมปลายจากชนบทท่ามกลางภูเขาลึกผู้มีความหลงใหลในเมืองหลวง วันหนึ่งเธอก็ฝันว่าได้ใช้ชีวิตอยู่ที่โตเกียวในฐานะเด็กผู้ชาย ในขณะเดียวกันทาคิ (Taki) เด็กหนุ่มมัธยมปลายจากโตเกียวก็ฝันว่าตัวเองได้กลายเป็นเด็กผู้หญิงมัธยมปลายในต่างจังหวัดที่ตัวเองไม่เคยไป ความฝันได้เกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่าระหว่าง 2 คนที่ไม่มีจุดเชื่อมโยงอะไรกันเลย แล้วทั้งคู่ก็รู้สึกตัวว่า "พวกเรากำลังสลับร่างกันรึเปล่า?"

สถานีฮิดะฟุรุคาวะ จาก "เที่ยวตามรอยภาพยนตร์ Your Name ที่ ฮิดะฟุรุคาวะ (Hida Furukawa) จังหวัดกิฟุ"

เมืองฮิดะ (Hida) จังหวัดกิฟุ (Gifu) คือเมืองต้นแบบที่นางเอกมิตสึฮะอาศัยอยู่ มีแฟนหนังจำนวนมากเดินทางมาตามรอยที่นี่ในฐานะที่เป็น "แดนศักดิ์สิทธิ์" ของภาพยนตร์ ส่วนเมืองโตเกียวที่พระเอกทาคิอาศัยอยู่ก็วาดมาได้เหมือนวิวของจริงแถวชินจูกุ นอกจากนี้หนึ่งในภาพจำซึ่งเป็นภาพโฆษณาหลักของหนังเรื่องนี้คือบันไดศาลเจ้าซุกะ (Suga Shrine) ที่เขตยตสึยะ (Yotsuya) จังหวัดโตเกียวซึ่งของจริงก็เหมือนเป๊ะกับภาพในเรื่อง ที่นี่ก็เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่อยากให้แวะไปดูกัน

ABEMA

ศาลเจ้าสุกะ

5 Suga-cho, Shinjuku-ku, โตเกียว 160-0018

6. จิโร่ เทพเจ้าซูชิ - Jiro Dreams of Sushi (2011)

ภาพตัวอย่างซูชิ / Photo by Pixta

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีก็อยากลองไปกินซูชิที่ร้านหรูๆ สักครั้งจังเลยนะคะ ซุคิยาบาชิ จิโร่ (Sukiyabashi Jiro) ในเขตกินซ่า (Ginza) จังหวัดโตเกียวก็เป็นหนึ่งในร้านซูชิระดับสูงสุด และเป็นที่รู้จักในฐานะร้านที่ได้เป็นสถานที่จัดเลี้ยงต้อนรับประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกา (ในขณะนั้น) เมื่อมาเยือนประเทศญี่ปุ่นในปี 2014

Jiro Dreams of Sushi คือสารคดีที่เก็บเรื่องราวของโอโนะ จิโร่ เจ้าของร้านซูชิ เจ้าของรางวัลมิชลิน 3 ดาวติดต่อกัน 12 ปี สารคดีได้ถ่ายทอดทุกเรื่องราวของเขาที่ทำงานประจำในแต่ละวันซ้ำไปมา โดยไม่เคยลืมความมุ่งมั่นของมืออาชีพ และยังถ่ายทอดเรื่องราวพนักงานคนอื่นออกมาได้อย่างละเอียดลอออีกด้วย ถ้าได้ดูเรื่องนี้แล้วไปกินซูชิล่ะก็ความอร่อยต้องเพิ่มขึ้นอีกขั้นอย่างแน่นอน!

สุกิยาบาชิ จิโระ

〒104-0061 4-2-15 Ginza, Chuo-ku, Tokyo Tsukamoto Sogyo อาคาร B1

7. ลบแผนจารกรรมคนล่าฝัน - Paprika (2006)

วิวเมืองโตเกียวในเรื่อง Paprika / Photo by Pixta

ภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง Paprika เป็นเรื่องราวของการสลับไปมาระหว่างโลกแห่งความฝันกับโลกแห่งความจริงได้ตามต้องการ

ชิบะ อัตสึโกะ (Chiba Atsuko) ทำงานอยู่ที่ศูนย์วิจัยจิตเวชและมีอีกร่างเป็นนักบำบัดจิตผู้เดินทางเข้าไปในความฝันของผู้ป่วยโดยใช้ชื่อว่า "ปาปริก้า" เธอกับผู้ร่วมงานชื่อโทคิตะ (Tokita) ได้ร่วมกันพัฒนาเครื่อง DC มินิ ที่สามารถแชร์ความฝันร่วมกับคนอื่นได้ แต่แล้วในวันหนึ่งเครื่อง DC มินิถูกขโมยเอาไปใช้ในทางที่ผิด จนโลกแห่งความฝันเริ่มส่งผลกระทบกับโลกแห่งความจริงทำให้เกิดการต่อสู้อย่างกล้าหาญในโลกที่ความฝันผสมปนเปไปกับความเป็นจริง

ของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่นที่อยู่ในเรื่อง Paprika

ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดงานของผู้กำกับคน ซาโตชิ (Kon Satoshi) ในเรื่องจึงมีของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่นและสิ่งที่มีความเป็นญี่ปุ่นจำนวนมากราวกับเทกระจาดออกมาจากกล่องของเล่น มีทั้งตุ๊กตาญี่ปุ่น ตุ๊กตาดารุมะ เสาโทริอิ เทพแห่งโชคลาภทั้งเจ็ด แมวกวัก รวมไปถึงสาวมัธยมปลายญี่ปุ่นและการหาเสียงเลือกตั้งที่เดินพาเหรดเข้ามาในโลกแห่งความฝันสีสันสดใส

นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบระดับตำนานจากฝีมือนักแต่งเพลง ฮิราซาวะ ซุซุมุ (Hirasawa Susumu) ซึ่งเข้ากันได้อย่างเหมาะเจาะกับหนังเรื่องนี้ ทำให้ตัวคนดูเองก็ถูกดึงเข้าสู่โลกแห่งความฝัน ตกอยู่ในภวังค์ที่แสนคลุมเครือระหว่างเส้นแบ่งของความฝันและความเป็นจริงว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังดูอยู่คืออะไร เรียกได้ว่าเป็นหนังที่แปลกและประหลาดแต่ก็ดึงดูดจนหยุดดูไม่ได้

8. Tokyo Story (1953)

วิวเมืองโอโนมิจิ (Onomichi) / Photo by Pixta

Tokyo Story คือผลงานเอกของผู้กำกับโอซุ ยาซุจิโร (Ozu Yasujiro) ผู้มีฝีมือระดับบรมครูและเป็นตัวแทนของวงการหนังญี่ปุ่น

ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสองสามีภรรยาที่อาศัยอยู่ในเมืองโอโนะมิจิ (Onomichi) จังหวัดฮิโรชิม่า (Hiroshima) ทั้งสองได้ออกเดินทางไปเยี่ยมลูกๆ ที่โตเกียว ในตอนแรกลูกๆ ที่ต่างคนต่างก็มีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้วต่างต้อนรับพ่อแม่ของตัวเองเป็นอย่างดี แต่หลังจากนั้นก็เริ่มรู้สึกว่าการที่พ่อแม่มาอยู่ด้วยได้สร้างความลำบากใจ พ่อแม่ที่รับรู้ได้ว่าไม่มีที่สำหรับทั้งคู่แล้วจึงตัดสินใจกลับต่างจังหวัดเร็วกว่ากำหนด แต่ทว่า ...

ตัวหนังถ่ายทอดสิ่งที่อยู่ในใจตัวละครทั้งหลายออกมาได้อย่างละเอียดอ่อนจึงเป็นหนังดังที่บีบหัวใจคนดู

บ้านมุเกโซ (Mugeiso) ในพิพิธภัณฑ์โอซุ ยาสุจิโร่ จังหวัดนากาโนะ (Nagano) เป็นบ้านพักตากอากาศที่คุณโอสึพักอาศัยตอนเขียนบทหนัง / Photo by Pixta

โอซุ ยาซุจิโร่มีชื่อเสียงด้านการใส่ใจรายละเอียดไปถึงส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆ ยกตัวอย่างเช่น จานและน้ำที่ใส่อยู่ในแก้วบนโต๊ะอาหารต้องมีความสูงเท่ากันทั้งหมด เห็นได้ว่าเขาเก็บทุกรายละเอียดแม้จะเป็นรายละเอียดที่มองครั้งเดียวก็ไม่ทันสังเกตเห็นก็ตาม

แถมยังกล่าวกันว่าเขาเป็นคนรักความสมบูรณ์แบบตัวยง จนมีเรื่องเล่าว่าเขาเคยสั่งถ่ายฉากหนึ่งหลายเทคมากๆ จนพอสั่งโอเคแล้ว เบาะที่นั่งแสดงนั่งในฉากถึงกับมีไอน้ำระเหยออกมาเลย

อนุสรณ์สถาน Yasujiro Ozu, Mugeso

4035-1008 Kitayama เมือง Chino จังหวัด Nagano 391-0301

นั่งดูหนังญี่ปุ่นที่บ้านกันเถอะ!

ภาพยนตร์ที่แนะนำในครั้งนี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของหนังที่ทำให้ได้สัมผัสถึงความเป็นญี่ปุ่น มาดูหนังญี่ปุ่นกันเยอะๆ เพื่อเพิ่มความอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นกันนะ

Main image by Pixta