7 ที่เที่ยวห้ามพลาดใน 3 เมืองริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น โทโยโอกะ ไมซุรุ และมิยาซุ
บทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและอาหารที่เมืองริมฝั่งทะเลญี่ปุ่นเช่น โทโยโอกะ ไมซุรุ และมิยาซุ ละแวกนี้มีทั้งออนเซน เมืองบรรยากาศดีๆ และอาคารทางประวัติศาสตร์ที่จะทำให้ทริปนี้เป็นทริปสุดพิเศษ เช่น คิโนะซากิออนเซน ถ้ำเก็มบุ ปราสาทอิซุชิ หาดทาเคโนะ อาคารอิฐแดงไมซุรุ และอามาโนะฮาชิดาเตะ ไปกันเลย!
7 ที่เที่ยวห้ามพลาดในเมืองริมฝั่งทะเลญี่ปุ่น
เมืองโทโยโอกะ จังหวัดเฮียวโกะ เมืองไมซุรุและเมืองมิยาซุ จังหวัดเกียวโต คือสามเมืองชายฝั่งทะเลญี่ปุ่นที่ยังหลงเหลือวัฒนธรรมและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ไว้อย่างดี
ถึงจะอยู่ห่างจากเส้นทางโกลเด้นรูท เส้นทางเที่ยวยอดนิยมอย่างโอซาก้าและตัวเมืองเกียวโต แต่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิวชื่อดังซ่อนไว้อยู่เต็มไปหมด ทำให้ทริปนี้เป็นการท่องเที่ยวญี่ปุ่นในมุมมองที่แตกต่างออกไปค่ะ
บทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาด 7 แห่งในเมืองโทโยโอกะ ไมซุรุ และมิยาซุ ว่าแล้วก็ออกไปเที่ยวกันเลย!
โทโยโอกะ เมืองที่มีวิวสวยๆ อยู่เต็มคลัง!
เมืองโทโยโอกะ (Toyooka) คือสถานที่ที่เราจะได้เพลินไปกับบรรยากาศเมืองประวัติศาสตร์ที่มีเอกลักษณ์ ทั้งเมืองออนเซ็น ปราสาทโบราณที่ตั้งตระหง่านอยู่บนภูเขา หาดทรายอันเงียบสงบ ที่นี่มีอะไรให้ดูเยอะแยะมากมายและยังได้ผจญภัยอีกด้วย!
1. คิโนะซากิออนเซ็น เมืองออนเซ็นอันน่าหลงใหล
ถ้าจะพูดถึงสมบัติล้ำค่าที่สุดของเมืองโทโยโอกะก็ต้องเป็นคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน บริเวณรอบๆ ไม่มีโรงแรมขนาดใหญ่หรือห้างสรรพสินค้าและยังคงรักษาสภาพเมืองออนเซ็นโบราณไว้ได้ด้วย
แม่น้ำโอทานิ (Otani-gawa) ที่ไหลผ่านใจกลางเมืองจะไหลไปรวมกับแม่น้ำมารุยามะ (Maruyama-gawa) แล้วไหลลงสู่ทะเลญี่ปุ่น
เส้นทางขนของทางเรือในอดีตจะล่องมาตามแม่น้ำโอทานิทำให้เมืองออนเซ็นพัฒนาเป็นเมืองค้าขายจนเป็นเมืองที่มีพ่อค้าและช่างฝีมืออาศัยอยู่กันอย่างมากมาย
สถานที่ที่เหมาะที่สุดสำหรับการพักค้างคืนแล้วทำตัวสบายๆ ก็คือเมืองออนเซ็น! ลองมาจองเรียวกังท้องถิ่น ใส่ชุดยูคาตะเดินชมบรรยากาศในเมืองอย่างเพลินๆ กันดูนะคะ
ในละแวกนี้ยังมีกิจกรรมยอดนิยมคือ โซโตะยุเมกุริ (Sotoyumeguri) การตระเวนแช่บ่อออนเซ็นแบบไม่มีห้องพักแรมทั้ง 7 บ่อในเมือง ถ้าพักค้างคืนที่เรียวคังในเมืองออนเซ็นจะได้รับฟรีพาสสำหรับไปแช่น้ำด้วย ลองไปตระเวนแช่กันให้ครบดูนะคะ
สถานีที่อยู่ใกล้ที่สุดคือสถานีคิโนะซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen) และใช้เวลาเดินเพียงแค่ 5 นาทีก็ถึงใจกลางเมืองออนเซ็น
สำหรับใครที่ไม่อยากแค่แช่ออนเซ็นแต่อยากสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติด้วยก็ขอแนะนำให้ไปเที่ยวที่ถ้ำเก็มบุโด (Genbudo cave) ถ้ำแห่งนี้เป็นถ้ำหินบะซอลต์ มองเห็นชั้นหินเป็นแท่งแปดเหลี่ยมเรียงตัวเป็นแถบอย่างน่าอัศจรรย์
บริเวณใกล้ๆ มีพิพิธภัณฑ์ถ้ำเก็มบุโด (Genbudo Museum) ที่จัดแสดงเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวหินบะซอลต์ อัญมณี ฟอสซิล และลักษณะทางธรณีวิทยาของถ้ำเก็มบุโด
2. เมืองอิซุชิ เพลินไปกับบรรยากาศเมืองรอบปราสาท
อิซุชิ (Izushi) แต่เดิมเป็นเมืองค้าขายรอบปราสาทอันคึกคัก ปัจจุบันกำลังได้รับความนิยมจากเสาโทริอิที่ทอดยาวสู่ศาลเจ้าอินาริและถนนที่เรียงรายด้วยบ้านเรือนเก่าในบรรยากาศยุคเอโดะ พอได้เดินเล่นอยู่ในเมืองก็รู้สึกเหมือนได้หลุดเข้ายังญี่ปุ่นสมัยก่อน
ยังมีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ ศาลเจ้าในป่า และร้านแผงลอยที่มีมาตั้งแต่ในอดีต ในเมืองนี้มีร้านขายแผ่นเสียงสไตล์เรโทรด้วย คนญี่ปุ่นหลายคนเดินทางมาที่เมืองอิซุชิก็เพราะบรรยากาศเก่าๆ ชวนให้หวนคิดถึงนี้แหละ
ก่อนอื่นมาเริ่มต้นทริปด้วยการเดินเขาไปที่ปราสาทอิซุชิ (Izushi Castle) ที่อยู่ตรงเชิงเขากัน
ปราสาทสร้างขึ้นในปี 1604 ที่นี่เคยเป็นตำหนักของไดเมียว ก่อนที่จะถูกพังทลายในช่วงต้นยุคเมจิ
ปัจจุบันหอคอยของปราสาท สะพานและประตูได้รับการบูรณะอย่างงดงาม พอเดินเขาผ่านเส้นทางธรรมชาติมาถึงศาลเจ้าอินาริที่มีเสาโทริอิเรียงรายก็จะมองเห็นวิวเมืองอิซุชิทั้งเมืองเลย
พอเดินชมศาลเจ้าจนทั่วแล้วก็ลงเขามาเที่ยวเมืองอิซุชิกันค่ะ
ลักษณะผังเมืองที่นี่เป็นเหมือนตาราง ออกแบบมาเพื่อเวลาที่มีสงครามจะทำให้ข้าศึกโจมตีได้ยาก ปัจจุบันบรรยากาศของเมืองนี้ยังคงคึกคักด้วยสถานที่ทางประวัติศาสตร์เช่น บ้านซามูไรและวัด รวมถึงร้านอาหารและร้านของฝากที่เรียงรายกันเป็นแถว
นอกจากนี้ไม่ควรมองข้ามหอนาฬิกาชินโคะโร (Shinkoro clock tower) ซึ่งเป็นหนึ่งในหอนาฬิกาที่เก่าที่สุดในญี่ปุ่น ในยุคเมจินั้นการสร้างหอนาฬิกาในบริเวณซากปราสาทคือสัญลักษณ์ของความเจริญรุ่งเรืองของเมืองนั้นๆ
วิธีเดินทางไปเมืองอิซุชิสามารถนั่งแท็กซี่จากสถานีโทโยโอกะ (Toyooga) ใช้เวลาประมาณ 20 นาที หรือจะเช่ารถขับเที่ยวชมเมืองก็ได้ มีที่จอดรถอยู่หลายจุด (เสียค่าจอด)
3. หาดทาเคโนะ ชมพระอาทิตย์ตกที่หมู่บ้านชาวประมง
สถานที่ที่คาบสมุทรเนโกะซากิและทะเลญี่ปุ่นมาบรรจบกันและยังเป็นจุดชมวิวที่มีความโดดเด่นลำดับต้นๆ ของจังหวัดเฮียวโกะก็คือหาดทาเคโนะ (Takeno Beach) น้ำทะเลใสแจ๋วกับหาดทรายสีขาวทำให้ที่นี่เป็นจุดเล่นน้ำที่ชาวเมืองชื่นชอบ
ที่ริมฝั่งมีบ้านไม้สีเทาเรียงเป็นแถว แต่ละหลังถูกสร้างให้ติดกันเพื่อป้องกันลมทะเลที่หอบทรายและเกลือเข้ามา เป็นย่านที่มีความเงียบสงบมาก
พอเดินไปตามถนนเส้นเล็กๆ ที่เหมือนเขาวงกตนี้ก็อาจทำให้รู้สึกถึงความพิศวงเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งความฝัน
ที่ท่าเรือทาเคโนะใกล้ริมฝั่งมีตลาดปลาด้วย เราสามารถไปชมการประมูลปลาได้ที่สมาคมประมงทาจิมะ (Tajima Fisheries Cooperatives) เวลา 16:20
ถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แต่เราจะได้เห็นวิถีชีวิตที่พัฒนาควบคู่มากับความอุดมสมบูรณ์ของทะเลญี่ปุ่นระหว่างชมการประมูลปลา
Picture courtesy of Toyooka City
ใครที่อยากชมวิวทะเลสวยๆ ที่ล้อมรอบคาบสมุทรเนโกะซากิ ขอแนะนำให้ไปที่สวนจาจายามะ (Jajayama Park) ใกล้กับท่าเรือ
วิธีเดินทางไปหาดทาเคโนะ สามารถเดินจากสถานีทาเคโนะ (Takeno) ไปได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
เมนูที่ต้องกินให้ได้ในโทโยโอกะ
Photo by Pixta
อย่าลืมลองชิมโซบะเมนูขึ้นชื่อของอิซุชิในเมืองโทโยโอกะกันนะคะ เมนูนี้มีตั้งแต่ช่วงต้นของศตวรรษที่ 18 และเสิร์ฟมาในจานดินเผาใบเล็กที่ผลิตในบริเวณนี้
ส่วนของดีขึ้นชื่อของเมืองโทโยโอกะก็คือปูมัตสึบะ (Matsuba crab) ปูมัตสึบะก็คือปูซุไวขนาดยักษ์ที่มีเฉพาะในพื้นที่นี้เท่านั้น ฤดูของปูมัตสึบะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนถึงประมาณปลายเดือนมีนาคม สามารถหากินได้ที่ร้านอาหารต่างๆ เช่นร้านไคจูเอ็น (Kaichuen) ที่คิโนะซากิออนเซ็น
เราสามารถไปชมการประมูลปูมัตสึบะสุดคึกคักได้ที่สมาคมประมงสึอิยามะ (Tsuiyama Fisheries Cooperatives) ในช่วงเช้าตรู่ของทุกวันตลอดช่วงฤดูจับปูค่ะ
ไมซุรุ วิวสุดสวยของทะเลญี่ปุ่น
เมืองไมซุรุ (Maizuru) อยู่สุดขอบจังหวัดเกียวโตและเป็นเมืองท่าเรือที่อยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองโทโยโอกะ มีสิ่งน่าสนใจอยู่มากมายเช่น ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ธรรมชาติที่แสนยิ่งใหญ่ อาคารที่มีเสน่ห์ เชื่อว่าอีกไม่นานต้องกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมแน่นอน
4. Maizuru Brick Park ตามรอยประวัติศาสตร์ของอดีตทหารเรือ
Maizuru Brick Park คืออาคารอิฐแดงที่มีทั้งคาเฟ่และพิพิธภัณฑ์อยู่ข้างใน อาคารนี้สร้างโดยอดีตกองทัพเรือในช่วงยุคเมจิจนถึงยุคไทโช จุดที่น่าสนใจคือพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาคารยังอยู่ในสภาพดี
ในปัจจุบันนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นก็มีอาคารที่ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกอยู่มากมายแต่อาคารสไตล์ตะวันตกที่มีประวัติศาสตร์เช่นนี้กลับมีเสน่ห์ที่แตกต่างออกไปว่าไหมคะ
ก่อนอื่นเราไปชมอาคารอิฐแดงหมายเลข 1 กันค่ะ อาคารนี้เป็นหนึ่งในอาคารโครงสร้างเหล็กที่เก่าที่สุดและยังคงหลงเหลืออยู่ในประเทศญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี 1903 เพื่อใช้เป็นโกดังเก็บตอร์ปิโด
ปัจุบันภายในอาคารได้กลายเป็น World Brick Museum พิพิธภัณฑ์จัดแสดงอิฐจากทั่วโลกรวมถึงสิ่งน่าสนใจอื่นๆ
อาคารอิฐแดงหมายเลข 2 เป็นหอประวัติศาสตร์ของเมืองไมซุรุกับคาเฟ่ อาคาร 3 เป็นห้องจัดนิทรรศการและร้านของฝาก อาคาร 4 เป็นฟรีสเปซและสตูดิโอสุดเก๋ อาคาร 5 เป็นอีเวนต์ฮอลขนาดใหญ่
บริเวณด้านหน้าของอาคาร 5 ยังมีอิฐแดงและโกดังที่คงสภาพเดิมไว้ตั้งแต่ตอนสร้างให้เรามาสัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ภายในตัวเมืองของเขตคันซากิ (Kanzaki) ก็มีอาคารอิฐอยู่อีกหลายแห่ง เช่น เตาเผาสไตล์เยอรมันที่เรียกว่า Hoffmann kiln และอุโมงค์คิตะซุย (Kitasui Tunnel) ใครที่สนใจอาคารที่มีเอกลักษณ์และประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นต้องมาเที่ยวเมืองนี้ให้ได้นะคะ
Maizuru Brick Park ใช้เวลาเดินจากสถานีฮิกาชิไมซุรุ (Higashi-Maizuru) ประมาณ 20 นาที
5. โกะโรสกายทาวเวอร์ วิวทะเลสวยจนลืมหายใจ
ถ้าไม่ไปโกะโรสกายทาวเวอร์ (Goro Skytower) ก็เหมือนมาไม่ถึงไมซุรุ! เกาะน้อยใหญ่และอ่าวทะเลสีฟ้าดูสวยงามและอลังการมากค่ะ
ที่ Maizuru Brick Park มีจักรยานไฟฟ้าให้เช่าด้วยค่ะ (1 วัน 2,000 เยน) สามารถปั่นตระเวนชมโกดังอิฐได้อย่างสบายๆ แล้วก็ขอแนะนำให้ปั่นไปให้ถึงยอดเขาโกะโรกาทาเคะ (Gorogatake) ด้วยนะคะ
ครั้งนี้ถึงจะพึ่งแรงจักรยานไฟฟ้าก็ยังต้องยอมรับว่าเหนื่อยเอาเรื่องเมื่อมาเจอกับเนินขึ้นเขา จาก Maizuru Brick Park มาถึงยอดเขาใช้เวลาประมาณ 30 นาที แต่ขอให้นึกถึงความสนุกตอนปั่นลงเขาเข้าไว้ค่ะ
เมื่อขึ้นมาด้านบนของโกะโรสกายทาวเวอร์แล้วจะได้ชมวิวแบบ 360 องศาที่ความสูง 325 เมตร จากที่นี่จะเห็นวิวทะเลญี่ปุ่นได้ครบเลยค่ะ ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 200 เยน เด็ก 100 เยน
วิวทั้ง 4 ฤดูของที่นี่ก็มีเสน่ห์ ฤดูใบไม้ผลิจะได้ชมซากุระ ฤดูร้อนจะได้ชมต้นไม้เขียวชอุ่ม ฤดูใบไม้ร่วงจะได้ชมใบไม้เปลี่ยนสี ฤดูหนาวจะได้ชมวิวหิมะสวยๆ และในช่วงเช้าตรู่ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงธันวาคมจะมีทะเลหมอกลอยปกคลุมทั่วภูเขาด้วย
สกายคาเฟ่ Nanako มีบริการอาหารเที่ยงและอาฟเตอร์นูนที เหมาะที่จะมานั่งพักผ่อนพลางชมวิวอ่าวจากมุมสูงมากๆ เลยค่ะ
6. ไมซุรุ จุดชมวิวโซระยามะ
จุดชมวิวโซระยามะ (Sorayama View Spot) ในเมืองไมซุรุนี้อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 550 เมตร สามารถเห็นวิวอ่าววาคาสะ (Wakasa Bay) ได้ทั่วและยังมองเห็นเกาะต่างๆ ที่อยู่ไกลๆ รวมถึงภูเขาฮาคุซัง (Hakusan) จังหวัดอิชิคาวะ (Ishikawa)
ส่วนใครที่อยากอยู่ใกล้ชิดทะเลญี่ปุ่นมากกว่านี้ขอแนะนำให้เดินทางจาก Maizuru Brick Park ไปล่องเรือสำราญรอบไมซุรุ ทัวร์ล่องเรือใช้เวลา 30 นาทีและจะได้ชมเรือกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นและอู่ต่อเรือจากทะเลด้วยค่ะ
เมนูห้ามพลาดที่ไมซุรุ
ถ้าพูดถึงไมซุรุก็ต้องนึกถึงเมนูของอดีตทหารเรือซึ่งก็คือแกงกะหรี่ญี่ปุ่น
แกงกะหรี่ไมซุรุที่มีเนื้อสัตว์เยอะและรสชาติเข้มข้นนี้เรียกได้ว่าแทบจะมีอยู่ในเมนูของทุกร้านอาหารในเมืองเลยทีเดียว นอกจากจะสั่งทานได้ที่ สกายคาเฟ่ Nanako ที่โกะโรแล้วก็ยังมีแกงกะหรี่พร้อมทานขายในร้านขายของฝากที่ Maizuru Brick Park ด้วยค่ะ
นอกจากนี้แล้ววัฒนธรรมการกินปลาก็ฝังรากลึกที่ไมซุรุด้วยเช่นกัน จะมาลองทานข้าวหน้าปลาดิบไคเซ็นด้งที่จุดพักรถท่าเรือไมซุรุ Maizuruko no Michi no eki ก็ดีนะคะ หรือลูกชิ้นปลาคามาโบโกะของไมซุรุก็อร่อยนะ
7. เมืองมิยาซุกับอามาโนะฮาชิดาเตะ
Photo by Pixta
เมืองมิยาซุ (Miyazu) อยู่ตรงกลางระหว่างเมืองโทโยโอกะและไมซุรุ ในเมืองนี้มีสถานที่หนึ่งที่ต้องไปให้ได้ นั่นก็คืออามาโนะฮาชิดาเตะ (Amanohashidate) สันทรายแคบๆ ที่ทอดยาวนี้มีชื่อว่า "อามาโนะฮาชิ" ซึ่งแปลว่า "สะพานสู่สรวงสวรรค์" ซึ่งเป็นผลงานที่ธรรมชาติสร้างขึ้นมากั้นระหว่างอ่าวมิยาซุกับทะเลใน
บริเวณใกล้เคียงกับสถานีอามาโนะฮาชิดาเตะมีจุดชมวิวชื่ออามาโนะฮาชิดาเตะวิวแลนด์ (Amanohashidate Viewland) เราสามารถชมวิวที่ทอประกายแสงสวยงามน่าประทับใจได้ที่นี่
ถ้ารู้สึกท้องว่างขึ้นมาก็ลองกินเมนูจากปลาอิวาชิซึ่งเป็นของขึ้นชื่อของเมืองมิยาซุกันดูนะคะ มีหลายหลายเมนูตั้งแต่ซูชิ ปลากระป๋องไปจนถึงเบอร์เกอร์เลยค่ะ!
ทริปหน้าไปเที่ยวโทโยโอกะ ไมซุรุและมิยาซุกัน
ถ้าจะมาเที่ยวเมืองริมฝั่งทะเลญี่ปุ่นให้เต็มที่ แนะนำว่าให้ใช้เวลาอย่างน้อย 2 วัน
จะเดินทางด้วยรถไฟหรือบัสก็ได้แต่บางที่จำเป็นต้องเดินหรือนั่งแท็กซี่ จะเช่ารถขับมาเที่ยวก็ได้เพราะถนนที่นี่ค่อนข้างโล่งค่ะ
ทริปหน้าลองเพิ่ม 3 เมืองน่าเที่ยวอย่างโทโยโอกะ ไมซุรุ และ มิยาซุเข้าไปด้วยนะคะ ที่นี่มีวิวทะเลญี่ปุ่นสวยๆ อาหารอร่อยๆ และวัฒนธรรมที่มีเสน่ห์รออยู่ค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Steven Csorgo
Sponsored by the Association for Promotion of Japan Sea Routes
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง