【จังหวัดมิยาซากิ】เพลิดเพลินไปกับทั้งภูเขาและท้องทะเล! ออกสำรวจมนต์เสน่ห์แห่งธรรมชาติที่ยังไม่ถูกค้นพบ

“คุริยะคาชิ คุโรกิ” คาเฟ่ญี่ปุ่นฝีมือเชฟระดับมิชลินสตาร์ในม.โตเกียว

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าในม.โตเกียวมีคาเฟ่ที่ได้รับการออกแบบโดย “คุณเคนโกะ คุมะ” สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลกซึ่งในปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยนะเออ... ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำ “คิรุยะคาชิคุโรกิ” คาเฟ่ญี่ปุ่นดีไซน์โดยคุณเคนโกะ คุมะกันค่ะ

บทความโดย

miho

東京

เกิดที่ไต้หวัน ปัจจุบันกำลังอาศัยอยู่ที่โตเกียว เป็นบรรณาธิการหลักของเว็บไซต์ของ MATCHA ที่เน้นเกี่ยวกับไฮลิฟสไตล์ทายว้าวสำหรับชาวไต้หวัน ในอดีต曾เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่น ติวเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนมัธยมส่วนตัวในไทเป, เป็นล่ามสำหรับบริษัทไชเซโดะและบริษัทอื่นๆ จากญี่ปุ่นและไต้หวัน มีประสบการณ์ในการเขียนโฆษณาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงหน้าใน เพจ Facebook 'Tokyo beyond studying abroad' 東京、不只是留學(留学だけじゃなくて)จำนวนผู้ติดตามมีจำนวน 120,000 คน เป็นบล็อกเกอร์ที่มีผู้อ่านจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยผู้อ่านในเพียง 70% ของสาวสมาชิก ฉันมีบทความที่พิจารณาเกี่ยวกับสถานที่และร้านค้าในอดีตมากกว่า 300 แห่ง เขียนเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุด สถานที่ที่ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอ และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม เผยแพร่หนังสือเล่มที่ 6 เกี่ยวกับญี่ปุ่นในไต้หวันและเอเชีย Facebook → https://www.facebook.com/filmmiho/ Instagram → @mihowang47

more

เพื่อนๆรู้มั้ยคะว่าในมหาวิทยาลัยโตเกียวมีคาเฟ่ที่ได้รับการออกแบบโดย “คุณเคนโกะ คุมะ” สถาปนิกชาวญี่ปุ่นชื่อดังระดับโลกซึ่งในปัจจุบันทำงานเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วยนะเออ... นั่นก็คือ “Kuriya Kashi Kurogi (คุริยะ คาชิ คุโรกิ)” คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นฝีมือ “คุณจุน คุโรกิ” เชฟอาหารญี่ปุ่นระดับมิชลินสตาร์นั่นเองค่ะ ^^

เผยแพร่เสน่ห์ของขนมญี่ปุ่นไปทั่วโลกภายในอาคารแหล่งรวมนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวต่างชาติ

บริเวณที่ร้านตั้งอยู่แต่เดิมแล้วเคยเป็นอาคารวิจัยวิทยาศาสตร์มาก่อน

หลังจากคุณคุโรกิได้ยินโปรเจคการสร้างคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นภายในอาคารเรียนของมหาวิทยาลัยโตเกียว เขาก็ตัดสินใจเข้าร่วมโดยมีความคิดว่าถ้าเกิดเป็นมหาวิทยาลัยโตเกียวแหล่งรวมศาสตราจารย์และนักเรียนต่างชาติจากทั่วโลกล่ะก็จะสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของขนมญี่ปุ่นไปยังต่างประเทศได้มากขึ้นอย่างแน่นอน

อาคารบรรยากาศอบอุ่นที่โอบล้อมไปด้วยไม้สนญี่ปุ่น

ตัวอาคารโอบล้อมไปด้วยแผ่นไม้สนญี่ปุ่นทั้งหลัง สีของไม้อ่อนธรรมชาติช่วยทำให้บรรยากาศดูเงียบสงบผ่อนคลาย เนื่องจากบริเวณโดยรอบรายล้อมไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจีประกอบกับบรรยากาศอบอุ่นจากไม้สนญี่ปุ่น เราจึงรู้สึกราวกับว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติจริงๆเลยทีเดียว

โดยเฉพาะที่นั่งระเบียงเป็นอะไรที่ไม่แนะนำไม่ได้เป็นอันขาด! ในวันที่อากาศแจ่มใสจะมีแสงแดดสาดส่องเข้ามาอย่างเพียงพอให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งรับลมแดดท่ามกลางป่า เนื่องจากในฤดูหนาวนั้นมีบริการให้ยืมผ้าห่มด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นคนขี้หนาวก็สบ๊าย~

พนักงานร้านเล่าให้ฟังว่ามีผู้คนเดินทางมาที่ร้านเพื่อชมรูปแบบสถาปัตยกรรมกันเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งคนที่เข้าร้านเพราะความอยากรู้อยากเห็นและกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเอเชียที่เดินทางมาไกลจากต่างประเทศกันเลยทีเดียว

ถึงแม้ว่าจำนวนที่นั่งภายในร้านจะไม่ได้มีมากมายอะไร แต่กลับทดแทนด้วยจุดเด่นเรื่องความใกล้ชิดระหว่างพนักงานร้านและลูกค้า เราจึงสามารถชมบรรยากาศการทำงานอันสุภาพอ่อนน้อมและบรรยากาศการชงกาแฟอย่างตั้งใจของบาริสต้าและพนักงานร้านได้อย่างชัดเจน

เมนูมากมายที่ทั้งเพลินตาและเพลินใจ~

อุปกรณ์สุดพิถีพิถันทั้งหมดภายในร้านไม่ว่าจะเป็นจาน, ภาชนะ หรือถาดเพียงแค่ได้มองก็เพลินแล้วล่ะค่ะ เช่น ถ้วยกาแฟซึ่งเป็นเครื่องปั้นดินเผาโอริเบะทั้งหมดนั้นเป็นสินค้าสั่งทำเฉพาะซึ่งใช้กันเฉพาะที่นี่เท่านั้น

ในครั้งนี้เราก็ได้สั่งเป็นเซ็ตโมจิย่างและ เซ็นไซ ซากุระแผ่นทองคำ ซึ่งเป็นเมนูพิเศษเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ดอกซากุระและแผ่นทองคำที่ลอยอยู่บนเซ็นไซผสมเข้ากันอย่างลงตัว เมื่อลองตักเข้าปากดู รสเค็ม, รสเปรี้ยว และกลิ่นหอมของซากุระก็กระจายไปทั่วทั้งปาก แถมถั่วแดงก็หวานกำลังดีอีกต่างหาก ราคา 1,300 เยน / เซ็ต

นอกจากนี้ก็ยังมาเสิร์ฟพร้อมกับของดองรสเค็มกำลังดีและขนมน้ำตาลละลายในปากด้วยนะเออ... บอกเลยว่าไม่ว่าใครก็จะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน! โมจิย่างด้วยไฟจากถ่านมีรสสัมผัสเหนียวนุ่มหนึบหนับ ถ้าเกิดทานคู่กับเซ็นไซก็จะกลายเป็นคอมโบที่เหมาะกับฤดูหนาวสุดๆไปเลย

เมื่อก่อนทางร้านจำหน่ายน้ำแข็งใสสไตล์ญี่ปุ่นเฉพาะในฤดูร้อนเท่านั้น แต่เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างท่วมท้นทำให้ขยายช่วงเวลาจำหน่ายไปนอกฤดูกาลด้วย นอกจากนี้ก็ยังเปลี่ยนรสชาติไปตามฤดูกาลอีกต่างหาก เช่น ในฤดูใบไม้ร่วงจะเป็นน้ำแข็งใสรสฟักทองและรสเกาลัด

ส่วนที่เราจะมาแนะนำกันในครั้งนี้ก็คือน้ำแข็งใสครีมผงคินาโกะราดด้วยน้ำตาลทรายแดงเชื่อมนั่นเอง! จุดเด่นอย่างแรกของเมนูนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากความใหญ่ของมันนี่แหละ จึงขอแนะนำว่าถ้าเกิดเป็นสาวๆควรแชร์ทานกัน 2 คนน่าจะเหมาะกว่า (ทางร้านเป็นระบบสั่งอาหารอย่างน้อย 1 เมนู / ท่าน) ผงคินาโกะที่โรยบนน้ำแข็งใสมีรสชาติเหมือนถั่วลิสง ข้างในใส่ถั่ว, เกาลัด และถั่วเหลือง เราจึงสามารถเพลิดเพลินกับความอร่อยที่ซ้อนกันหลายชั้นได้อย่างจุใจ ส่วนจุดเด่นต่อมาก็คือครีมโฮมเมดเข้มข้นผสมโชยุนั่นเอง ทำให้ได้รสชาติหวานๆเค็มๆติดใจจนหยุดไม่ได้ นอกจากนี้ น้ำตาลทรายแดงเชื่อมที่ราดอยู่ด้านบนก็ยังช่วยยกระดับรสชาติให้เข้มข้นยิ่งขึ้นอีกต่างหาก ราคา 1,300 เยน

คาเฟ่ของทางร้านมีเอกลักษณ์อยู่ที่ใช้เมล็ดกาแฟ “ซารุตะฮิโกะ” ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นอยู่ในขณะนี้และมีรสชาติอมเปรี้ยวเล็กน้อย คอมโบระหว่างกาแฟและขนมญี่ปุ่นเป็นอะไรที่เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยมซึ่งนับเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่เลยก็ว่าได้ ส่วนกาแฟเย็นมีให้เลือกทั้งรสเข้มและรสอ่อน แถมเรายังสามารถเลือกได้ตามใจชอบอีกด้วยว่าจะให้ใช้เครื่องเพิ่มความเข้มข้นสไตล์อิตาเลียนมั้ย ให้กรองด้วยฟิลเตอร์โลหะมั้ย หรือว่าให้ชงด้วยกระดาษกรองกาแฟมั้ย ราคา 900 เยน

ถ้าเกิดสั่งคาเฟ่ลาเต้หรือคาปูชิโน่ร้อน ทางร้านก็จะวาดลาเต้อาร์ตผิวบนกาแฟให้เป็นกรณีพิเศษด้วย รสชาติขมกำลังดีและกลิ่นหอมของกาแฟให้ความรู้สึกฟินสุดๆจ้า... ราคา 900 เยน

นอกจากนี้ เรายังสามารถสั่งกาแฟกลับบ้านได้ทุกเมนูเลยอีกด้วย ดีไซน์ของแก้วกาแฟดูน่ารักเอามากๆ โดยมีการพิมพ์โลโก้ของทางร้านเอาไว้บนแก้วด้วย

สินค้าสุดหรูที่เหมาะสำหรับซื้อกลับไปเป็นของฝาก

ของฝากที่ทางร้านจัดจำหน่ายล้วนเป็นสินค้าพิเศษเฉพาะของแต่ละวัน โดยเป็นระบบให้สิทธิ์กับคนที่จองล่วงหน้าก่อนเสมอ ดังนั้น ถึงแม้จะอยากซื้อสินค้าที่ร้านขนาดไหนแต่ก็อาจมีสิทธิ์ไม่ได้ตามใจต้องการเหมือนกัน ส่วนสินค้านอกจากจะมีขนมญี่ปุ่นอย่างน้ำตาลวาซัมบงของโทคุชิม่าแล้วก็ยังมีกาแฟเข้มข้นและน้ำมะเขือเทศโคกาเนอุริที่ผลิตร่วมกับเกษตรกรขาวอิวาเตะด้วย

บทส่งท้าย

ขนมญี่ปุ่นเป็นวัฒนธรรมอาหารการกินที่ไม่ได้สืบทอดกรรมวิธีแบบดั้งเดิมเท่านั้น แต่ยังมีการพัฒนาคิดค้นรูปแบบใหม่ๆอยู่เสมอ คอมโบระหว่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่, กาแฟซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในญี่ปุ่น และขนมญี่ปุ่นเป็นอะไรที่ให้ความอิ่มเอมได้ทั้งทางตาและทางใจเป็นอย่างยิ่ง สำหรับใครที่เดินทางมาเที่ยวมหาวิทยาลัยโตเกียวก็อย่าลืมแวะมาเพลิดเพลินกับทางเดินต้นแปะก๊วย ประวัติศาสตร์ และผ่อนคลายไปกับกาแฟและขนมญี่ปุ่นที่นี่กันดูนะคะ ^^

 

บทความโดย

miho

東京

เกิดที่ไต้หวัน ปัจจุบันกำลังอาศัยอยู่ที่โตเกียว เป็นบรรณาธิการหลักของเว็บไซต์ของ MATCHA ที่เน้นเกี่ยวกับไฮลิฟสไตล์ทายว้าวสำหรับชาวไต้หวัน ในอดีต曾เป็นบรรณาธิการของนิตยสารแฟชั่นญี่ปุ่น ติวเข้าเรียนภาษาญี่ปุ่นในโรงเรียนมัธยมส่วนตัวในไทเป, เป็นล่ามสำหรับบริษัทไชเซโดะและบริษัทอื่นๆ จากญี่ปุ่นและไต้หวัน มีประสบการณ์ในการเขียนโฆษณาเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงหน้าใน เพจ Facebook 'Tokyo beyond studying abroad' 東京、不只是留學(留学だけじゃなくて)จำนวนผู้ติดตามมีจำนวน 120,000 คน เป็นบล็อกเกอร์ที่มีผู้อ่านจากไต้หวัน ฮ่องกง และญี่ปุ่น โดยผู้อ่านในเพียง 70% ของสาวสมาชิก ฉันมีบทความที่พิจารณาเกี่ยวกับสถานที่และร้านค้าในอดีตมากกว่า 300 แห่ง เขียนเกี่ยวกับแนวโน้มล่าสุด สถานที่ที่ไม่ค่อยได้รับการนำเสนอ และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม เผยแพร่หนังสือเล่มที่ 6 เกี่ยวกับญี่ปุ่นในไต้หวันและเอเชีย Facebook → https://www.facebook.com/filmmiho/ Instagram → @mihowang47

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ