3 คาเฟ่รีโนเวทใหม่ในอาคารเก่า ไปพบของอร่อยและประวัติศาสตร์ที่ยามากาตะ (Yamagata)
ยามากาตะโดดเด่นด้วยสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ แต่จริงๆ แล้วอาหารก็สุดยอด! คาเฟ่รีโนเวทที่ได้รับความนิยมสูงในจังหวัด มีกระทั่งคนจากทั่วโลกหลั่งไหลกันมาเยือน เราขอแนะนำคาเฟ่ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์น่าประทับใจของสิ่งก่อสร้างให้เราไปค้นหากัน!
ไปสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นในบรรยากาศเก๋ๆ
จังหวัดยามากาตะ นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติถ่ายรูปสวยอย่างปิศาจหิมะในซาโอ วัดยามะเดระ และภูเขาฮากุโระแล้ว ยังมีแหล่งของอร่อยที่เรียกว่าเป็น "คาเฟ่รีโนเวท" ซึ่งใช้อาคารเก่าๆ นำมาตกแต่งใหม่อยู่หลายแห่งเลยทีเดียว
แน่นอนว่าในคาเฟ่รีโนเวทมีของอร่อยให้ทาน แต่ไม่เพียงเท่านั้นเพราะสถานที่เหล่านี้ยังเป็นสถานที่ที่สัมผัสวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมาจากอดีตได้ด้วย ในบทความนี้จะแนะนำคาเฟ่รีโนเวทที่มีรูปแบบแตกต่างกันทั้งหมด 3 แห่งค่ะ
ไปดื่มด่ำกับอาหารที่ทำจากวัตถุดิบท้องถิ่นในบรรยากาศชิคๆ กันเลย!
1. "Restaurant 0053" กับแนวคิดใหม่เรื่องเครื่องนุ่งห่ม อาหารและที่อยู่อาศัย
"GEA (เกีย)" อาคารพาณิชย์สไตล์คอมเพล็กซ์ที่เปิดในปี 2015 รีโนเวทจากโกดังหินที่เคยทำเป็นโรงงานบ่มเหล้ามาก่อนโดยบริษัท "ซาโต้เซนิ (Satoseni)" บริษัทปั่นด้ายที่อยู่ในเขตซากาเอะ จังหวัดยามากาตะ
ที่นี่มีการแบ่งออกเป็น 3 โซน ได้แก่ GEA1 วางจำหน่ายแฟชั่นที่กำลังอยู่ในความนิยม GEA2 จำหน่ายของใช้จุกจิก อุปกรณ์เครื่องครัวและสินค้าแฮนด์เมด และ GEA3 จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารต่างๆ
เครื่องแต่งกายที่มิเชล โอบามา ภรรยาของอดีตประธานาธิบดีโอบามาของอเมริกาใส่ตอนที่สามีเข้าพิธีรับตำแหน่งประธานาธิบดีและตอนพิธีรับมอบรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ก็คือชุดคาร์ดิแกนที่ทำจากเส้นด้ายจากขนแพะแองโกร่าละเอียดของซาโต้เซนิ ปัจจุบันซาโต้เซนิได้ร่วมมือกับแบรนด์แฟชั่นอื่นๆ ที่มีชื่อเสียงมากมาย และมีแบรนด์ที่เป็นของตัวเองถึง 6 แบรนด์
ในร้านขายของที่ GEA1 เราจะได้สัมผัสกับสินค้าจากเส้นไหมพรมที่ทั่วโลกให้ความสนใจ
ใน GEA2 มีสินค้าแฮนด์เมดที่ศิลปินในจังหวัดยามากาตะผลิตขึ้นและสินค้าจิปาถะวางจำหน่าย มีสินค้าวางเรียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหวนหรือต่างหูที่ทำจากไม้ ถ้วยชาเคลือบ มีสินค้าที่ผลิตขึ้นอย่างประณีตให้เลือกเต็มไปหมด เหมาะจะซื้อเป็นของฝากอย่างยิ่งค่ะ
ร้านอาหาร "Restaurant 0053" ที่มีพิกัดอยู่ใน GEA3 เป็นคาเฟ่รีโนเวท ที่นี่บริการอาหารเที่ยง น้ำชายามบ่าย และอาหารเย็นโดยเน้นเมนูจากวัตถุดิบที่ผลิตในจังหวัดยามากาตะเป็นหลัก
เมนูที่เราได้ลิ้มรสตอนไปเก็บข้อมูลคือ "สปาเกตตี้โบโลเนสใส่ผักตามฤดูกาลและเห็ดหลายชนิด" (เซ็ทอาหารเที่ยง ราคารวมภาษี 1,620 เยน) อาหารจานนี้ทำจากเห็ดหลายชนิดและผักในฤดูกาลนั้นๆ รวมถึงวัวยามากาตะกิวด้วย เป็นจานนึงที่รับรู้ได้ถึงความอร่อยของวัตถุดิบในท้องถิ่นเลยล่ะค่ะ
ข้างๆ "Restaurant 0053" มีร้าน "เก็นเอ็นอัง (Gen En An)" ร้านเหล้าสไตล์ญี่ปุ่นด้วย ที่นี่เป็นร้านที่มีชื่อเสียงในด้านสาเกท้องถิ่นและอาหารที่มีเอกลักษณ์
ทั้งสองแห่งมีบรรยากาศสบายๆ เก๋ไก๋ที่สร้างขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากลักษณะพิเศษของโรงกลั่นเหล้าเก่า
2. "Kura Obihachi - Akarigura" ราวกับได้ย้อนไปในอดีต
"คุระโอบิฮะจิ - อาคาริกุระ (Kura Obihachi - Akarigura)" ที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศวันวานเป็นคาเฟ่ที่อยู่ใกล้กับสถานียามากาตะ รีโนเวทมาจากคลังสินค้าที่ใช้เก็บอุปกรณ์ทางการเกษตรต่างๆ โดย "โอจิมะโชจิ (Ojima Shoji) " บริษัทในท้องถิ่นที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์ทางการเกษตร
เพราะอะไรจึงปรับปรุงโกดังให้กลายมาเป็นคาเฟ่กันนะ?
นั่นเป็นเพราะจุดเริ่มต้นจากโครงการ "ยามากาตะกุระ (โกดัง) โปรเจ็ค" ของมหาวิทยาลัย Tohoku University of Art and Design ในปี 2003
"ยามากาตะกุระโปรเจ็ค" เป็นโครงการคืนชีวิตให้โกดังสินค้าที่มีมากมายในเมืองยามากาตะเพื่อให้กลับมาเหมือนใหม่และเข้ากับยุคปัจจุบัน เหล่านักศึกษาไปพูดคุยกับทางโอจิมะโชจิเพื่อปรับตกแต่งภายในของโกดังทั้งหลายใหม่ให้ถือกำเนิดเป็นทั้งลานกิจกรรม หอแสดงดนคี และคาเฟ่
แม้จะมีระยะเวลาการดำเนินงานเพียง 1 เดือน แต่โครงการนี้กลายเป็นที่พูดถึงในวงกว้างขึ้นมา หลังจากโครงการเสร็จสิ้นแล้ว บริษัทโอจิมะโชจิยังคงดำเนินกิจกรรมนี้ต่อ และสร้าง "คุระโอบิฮะจิ - อาคาริกุระ" ขึ้น ภายในคาเฟ่มีป้ายตอนที่ยังเก็บวัสดุทางการเกษตรและนาฬิกาเรือนเก่าประดับไว้อยู่
โต๊ะส่วนนึงใช้กล่องไม้ขนาดใหญ่มาวางเป็นโต๊ะทั้งอย่างนั้นเลย กล่องไม้พวกนี้ว่ากันว่าเคยใช้เก็บ "โยเมะอิริโดกุ" (*1) มาตั้งแต่ในอดีต ภายในคาเฟ่ที่สัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์ตามแต่ละจุดแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปในสมัยนั้นเลยล่ะค่ะ
*1 : โยเมะอิริโดกุ (Yomeiri Dougu) ... อุปกรณ์ที่เตรียมไว้สำหรับเริ่มต้นชีวิตใหม่ตอนที่ผู้หญิงจะแต่งงาน ในอดีตหากแต่งงานแล้ว ฝ่ายผู้หญิงจะย้ายเข้าบ้านฝ่ายชาย และเข้าไปใช้ชีวิตกับครอบครัวของฝ่ายชาย การเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ไปด้วยนั้นโดยหลักแล้วจึงเป็นหน้าที่ของฝ่ายหญิง
เมนูเด่นประจำร้านคือ "แกงกะหรี่คุระ (พร้อมสลัด)" ที่ทำจากข้าวธัญพืชและเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด เช่น ขมิ้น ยี่หร่า อบเชย และอื่นๆ กลิ่นหอมของแกงกะหรี่ รสชาติเข้มข้น และความอร่อยที่มีรสเผ็ดนิดๆ ยั่วให้หิวขึ้นมาทันควัน
เราสามารถเลือกเมนูได้ 2 แบบ อย่างแรกคือแบบเซ็ทที่มาพร้อมเครื่องดื่ม และเซ็ทที่มาพร้อมเครื่องดื่มและของหวาน (เซ็ทเครื่องดื่ม ราคารวมภาษี 1,200 เยน เซ็ทเครื่องดื่มและของหวาน ราคารวมภาษี 1,500 เยน)
อยากให้ลองชิมพร้อมกับของหวานและเครื่องดื่มกันให้ได้นะคะ "เค้กขิงกับงา (Shouga to Goma no Cake)" ที่อบโดยใส่ขิงญี่ปุ่นเชื่อมแบบคังโระนิ (*2) และงาในปริมาณจุใจ ให้สัมผัสที่นุ่มและรสชาติเยี่ยม กลิ่นหอมของขิงกับงาจะอบอวลในปากเลยทีเดียว
"น้ำชิโสะแดง (Aka Shiso Juice)" เป็นเมนูยอดฮิตของสาวๆ มีรสหวานอมเปรี้ยวที่ทำให้รู้สึกสดชื่น แถมยังให้คุณประโยชน์เรื่องความงามด้วย!
*2 : คังโระนิ (Kanroni) ... อาหารญี่ปุ่นที่มีรสเค็มและรสหวานกำลังดี ปรุงโดยสาเก น้ำตาล (หรือน้ำผึ้ง น้ำตาลมอลโตส) น้ำ ซอสโชยุ และมิริน เป็นต้น
3. "icho cafe" คาเฟ่ให้โชคด้านความรักด้วย!?
"icho cafe" ตั้งอยู่ภายในเขตศาลเจ้าคุมาโนะ (Kumano Shrine) ที่ว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์ด้านความรัก เนื่องจากคาเฟ่ตั้งอยู่ข้างๆ ต้นแปะก๊วย (ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "อิโจ") จึงตั้งชื่อคาเฟ่ว่าอิโจคาเฟ่ ในทุกๆ ปีเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้นแปะก๊วยจะเปล่งประกายสีเหลืองทอง และกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดจุดชมวิวในจังหวัดยามากาตะเป็นเวลาราว 1 สัปดาห์
คาเฟ่รีโนเวทมาจากอาคารที่เคยเป็นร้านค้ามาก่อน ภายในร้านที่มีพื้นฐานเป็นสถาปัตยกรรมไม้อบอวลไปด้วยบรรยากาศของวันวาน จากหน้าต่างร้านเราจะมองเห็นทางเดินไปสักการะศาลเจ้าได้อย่างชัดเจน เหมือนเป็นภาพลวงตาให้เรารู้สึกราวกับอยู่ข้างนอกแม้ว่าจะนั่งอยู่ในร้าน
คาเฟ่นี้สร้างขึ้นจากความปรารถนาว่า "อยากทำให้เป็นพื้นที่พูดคุยแลกเปลี่ยนของชาวบ้านในท้องถิ่น" โดย หน่วยงานพัฒนาเมือง "วาคุวาคุ" ที่นี่ยังมีการจัดอีเวนท์ต่างๆ เช่น งานประกาศสินค้าใหม่ของสาเกญี่ปุ่นหรือไวน์ที่ผลิตในจังหวัดยามากาตะอีกด้วย
เจ้าของร้านที่เคยเรียนวิธีการทำแพนเค้กในคาเฟ่ที่โตเกียวมาก่อนได้นำประสบการณ์ตอนนั้นมาสร้างสรรค์เมนูขึ้นป้ายออกมาเป็น "เฟรนช์โทสต์ (French Toast)" (ราคารวมภาษี 500 เยน) เมนูเด็ดใช้นมสดใหม่จาก "ฟาร์มอีเดะนากาเมะยามะ (Iide Nagameyama Farm)" ภายในจังหวัด ปิ้งลงบนแผ่นทองแดง ทำให้ภายนอกกรอบ ส่วนด้านในนุ่มชุ่ม รสชาติชัดเจน
กาแฟแฮนด์ดริปใช้เมล็ดกาแฟที่คั่วอ่อนของ "กาแฟวะชิ (Washi Coffee)" ร้านเฉพาะทางด้านเมล็ดกาแฟที่ขึ้นชื่อในยามากาตะ มีรสชาติเข้มข้นและกลิ่นหอมไม่จางหายในปาก (กาแฟร้อน ราคารวมภาษี 450 เยน)
"สมูธตี้ประจำวัน (Honjitsu no Smoothie)" ที่ทำจากผลไม้ในฤดูกาล (ราคารวมภาษี 600 เยน) ก็เป็นอีกเมนูที่อยากแนะนำ ในวันที่ไปเก็บข้อมูล เราได้ลองชิม "สมูธตี้ลูกพีช" ปั่นจากลูกพีชที่ปลูกในจังหวัดยามากาตะ ความหวานที่สดชื่น ทานอย่างไรก็ไม่เบื่อ และกลิ่นหอมเข้มข้น ขอบอกว่าเป็นรสชาติที่ลืมไม่ลงเลยทีเดียวค่ะ
หากอยากลิ้มรสอาหารที่รู้สึกได้ถึงประวัติศาสตร์ ขอเชิญที่คาเฟ่รีโนเวท
คาเฟ่รีโนเวทมีทั้งลักษณะพิเศษของสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นกับความอบอุ่นที่เกิดจากการหยั่งรากลงในท้องถิ่นนั้นมาเป็นระยะเวลานาน ทั้งส่วนใหญ่ยังมีอาหารอร่อยที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่นให้เลือก เราจะได้สัมผัสประสบการณ์อีกรสชาติที่แตกต่างจากคาเฟ่ทั่วไป
ลองไปลิ้มรสกาแฟกับอาหารพลางเงี่ยหูฟังประวัติศาสตร์ในร้านคาเฟ่ที่ถูกรีโนเวทขึ้นใหม่กันดูไหมคะ?
สำหรับคนที่อยากรู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยวในยามากาตะเพิ่มเติม สามารถเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ "คอลัมน์พิเศษ รวมบทความจังหวัดยามากาตะ (Yamagata) และนีงาตะ (Niigata)"
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Chen
Sponsored by Yamagata Prefecture
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง