“วัดไดยูซังไซโจจิ” แหล่งท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับจากโตเกียวในคานากาว่า

เมื่อเอ่ยถึงวัดในญี่ปุ่นแล้วเพื่อนๆนึกถึงที่ไหนกันบ้างเอ่ย? หลายคนต้องนึกถึงเกียวโตและนาราซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกและคามาคุระซึ่งขึ้นชื่อเรื่องพระพุทธรูปไดบุทสึกันอย่างแน่นอน

แต่นอกจากแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อเหล่านั้นแล้วทั่วญี่ปุ่นก็ยังมีวัดเก่าแก่อีกมากมายหลายแห่ง จากชูเคียวเน็นคัง (โดยหน่วยงานวัฒนธรรมประจำปี 2015) ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลทางศาสนาของประเทศญี่ปุ่นระบุว่าในญี่ปุ่นมีวัดวาอารามมากกว่า 7 หมื่นแห่งทั่วประเทศ

Daiyuzan Saijoji Temple (วัดไดยูซังไซโจจิ) จ.คานากาว่าที่เราจะมาแนะนำกันในครั้งนี้ก็เป็นหนึ่งในวัดห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน

ไหนใครอยากมาอาบแสงแดดธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศที่แตกต่างจากวัดในเกียวโตและนาราและย้อนเวลากลับไปในญี่ปุ่นศตวรรษที่ 14 กันบ้างเอ่ย?

วัดในดวงใจของผู้คนท้องถิ่นซึ่งมีผู้คนมากเยือนกว่า 1 แสนคนภายใน 3 วัน

“วัดไดยูซังไซโจจิ” แห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1394 ซึ่งเป็นยุครุ่งเรืองของวัฒนธรรม เซน โดยอยู่ในยุคสมัยเดียวกับวัดคินคาคุจิชื่อดังในเกียวโต

บริเวณวัดปลูกต้นสนเอาไว้มากกว่า 2 หมื่นต้นซึ่งส่วนใหญ่ก็มีอายุมากกว่า 500 ปีกันเกือบทั้งนั้น ภายในพื้นที่กว่า 1.3 ตารางกิโลเมตรเป็นที่ตั้งของเจดีย์กว่า 30 หลังเลยทีเดียว

ในระยะเวลา 3 วันระหว่างช่วงปีใหม่ของทุกปีจะมีผู้คนเดินทางมายังวัดไซโจจิมากกว่า 1 แสนคน เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดขลังท่ามกลางพื้นที่อันแสนกว้างใหญ่โดยเฉพาะ ยังไงเพื่อนๆก็อย่าลืมเดินเล่นภายในบริเวณวัดกันดูนะคะ!

อาบแสงแดดธรรมชาติท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ

หลังจากลงรถบัสมาก็จะพบกับบรรยากาศที่แตกต่างออกไปราวกับเป็นอีกโลกหนึ่งเลยทีเดียว ที่นี่รายล้อมไปด้วยหินติดต้นมอสและต้นไม้อันเขียวขจีให้บรรยากาศอย่างกับในภาพยนตร์ ถ้าเกิดใครอยากดื่มด่ำกับแสงแดดที่สาดส่องผ่านช่องว่างระหว่างต้นไม้ก็ขอแนะนำให้มาเที่ยวในช่วงเช้าจะดีที่สุด

อาจพบกับ “เท็งกุ” ตัวละครในเทพนิยายก็ได้นะเออ...

“วัดไดยูซังไซโจจิ” แห่งนี้เป็นวัดที่มีความเกี่ยวข้องกับ เท็งกุ ซึ่งเป็นตัวละครในเทพนิยายอย่างลึกซึ้ง โดยยังคงหลงเหลือตำนานที่ว่าเท็งกุเป็นผู้ช่วยสนับสนุนพระเซนผู้สร้างวัดไซโจจิให้ได้ฟังกันอยู่ในปัจจุบัน

คนญี่ปุ่นเชื่อกันว่าวัดไดยูซังไซโจจิเป็นที่อยู่อาศัยของเท็งกุ ทำให้ผู้คนที่เดินทางมาเยือนสามารถรับพลังอันแข็งแกร่งนั้นได้ บางทีเราอาจได้พบกับเท็งกุภายในบริเวณวัดอันแสนกว้างใหญ่แห่งนี้ก็ได้นะเออ...

แถมเรายังจะได้พบกับ เกี๊ยะ ขนาดใหญ่มากมายแบบนี้อีกต่างหาก เนื่องจากเกี๊ยะเป็นรองเท้าของเท็งกุและจำเป็นต้องใส่เป็นคู่ จึงเชื่อกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์เรื่องช่วยให้ความสัมพันธ์ระหว่างคู่สามี-ภรรยาแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

เกี๊ยะบางคู่ก็มีขนาดยักษ์เท่าส่วนสูงของผู้ใหญ่เลยทีเดียว เนื่องจากตรงนี้เป็นจุดถ่ายรูปที่ระลึกยอดนิยม จึงบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

เมื่อเดินลงเขามาก็จะพบกับร้านจำหน่ายของฝากที่ขาดไม่ได้ตามแหล่งท่องเที่ยว

โดยขอแนะนำเป็นของขึ้นชื่ออย่างเท็งกุฮาอุจิวะ เซมเบ้ รูปพัดใบไม้ของเท็งกุรสสัมผัสกรุบกรอบเคี้ยวเพลินเลยจ้า... เนื่องจากมีให้เลือกซื้อหลากหลายรสไม่ว่าจะเป็นมิโซะหรือถั่ว จึงได้รับความนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวสุดๆ

เราสามารถลองชิมหน้าร้านได้ก็จริง แต่ก็ควรระวังอย่าทานเยอะจนเกินไปด้วยเนอะ ถ้าเกิดใครลองแล้วชอบก็ต้องจัดกันซักหน่อยแล้วล่ะ!

ทริปท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่แบบไปเช้า-เย็นกลับ

วัดไซโจจิตั้งอยู่บนเขาห่างจาก Daiyūzan Station ประมาณนั่งรถบัส 10 นาที หลายคนพอได้ยินว่าตั้งอยู่บนเขาก็น่าจะคิดว่าไกลแน่ๆเลยใช่มั้ยเอ่ย? แต่ความจริงแล้วเสน่ห์อย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ สามารถเดินแบบไปเช้า-เย็นกลับจากโตเกียวได้ นี่แหละ

การเดินทางไปยัง Odawara Station ด้วยรถไฟใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง – 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื่องจากการเดินทางต่อจาก Odawara Station มาถึง Daiyūzan Station ใช้เวลาเพียง 20 – 30 นาทีเท่านั้น เราจึงสามารถรวมเข้าไปในแผนเที่ยวโตเกียวได้อย่างสบายๆ

นอกจากนี้ ภายใน Odawara Station ก็ยังเป็นที่ตั้งของศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและมีพนักงานที่สามารถสื่อสารภาษาต่างประเทศได้ประจำอยู่ด้วย จึงสะดวกต่อการท่องเที่ยวแถวนี้สุดๆ

เท่านั้นยังไม่พอ เพราะว่าภายใน Daiyūzan Station มีบริการ free Wi-Fi สำหรับทุกคน เราจึงสามารถหาข้อมูลก่อนเดินทางไปถึงวัดได้อย่างไม่ยากเย็น

ยังไงก็ขอเชิญชวนให้เพื่อนๆเดินทางมาสัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่สามารถสัมผัสได้ในชีวิตประจำวันที่วัดไซโจจิแห่งนี้กันดูนะคะ ^^

วัดไซโจจิ

1157 Daiyu-cho เมือง Minamiashigara จังหวัด 250-0127