Start planning your trip
สัมผัสบรรยากาศฤดูใบไม้ผลิก่อนดอกซากุระผลิบานที่ "เทศกาลชมดอกบ๊วยเมืองโอดาวาระ" ที่เมืองโอดาวาระจังหวัดคานากาวะ
ถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ผลิก็คงนึกถึงซากุระกันเป็นแน่ แต่ก่อนที่ซากุระจะบานนั้นยังมีเหล่าบ๊วยที่จะมาส่งสัญญาณบอกว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว ขอแนะนำเทศกาลชมดอกบ๊วยเมืองโอดาวาระ เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามของดอกบ๊วยที่จะทำให้คุณตะลึง!
ไปสัมผัสบรรยากาศของฤดูใบ้ไม้ผลิที่งานชมดอกบ๊วยเมือง "โอดาวาระ" กัน
ถ้าพูดถึงฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่นแล้วหลายๆ คนก็คงนึกถึงซากุระเป็นแน่นอน
แต่ก่อนที่ซากุระจะบานนั้นยังมีเหล่าบ๊วยที่จะบานก่อน อันเป็นการส่งสัญญาณที่บอกว่าฤดูใบไม้ผลิได้มาถึงแล้ว
ส่วนถ้าใครอยากจะไปชมความงามของดอกบ๊วยก็ต้องห้ามพลาดเมืองโอดาวาระแห่งจังหวัดคานากาวะ ที่มีชื่อเสียงในเรื่องความงามของดอกบ๊วย
ที่เมืองโอดาวาระนั้นจะจัดงาน "เทศกาลชมดอกบ๊วยเมืองโอดาวาระ (Odawara Ume Matsuri)" ระหว่างวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ถึง 4 มีนาคม 2561 นี้
สถานที่จัดงานนั้นจะจัดทั้งหมด 4 ที่ด้วยกัน
โดยจะจัดที่
1. สวนบ๊วยโซกะไบริน (Soga Bairin)
2. สวนโอดาวาระโจชิ (Odawarajoshi Park)
3. สวนดอกไม้โอดาวาระ (Odawara Flower Garden)
4. สวนพฤกษศาสตร์ซึจิมุระ (Tsujimura Plant Park)
*ภาพบรรยากาศของเทศกาลชมดอกบ๊วยในบทความเป็นรูปเก่าของปี 2017 และก่อนหน้า
สถานที่แนะนำแน่นอนว่าคือสวนบ๊วยโซกะไบริน!
สถานที่จัดงานหลักของเทศกาลนี้หรือเรียกได้ว่าเป็นมือวางอันดับ 1 ของงานก็ต้องเป็นสวนบ๊วยโซกะไบริน (Soga Bairin) ที่มีต้นบ๊วยกว่า 35,000 ต้นบานสะพรั่งและยังมีทัศนียภาพของภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลัง
สวนบ๊วยโซกะไปรินประกอบไปด้วยพื้นที่ทั้งหมด 3 ส่วนคือ พื้นที่เบชโชะ (Bessho) พื้นที่ฮาระ (Hara) และ พื้นที่นากะฮาระ (Nagahara) ประกอบกันเป็นสวนแห่งนี้
โดยในแต่ละส่วนนั้นก็จะมีครอบครัวชาวเกษตรกรเป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการ ซึ่งโดยปกติพื้นที่เหล่านี้เป็นพื้นที่ส่วนตัวของครอบครัวชาวเกษตรกร แต่จะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ในช่วงเทศกาลชมดอกบ๊วยเป็นกรณีพิเศษ
ถ้าอยากดูกิจกรรมต่างๆ ต้องมาที่พื้นที่เบชโชะ
เอื้อเฟื้อภาพถ่าย : Odawara Tourism Association
สถานีที่ใกล้สวนบ๊วยโซกะไบรินที่สุดก็คือสถานีชิโมะโซกะ (Shimosoga) ของรถไฟ JR สาย Tokai-Gotemba โดยเมื่อลงจากรถไฟมาแล้ว ให้มองหารถบัสที่มายังสถานที่จัดงาน
ในส่วนพื้นที่เบชโชะที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของสวนบ๊วยโซกะไบรินนั้น จะมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นมากมายให้เราดู
นอกจากนี้ พื้นที่เบชโชะนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยวทั้งคนญี่ปุ่นเองและชาวต่างชาติ เนื่องจากสามารถชมความงามของดอกบ๊วยโดยมีภูเขาไฟฟูจิเป็นฉากหลังได้
ในวันหยุดระหว่างช่วงที่จัดเทศกาลนั้น จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆมากมายอย่างเช่น ยาบุซาเมะ(*1) หรือกิจกรรมแข่งขันขว้างเปลือกส้มอีกด้วย
*1 ยาบุซาเมะ(Yabusame/流鏑馬)……เป็นการแสดงโชว์เทคนิคโบราณของการขี่ม้ายิงธนูชนิดหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นการยิงธนูให้โดนเป้าหมายในระหว่างการควบม้า
ร้านขายของในบ้านคนท้องถิ่น ในพื้นที่นากะฮาระ
ใกล้ๆ พื้นที่จัดงานของส่วนนากะฮาระนั่น มีบ้านของคนในพื้นที่เปิดเป็นร้านขายของชั่วคราว มีของหลากหลายให้เลือกชมไม่ว่าจะเป็นส้มที่เก็บได้สดๆ จากไร่หรือจะเป็นผลไม้ตระกูลส้มชนิดต่างๆ ของญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีภาชนะหรือกระเป๋าต่างๆ ที่ทำโดยคนพื้นที่ให้ได้เลือกซื้ออีกมากมาย
ปกติบ้านคนทั่วไปมักไม่ให้คนภายนอกเข้า หากแต่ว่าที่นี่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมได้ตามใจชอบ
ต้องบอกว่าเป็นกรณีพิเศษจริงๆ ที่เราจะได้เข้าเยี่ยมชมบ้านของคนญี่ปุ่นในระดับใกล้ชิดแบบนี้
เพื่อเพิ่มความสนุกในการชมดอกบ๊วย มารู้จักกับพันธุ์บ๊วยที่สวยสุดๆ 5 พันธุ์กัน!
ในสวนบ๊วยโซกะไบรินนั้น มีพืชพันธุ์บ๊วยปลูกอยู่กว่า 20 สายพันธุ์ แต่ในบทความนี้ได้คัดเลือกพันธุ์บ๊วยที่คิดว่าสวยสุดๆ 5 ชนิดจากทั้งหมดมาแนะนำให้รู้จักกัน!
1. จูโร่อุเมะ (Juuro-Ume/十朗梅)
จูโร่อุเมะนั้นเป็นบ๊วยสายพันธุ์หนึ่งที่มีการเก็บเกี่ยวในเมืองโอดาวาระมากที่สุดเป็นอันดับ 1 เพราะเป็นพันธุ์ที่นิยมนำไปแปรรูปเป็นบ๊วยดอง
โดยการเก็บเกี่ยวบ๊วยนั้นได้มีการสันนิษฐานกันว่าเริ่มมาจากยุคเซ็นโกคุ ที่เหล่าซามุไรได้ปลูกต้นบ๊วยไว้รอบๆปราสาทเพื่อไว้ใช้เป็นอาหาร โดยวัฒนธรรมการเก็บเกี่ยวนั้นยังได้ตกทอดมาเป็นการปลูกและดองบ๊วยจนมาถึงยุคปัจจุบัน
2. ชิรากะงะ (Shirakaga/白加賀)
ดอกของพันธุ์ชิรากะงะนั้นเมื่อเทียบกับดอกของจูโร่อุเมะแล้วจะมีกลีบของดอกที่มีขนาดใหญ่กว่าเป็นจุดสังเกตุ
ส่วนมากนิยมนำไปทำเหล้าบ๊วยหรือไซรัปบ๊วย
3. โรไบ (Roubai/蝋梅)
บ๊วยพันธุ์โรไบที่มีดอกเล็กๆ น่ารัก สีเหลือง ถึงจะมีชื่อว่าเป็นบ๊วยแต่หากสืบญาติกันจริงๆ เหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ในสกุลบ๊วย
4. โคไบ (Koubai/紅梅)
เป็นพันธุ์ที่มีดอกสีแดงโดดเด่น ที่ตัดกับบรรสีของท้องฟ้าครามได้อย่างงดงามจนลืมหายใจ
5. ชิดาเระอุเมะ (Shidare-Ume/しだれ梅)
ดอกของชิดาเระอุเมะนั้นหากได้เข้าไปดูใกล้ๆ ต่อให้ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องตื่นตะลึงในความสวยงามที่ราวกับเป็นผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวจากดอกไม้
สนุกไปกับอาหารและของฝากต่างๆ
ในงานนั้นยังมีโซนคาเฟ่เอาไว้ให้บริการสำหรับใครก็ตามที่เดิมชมความงามของดอกบ๊วยจนคอแห้ง โดยมีเครื่องดื่มหลากหลายอย่างเช่น น้ำบ๊วย เหล้าหวาน หรือน้ำผลไม้คั้นสด ไว้บริการ
การเดินชมความงามของดอกบ๊วยไปพลางรับประทานของอร่อย ก็ถือว่าเป็นวิธีการสนุกกับเทศกาลชมดอกบ๊วยอย่างหนึ่งเหมือนกันนะ
หรืออาจจะมีบางคนที่ชอบที่ชอบบรรยากาศครื้นเครงของงานมากกว่าดอกไม้บานสะพรั่งล้อมรอบก็เป็นได้
ในงานจึงเตรียมลานอาหารพร้อมของอร่อยๆ ไว้ให้บริการมากมายไม่ว่าจะเป็น อุด้ง ราเมง โอเด้ง ยากิโทริ หรือเมนูที่ทำจากบ๊วยก็มีให้ลองชิม
นอกจากส่วนของโรงอาหารแล้ว ยังมีสามารถชิมโมจิที่ตำกันใหม่ๆ การได้อร่อยกับความนุ่มของโมจิท่ามกลางกลิ่นหอมของบ๊วยนั้นต้องบอกว่าเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมกันเลยทีเดียว
ด้านฝั่งของของฝากก็ไม่ยอมน้อยหน้า มีทั้งเต้าเจี้ยวบ๊วย แยมบ๊วย หรือแยมผลไม้ต่างๆ ให้ได้เลือกกลับไปอีกมากมาย
ดอกบ๊วย สัญญาณที่บอกว่าฤดูใบไม้ผลิมาเยือนญี่ปุ่นแล้ว
ช่วงที่ดอกไม้จะบานนั้น มีทั้งปัจจัยของสถานที่และบรรยากาศ ทำให้แต่ละปีช่วงบานของดอกไม้นั้นแตกต่างกันไป
แต่บ๊วยนั้นถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีดอกบานเร็วที่สุดในบรรดาดอกไม้ทั้งหมดในฤดูใบไม้ผลิ
โดยปกติดอกบ๊วยนั้นจะเริ่มบานตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม จนไปถึงช่วงกลางเดือนของกุมภาพันธ์ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการชมดอกบ๊วย
หากมีโอกาสได้มาเยี่ยมเยียนญี่ปุ่นในช่วงนี้ ลองหาโอกาสมาสัมผัสบรรยากาศของฤดูใบไม้ผลิของญี่ปุ่นกันดูนะ
好奇心旺盛! I am very curious.
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง