Start planning your trip
แผนเที่ยวตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตอน หนึ่งวันในโตเกียว
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชอันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย เพื่อเป็นการน้อมระลึกถึงพระองค์ MATCHA ขอเสนอข้อมูลสถานที่ที่พระองคฺ์ท่านเคยได้เสด็จประพาสญี่ปุ่น โดยแบ่งเป็นสามตอนด้วยกัน เพื่อเป็นข้อมูลให้ชาวไทยได้มีโอกาสตามรอยพระบาทของพระองค์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 9 ในราชวงศ์จักรี ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย
ด้วยพระราชกรณียกิจที่ทรงตรากตรำเพื่อประชาชน และพระปรีชาสามารถอันโดดเด่น ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่เคารพเลื่องลือไปไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังทำให้คนทั่วโลกได้ซาบซึ้งถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่า King of Thailand
บัดนี้ชาวโลกได้สูญเสียพระองค์ท่านไปเสียแล้ว
แต่ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจนั้น เราชาวไทยย่อมระลึกถึงพระองค์ท่าน น้อมนำพระราโชวาทและพระราชดำรัสเป็นดั่งหางเสือนำทางชีวิตต่อไป
หนึ่งในพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่เกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นนั้นก็คือ การเสด็จประพาสประเทศญี่ปุ่นร่วมกับสมเด็จพระบรมราชินีนาถเมื่อวันที่ 27 พ.ค. – 5 มิ.ย. ปีพ.ศ. 2506 (ค.ศ. 1963)
ในครั้งนั้น ทรงมีพระประสงค์อยากชื่นชมวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมถึงความเจริญของญี่ปุ่น
จึงได้เสด็จประพาสสถานที่ต่างๆ ในญี่ปุ่น โดยใช้เวลาส่วนมากในจังหวัดเกียวโต
ในครั้งนี้ทีมงาน MATCHA ขอน้อมรำลึกถึงพระองค์ ด้วย 3 บทความตามรอยพระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยแบ่งเป็น ตอน หนึ่งวันในโตเกียว, หนึ่งวันในเกียวโต และข้อมูลตามรอยพระบาททั่วประเทศ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
แผนเที่ยวตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตอน ท่องเกียวโต
แผนเที่ยวตามรอยเบื้องพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ตอน ทั่วญี่ปุ่น
ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ตอน หนึ่งวันในโตเกียว
กรุงโตเกียวเป็นเมืองหลวงของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งย่อมเป็นเป้าหมายแรกในการเดินทางของหลายๆ คน
และที่นี่เป็นจุดหมายแรกของพระองค์ท่านด้วยเช่นกัน เนื่องจากเครื่องบินประทับได้ลงจอดที่สนามบินฮาเนดะ
พระองค์ท่านได้รับการต้อนรับจากสมเด็จพระจักรพรรดิ์ในสมัยนั้น และทรงได้พบกับสมเด็จพระจักรพรรดิ์อากิฮิโตะซึ่งเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ์องค์ปัจจุบันของญี่ปุ่น
โดยในขณะนั้นสมเด็จพระจักรพรรดิ์อากิฮิโตะยังทรงดำรงตำแหน่งมกุฎราชกุมาร
และทั้งสองพระองค์ต่างมีโอกาสได้พบปะจนเป็นพระสหายที่ดีต่อกันตราบจนวันสุดท้ายของชีวิต
ดังที่เราได้ทราบข่าวว่าสมเด็จพระจักรพรรดิ์อากิฮิโตะทรงเดินทางมาไหว้พระศพด้วยตนเอง และทรงไว้ทุกข์ให้อีกด้วยค่ะ
10:00 สัมผัส "คาบุกิ" ศิลปะการแสดงแบบญี่ปุ่นที่กินซ่า "คาบุกิสะ"
เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชประพาสญี่ปุ่น ทรงได้เข้าร่วมชมการแสดงแบบญี่ปุ่นที่เรียกว่า "คาบุกิ"
โดยโรงละครคาบุกิที่เลื่องชื่อที่สุดของโตเกียวก็คือ "คาบุกิสะ" ที่ตั้งอยู่ในกินซ่านี่เอง
ในครั้งนั้นพระองค์ได้ทอดพระเนตรการแสดงที่มีชื่อว่า "คุโระซึกะ" (黒塚)
ซึ่งเป็นเรื่องราวของเหล่านักบวชธุดงค์ได้พบและขอพักแรมที่บ้านของหญิงชราคนหนึ่ง
แท้จริงแล้วหญิงชราคนนั้นคือหญิงสาวที่ประสบเคราะห์ร้าย และสาปแช่งโลกมนุษย์จนกลายเป็นปีศาจกินคน
เป็นเรื่องการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่วร้าย รวมถึงจิตใจของตัวหญิงชราเอง
การเข้าชมละครคาบุกินั้นต้องใช้เวลายาวนานมาก ในการแสดงหนึ่งครั้งอาจกินเวลาตั้งแต่ 4 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นได้
แต่สำหรับคนที่ไม่อยากดูทั้งหมด ก็ยังมีตั๋วประเภทที่เรียกว่า "ฮิโตะมาคุมิเซกิ" (Hitomakuseki) หรือตั๋วสำหรับดูการแสดงเพียงแค่ตอนเดียว
นอกจากนี้สำหรับคนที่ไม่มีเวลาเข้าชม ที่นี่มีส่วนจัดแสดงให้ความรู้เรื่องคาบุกิ รวมถึงขายสินค้าของฝากแบบญี่ปุ่น สไตล์คาบุกิ ให้เลือกไปเป็นที่ระลึกกันอีกด้วยค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเรื่องการเข้าชมและตั๋วได้ที่ :
วิธีการเที่ยว「คาบูกิสะ」แบบไม่ต้องมีตั๋ว!
ชมคาบูกิเป็นครั้งแรกต้องที่「คาบูกิสะ」ย่านกินซ่า
12:00 ชมเรือนรับรองอาคันตุกะ พระราชวังอาคาซากะ
พระราชวังอาคาซากะ (Akasaka Palace) มีอาคารที่ชื่อว่า เกฮิงคัง (Geihinkan) ซึ่งแปลได้ว่า "เรือนรับรอง"
ที่แห่งนี้เป็นอาคารที่เอาไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองผู้มีความสำคัญสูงมาก
และในครั้งที่สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ก็ได้ประทับ ณ ราชวังนี้ในฐานะพระราชอาคันตุกะด้วยนั่นเอง
ปัจจุบันนี้พระราชวังอาคาซากะเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมได้หลายสิบวันต่อหนึ่งเดือน
แต่ในการเข้าชมนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน
สวนด้านหน้าราชวัง สามารถเข้าชมได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องจองล่วงหน้าใดๆ
แต่ถ้าหากอยากจะเข้าไปชมภายในอาคารแล้ว จะต้องจองล่วงหน้า และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ซึ่งจำเป็นต้องเช็คตารางว่าวันใดเปิดให้เข้าชมบ้าง และจองล่วงหน้าออนไลน์ประมาณ 2 เดือน (ระบุวันเปิดจองแต่ละรอบในเวบไซต์)
สิ่งที่ต้องระวังก็คือ การจองล่วงหน้านั้นไม่ได้แปลว่าจะได้เข้าชมอย่างแน่นอน เพราะหากมีจำนวนผู้ประสงค์เข้าชมมากกว่าที่รับได้ จะต้องทำการสุ่มผู้ได้เข้าชมในรอบนั้นๆ ผู้ที่ได้รับโอกาสจะได้รับอีเมล์แจ้งค่ะ
แต่ในบางรอบที่ยังมีที่ว่างเหลือ ก็อาจมีการเปิดให้จองเพิ่มเติม รวมถึงเปิดให้ผู้ที่ไม่ได้จองล่วงหน้าสามารถเข้าได้ด้วย
เนื่องจากว่านักท่องเที่ยวจากต่างชาติต้องวางแผนก่อน หากใครอยากจะเข้าชมความงดงามหรูหรา
และสถานที่ที่พระองค์ท่านเคยได้มาประทับ เราขอแนะนำให้เช็คตารางและจองล่วงหน้าผ่านเวบไซต์นี้เลยค่ะ
ในวันที่เข้าชม จำเป็นต้องพกพาสปอร์ตและอีเมล์ยืนยันมาด้วย
ส่วนเวลาที่เปิดให้เข้าชมนั้นแบ่งเป็นสองรอบต่อวัน คือรอบ 12:00 และ 14:00
ฉะนั้นหากท่านใดที่ไปชมคาบุกิหนึ่งตอนในช่วงเช้า ก็จะยังมาทันเข้าชมในรอบ 14:00 ได้เช่นกัน
(เวลาในการแสดงคาบุกิ ขึ้นอยู่กับเรีื่องที่แสดงในขณะนั้น โปรดตรวจสอบข้อมูล)
มีค่าเข้าชม 1,000 เยน (เด็กมัธยมศึกษาลงไป 500 เยน
และมีไกด์เสียงให้เช้าเป็นภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี ในราคา 200 เยนค่ะ
การเดินทาง : สถานี Yotsuya สาย JR Chuo หรือ Soubu ทางออก Akasakuguchi, รถไฟใต้ดินสาย Marunouchi ทางออก 1 หรืือ Namboku ทางออก 2
14:00 แวะเดินเล่นโอโมเตะซันโดะและฮาราจุกุ
จากนั้นแวะมายังบริเวณโอโมเตะซันโดะและฮาราจุกุกันค่ะ
แถวนี้เป็นแหล่งแฟชั่นและแหล่งชอปปิ้งขึ้นชื่อของญี่ปุ่น
ในบริเวณนี้อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับพระองค์ท่านโดยตรง แต่ในเขตนี้มีสถานรับเลี้ยงเล็กเด็กอ่อนอาโอยาม่าและสภากาชาดเขตชิบุย่า ซึ่งสมเด็จพระบรมราชินีนาถได้เสด็จเยี่ยมชมในครั้งประพาสร่วมกับพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
เนื่องจากสถานที่สองแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยว ทาง MATCHA เราจึงขออนุญาตนำเสนอเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวในเขตเดียวกันค่ะ
แต่เหตุที่เราแนะนำโอโมเตะซันโดะและฮาราจุกุไม่ใช่เพียงเท่านั้น
เพราะเมื่อครั้งที่พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จประพาสญี่ปุ่น พระองค์ได้ทรงร่วมพิธีชงชาแบบญี่ปุ่นด้วย
สาเหตุอีกอย่างที่เราแนะนำโอโมเตะซันโดะ ก็เพราะว่าภายในห้างโอโมเตะซันโดะฮิลส์นั้น มีร้านชาเขียวที่ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ชงชาด้วยค่ะ
ภายในห้างโอโมเตะซันโดะฮิลส์จะมีโซนสวนในชื่อว่า Urasando Garden ในนั้นมีร้านชาเขียวที่ให้บริการทดลองชงชาด้ว นั่นก็คือร้าน Uji-en (อุจิเอน)
เมื่อมาถึงบริเวณนี้ทั้งที เราก็ได้โอกาสแวะชอปปิ้ง หรือทานอาหาร
และยังสามารถแวะดื่มชา ทานขนม พร้อมสัมผัสประสบการณ์ชงชาซึ่งเป็นหนึ่งกิจกรรมที่พระองค์ท่านเคยเข้าร่วมด้วยเช่นกันค่ะ
อ่านเพิ่มเติมเรื่อง Ursando Garden และ ร้าน Uji-en ได้ที่ :
เรียนรู้ความรู้พื้นฐานของ ซะโด(พิธีชงชาญี่ปุ่น) และสถานที่เปิดประสบการณ์ซะโด
แซ่บนัวกับอาหารญี่ปุ่น&วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ในคราวเดียว!! ที่ โอะโมะเทะซังโด 「อุระซังโด การ์เด้น」
NHK Hall ที่เคยบรรเลงเพลงของพ่อและ NHK Studio Park
เมื่อเดินมาถึงหน้าสถานี JR ฮาราจุกุจะพบกับศาลเจ้าเมจิจินกู
และเลยไปอีกหน่อยจะพบกับสวนสาธารณะโยโยงิ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่มากของโตเกียว
สองสถานที่นี้ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เราอาจแวะเดินเล่นพลางก่อนจะถึงจุดหมายต่อไป
นั่นก็คือ NHK Hall ที่ตั้งอยู่ภายในสวนสาธารณะโยโยงิค่ะ
ฮอลแห่งนี้เคยได้รับเกียรติ์ให้บรรเลงดนตรีถวายต้อนรับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
โดยวงดนตรีคลาสสิคของ NHK เอง ในครั้งนั้นได้บรรเลงทั้งเพลงคลาสสิค เพลงของญี่ปุ่น รวมไปถึงเพลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ท่านอีกด้วย
น่าเสียดายที่ฮอลแห่งนี้ไม่ได้เปิดให้เข้าชมโดยอิสระตลอดเวลา และจะสามารถเข้าได้เมื่อมีงานเท่านั้น
ปัจจุบันนี้ NHK Hall มีกิจกรรมจัดอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะคอนเสิร์ตต่างๆ รวมไปถึงเป็นสถานที่จัดงานประชันเพลงขาวแดงต้อนรับปีใหม่ของทุกปีด้วยค่ะ
แต่อาคารข้างๆ กันเป็นที่ตั้งของ NHK Studio Park ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงให้ความรู้เรื่องสื่อโทรทัศน์ของ NHK ในแบบสนุกสนาน เข้าชมได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
รวมไปถึงมีกิจกรรมต่างๆ น่าสนใจ ให้ทดลองเป็นผู้สื่อข่าว หรือทำอนิเมชั่น พากย์การ์ตูนด้วย
และมีประวัติของ NHK ประวัติการถ่ายรายการ ฉายละครต่างๆ
หากใครเป็นแฟนผลงานของ NHK หรือเดินทางแบบมีเด็กๆ มาด้วย ก็สามารถสนุกสนานไปได้พร้อมๆ กันทั้งครอบครัวด้วยค่ะ
สำหรับข้อมูลของ NHK Hall และ NHK Studio Park สามารถเข้าไปดาวน์โหลดเอกสารได้ที่เวบไซต์ของ NHK ค่ะ
อ่านเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่อยากอ่านเพิ่มเติมเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบนี้ :
「ศาลเจ้าเมจิ」ที่ ฮาราจูกุ สถานที่ซึ่งสามารถสัมผัสถึงหัวใจของชาวญี่ปุ่นได้ คือ
ไกด์พาเที่ยวฮาราจูกุตั้งแต่วิธีการเดินทางไปจนถึงร้านค้าแฟชั่นแนะนำ
Yoyogi Park: Harajuku's Secret Sanctuary
ส่งท้าย
โตเกียว เป็นเมืองที่เรียกได้ว่าเป็นจุดหมายแรกๆ ของนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่มีความพิเศษต่อชาวไทยในแง่ที่ เป็นเมืองที่พระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักเคยเสด็จมาเยือนและประทับอีกด้วย
ในการตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในโตเกียวนี้ เราได้ทำแผนแบบง่ายๆ ที่จะให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถตามรอยพร้อมกับเที่ยวไปด้วยได้
แต่ในบทความต่อไปที่เราจะนำเสนอ "หนึ่งวันในเกียวโต" นั้น ล้วนแล้วจะเป็นสถานที่ตามรอบพระบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทั้งหมด
เนื่องจากพระองค์มีพระประสงค์อยากจะสัมผัสกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น ทำให้การเดินทางของพระองค์ไปรวมกันอยู่ที่เมืองหลวงเก่าอย่างเกียวโตเสียเยอะค่ะ
แม้เวบไซต์ MATCHA ของเราจะเป็นเวบไซต์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่น
แต่ด้วยความปรารถนาของเราที่อยากจะระลึกถึงพระองค์ท่าน ทำให้เราเลือกเก็บและนำเสนอข้อมูลการท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มีความเกี่ยวเนื่องกับพระราชกิจและพระราชจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
หากบทความของเราทำให้ผู้อ่านได้หวนนึกถึงพระองค์ท่าน เพียงเท่านี้ก็เป็นความยินดีอย่างสุดซึ้งของเราแล้วค่ะ
สถิตอยู่ในใจตราบนิรันดร์
น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้
ข้าพระพุทธเจ้า Matcha เว็บไซต์แมกกาซีนแนะนำการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง