Start planning your trip
3 คาเฟ่ในชินจูกุที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ สะดวกสบายใจ ไร้ข้อจำกัดด้านรสนิยมทางเพศ
ชินจูกุนิโจเมะที่รู้จักทั่วโลกว่าเป็นย่านเกย์ที่เต็มไปด้วยบาร์และร้านอิซากายะ แต่อาจหาร้านที่เปิดช่วงกลางวันยาก บทความนี้ขอแนะนำคาเฟ่ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ ใกล้ชินจูกุนิโจเมะ 3 แห่ง คาเฟ่ที่ไม่จำกัดรสนิยมทางเพศ เปิดบริการแก่ทุกคนในบรรยากาศสบายๆ
ตามหาแหล่งพักผ่อนที่สบายใจไม่จำกัดรสนิยมทางเพศ
ชินจูกุนิโจเมะ (Shinjuku 2-chome) เป็นย่านที่ผู้มีความหลากหลายทางเพศมารวมตัวกัน เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะย่านเกย์ที่มีชื่อเสียง มีบาร์ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ หลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่เปิดให้บริการตั้งแต่ตอนเย็นถึงกลางคืน ผู้ที่อยากแวะพักตอนกลางวันคงลำบากในการหาร้านน่าดูค่ะ
ดังนั้นในบทความนี้ ผู้เขียนขอแนะนำคาเฟ่ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ ในชินจูกุ 3 แห่งที่เปิดให้บริการตอนกลางวัน เป็นร้านกาแฟที่ยินดีต้อนรับผู้คนต่างๆ โดยไม่มีการจำกัดเพศหรือการแบ่งแยกต่างๆ อย่างสัญชาติแต่อย่างใด
สารบัญ
- 1. CoCoLo Cafe คาเฟ่ที่เป็นมิตรกับ LGBTQ ร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี!
- 2. ดงโยคุ (Donyoku) ออนเซ็นเท้า คาเฟ่ & บาร์ สถานที่ปลดปล่อยจากการแบ่งแยกใดๆ
- 3. Shinjuku Dialog คาเฟ่เพื่อความยั่งยืน (SDGs Café) ที่ “ไม่เคยทอดทิ้งใคร"
1. CoCoLo Cafe คาเฟ่ที่เป็นมิตรกับ LGBTQ ร้านเก่าแก่ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี!
โคโคโรคาเฟ่ (CoCoLo Café) เปิดในปี 2001 กล่าวกันว่าเป็นคาเฟ่ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ แห่งแรกในญี่ปุ่น ที่นี่เป็นหนึ่งในฉากของละครเรื่อง "Kino Nani Tabeta? (เมื่อวานเจ๊ทานอะไร?)" ละครที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตของคู่รักเกย์โดยมีฉากการทำและกินอาหารในชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นเป็นหลัก
เหตุผลที่เปิดคาเฟ่เป็นเพราะผู้บริหารรุ่นแรกซึ่งเป็นชาว LGBTQ คิดว่า "อยากเปิดคาเฟ่ที่ทุกคนใช้บริการได้อย่างสะดวกสบายใจ ไร้ข้อจำกัดเรื่องรสนิยมทางเพศส่วนบุคคล" ปัจจุบันพนักงานที่ทำงานก็เป็นผู้มีความหลากหลายทางเพศ
ภายในร้านเป็นโทนสีเหลืองในบรรยากาศป๊อป ใช้มีแสงไฟอ่อนๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เวลาที่มีอีเวนท์ใกล้ ผู้คนมากมายจะใช้เป็นจุดแวะพบก่อนและหลังงานอีเวนท์ด้วย
ใกล้ๆ ทางเข้าจะมีใบปลิวและแผ่นพับงานอีเวนท์เกี่ยวกับชาว LGBTQ และนามบัตรร้านค้าใกล้เคียง รวมทั้งหนังสือวางอยู่ด้วย ท่านที่สนใจเชิญหยิบมาดูได้เลยค่ะ
มีเมนูอาหารกลางวันและขนมหวานมากมายเต็มอิ่ม! เมนูยอดนิยมขนาดใหญ่ยักษ์
ทรอปิคอลพาร์เฟต์ (Tropical Parfait) สำหรับ 2 คน (ราคารวมภาษี 1,360 เยน) Picture courtesy of CoCoLo Cafe
ช่วงเวลาคาเฟ่ของร้าน มีเมนูแนะนำพาร์เฟต์ใหญ่ยักษ์ขนาด 2 เท่าของไซส์ปกติ! จะเป็นลูกค้า 2 ท่านหรือท่านเดียวที่อยากกินแบบจัดเต็มก็สั่งได้เลยนะคะ
เมนูจะเปลี่ยนไปทุกเดือน เช่น เดือนสิงหาคมเป็นทรอปิคอล แฟชชั่น พาร์เฟต์ (Tropical Passion Parfait) ที่ใช้ผลไม้ฤดูร้อนอย่างเสาวรส และเดือนกันยายนเป็นแอปเปิ้ลคาราเมลพาร์เฟต์ (Apple Caramel Parfait) ที่ทำจากแอปเปิ้ล เมนูทั้งหมดพนักงานคิดและปรุงขึ้นเองด้วยฝีมือ พาร์เฟต์ที่เต็มไปด้วยความตั้งใจจึงสวยงาม เหมาะที่จะถ่ายไปลงโซเชียลมีเดียมากค่ะ
Picture courtesy of CoCoLo Cafe
CoCoLo Plate (ราคารวมภาษี 1,000 เยน) เป็นเมนูอาหารกลางวันประจำสัปดาห์ยอดนิยม วันธรรมดาร้าจะคึกคักไปด้วยพนักงานออฟฟิศในละแวกใกล้ๆ ที่เล็งอาหารจานนี้กันทั้งนั้น ส่วนตอนกลางคืนจะมีอาหารนานาชาติหลากหลายให้บริการเพียบอย่างอาหารเอเชีย พิซซ่า และพาสต้าค่ะ
ลูกค้าราว 30 - 40% เป็นชาวต่างชาติ จึงมีเมนูภาษาอังกฤษ พนักงานยังสื่อสารภาษาอังกฤษง่ายๆ ได้ ท่านที่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ก็สามารถสั่งอาหารและใช้บริการได้อย่างสบายใจค่ะ
2. ดงโยคุ (Donyoku) ออนเซ็นเท้า คาเฟ่ & บาร์ สถานที่ปลดปล่อยจากการแบ่งแยกใดๆ
ดงโยคุ (Donyoku) ออนเซ็นเท้า คาเฟ่ & บาร์ เปิดในปี 2018 ภายใต้แนวคิด "สถานที่ซึ่งให้ความสำคัญกับ Personality (ความเป็นตัวเอง) มากกว่า Sexuality (รสนิยมทางเพศ)" โดยมีเป้าหมายเป็นสถานที่ซึ่งผู้คนทุกรสนิยมทางเพศไม่จำกัดเชื้อชาติ อายุ หรือความพิการทางกาย สามารถมาใช้บริการได้อย่างสบายใจ
คุณนากามูระ ผู้จัดการร้านดงโยคุยังบริหาร “โดโรบุเนะ (Dorobune) เทปันยากิ & บาร์สำหรับผู้หญิง” ร้านอิซากายะเฉพาะผู้มีอัตลักษณ์ทางเพศเป็นผู้หญิง ซึ่งร้านอยู่บนชั้นเดียวกันของอาคาร ในระหว่างที่บริหารร้าน คุณนากามูระรู้สึกได้ว่า "การแบ่งรสนิยมทางเพศนั้นจำเป็น แต่การให้ความเคารพความเป็นตัวเองของแต่ละบุคคลโดยไม่มีการแบ่งแยกก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน"
จากบรรยากาศการตกแต่งในร้านสะท้อนให้เห็นถึงความอ่อนโยนใส่ใจของคุณนากามูระที่ต้องการให้ลูกค้าแต่ละคนมีช่วงเวลาที่สะดวกสบายใจ
ออนเซ็นเท้ามีระบบกรองและฆ่าเชื้อ สำหรับท่านที่ไม่อยากถอดถุงเท้าแช่แบบเท้าเปล่า ก็มีบริการถุงเท้าพลาสติกให้เช่าด้วยค่ะ
อย่างที่นั่งพร้อมออนเซ็นแช่เท้าซึ่งหายากในคาเฟ่ เรียกได้ว่า เป็นสถานที่สร้างการแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ กับผู้คนหลากหลาย โดยช่วยสร้างบรรยากาศให้เราพูดคุยกับผู้คนต่างๆ ในร้านได้สบายๆ
“การพูดคุยกับคนที่เจอกันครั้งแรก เราจะรู้สึกเกร็งๆ แต่ฉันรู้สึกว่าการได้แช่ออนเซ็นเท้า ทำให้ร่างกายเราอบอุ่น ผ่อนคลาย และทำให้การพูดคุยมีชีวิตชีวาขึ้น”
ที่นั่งแบบต่างๆ ในร้านลูกค้าสามารถเลือกนั่งหรือโยกย้ายได้อย่างอิสระ อย่างเปลญวนก็มี ทำให้รู้สึกได้ถึงความใส่ใจของทางร้านโดยให้ความเป็นกันเองเพื่อให้ลูกค้ามาใช้บริการได้อย่างสบายใจ
ค่าธรรมเนียมการแช่ออนเซ็นเท้า
วันพุธ วันพฤหัสบดี และวันศุกร์
เวลา 11:30 - 14:00 : ฟรี
เวลา 14:00 - 23:00 : ราคา 790 เยนต่อคน (ไม่รวมภาษี)
รวมเมนู "ของอร่อย" ไม่ยึดติดกับการแบ่งแยก
บั๋นหมี่ ใส่แฮมไก่ ผักดอง ซอสผักชี ไข่เจียวใส่เนื้อกมั้ม (น้ำปลาเวียดนาม) ราคาไม่รวมภาษี 890 เยน ราคาแตกต่างกันตามประเภทของไส้
อาหารที่แนะนำคือ บั๋นหมี่ (Banh mi) แซนวิชเวียดนาม นอกจากไส้แฮมไก่ที่เป็นเมนูพื้นฐานแล้ว ยังมีใส้โรสต์บีฟ ชิลลี่ คอน คาร์เน (Chili con carne - สตูว์สไตล์เท็กซัส) และบั๋นหมี่วีแกน
ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมสดชื่นของผักชี แฮมไก่ และรสเปรี้ยวอ่อนๆ ของผักดองนามาซุ (* 1) เข้ากันมาก ทำให้ได้บั๋นหมี่แสนอร่อย ท่านที่ไม่ชอบผักชีสามารถบอกให้ไม่ใส่ได้ค่ะ
* 1: นามาซุ ... แครอทและหัวไชเท้าซอยเป็นเส้นๆ ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู
เรฉะ (Reicha) ในภาษาจีนแคะออกเสียงว่า "เหล่ยฉา" เป็นชาพื้นเมืองของชาวจีนแคะจากไต้หวัน ชงจากถั่วและธัญพืชต่างๆ กว่า 20 ชนิดนำมาบดจนละเอียด มีรสหวานน้อยๆ
คุณนากามูระกล่าวว่า “มีลูกค้าที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะมากันบ่อย ทางเราจึงจัดเตรียมเมนูแบบคาเฟ่ไว้เยอะเลย” เมนูแนะนำคือเรฉะ (ราคาไม่รวมภาษี 690 เยน) ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และอามาซาเกะลาเต้ (Amazake Latte) แบบโฮมเมด (ราคาไม่รวมภาษี 640 เยน) นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ อีกเกือบ 40 รายการ
อาหารที่แนะนำล้วนเป็นสุดยอดเมนูที่คัดสรรตามมาตรฐาน "ความอร่อย" ของคุณนากามูระ มีเมนูแปลกน่าสนใจมากมาย ลองแวะไปชิมดูนะคะ
3. Shinjuku Dialogue คาเฟ่เพื่อความยั่งยืน (SDGs Café) ที่ “ไม่เคยทอดทิ้งใคร"
ชินจูกุไดอาล็อก (Shinjuku Dialogue) คือคาเฟ่ที่เป็นมิตรกับชาว LGBTQ ชาวมังสวิรัติ ชาววีแกน และเป็นมิตรกับโลกด้วย
อาหารและเครื่องดื่มของที่นี่ใช้วัตถุดิบในประเทศมีหลากหลายเมนูอยากให้คุณลองมาชิม คุณโนมุระ ผู้จัดการร้านตระเตรียมวัตถุดิบอย่างเข้มงวด ด้วยความคิดว่า "อยากให้ลูกค้าได้กินอาหารดีๆ เพื่อสุขภาพ"
อามาซาเกะทีลาเต้ (Amazake Tea Latte) เครื่องดื่มยอดนิยม (650 เยนราคารวมภาษี) ใช้นมถั่วเหลือง ท่านที่เป็นวีแกนสามารถก็เอร็ดอร่อยได้ มีทั้งในแบบร้อนและเย็น ถ้าเป็นแบบเย็นจะมีหลอดสแตนเลสให้ใช้เพื่อแสดงถึงความใส่ใจต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ
สั่งเครื่องดื่มเท่ากับช่วยเหลือสังคม! กับแนวคิดในการสนับสนุน SDGs
ภายในร้านมีกล่องเล็กๆ 17 กล่องแขวนอยู่บนผนังเป็นรูปชิงช้าสวรรค์
เมื่อลองมองกล่องแต่ละใบจะมีเขียนเป้าหมายของ SDGs (Sustainable Development Goals - เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน) ที่กำหนดโดยสหประชาชาติไว้ เมื่อสั่งเครื่องดื่ม 1 แก้วเท่ากับได้บริจาคเงิน 50 เยนให้กับองค์กรที่สนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับ SDGs
คุณโนมุระกล่าวว่า เราทำกล่องเล็กๆ นี้วางไว้ในร้าน เพราะอยากสร้างบรรยากาศการสนทนาให้ลูกค้าหรือคิดถึงเรื่อง SDGs ในระหว่างที่คิดว่า "จะเลือกหัวข้อไหนดีนะ" เพราะเมื่อลูกค้าสั่งเครื่องดื่มคิดเงินแล้วจะได้รับฝาขวด เพื่อนำไปวางในกล่องเป้าหมายที่ต้องการสนับสนุนให้สำเร็จ
คาเฟ่จะเปลี่ยนเป็นบาร์ตั้งแต่เวลา 18:00 มีคุณชุน ชาวข้ามเพศทำหน้าที่เป็นบาร์เทนเดอร์ การสั่งเครื่องดื่มส่วนของบาร์นี้ก็สามารถร่วมบริจาคเงินได้เช่นกัน ดังนั้นถ้าไม่ท่านที่ไม่สะดวกช่วงกลางวันก็ลองแวะไปช่วงค่ำๆ นะคะ
มองหาสถานที่ที่คุณสามารถเป็นตัวของตัวเอง
ด้านนอกของ CoCoLo Cafe
บางคนชอบสนุกสนานสุดเหวี่ยงช่วงกลางคืน แต่บางทีก็อยากนั่งเมาท์มอยสบายๆ กับคู่รักหรือเพื่อน คาเฟ่ที่แนะนำในบทความนี้เป็นสถานที่เหมาะอย่างยิ่ง
ทั้ง 3 ร้านตั้งอยู่ใกล้กับชินจูกุนิโจเมะ เชิญแวะมาค้นหาสถานที่ที่คุณสามารถใช้บริการอย่างสะดวกสบายใจนะคะ
In cooperation with CoCoLo Cafe, Donyoku, and Shinjuku Dialogue.
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง