แผนเที่ยวเกียวโต (Kyoto) แบบรวบรัดใน 2 วัน

ตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในเกียวโตภายใน 2 วัน……วัดคินคาคุจิ ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ และวัดเรียวอันจิ

เกียวโต เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่สามารถเพลิดเพลินได้ทั้งคนที่เคยมาเยือนญี่ปุ่นหลายครั้งแล้วหรือคนที่เพิ่งเคยมาเยือนเป็นครั้งแรก ถ้าเกิดได้มาเที่ยวเกียวโต เพื่อนๆจะไปเที่ยวที่ไหนกันบ้างเอ่ย? ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำแผนตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวหลักๆในเกียวโตแบบรวบรัดภายใน 2 วันกันค่ะ ^^

เช้าวันที่ 1 Fushimi Inari-taisha (ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ)

จาก ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ โทริอิพันต้นนั้น ต้องเป็นประตูสู่อีกโลกแน่ๆ

วันแรกเรามาประเดิมกับเขตฮิกาชิยามะของ จ.เกียวโตกันก่อนเลยค่ะ แหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกที่เราจะมาเยือนกันในวันนี้ก็คือ Fushimi Inari-taisha (ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะ) นั่นเอง ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะซึ่งเป็นที่ตั้งของเสาโทริอินับพันนับหมื่นต้นแห่งนี้ได้รับเลือกให้เป็นอันดับ 1 ของแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเว็บไซต์ท่องเที่ยว TripAdvisor เลยทีเดียว ที่นี่มีเสน่ห์อยู่ที่สามารถเดินทางมาจากสถานีเกียวโตได้โดยใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นนี่แหละ

เที่ยงวันที่ 1 Kennin-ji (วัดเคนนินจิ) ・Kōdai-ji (วัดโคไดจิ)

Photo by pixta
Kennin-ji (วัดเคนนินจิ) ซึ่งเป็นวัดเซ็นที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโตแห่งนี้มีเสน่ห์อยู่ที่สถาปัตยกรรมอันแสนเรียบง่ายและสวนบรรยากาศเก่าแก่เลยค่ะ นอกจากนี้ ภาพเขียนพู่กันหมึกจีนที่วาดลงบนประตูเลื่อนกรอบไม้นั้นดูงดงามทรงพลังน่าประทับใจสุดๆ ยังไงเพื่อนๆก็อย่าพลาดมาชมกันให้ได้นะคะ

จาก Inari Station ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไทฉะเกียวโตมุ่งหน้าไปยัง Tōfukuji Station ด้วย JR Nara Line กันเลย... หลังจากนั้น จาก Tōfukuji Station ก็นั่งรถไฟสาย Keihin Main Line ต่อมายัง Gion Shijo Station โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีและเดินต่ออีกประมาณ 7 นาที

Photo by pixta
Kōdai-ji (วัดโคไดจิ) ที่ตั้งอยู่ภายในเขตฮิกาชิ จ.เกียวโตแห่งนี้เป็นวัดที่สามารถสัมผัสความงดงามตลอดทั้ง 4 ฤดูกาลได้ โดยเฉพาะฤดูใบไม้ร่วงเป็นอะไรที่งดงามมาก แถมเรายังสามารถชมสวนญี่ปุ่นพลางจิบชาเขียวชิลล์ๆที่ Ungoan ในวัดโคไดจิได้ด้วยนะเออ...

โดยเราสามารถเดินจากวัดเคนนินจิมายังวัดโคไดจิได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที

เย็นวันที่ 1 Kiyomizu-dera (วัดคิโยมิสึ)

จาก หากได้มาเกียวโตแล้วละก็ ควรจะไปเยือน「วัดคิโยะมิซุ แห่งภูเขาโอโทะวะ」

เมื่อเอ่ยถึงแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในเกียวโตแล้วก็ต้องนึกถึง Kiyomizu-dera (วัดคิโยมิสึ) อย่างแน่นอน ในฤดูใบไม้ผลิที่สามารถชมดอกซากุระและฤดูใบไม้ร่วงที่สามารถเพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีได้นั้น ตั้งแต่ช่วง 6 โมงเย็นเป็นต้นไปจะมีการไลท์อัพจนเกิดเป็นทัศนียภาพงดงามมากค่ะ ทางวัดเปิดให้เข้าสักการะจนถึง 6 โมงเย็นก็จริง แต่บางช่วงเวลาก็เปิดให้สักการะในตอนกลางคืนได้ด้วย เนื่องจากช่วงเวลาสักการะภาคกลางคืนนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่ละฤดูกาล จึงควรเช็คล่วงหน้าให้ดี โดยเราสามารถเดินจากวัดโคไดจิมาถึงได้โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที

ฤดูใบไม้ผลิ
12 – 21 มีนาคม (ผู้สนับสนุนพิเศษ : งานอีเว้นท์ Kyoto Higashiyama Hanatouro)
26 มีนาคม – 10 เมษายน 18.00 น. (เปิดประตู) – 21.00 น. (ปิดเคาน์เตอร์รับรอง)

ฤดูร้อน
14 – 16 สิงหาคม (Sennichi-mairi / เปิดให้เข้าสักการะพิเศษภายในโบสถ์เป็นกลุ่มอย่างเงียบสงบ) 19.00 น. (เปิดประตู) – 21.00 น. (ปิดเคาน์เตอร์รับรอง)

ฤดูหนาว
12 พฤศจิกายน – 4 ธันวาคม 18.00 น. (เปิดประตู) – 21.00 น. (ปิดเคาน์เตอร์รับรอง)

การสักการะภาคกลางคืนนั้นต้องรอหลังจากปิดเคาน์เตอร์รับรองภาคปกติ (ภาคกลางวัน) ก่อนแล้วจึงเปิดประตูอีกครั้งหลังเตรียมการสักการะพิเศษสำหรับภาคกลางคืนเสร็จ

※ ทางวัดเปิดให้เข้าสักการะภาคกลางวันจนถึงเวลา 17.30 น.

กลางคืนวันที่ 1 Hanamikoji Street (ถนนฮานามิโคจิ)

จาก เดินเล่นที่ "กิอง ในยามค่ำคืน" ความสวยงามของเมืองที่ต่างจากตอนกลางวัน

Hanamikoji Street (ถนนฮานามิโคจิ) คือ ถนนสายหลักของย่านกิองในเกียวโต โดยเรียงรายไปด้วยร้านอาหารและร้านโอชะยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวหรือคนญี่ปุ่นเองก็สามารถเพลิดเพลินกับอาคารบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์เกียวโตได้ทั้งนั้น เนื่องจากช่วงกลางคืนจะมีบรรยากาศแตกต่างจากช่วงกลางวัน จึงขอแนะนำให้ลองมาชมกันดูให้ได้สักครั้งค่ะ ^^

โดยเราสามารถเดินมาจากวัดคิโยมิสึได้โดยใช้เวลาประมาณ 25 นาที หรือถ้าเกิดเดินมาจาก Gion Shijo Station ก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

เช้าวันที่ 2 Kinkaku-ji (วัดคินคาคุจิ)

วันที่ 2 เราจะมาตระเวนเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวทางฝั่งเหนือของเกียวโตกันค่ะ

Kinkaku-ji (วัดคินคาคุจิ) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียวโตนั้นมีตัวสถาปัตยกรรมอันแสนเรียบง่าย แต่กลับดูงดงามจนน่าขนลุกเลยทีเดียว วัดคินคาคุจิได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น 1 ใน「 สมบัติทางวัฒนธรรมของเกียวโต」โดยองค์กรยูเนสโก เมื่อเดือนธันวาคมปี 1994

ส่วนวิธีการเดินทางไปยังวัดคินคาคุจิก็เพียงแค่นั่งรถไฟสาย JR Sagano Line จาก สถานีเกียวโตไปยัง Enmachi Station และนั่งรถบัสเมืองเกียวโตไปลงป้าย Kinkakuji-michi แล้วเดินต่ออีก 3 นาทีก็ถึงแล้วล่ะค่ะ โดยใช้เวลาในการเดินทางมาจากสถานีเกียวโตประมาณ 25 นาที

เที่ยงวันที่ 2 Ryōan-ji (วัดเรียวอันจิ)

จาก [วิวสวย] สวนญี่ปุ่นแนะนำ 5 แห่งที่คนมาเที่ยวญี่ปุ่นต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง

ไฮไลท์ของ Ryōan-ji (วัดเรียวอันจิ) อยู่ที่สวนสไตล์ คาเรซันซุย (สวนหินญี่ปุ่น) นี่แหละ มองเผินๆแล้วอาจดูเหมือนสวนธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงแล้วตำแหน่งการจัดวางหินและจำนวนหินนั้นแฝงความหมายเอาไว้อย่างแยบยล ทำให้ที่นี่โด่งดังไปทั่วโลกเลยทีเดียว

ส่วนวิธีการเดินทางจากวัดคินคาคุจิมายังวัดเรียวอันจิก็เพียงแค่นั่งรถบัสสาย 59 For Yamagoenakacho จากป้าย Kinkakuji-mae ไปลงป้าย Ryoanji-mae โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น

บ่าย - เย็นวันที่ 2 Kyoto International Manga Museum (พิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติเกียวโต)

Photo by pixta
Kyoto International Manga Museum (พิพิธภัณฑ์มังงะนานาชาติเกียวโต) นั้นรีโนเวทมาจากโรงเรียนที่ปิดตัวลงไปแล้ว ที่นี่เป็นแหล่งรวมผลงานหนังสือการ์ตูนมังงะกว่า 3 แสนชิ้น เนื่องจากมีโซน “นิทรรศการมังงะ” ที่แนะนำหนังสือการ์ตูนมังงะญี่ปุ่นที่ได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆและมังงะจากทั่วโลก เช่น ฝรั่งเศส สเปน และเกาหลี ด้วย นักท่องเที่ยวอย่างเราๆจึงสามารถเพลิดเพลินได้อย่างจุใจ

แถมเรายังสามารถนั่งอ่านมังงะบนสนามหญ้าอันเขียวชอุ่มได้ด้วยนะเออ... เพื่อนๆลองมาหาอ่านหนังสือการ์ตูนที่ชอบกันดูมั้ยเอ่ย?

ส่วนวิธีการเดินทางจากวัดเรียวอันจิมาที่นี่เพียงแค่เดินไปยังป้ายรถบัส Ritsumeikan Daigaku-mae ประมาณ 7 นาทีเพื่อขึ้นรถบัส For Shijō Kawaramachi・Sanjō Keihan ไปลงป้าย Karasuma Oike (ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 30 นาที) แล้วเดินต่ออีก 3 นาที

ขอให้เพื่อนๆเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวเกียวโตที่เต็มไปด้วยไฮไลท์มากมายแห่งนี้กันนะคะ ^^