อันดับ 2 ในโตเกียว！"ตลาดอะดาจิ" แถบคิตะเซนจุ เที่ยวชมตลาดสดที่ไม่ได้มีแค่ที่ซึคิจิ

อาหารที่ทำจากปลาในญี่ปุ่นเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก เคล็ดลับของความอร่อยคือวัตถุดิบสดใหม่ ซึ่งเบื้องหลังนั้นมีที่มาจากความพยายามของตลาดและพ่อค้าคนกลางที่ทำงานเช้าค่ำ เพื่อส่งวัตถุดิบสดๆ ให้ถึงมือพ่อครัวให้เร็วที่สุด

ที่ที่เราจะสามารถตามไปดูการทำงานของคนเหล่านี้ได้ คือตลาดขายส่ง(Oroshiuri shijo)ที่มีอยู่หลายแห่ง แค่ในเขตโตเกียวก็มีจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือตลาดปลาซึคิจิที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุด และเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างดี ในอีกมุมหนึ่ง ตลาดที่แทบจะไม่เป็นที่รู้จักจนน่าประหลาดใจเลยก็คือ ตลาดอะดาจิที่อยู่แถบคิตะเซนจุ เขตอะดาจิ แม้จะเป็นตลาดที่ขายส่งอาหารทะเลในโตเกียวเป็นอันดับ 2 รองจากตลาดซึคิจิ เมื่อเทียบกันแล้ว กลับไม่ค่อยมีคนต่างชาติแวะเวียนไปเยือนเท่าไรนัก

"วันตลาดอะดาจิ" ที่จัดขึ้น 2 เดือน 1 ครั้ง เป็นช่วงที่คนที่ไม่ได้ทำอาหารเป็นอาชีพก็สามารถไปซื้อของที่ตลาดอะดาจิได้

ในครังนี้เราจะแนะนำเสน่ห์ของตลาดอะดาจิให้ผู้อ่านรู้จัก โดยผ่านการใช้บริการทัวร์ของ Emblem Hostel Nishiarai

ตลาดอะดาจิ คือ

ตลาดอะดาจิเป็นตลาดขายส่งที่เน้นขายให้กับร้านอาหารและร้านขายของเป็นส่วนใหญ่ เปิดที่คิตะเซนจุมาตั้งแต่ปี 1945 ในตลาดแบ่งออกเป็นหลายๆ โซน ที่ตลาดขายส่งจะขายมากุโระ, อาหารทะเลสด (ปลา, หอย, กุ้ง, หมึก และอื่นๆ) และอาหารเค็มตากแห้ง (แซลมอน, อาหารแห้ง, ไข่ปลา เป็นต้น) ที่ตลาดขายสินค้าทั่วไปจะขายผัก ผลไม้, ของดอง, ปลาคัตสึโอะตากแห้ง, สาหร่ายคอมบุ, เนื้อสัตว์ เป็นต้น ภายในตลาดจะมีร้านอาหารอุโอกาชิไว้สำหรับบริการลูกค้าที่มาซื้อของ ไม่ใช่แค่จับจ่ายซื้อสินค้าอย่างเดียว แต่สามารถเพลิดเพลินกับการรับประทานอาหารได้ด้วย

"วันตลาดอะดาจิ" ที่จัดขึ้นทุกวันเสาร์ที่สองของเดือนเลขคี่ ไม่ว่าใครก็มาที่ตลาด เพื่อมาซื้อหาอาหารทะเลที่มีแค่ในเฉพาะตลาดขายส่งเท่านั้น และแน่นอนว่าสามารถดูการคัดเลือกปลามากุโระได้ด้วย เราสามารถพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการขายส่ง รวมไปถึงวิธีการคัดเลือกปลา และสูตรอาหารที่ทำจากปลาได้

เริ่มต้นทัวร์！วิธีการเดินทางไปยังตลาดอะดาจิ

สำหรับทัวร์ตลาดอะดาจิของ Emblem Hostel Nishiarai จะมีเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเดินทางไปกับเราด้วย เมื่อแขกและเจ้าหน้าที่รวมตัวกันพร้อมเพรียงแล้ว จึงจะเริ่มออกเดินทาง จากนิชิอาราอิไปยังคิตะเซนจุ จะเดินทางโดยรถไฟ จากนั้นก็จะเดินต่อไปยังตลาดอะดาจิ

ที่ชานชาลา จะมีผู้คนคอยชวนแขกที่มาเยือนพูดคุยด้วย ซึ่งเป็นภาพที่บ่งบอกว่า นี่แหละ นิชิอาราอิ เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นมิตร

เมื่อถึงทางออกด้านทิศตะวันตกของสถานีคิตะเซนจุ ก็จะเข้าสู่ย่านร้านค้าซันโร้ด เราจะได้เดินผ่านย่านร้านค้า ได้พูดคุยกับคนนำทาง พลางเดินไปยังจุดหมายปลายทางซึ่งก็คือตลาดอะดาจิ

แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกที่ศาลเจ้านากะมะจิฮิคาวะระหว่างทาง หากมีจุดไหนที่สนใจเป็นพิเศษ สามารถแวะได้อย่างอิสระ แต่อย่าลืมว่าเราต้องไปเดินต่อในตลาดด้วยนะ！

ตลาดอะดาจิที่ครบครันไปด้วยอาหารทะเล！

ที่มารอต้อนรับแขกผู้มาเยือนก็คือ ปลามากุโระ！　ส่วนหัวของมากุโระที่ถูกคัดเลือกไว้ที่จริงแล้วก็เป็นสินค้าที่เอาไว้ขาย เป็นที่ต้องการของลูกค้าที่อยากจะนำไปทำซุป

ชมการหั่นชิ้นส่วนของมากุโระระยะประชิด ผู้ที่มาเยือนตลาดเป็นครั้งแรกห้ามพลาด เป็นภาพที่ชาวญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจเช่นเดียวกัน

นอกจากปลามากุโระแล้ว ก็มีปลาคินเมะไดที่มีสีสดใสเป็นที่ดึงดูดสายตานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หากได้มาเยือนตลาดอะดาจิ การมองหาปลาที่โดดเด่นและมีเฉพาะในญี่ปุ่นก็น่าสนใจไม่น้อย

"ปลาไท (tai) เอาไว้รับประทานตอน เมะเดะไต　ซึ่งแปลว่าแสดงความยินดี"

สำหรับชาวญี่ปุ่นแล้วนี่เป็นวัฒนธรรมที่แสนธรรมดา แต่สำหรับชาวต่างชาติกลับเป็นความรู้ใหม่ ผู้นำทางจะเป็นคนอธิบายรายละเอียดให้เราฟัง จึงสามารถเรียนรู้และพบเห็นอะไรหลายๆ อย่างได้ดีกว่าเที่ยวชมคนเดียว

ประเภทของหอยที่เรียงอยู่ในร้าน มีแต่แบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน รวมถึงประเภทของหอยที่ต้องมีเทคนิกการดูแลเป็นพิเศษ เพราะต้องเก็บรักษาให้คงสภาพที่สดเสมอ

ทุกคนประทับใจกับความสดใหม่ของหมึก！

แม้จะเป็นนักท่องเที่ยว ก็สามารถเวียนดูอาหารทะเลอย่างใกล้ชิดระยะเดียวกับคนที่ทำงานในตลาดได้

ยิ่งไปกว่านั้น การพูดคุยกับผู้คนในตลาดก็เป็นเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ ทุกคนใจดีและพร้อมที่จะอธิบายวิธีการทำอาหาร, ลักษณะเด่นของปลา หรือแม้แต่คุยเรื่องทั่วๆ ไปก็มี

หากจะมาเยือนตลาดอะดาจิ ก็ลองสัมผัสถึงสิ่งที่ภาคภูมิใจในการทำงาน ความรู้อันพรั่งพรูผ่านการพูดคุยกับคนในตลาดดูนะ！

ตลาดขายสินค้าทั่วไป มีผัก, ผลไม้, ของดอง และอื่นๆ อีกมาก！

ออกจากตลาดขายส่ง ก็จะเข้าสู่โซนตลาดที่ขายสินค้าทั่วไป ซึ่งเราจะเห็นผักผลไม้ และของดองที่มีสีสันสะดุดตา นอกจากนั้นก็จะมีเห็ดชีตาเกะ, อาหารกระป๋อง และวัตถุดิบที่น่ารับประทานอีกมากมาย

เจ้าของร้านก็ต้อนรับลูกค้าชาวต่างชาติ และชวนพูดคุยอย่างใจดี ไม่ใช่แค่ประเภทของผักผลไม้ อาหารทะเลที่เป็นวัตถุดิบในร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีเยอะมากจนนับไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดก็คือการเดินตลาดและพูดคุยแลกเปลี่ยนกับผู้เชี่ยวชาญด้านการขายส่งโดยตรง

สุดท้ายนี้

เมื่อเดินเข้ามาในตลาดอะดาจิ เราจะได้สัมผัสผักผลไม้ อาหารทะเลที่เป็นรากฐานวัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด และสามารถจับจ่ายซื้อหาได้ หากไม่ใช่ผู้ซื้อสินค้าส่งที่ทำการค้ากับตลาดอะดาจิเป็นประจำอยู่แล้วนั้นปกติจะเข้ามาไม่ได้ แต่ในช่วงวันที่ 13 พฤษภาคม, 8 กรกฎาคม, 9 กันยายน และ 11 พฤศจิกายน 2017 จะมีการจัดงานวันตลาดอะดาจิ(※1) จึงแนะนำสำหรับผู้ที่อยากรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่น
และอาหารทะเลให้ลองเดินทางไปตลาดแห่งนี้กันดู

※1...... วันตลาดอะดาจิในปี 2018 มีกำหนดการจัดงานทุกวันเสาร์ที่ 3 ของเดือนเลขคี่

ตลาดค้าส่งกลางโตเกียว ตลาดอาดาจิ

50 Senjuhashidocho, Adachi-ku, โตเกียว 120-0038