Start planning your trip
"ฟุคุโนะคิ" ราเม็งในซัปโปโรที่เพื่อนๆ ชาวมุสลิมก็ทานได้! (Sapporo, Hokkaido)
ในซัปโปโรมีร้านราเม็งจำนวนมาก แต่ร้านที่มีเมนูที่ชาวมุสลิมทานได้ยังมีอยู่น้อย ในครั้งนี้ขอแนะนำร้าน "ฟุคุโนะคิ" ร้านราเม็งที่ชาวมุสลิมก็ไปทานได้อย่างสบายใจค่ะ
ราเม็งที่เพื่อนๆ มุสลิมก็ทานได้ ที่ "ฟุคุโนะคิ"
ซัปโปโร เมืองที่ใหญ่ที่สุดในฮอกไกโด เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหาร แหล่งช้อปปิ้ง และมีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีวิวทิวทัศน์งดงาม ทำให้ทุกๆ ปีมีนักท่องเที่ยวไปเยือนจำนวนมาก
หากมีโอกาสมาเที่ยวซัปโปโร เมนูที่เราอยากแนะนำให้ลองมากที่สุดก็คือราเม็ง ซัปโปโรเป็นหนึ่งในเมืองที่มีร้านราเม็งเยอะที่สุดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ
ในบทความนี้ จะขอแนะนำ "ฟุคุโนะคิ (Fukunoki)" ร้านราเม็งที่ชาวมุสลิมก็สามารถรับประทานได้อย่างสบายใจกันค่ะ
เมื่อไปถึงฟุคุโนะคิ เราจะมองเห็นเครื่องหมายฮาลาลแปะอยู่ที่หน้าร้าน ร้านนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยว ไม่จำกัดเฉพาะชาวมุสลิมเท่านั้น จนถึงขนาดที่บางครั้งมีแต่ลูกค้าชาวต่างชาติทั้งหมดในร้านเลย
แน่นอนว่าร้านนี้ก็เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในท้องถิ่นด้วย ถึงขั้นมีลูกค้าขาประจำแวะเวียนมาทุกวัน ในคราวนี้ ตอนที่เราไปสัมภาษณ์เจ้าของร้าน คุณโอบาระ ก็มีลูกค้าประจำมาเยือนที่ร้านมากมาย เรียกได้ว่าได้รับความนิยมมากถึงต้องหยุดพูดคุยกันกลางคันเพื่อไปรับลูกค้าเลยทีเดียวค่ะ
ทำไมร้านนี้ถึงเป็นที่นิยมขนาดนี้์น่ะเหรอคะ? เราจะขอหยิบยกเหตุผลหลักๆ มา 3 ข้อแล้วกันค่ะ
1. เมนูที่ไม่ว่าชาวมุสลิมหรือใครก็มาอร่อยได้
ราเม็งมะเขือเทศมิโซะเนื้อ (ราคารวมภาษี 850 เยน) (เอื้อเฟื้อภาพโดย : Fukunoki)
ร้านที่ทำอาหารที่ชาวมุสลิมทานได้ส่วนใหญ่ มักจะเป็นร้านที่ขายอาหารญี่ปุ่นธรรมดาและมี "อาหารฮาลาล" แยกเป็นเมนูเสริมมาต่างหาก
แต่ที่ร้านฟุคุโนะคิไม่ใช่แบบนั้น ที่นี่ไม่ว่าใครก็สามารถเพลิดเพลินกับราเม็งรสชาติแบบเดียวกับที่คนท้องถิ่นติดใจได้
2. มีแต่เมนูที่รับประทานได้ที่ฟุคุโนะคิที่เดียวเท่านั้น
ราเม็งของฟุคุโนะคิทั้งหมดใช้ซุปรสมะเขือเทศ ถือเป็นรสชาติที่แปลกใหม่ในญี่ปุ่น น้ำซุปที่นำคุณค่าทางโภชนาการและดึงความอร่อยของมะเขือเทศมาใช้ประโยชน์ กลายเป็นรสชาติที่แม้แต่คนไม่ชอบมะเขือเทศก็สามารถทานได้
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อดีสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือการไม่ใช้ผงชูรส ซึ่งเป็นการคำนึงถึงสุขภาพของผู้รับประทานด้วย นอกจากนั้น ในเมนูปกติจะใช้กระดูกไก่ในการทำ ในส่วนของผู้ที่รับประทานมังสวิรัติก็มีราเม็งมะเขือเทศแบบมังสวิรัติ (ราคารวมภาษี 890 เยน) จำหน่ายด้วย
เราคัดสรรราเม็งที่ได้รับความนิยมเป็นพิเศษมาแนะนำ 2 เมนูค่ะ
ที่นิยมมากที่สุดก็คือ "เอบิจาราชิ"
เอื้อเฟื้อภาพโดย : Fukunoki
เมนูที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ "เอบิจาราชิ (Ebi jarashi : Rich shrimp soup and tomato noodles) (ราคารวมภาษี 950 เยน)" เอบิจาราชิเป็นเมนูที่ใช้กุ้งจำนวนมากผสมในซุปรสมะเขือเทศ ตกแต่งด้วยสีสันที่สดใสของผักและพริกปาปริก้า พร้อมกุ้งเต็มๆ ตัวที่เป็นตัวเอกของราเม็งชามนี้
พอได้ลองทาน กลิ่นหอมของกุ้งก็กระจายไปทั่วทั้งปาก ด้วยน้ำซุปเข้มข้นที่คลุกเคล้ากับเส้นราเม็งแบบแบนในแบบฉบับของร้านฟุคุโนะคิ
ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีรสอร่อยกลมกล่อมของมะเขือเทศที่เป็นน้ำซุปด้วย น้ำซุปรสหวานอ่อนๆ ที่เข้าได้ดีกับกลิ่นหอมของกุ้งจนอยากจะซดให้หมดชามเลยทีเดียวค่ะ
เคล็ดลับความอร่อยอีกหนึ่งอย่างก็คือ "น้ำพริกกุ้งปรุงพิเศษ" ที่เป็นท็อปปิ้งอยู่ตรงกลางชาม ลองทานโดยการค่อยๆ ผสมน้ำพริกกับน้ำซุปทีละนิด รสอร่อยของกุ้งที่เข้มข้นก็จะค่อยๆ กระจายออก ให้ได้เพลิดเพลินกับรสชาติที่ไม่ซ้ำเดิม
พอทานเส้นราเม็งหมดแล้ว อย่าเพิ่งรีบซดน้ำซุปจนหมดนะคะ เดี๋ยวจะมาบอกวิธีจัดการน้ำซุปที่เหลือในครึ่งหลังของบทความนี้ค่ะ!
"ราเม็งมะเขือเทศนิคุสึคุชิ" เมนูยอดนิยมของลูกค้าชาวมุสลิม
สำหรับคนที่อยากรับประทานเนื้อแบบเน้นๆ! ต้องเมนู "ราเม็งมะเขือเทศนิคุสึคุชิ (Nikuzukushi tomato noodles : Chicken rich noodles) (ราคารวมภาษี 1,250 เยน)"
เมนูนี้คือ "ราเม็งมะเขือเทศ" แบบปกติแต่มีท็อปปิ้งเป็นเนื้อไก่ ใช้มะเขือเทศ 3 ลูก สำหรับคนที่ชอบทานมะเขือเทศโดยเฉพาะเลย
ฟังแล้วอาจจะรู้สึกธรรมดา แต่พอราเม็งมาเสิร์ฟที่โต๊ะ ถึงกับต้องร้องว้าวกับปริมาณที่เยอะมากๆ ท็อปปิ้งเนื้อไก่มีทั้งหมด 4 แบบคือ ไส้กรอกไก่, ปีกไก่, แฮมไก่โฮมเมด และสุดท้ายคือเนื้อไก่ฉีก เยอะจนมองไม่เห็นเส้นกันเลยทีเดียว
ลูกค้าที่เป็นชาวมุสลิมสามารถทานได้อย่างสบายใจ เพราะเนื้อไก่ทั้งหมดที่ใช้นี้เป็นไก่ที่ได้รับการรับรองฮาลาล
พอลองทานดู ก่อนอื่นเลยก็ต้องรสหวานของมะเขือเทศที่ได้ลองแล้วจะติดใจ ซุปเข้มข้นก็เข้ากันได้ดีกับเส้น ยิ่งกว่านั้น ยังมีท็อปปิ้งที่มีรสชาติและรสสัมผัสต่างกันทั้ง 4 ชนิด
ทานเส้นกันหมดรึยังคะ อดใจไว้ก่อน อย่าเพิ่งซดน้ำซุปจนหมดนะคะ
นำน้ำซุปที่เหลือมารับประทานต่อเป็นรีซอตโต
เอื้อเฟื้อภาพโดย : Fukunoki
หลังจากทานเส้นจนหมดแล้ว เรานำน้ำซุปที่ยังเหลือมาทำเป็นรีซอตโตกันค่ะ โดยสั่ง "Cheese on Rice ข้าวโรยหน้าด้วยชีส (ราคารวมภาษี 120 เยน)" มาเพิ่ม แล้วเทคลุกลงในน้ำซุปที่เหลือเลยค่ะ
ความเข้ากันของชีสกับซุปมะเขือเทศรสชาติเข้มข้นยอดเยี่ยมมาก ข้าวก็ไม่ใช่ข้าวขาวธรรมดา แต่เป็นข้าวขมิ้น ที่ใช้ขมิ้นนำเข้าจากอินเดียเลย
3. เสน่ห์อย่างสุดท้ายคือ ความพิถีพิถัน
นอกจากเมนูหลักแล้ว เรายังสัมผัสได้ถึงความพิถีพิถันและความใส่ใจของร้านฟุคุโนะคิได้จากหลายๆ เรื่อง
เปลี่ยนเส้นราเม็งธรรมดาเป็น "จากาเม็ง" เส้นที่ทำจากมันฝรั่งได้
สำหรับคนที่อยากลองรสสัมผัสที่ต่างไปจากเดิม แนะนำให้เพิ่มเงิน 100 เยนแล้วลอง "จากาเม็ง" เส้นราเม็งที่ทำจากมันฝรั่งดูค่ะ
ปกติร้านจะใช้เส้นแบบแบนที่เรียกว่าฮิระอุจิเม็ง ส่วนเส้นจากาเม็งจะเป็นเส้นแบบอ้วนกลม นอกจากหน้าตาที่แค่ดูก็เห็นเลยว่าต่างกันแล้ว ความนุ่มหนึบของเส้นก็ยังมากกว่าเส้นแบนด้วย
ผงเครื่องเทศออริจินัลจากนักปรุงสมุนไพร
ที่ร้านฟุคุโนะคิพิถีพิถันเรื่องผงปรุงรสเผ็ดมาก เครื่องเทศก็นำเข้ามาจากอินเดีย คุณโอบาระที่เป็นเจ้าของร้านฟุคุโนะคิมีใบอนุญาตของนักปรุงสมุนไพรด้วย นี่จึงเป็นจึงเป็นผงปรุงรสเผ็ดแบบต้นฉบับแท้ๆ 100% แน่นอนค่ะ
ผงปรุงรสเผ็ดนี้จะอยู่ในถ้วยรูปแมวน่ารักๆ ที่อยู่บนโต๊ะค่ะ
ชีสเค้กที่ชาวมุสลิมทานได้ก็มีจำหน่าย
ร้านฟุคุโนะคิมี "ชีสเค้ก" (ราคารวมภาษี 350 เยน) จำหน่ายด้วย เคล็ดลับความอร่อยของชีสเค้กนี้คือครีมหมักค่ะ ครีมหมักนี้เป็นสูตรต้นตำรับของร้านฟุคุโนะคิที่ปราศจากเจลาตินจากสัตว์และไม่ใส่วัตถุปรุงแต่งใดๆ ทั้งสิ้น
ในครีมหมักนี้ใช้ครีมชีสจากเมืองโทกะจิในฮอกไกโดแบบเต็มที่ ไม่แปลกเลยที่จะอร่อยอย่างนี้
ฮอกไกโดเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงด้านการผลิตชีสและนมวัว มีปริมาณการผลิตน้ำนมดิบเป็นอันดับหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ผลิตได้มากสุดในเขตโทกะจิที่อยู่ทางตะวันออกของฮอกไกโดนี่เอง
แต่ว่าการมาทานชีสเค้กในร้านราเม็งก็ดูเป็นการผสมผสานที่เหนือความคาดหมายจริงๆ นะคะ จริงๆ แล้วคือคุณโอบาระ เจ้าของร้านเคยเปิดร้านคาเฟ่มาก่อนค่ะ ชีสเค้กนี้ก็เป็นสูตรเดียวกับที่เคยทำขายในตอนนั้นด้วย
การที่มีของหวานขายในร้านราเม็งที่ซัปโปโรเป็นเรื่องที่แปลกใหม่มาก ถ้าทานราเม็งจนอิ่มแล้ว ก็ซื้อชีสเค้กกลับไปทานในห้องที่โรงแรมทีหลังก็ได้นะคะ
เมนูภาษาอังกฤษพร้อม
ที่ร้านมีเมนูภาษาอังกฤษเตรียมไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ทุกเมนูมีรูปภาพแปะไว้ จึงเข้าใจง่ายและทำให้สะดวกในการสั่ง
พนักงานทุกคนสามารถใช้ภาษาอังกฤษง่ายๆ ในการสื่อสารได้ ในกรณีที่สื่อสารแล้วไม่เข้าใจจริงๆ พนักงานก็จะพยายามใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์แปลภาษาเพื่อคุยกับเรา เพราะงั้นลองชวนคุยได้เลยนะคะ ไม่ต้องกังวล
มีคำอธิบายสำหรับลูกค้าชาวมุสลิมเขียนไว้ด้วยค่ะ
บอกข้อมูลต่างๆ และมีรูปเนื้อไก่ที่ได้รับรองฮาลาล ฉะนั้นจึงสามารถรับประทานได้อย่างไม่ต้องกังวลเลยค่ะ
ร้านราเม็งที่คำนึงถึงสุขภาพที่ดีของลูกค้า
"ฟุคุโนะคิ" เป็นร้านราเม็งที่คำนึงถึงผู้มาทานเป็นอย่างมาก อย่างที่เห็นได้จากการทำเมนูสำหรับชาวมุสลิม และไม่ใส่สารปรุงแต่งใดๆ ในการปรุงอาหาร รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่อยากให้ลูกค้ามีสุขภาพแข็งแรง
ที่มาที่ไปของการเปิดร้านนี้มาจากการที่คุณโอบาระ เจ้าของร้านเป็นคนที่ทานเนื้อหมูและแอลกอฮอล์ไม่ค่อยได้ จึงอยากทำอาหารที่ทุกคนสามารถทานได้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่จำกัดว่าใครทานได้ ทานไม่ได้ และยิ่งกว่านั้นคือ ทานแล้วทำให้สุขภาพดีด้วย
หากไปเที่ยวซัปโปโร อย่าลืมไปที่ร้าน "ฟุคุโนะคิ" ให้ได้นะคะ เจ้าของร้านและพนักงานพร้อมออกมาต้อนรับด้วยรอยยิ้มค่ะ
ความร่วมมือในการเก็บข้อมูลโดย : Fukunoki
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง