สั่งวากิวทีละชิ้นก็ยังได้ที่ร้านเนื้อย่างยากินิกุ Jiroumaru สาขา Shibuya

ทานยากินิกุแสนอร่อยในราคาย่อมเยาที่ ชิบูย่า เมืองแห่งเนื้อ

ชิบูย่า (Shibuya) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านยากินิกุกว่า 30 ร้าน มีร้านหลากหลายแบบ ทั้งร้านราคาแพง, ร้านราคาย่อมเยา, ร้านที่ดังเรื่องเครื่องในย่าง, ร้านสไตล์เกาหลี และอื่นๆ อีกเพียบ เริ่มลังเลแล้วใช่ไหมล่ะคะว่าจะเลือกทานร้านไหนดี

ยากินิกุ ... เนื้อย่าง, ยากิ แปลว่า ปิ้งหรือย่าง นิกุ แปลว่า เนื้อสัตว์

ร้านยากินิกุส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์แบบคนเยอะๆ มานั่งล้อมโต๊ะ เวลาสั่งอาหารถึงจะสั่งแค่จานเดียว ในจานก็จะมีเนื้อส่วนเดียวกันใส่มาให้ 5 - 6 ชิ้น ถ้าไปกับเพื่อนหลายๆ คนก็คงแบ่งทานกันคนละชิ้นสองชิ้นแล้วเปลี่ยนไปสั่งเนื้อส่วนอื่นต่อ แต่ถ้าไปคนเดียวล่ะก็ สั่งมาแค่ 2 - 3 จานก็คงอิ่มแล้ว

จิโรมารุ สาขาชิบูย่า ร้านยากินิกุที่ไปเที่ยวคนเดียวก็ทานได้ง่ายๆ

ขอแนะนำร้านจิโรมารุ สาขาชิบูย่า (Tachigui yakiniku Jiroumaru Shibuya : ร้านยากินิกุยืนทานจิโรมารุ) สำหรับคนที่มาคนเดียวแต่อยากทานเนื้อหลายๆ ส่วน เพราะที่นี่มีบริการยากินิกุสำหรับลูกค้าที่มาคนเดียวด้วย สามารถสั่งเนื้อวากิวชั้นเลิศครั้งละ 1 ชิ้นก็ได้

เดิมทีในญี่ปุ่นจะมีร้านประเภททาจิกุย (แปลว่ายืนทาน) มักจะเป็นร้านโซบะเพราะทานง่าย ทานเสร็จก็ออกไปทำงานต่อเลย ส่วนช่วงหลังมานี้ร้านอิซากายะสไตล์ทาจิโนมิ (แปลว่ายืนดื่ม) ก็ฮิตมาก พนักงานบริษัทมักจะมายืนดื่มกันหลังเลิกงาน ส่วนร้านจิโรมารุนี้มาในรูปแบบใหม่ คือเป็นทาจิกุยยากินิกุ ร้านเนื้อย่างแบบยืนทาน

ชิมวากิวเกรดพรีเมี่ยมได้ในราคาย่อมเยา

การเดินทางไปจิโรมารุ ใช้เวลาเดินประมาณ 3 นาทีจากสถานี JR ชิบูย่า ทางออกรูปปั้นฮาจิโค (Hachiko exit) จากนั้นก็เดินไปตามถนนข้างๆ ห้าง Shibuya Mark City เราก็จะพบกับร้านที่มีดูข้างนอกแล้วเหมือนร้านซูชิไม่มีผิด

เคาน์เตอร์ภายในร้านมีเตายากินิกุวางไว้ 7 เตา รองรับลูกค้าได้ 14 คน แต่เตา 1 เตาสามารถรองรับได้สูงสุดถึง 3 คน

จุดเด่นของจิโรมารุคือสามารถสั่งเนื้อวากิวเกรดดี (*1) ระดับ A4, A5 ได้ตั้งแต่ 1 ชิ้น และยิ่งกว่านั้นการเข้าออกของลูกค้าก็รวดเร็ว แม้จะเป็นเวลาที่คนแน่นร้าน ก็รอคิวไม่นาน

เพื่อจะทานได้อย่างสะดวก ให้แขวนสัมภาระต่างๆ ไว้กับที่แขวนหรือวางใส่ตะกร้าที่อยู่ข้างล่างเคาน์เตอร์ได้เลยค่ะ

*1 : เกรดของเนื้อวากิว ... ดัชนีแสดงคุณสมบัติของเนื้อวากิว ดูจากสัดส่วนเนื้อที่ทานได้ต่อน้ำหนักทั้งหมด แบ่งเป็น 3 เกรดคือ A B และ C (สูงสุดคือ A) จากนั้นจึงแบ่งตามระดับความสวยงามและปริมาณไขมันที่แทรกในเนื้ออีก 5 ระดับ (สูงสุดคือ 5)

วิธีการสั่ง

วิธีการสั่งมี 2 วิธี ให้เลือกค่ะ

1. สั่งจากเมนูภาษาอังกฤษ / ภาษาจีน

เมนูภาษาอื่นๆ จะมีให้เลือก 2 ภาษาค่ะ คือภาษาอังกฤษและภาษาจีน แนะนำให้สั่งวากิว บีฟ เซ็ต (ราคาไม่รวมภาษี 3,000 เยน) ในเซ็ตจะมีเนื้อ 6 ชนิด 12 ชิ้น (240 กรัม) เราจะได้เพลิดเพลินกับเนื้อที่มีสัมผัสที่แตกต่างกันในสมดุลที่พอดี ทั้งเนื้อวากิวที่เพิ่งมาส่งใหม่ในวันนั้น และเนื้อติดมัน เป็นต้น

ภายในเซ็ตมีให้แค่เนื้อเท่านั้น ไม่รวมข้าว (ราคาไม่รวมภาษี 280 เยน) หากในวันที่ไปทานมีเนื้อโกเบเข้ามา สามารถสั่งเพิ่มได้ 1 ชิ้น 300 เยน (ราคาไม่รวมภาษี) รายละเอียดเพิ่มเติมให้สอบถามกับพนักงานได้เลยค่ะ

สำหรับคนที่รู้สึกว่าวากิวเซ็ตมีปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ ก็ยังมีวากิว บีฟ ฮาล์ฟเซ็ต (ราคาไม่รวมภาษี 1,500 เยน) ด้วยนะ เนื้อในเซ็ตนี้ก็จะแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่มาส่งในวันนั้นๆ ค่ะ

2. ดูวัตถุดิบผ่านตู้กระจกและสอบถามพนักงาน

พนักงานของจิโรมารุเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อโดยเฉพาะ พนักงานพร้อมที่จะรับฟังคำร้องขอจากทางลูกค้า และอธิบายส่วนต่างๆ ของเนื้อ รวมถึงช่วยเลือกเนื้อที่ลูกค้าพึงพอใจด้วยค่ะ แม้พนักงานบางคนอาจจะไม่สามารถสื่อสารภาษาอื่นๆ ได้ แต่ก็จะพยายามสื่อสารด้วยการเสนอเมนูพลางเอารูปให้ดูค่ะ

Picture courtesy of Jiroumaru

หรือจะใช้วิธีชี้เนื้อที่อยากลองสั่งผ่านตู้ แล้วพูดว่า "โคเร คุดาไซ" (เอาอันนี้) ทางพนักงานก็จะอธิบายราคาต่อชิ้น และรายละเอียดว่าเป็นเนื้อส่วนไหนให้ฟัง

พอได้เนื้อที่สั่งมาแล้วก็เอาไปย่างบนเตาของเรา อยากได้สุกมากสุกน้อยก็ตามใจเลยค่ะ แต่ตรงขอบเตาไฟจะแรงต้องระวังไหม้นิดนึงนะคะ

ลิ้มลองวากิวคุณภาพดีทีละนิด ทีละนิด

วากิวเซ็ต

เราได้ไปพูดคุยกับคุณโอกิวาระ ผู้จัดการร้านสาขาชิบูย่าถึงเคล็ดลับในการทานยากินิกุของจิโรมารุให้อร่อย

ผู้จัดการโอกิวาระ : "เนื้อทั้งหมดภายในร้าน แนะนำให้รับประทานทั้งอย่างนั้น ไม่ต้องจิ้มซอสใดๆ เพราะเราได้ปรุงรสชาติในน้ำเกลือที่ทำขึ้นมาอย่างเข้มข้นไว้แล้วครับ

สำหรับคนที่ชอบทานแบบจิ้มซอส เราก็มีวางให้บริการบนโต๊ะครับ โดยทั่วไปแล้ว การรย่างเนื้อชั้นเลิศให้อร่อย จะย่างในระดับแรร์ (สุกไม่มาก) แต่ความอร่อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราย่างเนื้อส่วนไหนด้วยไฟระดับไหนด้วย ให้สอบถามและให้ทางพนักงานช่วยแนะนำดูนะครับ"

เอาล่ะ ต่อไปจะขอแนะนำประเภทของเนื้อต่างๆ ที่อยากให้ลองทานหากไปที่จิโรมารุค่ะ

ซังคาคุบาระ มันเน้นๆ และจัดเต็มในเรื่องปริมาณ

Picture courtesy of Jiroumaru

ซังคาคุบาระ (ส่วนหนึ่งของเนื้อสันอก) เป็นเนื้อเกรด A4 ของโทจิงิวากิว (1 ชิ้น 300 เยน ราคาไม่รวมภาษี) แค่นำเข้าปากก็นุ่มละลาย เนื้อชนิดนี้ติดมัน และมีปริมาณแน่น แนะนำให้ลองเป็นคำแรกเลยค่ะ

โทการาชิ เนื้อไม่ติดมันที่แสนชุ่มฉ่ำ

โทการาชิ (เนื้อส่วนใกล้กับกระดูกสะบัก หายาก) เนื้อโทจิงิวากิว เกรด A4 (1 ชิ้น 290 เยน ราคาไม่รวมภาษี) แนะนำสำหรับคนที่ชอบทานเนื้อไม่ติดมันค่ะ ความชุ่มฉ่ำและรสชาติกลมกล่อมของของเนื้อจะกระจายไปทั่วปากเลยทีเดียว

บาระอิตะ ความอร่อยของเนื้อชุ่มฉ่ำแบบเต็มๆ

Picture courtesy of Jiromaru

บาระอิตะ (เนื้อสามชั้นบริเวณซี่โครง) วากิว เกรด A4 (1 ชิ้น 180 เยน ราคาไม่รวมภาษี) สไลซ์เป็นชิ้นหนาๆ ให้เคี้ยวได้หนำใจ และมีรสชาติกลมกล่อมของเนื้ออยู่พอสมควร

ถึงจะไม่จิ้มซอสก็ลิ้มรสความอร่อยของตัวเนื้อที่มีรสชาติเค็มนิดๆ ได้อยู่แล้ว อีกทั้งส่วนต่างๆ ของเนื้อจะมีวิธีสไลซ์ไม่เหมือนกัน เพื่อให้เราได้เพลิดเพลินกับรสสัมผัสที่แตกต่างกันได้

ที่ร้านจะใช้วิธีเรียกพนักงานมาคิดเงินที่โต๊ะ แต่เวลาสั่งบางทีก็สั่งทีละชิ้นบ้างสองชิ้นบ้าง ถ้ากลัวว่ารายการที่สั่งจะไม่ตรงกับตอนคิดเงินก็สามารถให้พนักงานออกใบรายการอาหารมาให้เช็คก่อนชำระเงินได้

พนักงานที่ทำหน้าที่ราวกับผู้ให้คำแนะนำ

Picture courtesy of Jiroumaru

พนักงานที่พร้อมจะนำเสนอเมนูต่างๆ ให้ตรงกับความพึงพอใจของลูกค้าราวกับเจ้าหน้าที่คอนเซียสของโรงแรมเลยค่ะ หากลองขอคำแนะนำจากพนักงานว่าควรย่างเนื้อระดับไหน ก็จะได้ทานเนื้อที่อร่อยขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอนค่ะ

หากอยากลองชิมเนื้อหลายๆ ส่วน หรืออยากเพลิดเพลินกับการยืนกิน หรือรู้สึกอยากกินยากินิกุคนเดียว ลองแวะไปที่จิโรมารุดูค่ะ เพราะเราจะได้ทานวากิวชั้นเลิศในบรรยากาศกันเองและราคาที่ย่อมเยาสุดๆ ค่ะ

ยืนกินเนื้อย่างร้านจิโรมารุชิบูย่า

2-6-7 Dogenzaka, Shibuya-ku, โตเกียว 150-0043 RISM Shibuya 1F

In cooperation with Jiromaru Shibuya