เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

เที่ยวญี่ปุ่นจะไปกับทัวร์ ทัวร์ไพรเวทหรือไปเองดี? เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกันชัดๆ!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

จะไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที จะหาทัวร์ไปเลย หรือว่าจะเตรียมตัวไปเที่ยวเองดีนะ? แถมยังมีทัวร์แบบไพรเวท (ทัวรส่วนตัว) หรือทัวร์เสริม (แพคเกจทัวร์) อีก มันยังไงกันนะ? ใครที่ยังลังเลอยู่ เราขอสรุปข้อดีข้อเสียในการเที่ยวแต่ละแบบมาให้พิจารณาก่อนตัดสินใจเลยค่ะ!

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

สำหรับคนไม่เคยไปเที่ยวญี่ปุ่นหรืออาจจะยังไม่เชี่ยวชาญนัก พออยากไปขึ้นมาสักครั้งก็อาจจะลังเลว่า เอ๊ะ เราควรจะไปเองหรือว่าจะหาทัวร์ไปดี? แถมเดี๋ยวนี้ยังมีทั้งทัวร์ไพรเวท ทัวร์เสริม ทัวร์ไฟไหม้อะไรอีกหลากหลายอย่าง วันนี้เราจึงขอสรุปข้อดีข้อเสียของวิธีเที่ยวแต่ละแบบมาให้ดูกัน ใครรักชอบแบบไหน จะได้เตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นตามสไตล์ตัวเองกันได้เลย!

สารบัญ

1. ไปกับทัวร์ญี่ปุ่น

เที่ยวญี่ปุ่นจะไปกับทัวร์ ทัวร์ไพรเวทหรือไปเองดี? เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกันชัดๆ!

photo by Pixta

วิธีแรกที่หลายคนอาจจะคิดถึงก็คือการใช้บริการ "ทัวร์" ไปเป็นหมู่คณะกับคนอื่นๆ เพราะว่าง่าย สะดวก ไม่ต้องคิดมาก แต่จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ไปดูกัน

แผนเที่ยว

สิ่งแรกเลยที่เราคิดกันก็คือเรืองของแผนเที่ยวว่าจะไปเที่ยวไหนดีบ้าง หากคนไม่เคยไปก็คงต้องทำการบ้านกันหนักหน่อย นอกจากจะหาว่าเที่ยวที่ไหนดีบ้างแล้ว ยังต้องคิดอีกว่าจะเดินทางไปอย่างไร วันนึงจะเที่ยวได้กี่ที่ จะพักโรงแรมแถวไหน แบบไหน และอื่นๆ อีกมากมาย

ปัญหาเหล่านี้จะหายไปทันทีถ้าใช้บริการทัวร์! เพราะบริษัททัวร์ได้เตรียมแผนเอาไว้หมดแล้ว แถมส่วนใหญ่ยังเป็นสถานที่เที่ยวยอดนิยมอีกด้วย วันนึงจะไปที่ไหน ทำอะไรบ้าง ก็ไม่ต้องคิดคำนวณใดๆ แค่เลือกทัวร์ที่ชอบจากสถานที่ที่สนใจ เช่น โตเกียว โอซาก้า เกียวโต ฯลฯ แล้วก็รอวันแพ็คกระเป๋าไปได้เลย สมัยนี้นอกจากโตเกียว โอซาก้าแล้ว ยังมีทัวร์ไปจังหวัดอื่นๆ อย่าง ทาคายาม่า ทตโตริ หมู่บ้านชิราคาวะโก คานาซาวะ และอื่นๆ อีกด้วย

แต่ข้อเสียเล็กๆ น้อยๆ ก็คือ เราอาจจะเลือกวันเที่ยวไม่ได้ดั่งใจขนาดนั้น เพราะต้องไปในวันที่แต่ละทัวร์จัดเอาไว้แล้ว
รวมถึงอาจจะมีสถานที่ที่ไม่ได้อยากไปอยู่ในแผนด้วย บางคนอยากช้อป แต่กลับมีเวลาช้อปไม่เต็มอิ่ม หรือบางคนอยากเดินวัด เดินพิพิธภัณฑ์นานๆ ก็มีเวลาให้ไม่พอ หนำซ้ำแผนเที่ยวของทัวร์นั้นบางครั้งอาจถูกปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ เช่น หากรถติดหรือมีเพื่อนร่วมทัวร์ทำสาย บางสถานที่ในแผนก็อาจถูกยกเลิกไม่ไปกันดื้อๆ เลยก็มี

งบ

การไปกับทัวร์นั้นดีอยู่อย่างมากข้อหนึ่งก็คือ เราสามารถคุมงบได้ง่าย เพราะค่าทัวร์นั้นมักจะรวมทุกอย่างแล้วไม่ว่าจะเป็นค่าเครื่องบิน ค่ารถไฟ ค่าพาหนะอื่นๆ ค่าโรงแรม ค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ค่าอาหารส่วนใหญ่ ก็จะเหลือแค่พ็อคเก็ตมันนี่ หรือค่าใช้จ่ายส่วนตัวของเราอย่าง ค่าขนม ค่าของฝาก ค่าช้อปปิ้ง เท่านั้น (หรือทัวร์ที่มีวันฟรีก็อาจต้องคำนวณค่าเที่ยววันนั้นเอง แต่ปกติก็มักจะมีไม่เกิน 1-2 วันเท่านั้น)

ทัวร์สมัยนี้มีราคาให้เลือกหลากหลายแนว จะไปยาวๆ อยู่อย่างราชา ราคาหนักกระเป๋า หรือไปสั้นๆ เที่ยวแบบประหยัด ก็มีให้เลือกได้ตามงบประมาณของเราเลยค่ะ

การเตรียมตัว

การไปกับทัวร์นั้นนอกจากจะไม่ต้องทำแผนเองแล้ว ยังไม่ต้องเตรียมตัวยุ่งยากนานาเองด้วย ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม ซื้อตั๋วรถไฟ หรือจองกิจกรรมต่างๆ
ในส่วนของการแลกเงินหรือการเตรียมข้าวของ เสื้อผ้า ก็ยังสามารถปรึกษากับทางทัวร์ให้แนะนำได้ด้วย

นอกจากนี้การเตรียมตัวกลับยังสะดวกตรงที่ไกด์มักจะช่วยเรื่องแพ็คของกลับและเฉลี่ยน้ำหนักกันในทัวร์ ทำให้ถือของกลับได้อย่างสบายใจ

สไตล์การเที่ยว

แต่สำหรับการไปกับทัวร์นั้น ต้องบอกว่าเราเป็นตัวของตัวเองมากไม่ได้ เพราะต้องไปกับคนอื่น จึงต้องรักษาเวลาและทำตามแผนเที่ยวค่ะ ชอบที่ไหนอยากจะเดินนานๆ หรืออยากจะหยุดพัก แว่บไปเที่ยวที่อื่น ก็ไม่ได้ (ยกเว้นบางทัวร์ที่อาจตกลงกับไกด์ได้) จึงไม่มีอิสระมากนัก
นอกจากนี้เราอาจจะต้องเจอเพื่อนร่วมทัวร์มากถึง 10-20 คน ข้อดีคืออาจจะได้เพื่อนใหม่ในทัวร์ไปเลย! แต่ข้อเสียก็คือ ถ้าเพื่อนร่วมทัวร์ไม่ดี ส่งเสียงดัง ชอบเลท ก็อาจจะทำให้เรากร่อยได้
แต่บางทัวร์ก็มีวันอิสระให้ เราก็อาจจะเลือกเที่ยวตามสไตล์ตัวเองได้ในวันนั้นค่ะ

ไปกับทัวร์นี่ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกิน เพราะทัวร์มักจะจัดให้มีเวลาทานและเตรียมร้านอาหารไว้ให้อยู่แล้ว แถมหากใครทานอาหารญี่ปุ่นไม่ถูกปาก ก็มักมีเตรียมเครื่องปรุงหรืออาหารกระป๋องช่วยให้แต่ละมื้อราบรื่นด้วย และยังไม่ต้องห่วงว่าเข้าร้านไปจะเจออาหารที่ทานไม่ได้เลย เนื่องจากร้านที่ทัวร์ใช้รับลูกค้านั้นเป็นร้านประจำที่มีคนไทยทานเคยทานกันแล้ว
เพียงแค่สำหรับสายกิน การไปทานร้านแบบนั้นอาจจะไม่โดนใจเท่าไหร่ แถมยังเลือกอาหารที่สนใจไม่ได้ หรือไม่มีโอกาสทานของแปลกๆ อีกต่างหาก

การเดินทาง

ใครที่ชอบหลงทาง การไปกับทัวร์ก็อาจเป็นตัวเลือกที่ดีมากทางหนึ่ง เพราะตลอดทริปจะมีรถบริการรับส่งตลอด ไม่ต้องกลัวว่าเจอเส้นทางรถไฟสีรุ้งของโตเกียวแล้วจะไปไม่ถูก หรือต้องเสียเวลาศึกษาเส้นทางใดๆ เลย แถมเวลาแวะจุดช้อปปิ้งอิสระ ทางทัวร์ก็มักจะมีแผนที่หรือแนะนำร้านค้าให้ด้วย
หรือบางทัวร์อาจมีวันอิสระให้ ก็ทุ่นแรงเราไปเยอะ เพราะเราก็หาข้อมูลแค่สำหรับวันนั้นก็พอ รวมถึงปรึกษาไกด์เรื่องวิธีเดินทางได้ด้วย 

ภาษาและปัญหา

หากใครไม่ได้ภาษาต่างชาติเลย อาจจะกังวลเรื่องการไปเที่ยวเมืองนอกว่าสื่อสารกับใครไม่ได้เลย หากไปกับทัวร์ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องนี้! เพราะเรามีไกด์คอยช่วยเหลืออยู่แล้ว และหากเกิดปัญหาใดๆ ขึ้นระหว่างเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นเงินสดหมด เจ็บป่วย หลงทาง และอื่นๆ ทางทัวร์ก็จะให้ความช่วยเหลือเราได้ทันที เรียกว่าเที่ยวได้อย่างอุ่นใจเลยค่ะ

เหมาะกับใคร

การไปกับทัวร์สะดวกสบาย จึงเหมาะกับคนที่ไม่มีเวลาหรือไม่อยากทำอะไรจุกจิกให้ยุ่งยาก แถมยังมีคนให้ปรึกษา มีคนคอยดูแลตลอดทริป ถือว่าปลอดภัยมากค่ะ ที่เที่ยวก็ได้ไปที่ยอดนิยมอีกต่างหาก และยังเหมาะกับใครไปญี่ปุ่นครั้งแรกและยังไม่มั่นใจ หรือไปกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ เด็กๆ หรือคนที่เดินทางลำบาก ก็ทำให้ทุกอย่างเป็นเรื่องง่ายอีกด้วย

ทัวร์มีหลายแบบหลายราคา รวมถึง "โปรไฟไหม้" ด้วย

ข้อดีของการไปเที่ยวกับทัวร์เองก็มีมากมายเหมือนกัน แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องระวังสำหรับการใช้บริการทัวร์นั้นก็คือ สมัยนี้มีทัวร์หลากหลายราคา สิ่งที่ได้ก็ย่อมแตกต่างกันไปเช่นกัน ทัวร์ที่มีราคาถูกมาก อาจมีวันอิสระหรือมีบางมื้อที่ต้องหาร้านอาหารทานเอง ทำให้เราต้องวางแผนและคำนวณงบประมาณเพิ่มขึ้น แต่ข้อดีก็คือเราสามารถไปที่ที่เราอยากไปเองได้ด้วย

สมัยนี้ยังมีทัวร์แบบหนึ่งที่ราคาถูกสุดๆ ที่เราเรียกกันว่า "โปรไฟไหม้" หากดูเผินๆ จะเห็นว่าโปรแกรมทัวร์นั้นไม่ต่างจากทัวร์ราคาปกติหลายหมื่นบาทเท่าไหร่เลย นั่นก็เพราะว่าพวก "โปรไฟไหม้" มักจะเป็นที่นั่งเหลือจากทัวร์ที่ใกล้จะถึงวันเดินทางแล้ว จึงนำมาลดราคาสุดพิเศษนั่นเองค่ะ แน่นอนว่าข้อดีคือ ได้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในราคาถูกเมื่อเทียบกับเนื้อหาของทัวร์ แต่ข้อเสียก็คือกว่าจะเปิดขายก็ใกล้วันเดินทางแล้ว จึงเหมาะกับชาวฟรีแลนซ์หรือใครที่ลางานง่ายค่ะ

2. เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง

เที่ยวญี่ปุ่นจะไปกับทัวร์ ทัวร์ไพรเวทหรือไปเองดี? เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกันชัดๆ!

photo by Pixta

บางคนไม่อยากไปกับทัวร์เพราะอยากมีอิสระในการเที่ยว แต่การเที่ยวด้วยตนเองนั้นต้องระวังอะไร หรือต้องทำ ต้องเจออะไรบ้าง ลองอ่านดูนะ

แผนเที่ยว

หากใครตั้งเป้าว่าจะไม่ง้อทัวร์แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง ข้อดีสุดๆ ก็คือ เราได้ทุกอย่างตามที่ต้องการแน่นอน อยากไปเที่ยวที่ไหน ทานอะไร ไปเมื่อไหร่ วันไหน กี่วัน จะไปสถานที่ฮิตสุดๆ หรือไปที่ๆ ชาวบ้านเขาไม่ไปกัน เราสามารถจัดเองได้หมด แต่พอจัดเองได้หมดปุ๊บ ก็แปลว่าตัวเราเองนี่แหละที่ต้องศึกษาหาข้อมูลครบวงจรตั้งแต่ไปจังหวัดไหนดี มีอะไรเที่ยวบ้าง เดินทางอย่างไร พักที่ไหน ไปจนถึงคำนวณราคาเครื่องบินกับจำนวนวันที่จะไปว่าคุ้มไหม

ใครชอบทำแผน ชอบค้นคว้า ก็อาจสนุกกับการทำเรื่องพวกนี้ แต่ถ้าใครไม่ว่างหรือไม่ชอบลงรายละเอียดจุกจิก ก็อาจทำให้แผนการเที่ยวญี่ปุ่นเลื่อนไปเรื่อยๆ ไม่ได้ไปสักทีเหมือนกัน

งบ

การทำแผนเที่ยวเองทั้งหมดทำให้เรามีอิสระในการจัดสรรงบค่ะ นอกจากจะอยากไปในงบถูกแพงเท่าไหร่แล้ว เรายังเลือกได้ด้วยว่าจะทุ่มเงินไปในด้านใด
หากใครชอบช้อปปิ้ง อาจจะเที่ยวสถานที่ที่มีค่าเข้าน้อยหน่อย ทานอาหารราคาเบาๆ เพื่อเอาเงินไปช้อปเยอะๆ
หรือใครรักการกินเป็นชีวิตจิตใจ ก็อาจแวะที่เที่ยวน้อย แล้วไปหาร้านอาหารระดับสุดยอดทาน
การแบ่งงบแบบนี้เป็นสิ่งที่ทัวร์มักให้ไม่ได้ แม้ว่าปัจจุบันจะมีทัวร์ในราคาหลายระดับก็ตาม

เพียงแต่ในการไปเที่ยวเองนั้น แม้เราจะวางงบไว้แล้ว แต่อาจมีเงินหลายก้อนที่จะไปจ่ายจริงระหว่างท่องเที่ยว เช่น ค่ารถไฟ ค่าอาหาร และอื่นๆ ค่าใช้จ่ายเหล่านี้อาจมีเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ เช่น เปลี่ยนร้านที่จะทาน เปลี่ยนสถานที่เที่ยวกระทันหัน ค่าใช้จ่ายเลยสูงขึ้น หรือซื้อตั๋วผิด ร้านอาหารราคาแพงกว่าที่คิด ทำให้งบประมาณอาจเปลี่ยนไปมาหรือบานปลายได้ 

การเตรียมตัว

พอต้องวางแผนเองหมด มาถึงขั้นเตรียมตัวก็พลอยต้องเตรียมตัวเองหมดด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการจองตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก แลกเงิน และเรื่องต่างๆ ถ้าไม่ระวังก็อาจจะหลงลืมเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างการจองกิจกรรมที่สนใจได้

หลายอย่างเราอาจจะอยากได้คำปรึกษา เช่น แต่งตัวอย่างไรในแต่ละเดือน อะไรนำเข้าประเทศญี่ปุ่นได้บ้าง ถ้าหากเราใช้บริการทัวร์ เราก็จะมีที่ปรึกษา แต่เมื่อไปเที่ยวเอง ก็ต้องตามหาข้อมูลทั้งหมด

อาจฟังแล้วเป็นเรื่องยาก แต่ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ให้ข้อมูลมากมาย (อย่างเช่น MATCHA ของเราไง) รวมถึงมีเว็บบอร์ด กลุ่มใน SNS ต่างๆ ให้ปรึกษาและสอบถาม การเตรียมตัวไปเที่ยวญี่ปุ่นเองจึงไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

ค้นหาที่พักสุดคุ้มได้ที่ Booking.com

สไตล์การเที่ยว

สำหรับการเที่ยวเองนั้นแน่นอนว่ามีอิสระสูง เราอยากทำอะไรตามใจเราก็ได้เลย! (หรืออย่างน้อยก็เท่าที่ตกลงกับเพื่อนร่วมทริปได้)
เมื่อวานเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว วันนี้ขอตื่นสายนิด ขอย้อนกลับไปช้อปปิ้งร้านที่ลังเลเมื่อวานซืน หรือถูกใจที่เที่ยวนี้ อยากจะอยู่ต่อให้นานอีกหน่อยก็ยังได้ หากเที่ยวแล้วไม่ได้ดั่งใจหรือพึ่งได้ข้อมูลเด็ดใหม่มา ก็สามารถปรับแผน เปลี่ยนที่เที่ยว ที่กินได้ทันทีเช่นกัน เรื่องเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อดีของการเที่ยวเองที่ทัวร์ให้เราไม่ได้ค่ะ

เรื่องอาหารการกินอาจจะมีความเสี่ยงบ้างที่จะไปเจอเมนูอ่านไม่ออกหรือเมนูที่ไม่ถูกปาก โดยเฉพาะสำหรับใครที่นิยมไปหาเอาดาบหน้า ไม่เช็คร้านมาก่อน แต่ถ้ามองในแง่ดีก็คือเราจะได้ทานอาหารแบบชาวบ้านญี่ปุ่นจริงๆ หรือเลือกเมนู เลือกร้านที่น่าสนใจได้ด้วยตัวเอง เป็นประสบการณ์ที่ดีอีกอย่างค่ะ

นอกจากนี้การไปเที่ยวเองยังมีความเป็นส่วนตัวกว่า ไม่ต้องเสี่ยงกับการร่วมทีมกับคนที่ไม่รู้จักว่าจะตาดีได้ ตาร้ายทริปน่าเบื่อไหมด้วย

การเดินทาง

หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ขอแนะนำให้เปิดดูแผนที่รถไฟในโตเกียวก่อนเลยค่ะ
... แล้วจะเห็นว่ามันช่างเยอะแยะวุ่นวายซับซ้อนมาก! นั่นแหละค่ะคือสิ่งที่ต้องเจอ (โอซาก้าสายจะน้อยกว่าเล็กน้อย)
ถ้าใครมาโตเกียว ก็ต้องมาเจอกับการคมนาคมสุดสะดวกสำหรับคนคุ้นแล้ว แต่ติดอันดับ "สายรถไฟที่ซับซ้อน" ที่สุดในโลกแห่งหนึ่งทีเดียว เราอาจต้องใช้ศีลสมาธิในการเดินทางเพื่อไม่ให้หลง
ส่วนต่างจังหวัดบางทีอาจต้องเจอกับป้ายบอกทางที่มีแต่ภาษาญี่ปุ่นอีก

อย่างไรก็ตาม ความซับซ้อนขนาดนี้ก็หมายถึงความสะดวก เข้าถึงได้ทุกที่นะ!
สมัยนี้มีเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นช่วยแนะนำในการขึ้นรถไฟและต่อรถแล้ว แต่หากไม่คุ้นเคยก็จะต้องระมัดระวัง เพราะอาจมีบางสถานีมีรถไฟหลายสาย หรือมีบางสถานีที่ชื่อคล้ายกันค่ะ

ใครที่หลงทางเก่ง อาจจะต้องเจอปัญหาในการเดินทางบ้าง ต่างจากการเที่ยวกับทัวร์ที่มีรถรับส่งตลอดทริป แต่สำหรับคนที่มั่นใจในตนเอง ชอบท้าทาย หรือชอบเดินเล่นชมเมือง การเดินทางเองระหว่างเที่ยวก็ถือเป็นความสนุกอย่างหนึ่งนะ

ซื้อหาตั๋วรถไฟเที่ยวญี่ปุ่นแบบต่างๆ ในราคาประหยัดได้ที่ klook

ภาษาและปัญหา

คราวนี้เป็นเรื่องของความสามารถส่วนตัวล้วนๆ หากใครไม่ได้ภาษาญี่ปุ่นอาจจะกังวลร้อนๆ หนาวๆ ในการมาเที่ยวบ้าง ภาษาอังกฤษบางทีก็ไม่ค่อยช่วยในประเทศญี่ปุ่นเท่าไหร่ จึงอาจพบปัญหาเช่น สื่อสารกับร้านค้าไม่ได้ อ่านเมนูไม่ออก รวมถึงหากต้องการความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน หลงทาง ก็อาจจะสื่อสารไม่ได้เช่นกัน
การมาเที่ยวด้วยตนเองจึงต้องดูแลตนเองและเพื่อนร่วมทริป ไปจนถึงรับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยตัวเองค่ะ

แต่อย่างไรก็ตาม ในเมืองใหญ่ๆ ของญี่ปุ่นอย่างโตเกียว เกียวโต โอซาก้า และอื่นๆ ก็ปรับปรุงความสามารถในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวขึ้นทุกปี ตามสถานีใหญ่ๆ สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง โรงแรม ร้านค้าที่นักท่องเที่ยวไปกันเยอะ มักจะมีเคาน์เตอร์ ป้ายประกาศ รวมไปถึงพนักงานที่สื่อสารภาษาต่างชาติได้ (มักจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน เกาหลี) ให้ความช่วยเหลือเยอะขึ้นเรื่อยๆ
แถมยังมีเว็บไซต์อย่าง MATCHA หรือชุมชนคนในอินเตอร์เน็ทลงข้อมูลท่องเที่ยวอีกมากมาย
ถึงแม้จะไม่ได้ภาษาก็สามารถเที่ยวเองได้อย่างแน่นอน! เพียงแต่แนะนำให้ทำการบ้าน เช็คข้อมูลเที่ยวมาอย่างเพียงพอนะคะ
รวมถึงอย่าลืม "ทำประกันการท่องเที่ยว" มาด้วย หากเกิดเหตุฉุกเฉินจริงๆ เราจะได้อุ่นใจได้ค่ะ

เหมาะกับใคร

เพราะว่าต้องจัดการเองหมดตั้งแต่ทำแผน จอง และดูแลตัวเอง ทริปแบบนี้จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลามาลงรายละเอียดสักหน่อย แม้จะยุ่งยากสักนิด แต่ก็อยากมีอิสระ เที่ยวอย่างที่ต้องการ รวมถึงคนที่คุ้นเคยกับการท่องเที่ยวมาแล้ว หรือเคยมาเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว เที่ยวแบบนี้อาจจะเหมาะสำหรับการมากับเพื่อนๆ แฟน ครอบครัวที่พร้อมจะตะลุยไปด้วยกัน

หากกลุ่มไหนมีผู้ที่เดินทางไม่ค่อยสะดวกนัก เช่น นั่งรถเข็น หรือขาไม่ค่อยดี การมาเที่ยวญี่ปุ่นเองไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้เลยเสียทีเดียว เพราะถนนหนทางของญี่ปุ่นก็ถือว่าดีกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำไปค่ะ เพียงแต่ก็ต้องเตรียมตัวให้มากขึ้นไปอีก ถ้าพร้อมลุย ก็เป็นไปได้ที่จะมาเองนะ!

3. ทัวร์ไพรเวท (ทัวร์ส่วนตัว)

เที่ยวญี่ปุ่นจะไปกับทัวร์ ทัวร์ไพรเวทหรือไปเองดี? เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียกันชัดๆ!

photo by Pixta
นอกจากเที่ยวแบบทัวร์กลุ่มใหญ่ไปกับใครไม่รู้แล้ว ปัจจุบันยังมีทัวร์อีกแบบที่เรียกว่า "ทัวร์ไพรเวท" หมายถึงการจัดกรุ๊ปทัวร์ส่วนตัวเป็นกลุ่มเล็กๆ อาจจะเริ่มตั้งแต่เที่ยวในหมู่เพื่อนหรือครอบครัว 4-5 คน หรือยกก๊วนไปทั้งแผนกเป็นสิบคนก็ได้ ในที่นี่จะขออธิบายโดยเน้นการไปกันเป็นกลุ่มเล็ก เนื่องจากหากเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ราว 20 คนขึ้นไป จะสามารถใช้บริการเหมาทัวร์ปกติแบบในข้อ 1 ได้นั่นเอง

แผนเที่ยว

ทัวร์แบบไพรเวทนั้นมักจะมีแผนเที่ยวเป็นตัวอย่างเอาไว้อยู่แล้ว หากเราไม่อยากคิดอะไรมากก็สามารถให้ผู้รับจ้างจัดเที่ยวตามนั้นได้เลย
ในขณะเดียวกันเราก็สามารถปรับเปลี่ยนแผนให้เป็นแบบที่เราต้องการได้ หรือจะรีเควสท์แผนใหม่ที่ตรงใจเราสุดๆ ก็ได้เช่นกัน ในกรณีนั้นเราก็อาจต้องหาข้อมูลสถานที่ที่เราอยากไปสักหน่อยว่าอยากไปที่ไหน แถวไหน หรือแนวไหนบ้าง แต่ก็สะดวกสบายกว่าการเที่ยวเองที่ต้องหาข้อมูลลงลึกไปถึงวิธีเดินทางและวางแผนเวลาในแต่ละวันด้วยตนเอง หากเป็นทัวร์ไพรเวทเราไม่ต้องหาข้อมูลเสียละเอียดขนาดนั้นก็ได้ แล้วนำไปปรึกษากับผู้ให้บริการเพื่อจัดแผนที่เหมาะสมได้เลย
ผู้ให้บริการหลายเจ้ายังพร้อมให้คำแนะนำเช่น เราสามารถระบุได้ว่าอยากเป็นทัวร์เน้นเที่ยว เน้นกิน เน้นขนม หรือเน้นวัฒนธรรมต่างๆ อีกด้วย

ส่วนเรื่องวันที่ไปก็สามารถจัดตามที่เราต้องการได้เลยเช่นกันค่ะ

งบ

เนื่องจากสามารถจัดรายละเอียดทัวร์เองได้ จึงสามารถกำหนดงบด้วยตนเองได้ เช่น อยากจะนอนแพงขนาดไหน หรืออยากจะทานอาหารแพงขนาดไหน
แต่ก็ต้องยอมรับว่า "ทัวร์แบบไพรเวท" นั้นมีราคาสูงด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว และยิ่งจำนวนคนน้อยราคาก็ยิ่งแพงขึ้นอีก อาจจะมีราคาต่อหัวตั้งแต่หลักหมื่นต้นๆ ไปจนถึงหลักแสนบาทเลยก็เป็นไปได้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดและจำนวนคนที่เข้าร่วมทัวร์

เมื่อกำหนดแผนแล้ว งบประมาณมักจะไม่เปลี่ยนแปลงหรือบานปลายมากนัก เพราะค่าใช้จ่ายหลักๆ จะถูกกำหนดไว้แล้วเหมือนกับการไปเที่ยวแบบทัวร์ เหลือก็แค่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวอย่างการซื้อของฝาก ช้อปปิ้ง หรือซื้อขนม
ข้อควรระวังคือ ทริปเที่ยวแบบนี้บางครั้งก็สามารถคุยกับพนักงานเพื่อเปลี่ยนแผนเล็กๆ น้อยๆ ในวันเที่ยวได้ ซึ่งอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงได้ เช่น การเปลี่ยนร้านอาหารในกรณีที่ไม่ได้จอง หรือแวะห้างร้านนานกว่าเดิม เป็นต้น

การเตรียมตัว

ทัวร์แบบไพรเวทนั้นจะเตรียมตัวในเกือบทุกเรื่องให้เหมือนกับทัวร์กลุ่มใหญ่ เราจึงไม่ต้องห่วงเรื่องการจองร้าน จองรถ จองโรงแรมเลย รวมถึงทางทัวร์ยังให้คำแนะนำเรื่องการเตรียมเสื้อผ้า เตรียมแลกเงิน อื่นๆ ได้ด้วย

สไตล์การเที่ยว

แม้จะเป็นทัวร์ไปกันเป็นกลุ่ม แต่ก็มีอิสระเล็กน้อย เพราะกลุ่มที่ไปก็คนกันเองเป็นส่วนใหญ่ จึงมีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างสูงด้วย ไม่ต้องกลัวจะไปเจอคนแปลกหน้าที่อาจสร้างความลำบากให้ แผนเที่ยวจึงสามารถปรับในตอนเที่ยวได้บ้าง แล้วแต่จะคุยถึงความเหมาะสมและความเป็นไปได้กับพนักงานนำเที่ยวของทริป เช่น หากจะเปลี่ยนร้านอาหารเป็นร้านที่ต้องจองล่วงหน้า หรือเปลี่ยนจังหวัดที่อยากไป ก็คงเปลี่ยนยาก แต่ถ้าแค่เปลี่ยนเป็นเดินชิบูย่าให้นานหน่อยเพราะจะช้อป แล้วลดเวลาเที่ยวที่ต่อไปลง ง่ายๆ แบบนี้ก็พอจะปรับกันได้อยู่

ด้านอาหารการกินนั้นก็มีข้อดีทั้งจะได้เลือกทานอาหารที่ต้องการได้ อาจจะได้ทานร้านดังในหมู่คนญี่ปุ่นที่ทัวร์ไม่พาไป หรือถ้าหากไม่รู้จักร้าน ทางผู้ให้บริการทัวร์ก็มักจะมีร้านแนะนำให้อยู่แล้ว เรียกว่ามีโอกาสได้ทานของถูกใจและมีความเสี่ยงต่ำที่จะเข้าร้านผิดหรือสั่งอาหารผิดเลยล่ะ

การเดินทาง

โดยปกติแล้วการเดินทางไปกับทัวร์แบบส่วนตัวนั้นจะมีรถรับส่งบริการตลอดการเดินทาง รถที่ใช้จะขึ้นอยู่กับจำนวนสมาชิกทัวร์ มีตั้งแต่รถตู้เล็กไปจนถึงรถบัส จึงไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องจะเดินทางไปที่เที่ยวอย่างไร และจะหลงทางไหม

สำหรับทัวร์กลุ่มใหญ่ บางครั้งจะมีวันอิสระให้เที่ยวเอง หรือปล่อยให้เดินเที่ยวกันเองตามแหล่งช้อปปิ้งอย่างชินจูกุ หรืออิเคะบุคุโระ แต่สำหรับทัวร์แบบไพรเวทนั้น เนื่องจากจำนวนคนน้อย บางครั้งจึงอาจได้เดินเที่ยวไปพร้อมๆ กับไกด์ที่จะช่วยแนะนำร้านและคุยกับพนักงานให้ ถือว่ายิ่งสะดวกและไม่มีจังหวะให้หลงทางอย่างแน่นอนค่ะ
(หากเดินทางกลุ่มใหญ่หน่อย หรือมีคนที่อยากแยกกันเดิม ก็อาจจะไม่ได้เดินกับไกด์ตลอดนะคะ)

ภาษาและปัญหา

ทัวร์ไพรเวทนั้นจะมีไกด์ซึ่งมักได้ภาษาญี่ปุ่นติดตามตลอดการเดินทาง ทำให้เราไม่ต้องกังวลกับภาษาเลย
รวมถึงหากเกิดปัญหาใดๆ ระหว่างเดินทาง ก็จะมีไกด์ที่ร่วมทัวร์กับเรานี่แหละคอยให้ความช่วยเหลือได้ เราจึงสามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจตลอดการเดินทาง

เหมาะกับใคร

สรุปง่ายๆ ก็คือ การเที่ยวแบบ "ทัวร์ไพรเวท" นั้น เป็นการนำข้อดีของการเที่ยวกับทัวร์และการเที่ยวด้วยตนเองมาไว้ด้วยกันค่ะ แต่สิ่งที่แถมมาด้วยก็คือราคาที่สูงขึ้นตามมา โดยเฉพาะหากยิ่งเป็นกรุ๊ปเล็ก ค่าใช้จ่ายต่อคนก็จะยิ่งสูงและอาจสูงถึงหลักแสนบาทได้เลย (แล้วแต่รายละเอียดของทัวร์)
ทัวร์แบบไพรเวทจึงเหมาะกับคนที่อยากสบาย อยากเที่ยวได้ดั่งใจ ไม่ต้องทำข้อมูลเองเยอะมาก อยากได้ความเป็นส่วนตัวและ "มีงบถึง" จะไปกับครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนก็ได้ รวมถึงใครที่มีธีมพิเศษๆ ในการเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นทัวร์กินไปจนถึงถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง ก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยค่ะ 

4. ทัวร์เสริม แพคเกจทัวร์

富士山・桜・五重塔が揃った“The Japan”な絶景スポット「忠霊塔」の楽しみ方

จากบทความ เจดีย์แดง 5 ชั้น ชูเรโต จุดชมวิวที่รวมความเป็นญี่ปุ่นไว้ในที่เดียว ทั้งฟูจิ และซากุระ (Chureito Pagoda, Mt. Fuji)

สมัยนี้ทางเลือกในการไปเที่ยวญี่ปุ่นมีเยอะจริงๆ ค่ะ!
อีกแบบนึงที่เราจะนำเสนอให้รู้จักกันก็คือทัวร์แบบ "ทัวร์เสริม" หรือ "แพคเกจทัวร์" ที่หลายท่านอาจจะยังไม่คุ้นหรือไม่ค่อยนึกถึงกัน

"ทัวร์เสริม" หรือ "แพคเกจทัวร์" นี้แตกต่างจากที่เล่ามาด้านบนเพราะมักไม่ครอบคลุมตลอดการเดินทาง และเป็นเพียงการ "เสริม" เข้าไปในทริปของเราเท่านั้น เช่น ทัวร์เก็บสตรอเบอร์รี่ 1 วัน ทัวร์ภูเขาฟูจิ 2 วัน ซึ่งเราจะต้องเดินทางไปที่นัดพบในญี่ปุ่นเอง แล้วไปเที่ยวร่วมกันเป็นหมู่คณะกับคนอื่นๆ ที่สมัครทัวร์เดียวกัน ส่วนใหญ่ก็จะนัดเจอกันตามสถานีหลักๆ ของญี่ปุ่นค่ะ ทัวร์แบบนี้มักมีบริการเป็นภาษาอังกฤษและจีนเป็นส่วนใหญ่
สำหรับคนที่เที่ยวกับทัวร์แล้วมีวันอิสระหรือไปเที่ยวด้วยตัวเอง ก็สามารถหาซื้อบริการทัวร์แบบนี้ใส่เข้าไปในแผนเที่ยวของเราได้ค่ะ

แต่ "แพคเกจทัวร์" ในบางครั้งก็มีขายครอบคลุมทั้งทริปเลยในรูปแบบตั๋วเครื่องบินพร้อมที่พัก แล้วเรามีหน้าที่เที่ยวเองค่ะ นอกเหนือจากนั้นแล้วมักจะเป็นแบบที่กล่าวมาด้านบน

นอกจากนี้สำหรับพวกทัวร์เป็นกลุ่มแบบข้อแรกที่มีวันอิสระให้ บางครั้งทางทัวร์ก็จะจัดทัวร์เสริมแบบนี้ให้เลือกเข้าร่วมเองด้วยหากไม่อยากหาหนทางเที่ยวเอง

แผนเที่ยว

เนื่องจากมีลักษณะเป็นทัวร์ จึงไม่ต้องวางแผนอะไรเอง ไปเที่ยวตามที่เขาวางได้เลย แต่เราก็มีหน้าทีหาทัวร์แบบที่ถูกใจเรา รวมถึงต้องเช็คสถานที่นัดพบ เวลาที่นัดพบให้ดี
โดยส่วนใหญ่จะเป็นแผนเที่ยวในระยะเวลา 1-2 วันเท่านั้น

ข้อดีอย่างหนึ่งของการเที่ยวกับทัวร์เสริมก็คือ แม้เราจะเดินทางมาเที่ยวด้วยตนเอง แต่จะมีวันสบายๆ ที่ไม่ต้องวุ่นวายกับการเตรียมตัวเอง นั่งรถชิลๆ ไปเที่ยวได้เลย แถมบางทัวร์ยังเป็นการไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวแบบมาเองไปได้ยากอีกด้วย เช่น สวนเก็บผลไม้หลายสวนก็เดินทางด้วยรถไฟไม่สะดวก เป็นต้น

งบ

สามารถเลือกงบที่ต้องการได้ และบานปลายยาก เพราะมักรวมค่าใช้จ่ายหมดแล้ว เหลือแต่ค่าใช้จ่ายส่วนตัวจำพวกซื้อของ ซื้อขนม

การเตรียมตัว

ไม่ต้องเตรียมอะไรมากนอกจากตรวจสอบสถานที่นัดพบ เวลานัดพบ และอาจทำการบ้านเองเล็กน้อยอย่างของฝากที่อยากซื้อ

สไตล์การเที่ยว

ไปกับทัวร์ จึงไม่มีอิสระมาก และต้องเจอกับคนที่ไม่รู้จัก รวมถึงทัวร์เสริมมักจะเป็นการรวมนักท่องเที่ยวจากหลายๆ ที่มารวมกัน เราจึงอาจเจอสารพัดชาติภายในกลุ่มที่จะไปเที่ยวด้วยกัน 

การเดินทาง

มักใช้รถรับส่งตลอดการเดินทาง จึงไม่ต้องกลัวเรื่องวิธีเดินทางหรือหลงทาง

ภาษาและปัญหา

เมื่อเกิดปัญหาอะไรก็สามารถติดต่อพนักงานที่ดูแลทัวร์ให้ช่วยเหลือได้เลย
แต่ทัวร์เสริมส่วนใหญ่จะมีพนักงานที่ใช้ภาษาอังกฤษ (หรือจีน) เป็นหลัก บางครั้งอาจไม่มีคนที่พูดภาษาไทยได้ หากเราสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้บ้าง ก็จะช่วยให้เที่ยวได้สนุกและสะดวกขึ้น

เหมาะกับใคร

เหมาะกับคนที่มาทัวร์หรือมาเที่ยวเอง ที่มีวันอยากเที่ยวสบายๆ ไม่ต้องคิดมาก หรือมเป้าหมายที่เที่ยว/กิจกรรมที่เดินทางเองยาก

ค้นหาทัวร์เสริมบริการแบบญี่ปุ่นมั่นใจได้ที่ H.I.S.

5. สรุปข้อดี ข้อเสีย เที่ยวแบบไหนเหมาะกับใคร?

เช็คลักษณะของวิธีการเที่ยวแต่ละแบบไปเรียบร้อยแล้ว เรามาสรุปข้อดีข้อเสียกันแบบสั้นๆ อ่านง่ายๆ ว่าทัวร์แบบไหนดีอย่างไร และจะเหมาะกับคนแบบไหน

ทัวร์ เที่ยวเอง ทัวร์ไพรเวท ทัวร์เสริม
แผนเที่ยว หาทัวร์ที่ชอบ ไม่ต้องเตรียมเอง ทำข้อมูลเองหมด หาข้อมูลเฉพาะส่วนที่ชอบ หาทัวร์ที่ชอบ ไม่ต้องเตรียมเอง
วันเวลา ต้องไปตามวันทัวร์ ไปเมื่อไหร่ก็ได้ตามสะดวก ไปเมื่อไหร่ก็ได้ตามสะดวก ต้องไปตามวันทัวร์
งบ เลือกตามทัวร์ มีหลายราคา เท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่ชอบ เท่าไหร่ก็ได้ แล้วแต่ชอบ แต่มักมีราคาสูง เลือกตามทัวร์ มีหลายราคา
เตรียมตัว เตรียมแค่ข้าวของส่วนตัว เตรียมเองทุกอย่างตั้งแต่การจองตั๋ว เตรียมแค่ข้าวของส่วนตัว เตรียมแค่ข้าวของส่วนตัว และเช็คเวลา สถานที่นัดพบ
ที่ปรึกษา ปรึกษาทัวร์ได้ หาข้อมูลเองหรือถามคนรู้จัก คนในเน็ท ปรึกษาทัวร์ได้ ปรึกษาทัวร์ได้
การเดินทาง มีรถบริการ ต้องเดินทางเอง มีรถบริการ มีรถบริการ
ภาษา มีคนช่วย อาจมีปัญหาเรื่องไม่เข้าใจภาษาได้ มีคนช่วย มีคนช่วยแต่มักเป็นภาษาอังกฤษหรือจีน
ปัญหา ปรึกษาทัวร์ได้ ต้องดูแลตัวเอง ปรึกษาทัวร์ได้ ปรึกษาทัวร์ได้
เหมาะกับ คนที่ไม่มีเวลาหาข้อมูล อยากเดินทางสบายๆ ปลอดภัยไว้ก่อน อยากเช็คอินที่เที่ยวยอดนิยม คนมีเวลาทำข้อมูล ชอบท้าทาย รักอิสระ รักความเป็นส่วนตัว อยากเที่ยว อยากกินแบบที่ต้องการ คนที่อยากเป็นส่วนตัว อยากเที่ยวกินแบบที่ต้องการ แต่ก็อยากสบาย ยอมจ่ายแพงได้ คนที่มาทัวร์หรือเที่ยวเองแล้วมีวันอิสระที่อยากเที่ยวแบบสบายๆ หรือมีที่เที่ยว/กิจกรรมที่ไปเองยาก

ตารางนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะอย่างไรการท่องเที่ยวก็คือความสนุกสนานส่วนบุคคลที่แต่ละคนย่อมมีรสนิยมต่างกันออกไป รวมถึงมีเงื่อนไขในการเที่ยวต่างกันด้วย 

ลองใช้ข้อมูลเหล่านี้ช่วยตัดสินใจเพื่อเลือกหาวิธีเที่ยวที่จะเหมาะสมและตรงใจของคุณกันนะคะ!

Written by

Avatar

Kogetsu

Tokyo, Japan

สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์

Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ