Start planning your trip
ไปพบกับ "ร้านสะดวกซื้อที่ไร้ผู้คน (พนักงาน)" แห่งอนาคตของญี่ปุ่นพร้อมวิธีใช้บริการ
เมื่อญี่ปุ่นกำลังเดินหน้าไปสู่สังคมคนชราอันไร้ผู้คนในวัยทำงาน เราจะพาไปรู้จักกับ "ร้านสะดวกซื้อที่ไม่มีพนักงาน" รูปแบบของร้านสะดวกซื้อแห่งอนาคตของญี่ปุ่นที่ร้าน New Days สาขาสถานีมุซาชิซาไก (Musashi Sakai) พร้อมวิธีใช้บริการ!
โตเกียวและญี่ปุ่นที่ไร้ผู้คน ...
"โตเกียว" คือ มหานครระดับโลกของญี่ปุ่น ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นมหาอำนาจ ตอนมาเที่ยวโตเกียว เราจะได้พบกับผู้คนมากมายตามถนนหนทาง เรียกได้ว่าไม่เคยขาดแสงสว่างและเสียงของผู้คน
แต่ญี่ปุ่นและโตเกียวที่เป็นอย่างนั้น แท้จริงแล้วกำลังประสบปัญหา "สังคมคนชรา (Aging Society)" ส่งผลให้เกิดปัญหาโดยเฉพาะจำนวนประชากรวัยทำงานในสังคมลดลงเรื่อยๆ ญี่ปุ่นนั้นถือเป็นประเทศหนึ่งที่มีปัญหานี้ในระดับ "ร้ายแรงที่สุดในโลก" เลยทีเดียว ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นเราอาจจะเจอกับพนักงานที่เป็นชาวต่างชาติ นั่นคือหนึ่งในวิธีการแก้ปัญหาโดยเปิดให้แรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฏหมายเพิ่มขึ้น
และอีกวิธีหนึ่งก็คือ การใช้ "วิธีการที่ไร้ผู้คน" อย่าง "เทคโนโลยี" เข้ามาช่วยค่ะ
ร้านสะดวกซื้อที่ไร้ผู้คน
ร้านสะดวกซื้อคือร้านแสนสะดวกสบายตามชื่อของมันที่มีสินค้าให้ซื้อ 24 ชั่วโมง เบื้องหลังของความสะดวกสบายนั้นก็คือการใช้พนักงานหมุนเวียนกันทั้งวัน ร้านสะดวกซื้อหลายเจ้าจึงได้เริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อช่วยปัญหาเรื่องคนงาน
วันนี้เราขอพาทุกคนไปรู้จักกับ "ร้านสะดวกซื้อที่ไร้ผู้คน" ที่พึ่งเปิดใหม่เมื่อ 30 กรกฏาคม 2019 ร้าน "New Days สาขาสถานีมุซาชิซาไก (Musashi Sakai)" ค่ะ
New Days สาขาสถานีมุซาชิซาไก (Musashi Sakai)
New Days เป็นร้านสะดวกซื้อของบริษัทในเครือ JR (East Japan Railway Company) บริษัทรถไฟจึงมีสาขาอยู่มากมายโดยเฉพาะตามสถานีของ JR
ร้านนี้อยู่ติดกับที่ตรวจตั๋วของสถานีมุซาชิซาไก รถไฟ JR สายจูโอ (Chuo) เมื่อออกทางออก nonowa จะพบร้านอยู่ขวามือเลย ตัวร้านมีขนาดไม่ใหญ่นัก ลักษณะพิเศษของร้านนี้คือเป็นร้านแห่งอนาคตที่ "ไม่มีพนักงาน" และ "ไม่ใช้เงินสด (cashless)"
ทันทีที่เข้าประตูทางขวาไปในร้านจะเห็นชั้นวางสินค้าเรียงรายไปด้วยอาหารง่ายๆ (ข้าวปั้น แซนด์วิช) ขนมปัง ขนมขบเคี้ยว เครื่องดื่ม สิ่งของที่ใช้ในชีวิตประจำวันหรือต้องซื้อฉุกเฉิน เช่น มาส์ก สายชาร์จโทรศัพท์ ร่ม ฯลฯ แต่ไม่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือบุหรี่ เนื่องจากไม่มีพนักงานคอยตรวจสอบอายุ
บริเวณทางออกจะมี "เครื่องคิดเงินด้วยตนเอง" ตั้งอยู่ 2 เครื่อง
วิธีการใช้งานเครื่องคิดเงินด้วยตนเอง
1. หยิบสินค้ามาที่หน้าเครื่อง
เมื่อเดินเลือกซื้อสินค้าภายในร้านเสร็จแล้วก็ถือมาวางได้เลย
ตัวเครื่องนั้นมีบริการภาษาต่างชาติทั้ง อังกฤษ จีนและเกาหลี หากใครอยากเปลี่ยนภาษาก็กดตอนนี้เลยค่ะ
2. สแกนบาร์โค้ดสินค้า
ที่สินค้าทุกชิ้นจะมีบาร์โค้ดอยู่ ให้นำไปสแกนกับเครื่องอ่าน
รายการสินค้าจะขึ้นมาพร้อมราคา (ปัจจุบันชื่อสินค้าแสดงได้แค่ภาษาญี่ปุ่น) จากนั้นก็สแกนสินค้ารายการถัดไปได้เลย
3. ตรวจสอบความเรียบร้อยของรายการ
เช็คดูว่าสินค้าที่สแกนถูกต้องไหม หากถูกต้องก็กด Pay (ปุ่มสีเหลือง)
หากสแกนผิดหรืออยากเปลี่ยนสินค้าก็สามารถกดปุ่ม cancel เพื่อสแกนใหม่ได้
4. เลือกวิธีการชำระเงิน
ร้านนี้ใช้ระบบ Cashless จึงไม่สามารถจ่ายเงินสดได้ แต่สามารถจ่ายได้ด้วย IC card ต่างๆ เช่น SUICA หรือจะใช้บัตรเครดิตจ่ายก็ได้
5. ชำระเงิน
หากเลือกจ่ายด้วย IC Card
ก็นำบัตรแตะตรงเครื่องรับสัญญาณทางขวามือ
แต่ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิตก็นำบัตรสอดเข้าไปในเครื่องด้านล่าง
6. ใส่ถุง
ใต้เครื่องชำระเงินจะมีถุงพลาสติกหลากขนาดอยู่ เลือกไซส์ที่พอเหมาะ ใส่สินค้าที่ซื้อ แล้วเดินออกประตูทางขวามือได้เลยค่ะ
แม้จะบอกว่าร้านเป็นแบบไร้พนักงาน แต่ในความเป็นจริงแล้วจะมีพนักงานคอยประจำอยู่เมื่อเกิดปัญหาอะไรขึ้นและเพื่อคอยเติมสินค้า เพียงแต่พนักงานจะไม่ได้อยู่หน้าร้านเสมอ หากมีปัญหาในการใช้งานอะไรสามารถกดปุ่มด้านขวามือของเครื่องเพื่อเรียกพนักงานได้ค่ะ
สู่อนาคตอันไร้ผู้คน (พนักงาน) ของร้านสะดวกซื้อ
ร้าน New Days สาขาสถานีมุซาชิซาไกนั้นถือเป็นหนึ่งในร้านทดสอบที่เปิดให้บริการจริง ยังมีร้านอื่นๆ ทั้งของ New Days เองและบริษัทอื่นที่ทดลองร้านระบบไร้พนักงานในรูปแบบต่างๆ
ด้วยแนวโน้มของประเทศญี่ปุ่น ผลการทดสอบเหล่านี้จะถูกนำไปพัฒนาให้ร้านสะดวกซื้อยุคใหม่มีรูปแบบที่ปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับเพิ่มจำนวนสาขากระจายไปตามที่ต่างๆ
อย่างในปัจจุบันร้านของ New Days หลายสาขาก็มีการนำเครื่องชำระเงินด้วยตนเองไปติดตั้งตามร้านปกติ เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าที่ไม่อยากรอคิวชำระเงินกับพนักงาน
หากใครได้มาเยือนญี่ปุ่น ลองสัมผัสกับอนาคตของประเทศญี่ปุ่นผ่านร้านสะดวกซื้อรูปแบบใหม่นี้กันดูนะคะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
เอื้อเฟื้อข้อมูลโดย JR East Retail Net Co., Ltd.
สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์
Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง