เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

ย่ำเมืองเก่า เล่าเสน่ห์คามาคุระ กับจุดเที่ยวรองที่คนยังไปน้อย

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

คามาคุระเป็นเมืองริมทะเลใกล้โตเกียว ที่ตั้งของพระใหญ่ไดบุตสึ ถนนร้านค้า และวัดศาลเจ้ามากมาย แต่ยังมีเส้นทางเดินเขาชมธรรมชาติและศาลเจ้าเล็กๆ อีกมากที่หลายคนยังไม่เคยไป มาเที่ยวสัมผัสเสน่ห์ของคามาคุระกัน

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ย่ำเมืองเก่า เล่าเสน่ห์คามาคุระ

kamakura daibutsu

The Daibutsu of Kotokuin Temple, Kamakura, in summer.
คามาคุระ (Kamakura) คือเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นในเขตโชนัน พื้นที่ริมอ่าวซากามิ จังหวัดคานากาวะ ระหว่างปี ค.ศ. 1185-1333 ปัจจุบันก็ยังเป็นเมืองริมทะเลที่มีชีวิตชีวา มีสถานที่ทางประวัติศาสตร์ วัดวาอารามเก่าแก่ และธรรมชาติสวยๆ เดินทางจากโตเกียวเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น เลยมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้

ถ้าลองมานอนค้างในคามาคุระสักคืนสองคืน ค่อยๆ เดินเที่ยวไปตามตรอกซอกซอยที่ไม่ได้เขียนไว้ในหนังสือนำเที่ยว ก็จะได้เจอกับสถานที่ที่คนไม่พลุกพล่าน และสัมผัสความเป็นคามาคุระได้อย่างเต็มที่

view of kamakura

ครั้งนี้ขอแนะนำ 8 จุดตระเวนเที่ยวแบบต่อนยอนเพื่อสัมผัสเสน่ห์เมืองเก่าคามาคุระ

1. นั่งรถไฟเรโทร เอโนะเด็น

enoden kamakura

เอโนะเด็น Enoden ชื่อเรียกย่อๆ ของการรถไฟเอโนะชิมะ เดินรถระหว่างสถานีคามาคุระและสถานีฟูจิซาวะเป็นระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรเท่านั้น ทางรถไฟลัดเลาะไประหว่างบ้านเรือนบ้าง เลียบไปตามชายฝั่งทะเลบ้าง สามารถนั่งรถไฟเอโนะเด็นเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดท่องเที่ยวดังๆ อย่าง วัดพระใหญ่ไดบุตสึ และเกาะเอโนะชิมะ (Enoshima) ได้ด้วย

รถไฟเอโนะเด็นวิ่งช้าๆ หวานเย็นมากด้วยความเร็วแค่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่ว่าจะนั่งบนรถแล้วถ่ายรูปวิวข้างนอก หรือจะอยู่ข้างนอกแล้วอยากถ่ายรูปขบวนรถเป็นที่ระลึกก็ไม่พลากสักช็อตแน่นอน

enoden hase station

รถไฟเอโนะเด็นเริ่มเดินรถมาในยุคเมจิ ราวศตวรรษที่ 19 ตู้รถไฟกับสถานีก็ยังคงความเรโทรเอาไว้ไม่เปลี่ยน

ถ้าแพลนว่าจะขึ้นเอโนะเด็นบ่อย ขอแนะนำให้ซื้อตั๋ว one-day pass นั่งได้ไม่จำกัดเที่ยวใน 1 วัน ใช้ได้เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์เท่านั้น

2. นั่งกินลมชมวิวพร้อมอาหารอร่อยที่คาเฟ่ริมทะเล

kamakura cafe

ฝั่งอ่าวของคามาคุระมีร้านอาหารและคาเฟ่อร่อยๆ ริมหาดเต็มไปหมด อย่างในรูปด้านบนนี่คือวิวจากร้าน Magokoro เดินเพียง 5 นาทีจากสถานีฮาเซะ (Hase) เป็นคาเฟ่พร้อมเมนูอาหารที่นำเมล็ดกัญชง (*) มาเป็นวัตถุดิบ คู่กับของดังประจำท้องถิ่นอย่างปลาชิราซุ (ปลาข้าวสาร) ผักสด และวัตถุดิบออร์แกนิกอื่นๆ เมนูสำหรับผู้ที่ทานวีแกนหรือมังสวิรัติก็มี ถ้าอยากได้วิวสวยๆ เป็นกับแกล้มระหว่างมื้อก็ขึ้นไปนั่งตรงเคาน์เตอร์บนชั้น 2 ได้เลย

ถ้านั่งรถไฟไปลงที่สถานีชิจิริกาฮามะ (Shichirigahama) ก็มีคาเฟ่ริมถนนเลียบหาดให้เลือกอีกหลายเจ้า

* มีการใช้กัญชง เมล็ดกัญชงในญี่ปุนมานานตั้งแต่อดีต ทั้งในกระบวนการผลิตเหล้าสาเก ทำเชือกศักดิ์สิทธิ์สำหรับศาลเจ้า และประกอบอาหาร โดยไม่มีสารออกฤทธิ์ต่อประสาทแต่อย่างใด

3. วิวอ่าวจากวัดบนยอดเขา

kamakura view

เดินเขาขึ้นไปยังวัดโจจูอิน (Jojuin Temple) แล้วชมวิวมุมสูงของหาดยุอิกาฮามะและชายฝั่งเขตโชนัน ล้อมกรอบด้วยพืชพรรณเขียวชอุ่ม ถือเป็นอีกจุดถ่ายรูปยอดนิยมของคามาคุระ ในช่วงฤดูฝนจะมีดอกไฮเดรนเยียบานตามทางเดินด้วย

ถ่ายรูปเสร็จก็เข้าไปสัมผัสบรรยากาศเงียบสงบด้านในวัด ว่ากันว่าวัดแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1688 เป็นวัดอีกแห่งที่มีประวัติยาวนานและมีคุณค่ามาก

4. เดินย่ำทรายและคลื่นทะเลบนหาดยุอิกาฮามะ

yuigahama beach kamakura

หาดยุอิกาฮามะ (Yuigahama Beach) เป็นหาดที่คนนิยมมาเล่นน้ำทะเลและเล่นเซิร์ฟบอร์ดในช่วงฤดูร้อน ถ้ามาวันเสาร์อาทิตย์อาจจะเจอคนเยอะ แต่ถ้ามาวันธรรมดาก็จะพักผ่อนนอนอาบแดด เดินเล่นริมทะเลได้สบายๆ วันที่อากาศปลอดโปร่งอาจโชคดีได้เห็นภูเขาฟูจิด้วยนะ

วิธีมาหาดยุอิกาฮามะ ให้นั่งรถไฟเอโนะเด็นมาลงที่สถานียุอิกาฮามะ (Yuigahama) แล้วเดินออกมาทางฝั่งทะเล ฤดูเล่นน้ำทะเลคือราวกรกฎาคม-สิงหาคม ส่วนเดือนอื่นๆ ก็มาเดินริมหาดชมวิวได้ตลอด

5. เดินเขากลางเมืองคามาคุระสู่สวนเก็นจิยามะ

kamakura hiking

จาก "Kamakura Tour - Zen Meditation, Shrines, And Local Treats"

สวนเก็นจิยามะ (Genjiyama Park) และเส้นทางเดินเขาใกล้เคียงสถานีคามาคุระจะพาทุกคนไปชมพระใหญ่และศาลเจ้าเล็กๆ หลายแห่ง ระหว่างทางจะเดินไปท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นของป่าเขาพร้อมวิวทะเล เส้นทางนี้เดินเดินได้ตลอดทั้งปี แต่อากาศจะร้อนเป็นพิเศษในช่วงหน้าร้อน อย่าลืมพกน้ำและอุปกรณ์กันแดดมาด้วย ถ้าเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิก็มีซากุระ ช่วงฤดูใบไม้ร่วงก็มีใบไม้แดง ใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม

ใช้เวลาเดินจากสถานีคามาคุระถึงสวนเก็นจิยามะประมาณ 25 นาที แนะนำให้สวมรองเท้าผ้าใบที่เดินคล่องเพราะมีช่วงลาดชันและทางแคบ ที่สำคัญคือเผื่อเวลาเดินให้ทันก่อนฟ้ามืดไม่งั้นเดี๋ยวอันตราย

6. ดินแดนแห่งจิ้งจอกในศาลเจ้าซาซุเกะอินาริ

sasuke inari shrine

จาก "Kamakura Tour - Zen Meditation, Shrines, And Local Treats"
ศาลเจ้าซาซุเกะอินาริ (Sasuke Inari Shrine) เป็นศาลเจ้าเล็กๆ ที่หลายคนอาจไม่รู้จัก อยู่ระหว่างเส้นทางเดินเขาที่แนะนำไปข้างบน

มีเสาประตูโทริอิสีแดงชาดและรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกมากมายคอนต้อนรับผู้คน เชื่อกันว่าสุนัขจิ้งจอกเป็นผู้รับใช้ของเทพอินาริ เทพแห่งกสิกรรมและความมั่งคั่ง คนญี่ปุ่นมักมาไหว้ขอพรให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานกันที่นี่

สีแดงชาดของโทริอิและสีขาวของรูปปั้นจิ้งจอกท่ามกลางแมกไม้เขียวจะทำให้เหมือนได้หลุดเข้าไปในโลกการ์ตูนญี่ปุ่นเลย แต่อยากให้ระวังเรื่องส่งเสียงดังกันนิดนึงเพราะศาลเจ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอยู่อาศัยทั่วไป

7. ศาลเจ้าคุซุฮาระโอกะ ศาลเจ้าในแมกไม้

kuzuharaoka shrine

Photo by Pixta
ศาลเจ้าคุซุฮาระโอกะ (Kuzuharaoka Shrine) อีกหนึ่งศาลเจ้าที่อยู่บนเส้นทางเดินเขาของสวนเก็นจิยามะ อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ร่มรื่นตลอดปีในมุมหนึ่งของเมืองคามาคุระ เดินมาได้ไม่ลำบาก

kuzuharaoka shrine

จาก "Kamakura Tour - Zen Meditation, Shrines, And Local Treats"

เชื่อกันว่าศาลเจ้าแห่งนี้ช่วยบันดาลโชคด้านความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นด้านความรัก มิตรภาพ หรือการงาน ลองเอาเหรียญ 5 เยน (เหรียญ 5 เยนจะมีรูตรงกลาง) มาผูกเข้ากับด้ายแดงบนหินอย่างในรูปนี้กัน

8. ช้อปของฝาก ของกิน ของใช้ที่ถนนโคมาจิ

komachi dori kamakura

ถนนโคมาจิ (Komachi Dori) ถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าร้านอาหาร ร้านของฝากสารพัด ปกติแล้วคนจะเยอะช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าอยากเลี่ยงคนเยอะก็แนะนำให้มาวันธรรมดาดีกว่า แต่ระวังอย่างนึงคือร้านส่วนใหญ่มักจะปิดเร็วตอนประมาณ 18:00

vegan goma ice cream kamakura

ไอศกรีมเต้าหู้รสงาดำโรยงาขาวของร้าน Goma Fukudo อยู่แถวช่วงกลางๆ ถนนพอดี คนที่ทานวีแกนก็ทานได้ ช่วยคลายร้อนได้ดีเลย

อีกร้านที่อยากแนะนำคือ ร้าน Mameya ร้านสารพัดถั่วที่ปรุงรสสไตล์ญี่ปุ่น เช่น มัทฉะ วาซาบิ และสาหร่าย แล้วก็มีรสพิเศษเฉพาะฤดูกาลที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เช่น รสซากุระ

ข้อแนะนำเล็กน้อยสำหรับการเที่ยวคามาคุระ

hasedera temple

Photo by Pixta

คามาคุระเป็นที่เที่ยวยอดนิยมไม่เฉพาะชาวต่างชาติอย่างเราๆ แม้แต่คนญี่ปุ่นก็ชอบมาเหมือนกัน เลยขอแนะนำวิธีเที่ยวคามาคุระให้สะดวกสบายดังนี้

ไปเที่ยวในจุดที่คนไม่ค่อยรู้จัก

แน่นอนว่ามาคามาคุระใครๆ ก็อยากไปไหว้พระใหญ่ไดบุตสึ หรือเดินชมศาลเจ้าสึรุโอกะ ฮาจิมังกู เอาเป็นว่าในครั้งแรกก็เก็บจุดเที่ยวดังๆ ให้ครบ หลังจากนั้นถ้าได้ไปอีกก็ลองแวะไปเดินตามจุดอื่นๆ บนถนนเส้นรอง ศาลเจ้าเล็กๆ นอกจากคนน้อยแล้วยังอาจได้เจออะไรใหม่ๆ ทที่มไม่ีในไกด์บุ๊กด้วย

มาเที่ยวคนเดียวหรือเป็นคู่

ร้านรวมตามทางในคามาคุระมีของน่าสนใจเยอะมาก แถมร้านคาเฟ่ ร้านอาหารส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยจะกว้างขวางเท่าไหร่ การมาเที่ยวคนเดียวหรือมาเป็นคู่ก็ทำให้แวะเข้าได้ง่าย อยากหยุดแวะตรงไหนหรือเลือกทานอะไรก็ง่ายดี

ค้างสักคืนสองคืน

อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าคนส่วนใหญ่มักมาเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ แต่ถ้าได้มาตค้างคืนในคามาคุระก็จะมีเวลาเที่ยวมากขึ้น มีเวลาซึมซับไปกับบรรยากาศของคามาคุระและเขตโชนันได้อย่างไม่ต้องรีบร้อน ตื่นเช้ามาเดินท่ามกลางธรรมชาติไม่ก็รับลมทะเลสบายๆ

ลองดูที่พักในคามาคุระได้จากเว็บอย่าง Booking.com เช่น Guesthouse Irodori เกสต์เฮาส์ใกล้สถานีคามาคุระที่ออกแบบมาให้รองรับผู้ที่นั่งรถเข็นด้วย

มาเที่ยววันธรรมดา

คนจะมาเที่ยวคามาคุระและโชนันกันเยอะเป็นพิเศษในวันหยุดและวันเสาร์อาทิตย์ ถ้าไม่อยากเจอคนเยอะก็แนะนำให้มาวันธรรมดา คนที่ทำงานหรือเรียนในญี่ปุ่นก็คงยากหน่อย แต่ถ้ามีวันลาพอดีก็ขอแนะนำ เพราะเราจะสามารถซื้อตั๋วโนริโอริคุง Noriorikun สำหรับนั่งรถไฟเอโนะเด็นได้ไม่จำกัดใน 1 วันได้ด้วย

เที่ยวมุมใหม่ในเมืองเก่า คามาคุระ

kamakura street

ครั้งแรกที่ผู้เขียนได้มาเที่ยวญี่ปุ่นเป็นช่วงกลางฤดูร้อนพอดี อากาศที่คามาคุระก็ร้อนอบอ้าวได้ใจ ภาษาญี่ปุ่นก็ยังพูดไม่ค่อยได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเที่ยวและสัมผัสกับความพิเศษของเมืองหลวงเก่าแห่งนี้เลย ทั้งวิวทะเลแผ่กว้าง วิวเนินเขาต่อกันเป็นเทือก และสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นของบ้านเรือน วัดวาอาราม

เชื่อว่าเวลาที่เดินไปอย่างช้าๆ ในคามาคุระจะต้องถูกใจทุกคนแน่นอน สำหรับใครที่อยากได้บรรยากาศแบบในเมืองหน่อยก็ลองนั่งรถไฟต่อออกไปทางฟูจิซาวะ (Fujisawa) ชิกาซากิ (Chigasaki) สักหน่อย หรือจะนั่งลงไปทางแหลมมิอุระก็ได้ แล้วจะเพลินไปกับทริปสนุกๆ ใกล้โตเกียวแน่นอน


Main image by Pixta

Written by

Avatar

Jasmine O

Kyoto, Japan

เกิดที่อเมริกาใต้ประเทศแคลิฟอร์เนียและในปัจจุบันอาศัยอยู่ในโอซาก้า ผมเป็นคนประหยัดทีน หลังจากจบระดับปริญญาวิชาการในสาขาเศรษฐศาสตร์ ฉันได้ร่วมโครงการ JET เพื่อสอนภาษาอังกฤษในจังหวัดเฮโยะโก และตัดสินใจที่จะทำงานในญี่ปุ่นในภายหลัง

หลังจากสำเร็จการศึกษาในโปรแกรม 10 เดือนที่มหาวิทยาลัยรวมของอเมริกาและแคนาดาศึกษาเรื่องญี่ปุ่น ฉันเป็นคนรับประทานอาหารเจ และหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น แถมยังเป็นคนที่ใช้มือซ้าย รักภาคภูมิตะวันตกมากเป็นพิเศษ!

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง