Start planning your trip
วัดโชเซ็นจิ วัดแห่งแรกในญี่ปุ่นที่สร้างโดยแม่ชีข้ามเพศ เพื่อให้ชาว LGBTQ เป็นตัวของตัวเอง
วัดโชเซ็นจิ ในโอซาก้า ที่พึ่งของชาว LGBTQ โดยคุณชิบาทานิ โชชุคุ แม่ชีข้ามเพศคนแรกในญี่ปุ่นผู้เชื่อว่าเบื้องหน้าพระพุทธะไม่มีความต่างทางเพศ และแต่ละคนควรเป็นในแบบที่ตัวเองเป็น
วัดเพื่อชาว LGBTQ
ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองเป็นสำหรับชาว LGBTQ แล้วไม่ใช่เรื่องง่ายเลยค่ะ วัดโชเซ็นจิ (Shozen-ji Temple) ตั้งอยู่ในเมืองโมริกุจิ (Moriguchi) จังหวัดโอซาก้า เป็นวัดแห่งแรกในญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่พึ่งของชาว LGBTQ
คุณชิบาทานิ โชชุคุ ผ่านการผ่าตัดแปลงเพศและได้รับการเปลี่ยนเพศสถานะเป็นหญิงตามกฎหมายญี่ปุ่น ปัจจุบันทำหน้าที่เป็นเจ้าอาวาสของวัดแห่งนี้ ช่วยชี้นำผู้คนที่ทุกข์ใจด้วยคำสอนทางพุทธศาสนาในฐานะชาว LGBTQ คนหนึ่ง
LGBTQ คืออะไร
LGBTQ ย่อมาจาก Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender, Questioning (*) หรือ Queer เป็นคำย่อรวมที่ใช้เรียกกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เริ่มใช้เป็นครั้งแรกในช่วงยุค 90
* ยังหาคำตอบว่าตัวเองมีอัตลักษณ์ทางเพศใด, อัตลักษณ์ทางเพศ (Gender identity) หมายถึง ความรู้สึกภายในของบุคคลเกี่ยวกับเพศภาวะ สอดคล้องหรือตรงข้ามกับเพศโดยกำเนิดของตน
คุณชิบาทานิ โชชุคุ แม่ชีข้ามเพศคนแรกในญี่ปุ่น
คุณชิบาทานิ โชชุคุ ปัจจุบันอายุ 65 ปี เมื่อแรกเกิดมีร่างกายเป็นเพศชาย แต่เมื่อเข้าชั้นประถมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมีอัตลักษณ์ทางเพศเป็นหญิง แต่ไม่กล้าพูด เมื่อเป็นนักศึกษาได้พบกับคนที่เป็นเหมือนตัวเอง จึงใช้ชีวิตตามที่ตัวเองเป็นระยะหนึ่ง แต่หลังเรียนจบเข้าทำงาน จำต้องปกปิดตัวตนแท้จริงของตัวเองอีกครั้ง
แต่ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปนับแต่เธอเริ่มเรียนรู้คำสอนในพุทธศาสนา
คุณชิบาทานิกล่าวว่า "เบื้องหน้าพระพุทธะ ไม่มีการแบ่งแยกเพศ" จึงไม่มีเหตุจำเป็นใดที่จะต้องปกปิกตัวตนที่แท้จริงของเรา
คุณชิบาทานิเริ่มสนใจศึกษาพุทธศาสนาและไปลงทะเบียนหลักสูตรบุคคลทั่วไปในบัณฑิตวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาโคยะซัง หลังจากนั้นได้ลาออกจากบริษัท ออกบวชอย่างเป็นทางการ และศึกษาคำสอนของนิกายวัชรยาน
ปี 2010 คุณชิบาทานิเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศ ทำให้ร่างกายกับจิตใจเป็นหนึ่งเดียวกัน และกลายเป็นแม่ชีข้ามเพศคนแรกในญี่ปุ่น เธอจบการศึกษาระดับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยโคยะซังในปี 2013 และเริ่มเตรียมการสร้างวัดโชเซ็นจิตั้งแต่ปี 2017
เพื่อผู้ที่แบกความทุกข์ใจเหมือนกัน
ในฐานะแม่ชีข้ามเพศคนแรกในพุทธศาสนาญี่ปุ่น จึงมีผู้คนมากมายมาหาคุณชิบาทานิเสมอ บางคนมาฟื้นฟูจิตใจและค้นหาคำตอบ บางคนก็ทุกข์ใจจากอัตลักษณ์ทางเพศและอยากแสวงหาทางออก
เราสามารถสร้างสถานที่เพื่อให้ผู้แบกความทุกข์ใจเหล่านี้ได้พูดคุยกัน และให้การช่วยเหลือได้หรือไม่ การสร้างวัดแห่งนี้คือคำตอบที่คุณชิบาทานิเลือก
วัดโชเซ็นจิ วัดสำหรับทุกคน
วัดโชเซ็นจิเล็กมาก ถ้าไม่มีพระพุทธรูปหินตั้งอยู่ด้านหน้าก็อาจนึกว่าเป็นบ้านเรือนทั่วไป
วัดแห่งนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า วัดไดโทคุซัง โจโฮจิ (Daitokuzan Joho-ji Temple) หลังจากคุณชิบาทานิได้รับสืบทอดจากเจ้าอาวาสท่านก่อนก็ได้เพิ่มชื่อเรียกใหม่ขึ้นว่า "วัดโชเซ็นจิ" ชื่อนี้มาจาก โชเซ็นเซ็ตสึ หลักความเชื่อที่ว่ามนุษย์ทุกคนมีธาตุแท้เป็นคนดี (ไม่ว่าใครล้วนมีคุณสมบัติที่จะเป็นพระพุทธะได้)
วัดโชเซ็นจิเป็นที่รู้จักในฐานะวัดแห่งแรกในญี่ปุ่นที่ชาว LGBTQ มารวมตัวกันได้ แต่โดยพื้นฐานที่นี่ก็ปฏิบัติศาสนกิจทุกอย่างเช่นเดียวกับวัดทั่วไป ที่เพิ่มเติมคือการสนับสนุนกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ เช่น การจัดพิธีแต่งงานแบบชาวพุทธให้แก่คู่รักเพศเดียวกันและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเพศภาวะ
วัดสำหรับทุกคนคือสิ่งที่คุณชิบาทานิอยากให้ที่นี่เป็น เพราะคำว่า LGBTQ เป็นคำที่ทำให้รู้สึกถึงการแบ่งแยก ทั้งที่จริงๆ แล้วชาว LGBTQ ก็ไม่ได้แตกต่างจากคนอื่นๆ เลย
เบื้องหน้าพระพุทธะ ไม่มีการแบ่งแยกทางเพศ
คุณชิบาทานิ โชชุคุ แปลงเพศเป็นผู้หญิงตอนที่เป็นพระอยู่ ซึ่งเป็นช่วงที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยพุทธศาสนาโคยะซัง จู่ๆ วันหนึ่งเธอได้ไปมหาวิทยาลัยด้วยการแต่งกายแบบผู้หญิง แน่นอนว่าย่อมถูกคนรอบข้างมองด้วยสายตาอยากรู้
คุณชิบาทานิกล่าวว่า "โลกของพระสงฆ์เป็นโลกที่ให้ความสำคัญกับขนบธรรมเนียมประเพณีมากและมีความแตกต่างระหว่างชายหญิงมาก"
แต่ในพระสูตรของพุทธศาสนานั้น ไม่มีความแตกต่างระหว่างชายหญิง ด้วยการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกไปตามยุคสมัย ปัจจุบันจึงกลายเป็นสังคมที่มีผู้ชายเป็นศูนย์กลาง "แต่เบื้องหน้าพระพุทธะนั้น ไม่มีการแบ่งแยกทางเพศ"
"องค์คันนง (กวนอิม) ก็ไม่มีอัตลักษณ์ทางเพศ" รูปปั้นกวนอิมที่ประดิษฐานในวัดเป็นของส่วนตัวของคุณชิบาทานิ เธอวางไว้ใกล้ตัวเสมอนับแต่เริ่มศึกษาพุทธศาสนา
ในสังคมมีคนที่เหยียดเพศ แต่เบื้องหน้ากวนอิมทุกคนล้วนเท่าเทียมกัน "ดังนั้น ฉันจึงนับถือท่านกวนอิมที่สุด" คุณชิบาทานิพูดด้วยรอยยิ้ม
ปัจจุบัน ประเทศญี่ปุ่นมีความเข้าใจกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็เน้นไปที่การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้รักเพศเดียวกัน ส่วนความเข้าใจเกี่ยวกับคนข้ามเพศและไบเซ็กชวลถือว่ายังน้อย
แม้การเคลื่อนไหวดังกล่าวจะคืบหน้าอย่างช้าๆ แต่สักวันยุคสมัยที่กลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศจะสามารถเป็นตัวของตัวเองได้อย่างอิสระคงจะมาถึง "แต่ถึงตอนนั้น ฉันอาจไม่อยู่แล้วก็ได้" ในน้ำเสียงหยอกล้อนั้น ผู้เขียนรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นดีใจของคุณชิบาทานิเมื่อจินตนาการถึงอนาคตที่อิสระสำหรับทุกคน
บทส่งท้าย
คุณชิบาทานิ โชชุคุ เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยวาเซดะและอดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์โยมิอุริ ปัจจุบันนอกจากจะเป็นเจ้าอาวาสวัดโชเซ็นจิ ยังมีบทบาทในด้านต่างๆ เช่น ผู้นำการจาริกแสวงบุญในเกาะชิโกะคุ อาจารย์มหาวิทยาลัย นักเขียน ที่สำคัญที่สุดคือการได้เป็นในแบบที่ตัวเองเป็น และได้ทำในสิ่งที่ต้องการทำ
คุณชิบาทานิหวังเป็นอย่างยิ่งว่า วัดเล็กๆ แห่งนี้จะเป็นสถานที่ที่มอบความสบายจิตสบายใจแก่ทุกคนที่มาเยือน และเป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเป็นตัวของตัวเองได้
In cooperation with Shozen-ji Temple
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง