15 ที่เที่ยวในนาโกย่าที่ห้ามพลาด อัพเดตปี 2024 ทั้ง Ghibli Park และของอร่อยขึ้นชื่อของนาโกย่า

1. ปราสาทนาโกย่า (Nagoya Castle)
ปราสาทที่ได้รับการบูรณะจนงดงาม

ปราสาทนาโกย่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนาโกย่าที่คุ้นเคยกันดี จุดที่น่าสนใจคือเท็นชุคาคุ (* 1) ซึ่งด้านบนสุดมีชาจิโฮโกะสีทอง เทพพิทักษ์ปราสาทเปล่งประกายระยิบระยับอยู่

เนื่องจากอยู่ในระหว่างการบูรณะโครงสร้างไม้ ขณะนี้จึงไม่อาจเข้าชมภายในตัวปราสาทได้จนถึงปี 2022 แต่สามารถชมฮมมารุโกะเด็นหรือพระราชวังฮมมารุ (Hommaru Palace) ที่สร้างขึ้นใหม่ตามแบบเดิมเมื่อ 400 ปีก่อนทุกอย่าง และคินชาจิ โยโกะโจ (Kinshachi Yokocho) โซนร้านอาหารยอดฮิตที่เพิ่งสร้างเสร็จเมื่อปี 2018 เป็นแหล่งรวมของอร่อยของนาโกย่าไว้ครบครัน

โดยเฉพาะพระราชวังฮมมารุซึ่งเดิมเป็นที่พำนักและเรือนรับรองของผู้ครองแคว้น (* 2) โอวาริซึ่งปกครองพื้นที่นี้เมื่อในอดีตนั้น ได้รับการสร้างขึ้นใหม่อย่างงดงาม อย่างภาพฟุซุมาเอะ (* 3) บนบานประตูที่แปะทองคำเปลวเอาไว้จนเต็ม ดูงดงามวิจิตรจริงๆ สามารถชื่นชมความงามของภาพวาดและประติมากรรมญี่ปุ่นที่รุ่งเรืองในสมัยนั้นกับตาได้เลย

* 1: เท็นชุคาคุ…ป้อมปราสาท สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในพื้นที่ปราสาทของญี่ปุ่น เป็นสัญลักษณ์ของปราสาทนั้นๆ ปราสาทในความหมายของญี่ปุ่นไม่ได้หมายถึงอาคารหลังเดียวเท่านั้น แต่รวมสิ่งปลูกสร้างทุกอย่างในพื้นที่
* 2: แคว้น…หมายถึง พื้นที่หรือดินแดนที่ไดเมียวปกครองในช่วงสมัยเอโดะ
* 3: ฟุซุมาเอะ…ภาพวาดบนประตูบานเลื่อนที่กั้นห้อง

ปราสาทนาโกย่า

460-0031 1-1 Honmaru, Naka-ku, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

ปราสาทนาโกย่าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในนาโกย่ามีชื่อเสียงจากการมีวาฬเพชฌฆาตสีทองอยู่บนหลังคาหอคอยปราสาท ปราสาทแห่งนี้สร้างโดยโทคุกาวะ อิเอย...

▶︎ค้นหาที่พักใกล้ปราสาทนาโกย่ากับ Booking.com

▶︎ค้นหาที่พักใกล้ปราสาทนาโกย่ากับ Agoda

2. จิบลิพาร์ค (Ghibli Park)
ธีมพาร์คของ ©Studio Ghibli

Picture courtesy of ©Studio Ghibli
Ghibli Park ธีมพาร์คของสตูดิโอจิบลิ (©Studio Ghibli) ซึ่งผลิตอนิเมะที่ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบมากมาย เปิดให้บริการในเมืองนากาคุเตะ (Nagakute) จังหวัดไอจิเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2022 สามารถนั่งรถไฟจากสถานีนาโกย่ามาราว 1 ชั่วโมง หรือรถไฟชินคันเซ็นจากโตเกียวมาราว 3 ชั่วโมง

ภายในแบ่งเป็น 5 โซนที่จัดแสดงโลกในผลงานอันโด่งดังของ ©Studio Ghibli โดย 3 โซนได้เปิดให้บริการเมื่อปี 2022 สามารถสัมผัสประสบการณ์ความสุขราวกับก้าวเข้าไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ สนุกเพลิดเพลินกับจุดถ่ายรูปและอาคารต่างๆ ที่จำลองฉากต่างๆ รวมทั้งของอร่อยมากมายด้วย

ตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นไป มีกำหนดเปิดให้บริการอีก 2 โซน ได้แก่ โซน “โมโนโนเกะโนะซาโตะ (Mononoke Village)” ซึ่งจำลองบรรยากาศหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยหุบเขาจากอนิเมะเรื่องเจ้าหญิงจิตวิญญาณแห่งพงไพร (Princess Mononoke) และโซน “มาโจโนะทานิ (Valley of Witches)” ในธีมสไตล์ยุโรปตอนบน ซึ่งจำลองบรรยากาศของดินแดนแห่งเวทมนตร์จากอนิเมะเรื่องปราสาทเวทมนตร์ของฮาวล์ (Howl's Moving Castle) และเรื่องแม่มดน้อยกิกิ (Kiki's Delivery Service)
Ghibli Park
ที่อยู่: Expo 2005 Aichi Commemorative Park (Moricoro Park), 1533-1 Ibaragabasama, Nagakute, Aichi 480-1342
เวลาทำการ: วันธรรมดา 10:00 - 17:00 น. (* วันธรรมดาช่วงวันหยุดยาว 9:00 - 17:00 น.) / เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 9:00 - 17:00 น.
ปิดทำการ: ทุกวันอังคาร (หากวันอังคารเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะปิดวันถัดไปแทน)
* เปิดให้บริการในช่วงหยุดยาวของโรงเรียน
* ปิดในวันที่กำหนด เช่น วันหยุดสิ้นปีและปีใหม่ หรือเพื่อซ่อมบำรุง
* วันและเวลาทำการอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
เว็บไซต์ทางการ: https://ghibli-park.jp/

▶︎ค้นหาที่พักใกล้ Ghibli Park กับ Booking.com

▶︎ค้นหาที่พักใกล้ Ghibli Park กับ Agoda

3. สวนโทคุกาวะและพิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ
สืบสานเรื่องราวจากยุคซามูไรสู่ยุคปัจจุบัน

เมื่อ 400 ปีก่อน ตระกูลโทคุกาวะได้เป็นผู้หยุดสงคราม ความวุ่นวาย และรวมญี่ปุ่นได้สำเร็จ จากนั้นได้ปกครองญี่ปุ่นมายาวนานร่วม 250 ปี สวนโทคุกาวะ (Tokugawa Garden) แห่งนี้เป็นสวนไดเมียวเทเอ็น (* 3) ที่ตระกูลโอวาริโทคุกาวะ หนึ่งในไดเมียวสายตรงของตระกูลโทคุกาวะ และเป็นตระกูลที่วางรากฐานของเมืองนาโกย่าได้สั่งให้สร้างขึ้น

เป็นสวนที่ผสานธรรมชาติกับความงดงามที่สร้างสรรค์ขึ้น โดยจัดวางโขดหินน้อยใหญ่และลำธารเล็กๆ เพื่อถ่ายทอดทิวทัศน์ธรรมชาติของพื้นที่แห่งนี้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ที่นำอาคารโบราณสมัยเมจิมาปรับปรุง มีที่ให้นั่งชมสวนและรับประทานของอร่อยๆ ไปด้วย

ภายในบริเวณเดียวกับสวนโทคุกาวะแห่งนี้ มีพิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุกาวะ (The Tokugawa Art Museum) ซึ่งจัดแสดงสิ่งของต่างๆ ที่ตระกูลโอวาริโทคุกาวะเก็บรวบรวมไว้ นอกจากเสื้อเกราะ ดาบ และอื่นๆ แล้ว ยังสามารถชมสิ่งล้ำค่าต่างๆ อย่างม้วนภาพวาดตำนานเก็นจิ (* 4) ที่ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติของญี่ปุ่นด้วย

* 3: ไดเมียวเทเอ็น…สวนอันยิ่งใหญ่ตระการตาที่ไดเมียวสร้างขึ้นในคฤหาสน์ของตน มักมีการจัดวางหินก้อนใหญ่ สระน้ำ สะพาน และองค์ประกอบอื่นๆ สามารถเดินเล่นรอบสระได้
* 4: ม้วนภาพวาดตำนานเก็นจิ...ม้วนภาพวาดเรื่องราวต่างๆ ที่ปรากฏใน “ตำนานเก็นจิ” นิยายฉบับยาวที่เขียนขึ้นในสมัยเฮอัน

โทกุกาวะเอน

461-0023 1001 Tokugawa-cho, Higashi-ku, จังหวัดไอจิ

Tokugawaen เป็นสวนญี่ปุ่นที่สร้างขึ้นในปี 1965 เป็นที่รู้จักว่าอยู่ติดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะโทคุงาวะ

4. พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (TOYOTA Commemorative Museum of Industry and Technology)
สัมผัสเทคโนโลยีและประวัติศาสตร์ของโตโยต้า

Picture courtesy of TOYOTA Commemorative Museum of Industry and Technology

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า (จากนี้จะเรียกว่า พิพิธภัณฑ์โตโยต้า) ถือเป็นสถานที่ซึ่งเป็นต้นกำเนิดเครือข่ายธุรกิจของ โตโยต้า กรุ๊ป ในไอจิมีที่อยากให้ทุกคนได้ลองไปเที่ยวชมกันสักครั้ง (อนึ่ง ในไอจิมีพิพิธภัณฑ์ของโตโยต้าหลายแห่ง ระวังไปผิดกันด้วยนะ)

พิพิธภัณฑ์แห่งนี้นำโรงงานที่สร้างด้วยอิฐแดงเมื่อปี 1918 มาทำเป็นอาคารอนุสรณ์ และจัดแสดงเครื่องทอผ้าอัตโนมัติที่คิดค้นโดยโทโยดะ ซากิจิ ผู้ก่อตั้งโตโยต้ากรุ๊ป ส่วนอุตสาหกรรมรถยนต์ของโตโยต้าในปัจจุบันเป็นผลงานของคิอิจิโร่ ลูกชายคนโตที่สืบทอดจิตวิญญาณการสร้างสรรค์สิ่งของต่อจากซากิจิ ผู้เป็นบิดา จากที่นี่เราจะได้รู้เรื่องราวต่างๆ อย่างจุดเริ่มต้นของโตโยต้านั้นจริงๆ แล้วมาจากเครื่องจักรสิ่งทอ

หลังจากนั้นโตโยต้าก็ประสบความสำเร็จในผลิตรถยนต์สมรรถนะสูงสัญชาติญี่ปุ่นได้เอง กระทั่งสามารถส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลกได้ ภายในโซนจัดแสดงยานยนต์ (Automobile Pavilion) ที่อยู่ในอาคารเดียวกันมีการจัดแสดงรถยนต์โตโยต้ารุ่นก่อนๆ พร้อมแสดงกระบวนการผลิตอย่างละเอียดกระทั่งได้เป็นรถยนต์หนึ่งคัน

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า

451-0051 4-1-35 Noritake Shinmachi, Nishi-ku, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ดำเนินการโดยกลุ่มโตโยต้า คุณสามารถหวนนึกถึงการพัฒนาของอุตสาหกรรมได้

5. ชูบุ อิเล็กทริก เพาเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ (Chubu Electric Power MIRAI TOWER)จุดชมวิวสวยๆ
ที่มีธรรมชาติเขียวขจีเบื้องล่าง

ชูบุ อิเล็กทริก เพาเวอร์ มิไร ทาวเวอร์ ซึ่งได้รับการปรับปรุงและเปิดใหม่เมื่อเดือนกันยายน 2020 เป็นหอคอยที่ตั้งตระหง่านอยู่ในย่านซาคาเอะ (Sakae) ย่านรวมแหล่งชอปปิงใจกลางเมืองนาโกย่า
ชูบุ อิเล็กทริก เพาเวอร์ มิไร ทาวเวอร์เป็นหอส่งสัญญาณโทรทัศน์แห่งแรกของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ตรงมุมหนึ่งของสวนฮิซายะโอโดริ (Hisaya Odori Park) ที่ทอดยาวจากเหนือลงใต้ผ่านใจกลางเมือง จากจุดชมวิวสูงเหนือพื้นดิน 100 เมตรสามารถชมทิวทัศน์เมืองนาโกย่าทั้งเมืองแบบพาโนรามา

ในทุกๆ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ยังมีการจัดอีเวนท์เดินขึ้นบันไดไปจนถึงชั้นจุดชมวิวด้วย แม้เป็นพื้นที่เปิดโล่งแต่มีรั้วกั้น ผู้ที่ไม่กลัวความสูงจะได้ออกกำลังกายและสนุกไปพร้อมกัน ด้านล่างหอคอยยังมีคาเฟ่และร้านจำหน่ายของฝาก ที่นี่จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาใช้เวลาพักผ่อนสบายๆ ในขณะที่เดินเล่นในสวนสาธารณะได้

ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ มิไร ทาวเวอร์

460-0003 3-6-15 นิชิกิ นากะคุ นาโกย่า จังหวัดไอจิ

Chubu Electric Power MIRAI TOWER เป็นหอคอยที่โดดเด่นในนาโกย่า คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ยามค่ำคืนอันงดงามได้จากจุดชมวิว

6. โอเอซิส 21 (Oasis 21)
ชมโลกแห่งอนาคตใจกลางเมือง

โอเอซิส 21 มีโครงสร้างรูปวงรีขนาดมหึมาที่โดดเด่นสะดุดตา ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของนาโกย่าทีวีทาวเวอร์ ชั้นใต้ดินเป็นศูนย์การค้า ชั้นบนดินเป็นลานกว้างและสนามหญ้าคล้ายกับโอเอซิสกลางเมืองใหญ่ ภายในยังมีศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยว (Tourist Information Center) และสถานีขนส่งรถบัสซาคาเอะ (Sakae Bus Terminal)

ส่วนหลังคารูปวงรีนี้เรียกว่า ยานอวกาศน้ำ (Spaceship-Aqua) ทำจากกระจกใส โดยตรงกลางเป็นเหมือนสระน้ำ ส่วนรอบๆ เป็นทางเดิน สามารถเดินชมวิวด้านบนได้ ตอนกลางคืนจะเปิดไฟ LED สว่างไสวทั้งด้านบนและด้านล่างให้บรรยากาศชวนฝัน ที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวยามค่ำคืนแสนสวยใจกลางเมืองนาโกย่า และจุดถ่ายรูปสวยไปอวดในโซเชียลยอดฮิตด้วย

โอเอซิส 21

461-0005 1-11-1 ฮิกาชิซากุระ ฮิกาชิคุ นาโกย่า จังหวัดไอจิ

นี่คือสวนสาธารณะสามมิติที่มี ``ยานอวกาศน้ำ'' รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเชิงพาณิชย์และสาธารณะด้วย

7. โอซุโชเท็นไก (Osu Shopping Street)
ย่านที่อัดแน่นไปด้วยของอร่อย แฟชั่น และซับคัลเจอร์

วัดโอซุคันนง (Osu Kannon Temple) แห่งนี้ได้รับการบอกเล่าว่า ย้ายมาตั้งในพื้นที่นี้โดยโทคุกาวะ อิเอยาซุ โชกุนคนแรกของญี่ปุ่นจากตระกูลโทคุกาวะ ส่วนโอซุโชเท็นไกหรือย่านการค้าโอซุ (Osu Shopping Street) เป็นมงเซ็มมาจิหรือย่านการค้ารอบวัดหรือศาลเจ้าที่มีครบทุกสิ่งทั้งการชอปปิง ของอร่อย และสิ่งบันเทิงใจต่างๆ มีร้านซีเล็คชอปและร้านขายเสื้อผ้ามือสองมากมาย ที่นี่จึงเหมาะมาตามหาแฟชั่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

นอกจากนั้นยังมีอาหารนานาชาติ เช่น บราซิล, ตุรกี, ไต้หวัน และอื่นๆ รวมทั้งขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมตามแบบต้นตำรับ และขนมหวานหน้าตาดีน่าถ่ายไปอวดในอินสตาแกรมวางจำหน่ายด้วย เรียกว่าเดินกินตลอดทั้งเส้นได้ไม่ต้องกังวล แนะนำให้แวะชิมอุยโร (* 5) ของขึ้นชื่อของนาโกย่าที่ร้านโอซุอุยโร (Osu Uiro) และเทียนจินอามะคุริหรือเกาลัดหวานเทียนจิน (sweet roasted Tianjin chestnuts) ซึ่งถือเป็นราชาของผลไม้ตากแห้ง เกาลัดที่คั่วอย่างพิถีพิถันที่ร้านอิมาอิโซฮงเกะ (Imai Sohonke)

นาโกย่ายังเป็นแหล่งรวมซับคัลเจอร์หรือวัฒนธรรมย่อย ที่มีย่านเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ใหญ่รองจากอากิฮาบาระ (Akihabara) ในโตเกียวและนิปปงบาชิ (Nipponbashi) ในโอซาก้าด้วย สามารถไปเลือกซื้อสินค้าอนิเมะ ฟิกเกอร์ เกมส์ หรือเที่ยวเมดคาเฟ่กันได้เลย

* 5: อุยโร…ขนมญี่ปุ่นดั้งเดิม ทำจากแป้งข้าวเจ้าและน้ำตาล เนื้อขนมเหนียวหนึบนุ่ม หน้าตาดูคล้ายขนมชั้นบ้านเราอยู่

ถนนช้อปปิ้งโอสุ

460-0011 Osu, Naka-ku, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

ถนนช้อปปิ้งโอสุเป็นถนนช้อปปิ้งที่เรียงรายไปด้วยร้านค้าหลากหลาย ว่ากันว่าเป็น "ถนนช้อปปิ้งที่มีชีวิตชีวาที่สุดในญี่ปุ่น"

8. ศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู (Atsuta Shrine)
สถานที่ศักดิ์สิทธิ์รับพลังเสริมดวงท่ามกลางแมกไม้

Picture courtesy of Atsuta Shrine
ศาลเจ้าอัตสึตะจิงกูที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยกันในชื่ออัตสึตะซัง มีประวัติยาวนานกว่า 1,900 ปี เป็นศาลเจ้าที่สักการะคุซานางิ โนะ มิตสึรุกิ (พระแสงคุซานางิหรือดาบตัดหญ้า) หนึ่งในซันชุโนะจิงกิ (* 6)

เนื่องจากพื้นที่ศาลเจ้าแห่งนี้กว้างมากๆ ขอแนะนำให้รับแผนที่ตรงทางเข้าหรือจุดอื่นๆ ที่จัดไว้ ภายในยังมีศาลเจ้าเล็กกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ มีหอเก็บสมบัติและร้านจำหน่ายคิชิเม็ง (เส้นที่ทำจากแป้งสาลีคล้ายเส้นอุด้ง แต่เส้นจะกว้างและแบนกว่า) ของขึ้นชื่อของนาโกย่าด้วย เมื่อเดินไปตามทางเดินที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้อายุกว่า 1,000 ปี จะสัมผัสถึงบรรยากาศสุดพิเศษที่มีเฉพาะที่นี่อย่างแน่นอน

* 6: ซันชุโนะจิงกิ...ไตรราชกกุธภัณฑ์หรือเครื่องราชกกุธภัณฑ์ 3 ชิ้น (ได้แก่ ดาบ กระจก อัญมณี) ตามตำนานญี่ปุ่นกล่าวว่า ไตรราชกกุธภัณฑ์นี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่ได้รับจากอามาเทราสุ โอมิคามิ มีการสืบทอดจากพระจักรพรรดิแต่ละพระองค์เพื่อเป็นหลักฐานการสืบทอดราชบัลลังก์ ว่ากันว่า ปัจจุบันพระแสง (ดาบ) อยู่ที่ศาลเจ้าอาสึตะจิงกู พระฉาย (กระจก) อยู่ที่ศาลเจ้าอิเซะจิงกู (Ise Grand Shrine) และพระอัญมณี (มากาทามะ เป็นลูกปัดรูปทรงคล้ายกรงเล็บหรือลักษณะครึ่งหนึ่งของเครื่องหมายหยินหยาง) อยู่ที่พระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิ

ศาลเจ้าอัตสึตะ

456-8585 1-1-1 จิงกู, อัตสึตะ-คุ, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

ศาลเจ้าอัตสึตะเป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐานอามาเทราสึ โอมิคามิ เป็นหนึ่งในแหล่งรวมพลังชั้นนำของญี่ปุ่น

9. พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า (Nagoya City Science Museum)
อย่าพลาดท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดในโลก

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่าซึ่งมีท้องฟ้าจำลองใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสถานที่แห่งการเรียนรู้ความอัศจรรย์ของโลก วิทยาศาสตร์ และจักรวาลอย่างสนุกสนาน ท้องฟ้าจำลองขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 35 เมตรที่ได้รับการบันทึกในกินเนสบุ๊ค (Guinness Book of Records) แห่งนี้ ได้จำลองท้องฟ้าเบื้องบนให้ใกล้เคียงของจริงมากที่สุด และจัดแสดงเสน่ห์ของจักรวาลในธีมต่างๆ ให้ชม

มีห้องแล็บหรือห้องปฏิบัติการต่างๆ อย่างห้องแล็บพายุทอร์นาโดและห้องแล็บการไหลของกระแสไฟฟ้าให้ได้สัมผัสด้วยตากันจริงๆ, ห้องแล็บเยือกแข็งให้สัมผัสความรู้สึกเย็นยะเยือกของอากาศติดลบ 30 องศาในขั้วโลกกัน ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สนุกไปกับเรื่องราวของวิทยาศาสตร์ได้

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เมืองนาโกย่า

460-0008 2-17-1 ซาคาเอะ นากาคุ นาโกย่า จังหวัดไอจิ สวนชิราคาวะ ป่าแห่ง...

เป็นพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทั่วไปที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก เป็นที่รู้จักว่ามีท้องฟ้าจำลองที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น

10. เลโก้แลนด์® เจแปน และพิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า
สนุกไปพร้อมกับเด็กๆ ได้

Picture courtesy of SCMaglev and Railway Park

ถ้ามาเที่ยวแบบครอบครัวหรือพาเด็กๆ มาด้วย ต้องไป 2 แห่งนี้เลย จากสถานีนาโกย่าให้ขึ้นรถไฟสายอาโอนามิ (Aonami) ใช้เวลา 30 นาที (360 เยน) ไปลงปลายทางที่สถานีคินโจฟุโต (Kinjofuto) ที่นี่แหล่งรวมที่เที่ยวขนาดใหญ่อย่าง เลโก้แลนด์® เจแปน (LEGOLAND® JAPAN) สวนสนุกเลโก้แลนด์แห่งแรกของญี่ปุ่นและ พิพิธภัณฑ์รถไฟนาโกย่า (SCMaglev and Railway Park) ศูนย์เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น

ใน LEGOLAND® มีเลโก้ทาวน์ซึ่งจำลองทิวทัศน์บ้านเรือนในนาโกย่าจากตัวต่อเลโก้ และของอร่อยต่างๆ ที่รังสรรค์ขึ้นโดยเลียนรูปลักษณ์ตัวต่อเลโก้ด้วย ที่นี่จึงเป็นโลกของตัวต่อเลโก้ที่สนุกกันได้แบบจุใจจริงๆ แถมยังมีโรงแรมเลโก้แลนด์ (LEGOLAND® JAPAN HOTEL) และอควาเรียม SEA LIFE Nagoya ที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันด้วย

ส่วน SCMaglev and Railway Park เป็นพิพิธภัณฑ์ที่บริษัทรถไฟเจอาร์โทไก (JR Tokai) เป็นผู้บริหารจัดการ มีตู้รถไฟจริงของทั้งรถไฟธรรมดาและรถไฟชินคันเซ็นจอดเรียงราย ดูอลังการน่าประทับใจจริๆ ที่สำคัญคือมีโซนทดลองขับรถไฟและสัมผัสประสบการณ์การเดินทางเสมือนจริงของรถไฟแม่เหล็กไฟฟ้าตัวนำยิ่งยวดหรือรถไฟแม็กเลฟ (SCMaglev: Superconducting Maglev หรือ Superconducting Magnetic Levitation Railway) ที่ทันสมัยที่สุด ซึ่งวิ่งด้วยความเร็ว 500 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ รับรองว่าเด็กๆ ต้องตื่นเต้นสุดๆ แน่นอน

เลโก้แลนด์ประเทศญี่ปุ่น

455-8605 2-2-1 คินโจฟูโตะ มินาโตะ-คุ นาโกย่า จังหวัดไอจิ

Legoland Japan เป็นสวนสนุกที่สร้างจากตัวต่อเลโก้ เพลิดเพลินกับสถานที่ท่องเที่ยวและเกม

แม็กเลฟ/ห้องโถงรถไฟ

455-0848 3-2-2 คินโจฟูโตะ มินาโตะ-คุ นาโกย่า จังหวัดไอจิ

พิพิธภัณฑ์รถไฟลิเนียร์เป็นพิพิธภัณฑ์รถไฟเชิงประสบการณ์ มียานพาหนะจริงจัดแสดงอยู่

▶︎จองที่พักใน LEGOLAND® JAPAN HOTEL กับ Booking.com

▶︎จองที่พักใน LEGOLAND® JAPAN HOTEL กับ Agoda

11. เอ็นโดจิโชเท็นไก และชิเคมิจิ
ย่านทิวทัศน์สมัยวันวาน

Endoji Shopping Street

ทิวทัศน์บ้านเรือนย่านชิเคมิจิ

เมื่อเดินจากแถวสถานีนาโกย่าที่มีตึกสูงเรียงรายไปราว 10 - 15 นาที ก็จะพบกับเอ็นโดจิโชเท็นไกหรือย่านการค้าเอ็นโดจิ (Endoji Shopping Street) และชิเคมิจิ (Shikemichi) ซึ่งเป็นย่านชอปปิงเก่าแก่ที่มีบ้านเรือนสมัยก่อนตั้งเรียงราย

เอ็นโดจิโชเท็นไกเป็นย่านการค้าที่เคยใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์หลายเรื่อง ภายในย่านชอปปิงอาเขต (ทางเดินที่มีหลังคา) แห่งนี้เรียงรายไปด้วยร้านค้าเก่าแก่ที่คนท้องถิ่นคุ้นเคยและแวะเวียนมาจับจ่ายซื้อของกันเป็นประจำ ปัจจุบันมีโรงละคร ยิมสำหรับปีนหน้าผาจำลอง และร้านค้าแปลกๆ ใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ที่เที่ยวน่าสนใจมากๆ อีกแห่งหนึ่ง

ชิเคมิจิเป็นย่านที่ยังหลงเหลือโกดังและบ้านเรือนที่มีผนังสีดำสไตล์ดั้งเดิมซึ่งรอดจากภัยสงคราม ปัจจุบันมีการปรับปรุงอาคารต่างๆ ใหม่ เปิดเป็นคาเฟ่และร้านอาหาร เนื่องจากที่นี่เป็นย่านที่อยู่อาศัย ถ้าจะมาเดินเล่น ก็งดส่งเสียงดัง และปฏิบัติตามกฏต่างๆ กันด้วยนะ

ถนนช้อปปิ้งเอ็นดอนจิ

451-0042 1-6-13 นาโกโนะ, นิชิ-คุ, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

ถนนช้อปปิ้งเอ็นดอนจิเป็นที่รู้จักในฐานะถนนช้อปปิ้งที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน บรรยากาศย้อนยุคโชวะนั้นมีเสน่ห์

ชิเคมิจิ

451-0042 นาโกโนะ, นิชิ-คุ, นาโกย่า, จังหวัดไอจิ

ชิเคมิจิเป็นถนนทางฝั่งตะวันตกของโฮริคาวะ ที่ได้ชื่อเพราะความกว้างของถนน 4 เคน (ประมาณ 7 เมตร)

12. สวนผลไม้โทโกกุซัง

Photo by Pixta
สวนผลไม้โทโกกุซังในเมืองนาโกย่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจด้วยสวนผลไม้และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติคุณสามารถทดลองเก็บผลไม้ที่หลากหลายและเพลิดเพลินไปกับผลไม้ที่เปลี่ยนไปตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีสถานที่สำหรับความบันเทิงที่เหมาะกับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงมื้ออาหารที่อร่อยด้วยผลไม้ สวนสาธารณะนี้เหมาะสำหรับการเดินเล่นและปิกนิก และเป็นสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนนาโกย่าคุณสามารถใช้เวลาที่สงบและผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติและเพลิดเพลินไปกับผลไม้ที่สดใหม่

สวนผลไม้โทโกกุซัง
ที่อยู่: 2110 Kamishidami Togoku, Moriyama-ku Nagoya-shi, Aichi 563-0001 (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ: https://www.fruitpark.org/

13. นาบานะโนะซาโตะ

"นาบานะโนะซาโตะ" คือสวนพฤกษศาสตร์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองคุวานะ, จังหวัดมิเอะ มีชื่อเสียงในเรื่องการจัดแสดงไฟประดับขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล ในฤดูใบไม้ผลิจะมีดอกทิวลิปและซากุระ ในขณะที่ฤดูใบไม้ร่วงจะเต็มไปด้วยดอกคอสมอสและดาเลีย ไฮไลท์ของที่นี่คือการจัดแสดงไฟในฤดูหนาวซึ่งเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจ มีอุโมงค์แสงไฟที่ทำให้ผู้เข้าชมหลงใหล นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกมากมาย ทำให้เป็นสถานที่ที่นิยมสำหรับครอบครัวและคู่รัก ที่นี่เป็นสถานที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามและดอกไม้ตามฤดูกาลท่ามกลาง ธรรมชาติ และเป็นสถานที่ที่คุ้มค่าแก่การเยี่ยมชม ไม่ไกลจากเมืองนาโกย่าด้วย

นาบานะโนะซาโตะ
ที่อยู่: 270 Urushibata Komae, NagashimaCho Kuwana-shi, Mie 511-1144 (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ: https://www.nagashima-onsen.co.jp/nabana/

14. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า

Picture courtesy of Port of Nagoya Public Aquarium
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า ตั้งอยู่ที่จังหวัดไอจิ เมืองนาโกย่า พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่ทำให้คุณสัมผัสได้ถึงความหลากหลายและความงดงามของสิ่งมีชีวิตในทะเล ที่นี่มีการแสดงสิ่งมีชีวิตในทะเลหลากหลายชนิด เช่น ปลาโลมา วาฬ ฉลาม และเพนกวินโดยเฉพาะการแสดงปลาโลมาเป็นที่นิยมอย่างมากสำหรับครอบครัวและคู่รักที่ มาเยี่ยมชม นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสัตว์ทะเลลึกและปลาทะเลร้อนที่แปลกประหลาด ซึ่งทำให้ผู้เยี่ยมชมได้สัมผัสถึงความลึกลับของท้องทะเล ยังมีโปรแกรมการศึกษาที่หลากหลาย ซึ่งเป็นที่เหมาะสมสำหรับเด็กๆ เพื่อการเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า เป็นสถานที่ที่มีค่ามากสำหรับการสัมผัสกับสัตว์ทะเล และเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับโลกใต้ทะเล

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนาโกย่า
ที่อยู่: 1-3 Minato-machi, Minato-ku Nagoya-shi, Aichi 455-0033 (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ: https://nagoyaaqua.jp/

15. โนริทาเคะการ์เดน

AEON MALL Nagoya Noritake Garden ที่สามารถเพลิดเพลินกับงานศิลป์ อาหารรสเลิศ และท้องฟ้าจำลอง
"โนริทาเคะการ์เดน" ตั้งอยู่ในเขตนิชิคุของเมืองนาโกย่า ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่รวมความงามและประวัติศาสตร์ของผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาชื่อดัง "โนริทาเคะ" ที่นี่คุณสามารถชมและซื้อผลิตภัณฑ์ของโนริทาเคะ รวมทั้งเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเทคนิคในการผลิตเครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้ยังมีสวนที่สวยงาม ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับความงามของธรรมชาติในแต่ละฤดูกาล และยังมีร้านอาหารและคาเฟ่ภายใน ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการช้อปปิ้งและรับประทานอาหาร ที่ "โนริทาเคะการ์เดน" เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างประเพณีของโนริทาเคะกับดีไซน์สมัยใหม่ ทำให้คุณสามารถใช้เวลาอย่างผ่อนคลาย และเป็นสถานที่ที่น่าสนใจสำหรับการเยี่ยมชมเมื่อคุณมาที่นาโกย่า

โนริทาเคะการ์เดน
ที่อยู่: 1-36 Noritake-shinmachi 3 Chome,Nishi-ku, Ngoya-shi, Aichi 451-8501 (GoogleMap)
เว็บไซต์ทางการ: https://www.noritake.co.jp/mori/

ของอร่อยในนาโกย่า ไปนาโกย่าแล้วต้องลอง

มิโซะคัตสึ และมิโซะนิโคมิอุด้ง อาหารสุดอร่อยที่ปรุงด้วยมิโซะ

มิโซะคัตสึ

เป็นที่ทราบกันดีว่า แถบนาโกย่ามีการพัฒนาวัฒนธรรมด้านอาหารการกินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนท้องถิ่นอื่นๆ ในญี่ปุ่น หนึ่งในตัวแทนของอาหารนาโกย่าก็คืออาหารที่ทำจากมิโซะแดง เช่น มิโซะคัตสึ และมิโซะนิโคมิอุด้ง

มิโซะแดง (Aka miso) เป็นมิโซะที่ต่างจากมิโซะอื่นตรงที่ทำมาจากถั่วเหลืองหมักเป็นเวลานานกว่า ถึงสีจะดูเข้ม แต่มีรสชาติอ่อนกว่าที่เห็น ที่สำคัญคือไม่สูญเสียรสชาติแม้ถูกความร้อน ดังนั้นจึงนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารต่างๆ อย่างอาหารประเภทตุ๋นหรือซุปมิโซะ

มิโซะคัตสึ (Miso katsu) คือทงคัตสึ (หมูชุบแป้งทอด) ที่ทอดเสร็จกรอบๆ ใหม่ๆ ราดน้ำซอสมิโซะแดง เป็นเมนูที่คาเฟ่หรือร้านอาหารแทบทุกร้านในนาโกย่าต้องมี ฮิตกันมากๆ ถึงขนาดมีร้านที่จำหน่ายเฉพาะเมนูมิโซะคัตสึเลยนะ อย่างร้าน Yabaton (ยาบาตง) ซึ่งมีหลายสาขาและเดินทางไปสะดวก อย่างที่สถานีนาโกย่า และสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ (Chubu Centrair International Airport) ก็มีสาขาด้วยเช่นกัน

มิโซะนิโคมิอุด้ง (Misonikomi udon) เป็นเมนูเส้นอุด้งตุ๋นร้อนๆ ในซุปมิโซะแดงพร้อมผักและเนื้อไก่ เส้นหนานุ่มหนึบเข้ากับรสเข้มข้นของมิโซะแดงมากๆ ขอแนะนำ Yamamotoya Sohonke (ยามาโมโตะยะ โซฮงเกะ) ร้านเก่าแก่ที่หลายคนรู้จักกันดี และมีหลายสาขาในเมืองนาโกย่าด้วย

ฮิตสึมะบุชิ (Hitsumabushi) เมนูเด็ดที่รับประทานได้หลากหลายวิธี

ข้าวหน้าปลาไหลหนึ่งในอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตนั้น ก็มีวิธีรับประทานในแบบฉบับเฉพาะของนาโกย่าด้วย เมนูนี้เรียกกันว่า ฮิตสึมะบุชิ โดยนำปลาไหลย่างซอสคาบายากิที่หั่นเป็นชิ้นเล็กพอคำ เสิร์ฟบนข้าวสวยร้อนๆ

ถึงจะวางปลาไหลบนข้าวเหมือนข้าวหน้าปลาไหลทั่วไป แต่ฮิตสึมะบุชิจะเสิร์ฟพร้อมกับเครื่องปรุงต่างๆ อย่างหัวหอมและวาซาบิ กับซุปดาชิ และมีวิธีรับประทานหลายแบบ เช่น รับประทานทั้งแบบนั้นโดยไม่ทำอะไรก่อน จากนั้นก็เติมเครื่องปรุงเพื่อเปลี่ยนรสชาติ และสุดท้ายรับประทานแบบโอฉะสึเกะโดยราดซุปดาชิลงไป ชามเดียวแต่รับประทานได้ถึง 3 แบบ 3 รสชาติเลยทีเดียว

ร้านเด่นร้านดังต้อง Atsuta Horaiken (อัตสึตะ โฮราอิเค็น) มีสาขาใหญ่ที่อยู่หน้าศาลเจ้าอัตสึตะจิงกู

อังคาเคะสปาเก็ตตี้ (Ankake Spaghetti) สุดอร่อยกับซอสเข้มข้น

นอกจากนี้ยังมีการนำสปาเก็ตตี้ซึ่งเป็นอาหารอิตาเลี่ยนมารังสรรค์ได้เป็นเมนูขึ้นชื่อของนาโกย่า ที่เรียกว่าอังคาเคะสปาเก็ตตี้ด้วย

โดยนำเส้นสปาเก็ตตี้ที่ต้มสุกแล้วไปผัดกับน้ำมัน ราดด้วยซอสเนื้อข้นที่ใช้มะเขือเทศเป็นส่วนผสมหลักลงไป เป็นเมนูที่สุดยอดทั้งปริมาณทั้งรสชาติ ความพิเศษอีกอย่างคือมีท็อปปิ้งหลากหลายให้เลือก เช่น ไส้กรอก ผัก หรือปลาทอด

โอกุระโทสต์ (Ogura Toast) ของหวานจานเด็ด

ของหวานสุดฮิตของที่นี่คือโอกุระโทสต์ ขนมปังปิ้งหน้าถั่วแดงอาซึกิกวนรสหวาน คาเฟ่ส่วนใหญ่ในนาโกย่าจะมีมอร์นิ่งเซอร์วิส (การบริการอาหารเช้า) เป็นขนมปังปิ้งกับไข่แถมมาให้เมื่อสั่งเครื่องดื่ม โอกุระโทสต์ก็เป็นหนึ่งในเมนูประจำของแต่ละร้าน

นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่ง ยังมีของอร่อยนาโกย่าที่มีเอกลักษณ์อีกมากมายอย่างเทบาซากิ (tebasaki) ปีกไก่ทอดปรุงรสด้วยซอสรสเผ็ดหวานและเครื่องปรุงรสจัดจ้าน, คิชิเม็ง (kishimen) ราเม็งเส้นใหญ่ในน้ำซุปดาชิรสโชยุหอมกลิ่นปลาคัตสึโอะ, ไต้หวันราเม็ง (Taiwan ramen) ราเม็งที่มีเครื่องเป็นเนื้อสับผัดกับพริกและกระเทียมรสจัดจ้าน

ตัวอย่างเส้นทางเที่ยวนาโกย่า

Me-guru Picture courtesy of Nagoya Convention & Visitors Bureau

ถ้าอยากเที่ยวชมหลายๆ ที่ แนะนำให้ใช้ตั๋วฟรีพาสขึ้นรถบัสได้ไม่จำกัด 1 วัน (500 เยน) ของเมกุรุ (Me~guru) รถบัสที่วิ่งวนไปตามสถานที่เที่ยวชื่อดังต่างๆ ในเมืองนาโกย่า

ที่เที่ยวแนะนำในบทความนี้อย่างพิพิธภัณฑ์โตโยต้า ย่านชิเคมิจิ ปราสาทนาโกย่า สวนโทคุกาวะ นาโกย่าทีวีทาวเวอร์ โอเอซิส 21 ก็อยู่ในเส้นทางที่รถบัสผ่าน ตั๋วฟรีพาส 1 วันนี้สามารถซื้อบนรถบัสเมกุรุได้เลย

กรณีขึ้นรถจากสถานีนาโกย่า รถบัสจะออกจากสถานีขนส่งสถานีนาโกย่า (Nagoya Station Bus Terminal) จุดขึ้นรถหมายเลข 11

ตัวอย่างเส้นทางเที่ยวนาโกย่า 1 วันด้วย “รถบัสเมกุรุ”

มื้อเช้า
รับประทานชุดมอนิ่งเซ็ตที่คาเฟ่ในพื้นที่ชอปปิงชั้นใต้ดินของ “สถานีนาโกย่า”
ช่วงเช้า
สัมผัสเทคโนโลยีของโตโยต้าที่ “พิพิธภัณฑ์โตโยต้า”
มื้อกลางวัน
เดินเล่นชมบ้านเรือนย่าน “ชิเคมิจิ” แวะรับประทานมื้อกลางวันที่ร้านอาหารบ้านโบราณของญี่ปุ่น
ช่วงบ่าย
เยี่ยมชมปราสาทและสวนญี่ปุ่นชื่อดังที่ “ปราสาทนาโกย่า” และ “สวนโทคุกาวะ”
ช่วงกลางคืน
ถ่ายรูปที่ระลึกโดยมี “โอเอซิส 21” และทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองเป็นฉากหลัง
มื้อเย็น
จาก “สถานีซาคาเอะ” ไปเที่ยวเล่นต่อที่ย่านคึกคักยามค่ำคืน อิ่มอร่อยกับของอร่อยของนาโกย่าอย่าง “มิโซะนิโคมิอุด้ง”

ตัวอย่างเส้นทางเที่ยวนี้ ถึงมีเวลาในนาโกย่าแค่ 1 วันก็ไปที่เที่ยวหลักๆ ซึ่งแนะนำในบทความนี้ได้ครบ แต่ถ้ามีเวลาเหลือสัก 2 - 3 วันก็จะเที่ยวได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ และลิ้มรสของอร่อยๆ ของนาโกย่าได้หลายอย่างมากขึ้นด้วย

“เมกุรุ” รถบัสท่องเที่ยวนาโกย่า: https://www.nagoya-info.jp/en/routebus/

การเดินทางไปนาโกย่า

การเดินทางจากโตเกียวหรือที่ต่างๆ ไปนาโกย่าสามารถไปโดยเครื่องบินหรือรถเช่า แต่การโดยสารรถไฟชินคันเซ็นจะสะดวกกว่า อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บทความ MATCHA

คลิกที่นี่เพื่อตรวจสอบเที่ยวบินจากโตเกียวไปนาโกย่า: skyticket>
ตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบัตร JR PASS บัตรฟรีพาสสุดคุ้มสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

กรณีต้องการเริ่มต้นจากสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ (Chubu Centrair International Airport เรียกสั้น ๆ ว่า Centrair) หรือสถานีรถไฟนาโกย่า เพื่อไปเที่ยวที่ต่างๆ อย่างปราสาทนาโกย่าและสวนจิบลิ การเช่ารถก็สะดวกเช่นกัน

จองรถเช่ากับ Tabirai Rent-a-Car

MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 10% แก่ท่านผู้อ่านซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อเช่ารถจาก Nippon Rent-A-Car บริษัทรถเช่าชั้นนำของญี่ปุ่น

การเตรียมตัวลุยเที่ยวอื่นๆ อย่างที่พักและ Wi-Fi

เมื่อตัดสินใจไปเที่ยวฮอกไกโด ถ้าจองตั๋วเครื่องบินและตั๋วรถไฟเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปก็ต้องจองที่พักกัน

หากต้องการที่พักดีๆ ราคาสุดคุ้มในนาโกย่า ลองค้นหาใน Booking.com และ Agoda ได้เลย

ในญี่ปุ่นมีสถานที่ให้บริการ Wi-Fi ฟรีไม่กี่แห่ง ดังนั้น ขอแนะนำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเช่า Pocket Wi-Fi ใช้เที่ยวจะสะดวกกว่า MATCHA ขอมอบคูปองส่วนลด 20% สำหรับเช่า Ninja-Wifi ให้นำไปใช้กันได้เลย

บทส่งท้าย

มีการก่อตั้งเมืองแห่งนี้ขึ้นรอบๆ ปราสาทนาโกย่าตั้งแต่เมื่อกว่า 400 ปีก่อน ปัจจุบัน นาโกย่าเป็นที่รู้จักกันในฐานะเมืองแห่งการสร้างสรรค์ซึ่งช่วยมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศญี่ปุ่น

บทความนี้ได้แนะนำ “ที่เที่ยวห้ามพลาดในนาโกย่า” ตั้งแต่ที่เที่ยวซึ่งได้สัมผัสถึงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของนาโกย่า ไปจนถึงที่เที่ยวสุดฮิตล่าสุด ลองนำบทความนี้เป็นข้อมูลอ้างอิงเพื่อสร้างความทรงจำที่ยอดเยี่ยมในนาโกย่ากัน