Start planning your trip

แม้ไอจิจะเป็นแหล่งผลิตรถยนต์อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น แต่ก็มีแหล่งประวัติศาสตร์หลายแห่ง นับจากได้จัด Expo 2005 ขึ้น ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง บทความนี้จะพาไปรู้จักสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในไอจิกันค่ะ
Photo by Pixta
จังหวัดไอจิเป็นจังหวัดที่อยู่ในภูมิภาคชูบุ (Chubu) และภูมิภาคโทไค (Tokai) ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางของหมู่เกาะญี่ปุ่น ฝั่งตะวันตกติดกับจังหวัดมิเอะ (Mie) ที่มีศาลเจ้าอิเซะจิงกู (Ise Grand Shrine)ที่มีชื่อเสียง ทิศเหนือติดกับจังหวัดกิฟุ (Gifu) ที่มีฮิดะทาคายามะ (Hida Takayama)และหมู่บ้านชิราคาวาโก (village of Shirakawa-go)ที่รู้จักกันดี ส่วนฝั่งตะวันออกติดกับจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) หนึ่งในจังหวัดที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟฟูจิ
จังหวัดไอจิเต็มไปด้วยเสน่ห์ มีสถานที่ท่องเที่ยงเชิงประวัติศาสตร์หลายแห่ง เช่น ปราสาทนาโกย่าและ ศาลเจ้าอาสึตะจิงกู นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารที่สามารถลิ้มรสของอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์ของนาโกยะอย่างนาโกย่าเมชิและแหล่งช็อปปิ้งมากมายเลยล่ะค่ะ
แต่ละเมืองมีเอกลักษณ์พิเศษที่แตกต่างกันไป บทความนี้จะพาไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ น่าไปของไอจิในแต่ละพื้นที่ เช่น เมืองนาโกย่า เมืองอินุยามะ (Inuyama) เมืองกามาโกริ (Gamagori) เมืองโทโยตะ (Toyota) กันค่ะ
เมืองนาโกย่าอยู่ทางตะวันตกของจังหวัดไอจิ นับเป็น 1 ใน 3 เมืองใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่นถัดจากโตเกียวและโอซาก้า มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมายรวมอยู่ที่นี่ เช่น ปราสาทนาโกย่า ศาลเจ้าอาสึตะจิงกู และ พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้า
Photo by Pixta
ปราสาทนาโกย่าเป็นปราสาทงดงามที่ได้รับเลือกเป็น 100 ปราสาทที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นแลนด์มาร์คของนาโกย่าเลยก็ว่าได้ บนหลังคาของเท็นชุคาคุ (*1) มีรูปปั้นคินชาจิหรือปลาหัวเสือสีทอง เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งคนญี่ปุ่นไม่น้อยจะนึกถึงเมื่อพูดถึงปราสาทนาโกย่า
ในบริเวณปราสาทมีวังฮมมารุโกะเต็นที่สร้างขึ้นด้วยเทคนิคที่ทันสมัยที่สุดในสมัยเอโดะ สวนญี่ปุ่นนิโนะมารุเทเอ็น สวนของพระราชวังที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ และเซนันซุมิยากุระซึ่งสร้างในปี 1612 และคงอยู่จนถึงปัจจุบัน
อนึ่ง เท็นชุคาคุอยู่ในระหว่างการบูรณะฟื้นฟู ไม่สามารถเข้าชมได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 จนถึงสิ้นปี 2022 (กำหนดการ)
*1: เท็นชุคาคุ (ป้อมปราสาท).....สิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในปราสาทญี่ปุ่น ถือเป็นสัญลักษณ์ของปราสาทนั้น
Photo by Pixta
ศาลเจ้าอาสึตะจิงกู ศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงในเมืองนาโกย่า เป็นศาลเจ้าที่สักการะ Kusanagi no Tsurugi (ดาบศักดิ์สิทธิ์) เป็น 1 ในไตรราชกกุธภัณฑ์ (*2) ที่ปรากฏในตำนานญี่ปุ่น
ผู้คนในท้องถิ่นคุ้นเคยในชื่ออาสึตะซัง มีคนไปเยือนศาลเจ้าแห่งนี้มากกว่า 6 ล้านคนต่อปี เพื่อขอพรให้ได้รับโกะริยะคุ (โชคดี) ในเรื่องต่างๆ เช่น การเก็บเกี่ยวพืชผลอุดมสมบูรณ์ ความรัก ขอบุตร และการคลอดลูกอย่างปลอดภัย
ไม่เพียงแต่วิหารหลักของศาลเจ้าเท่านั้น โคโคโระโนะโคมิจิ ทางเดินที่ล้อมรอบวิหารหลักยังมีสถานรับพลังเสริมดวงต่างๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น ศาลเจ้าชิมิซุ (Shimizu Shrine)ที่ได้รับโกะริยะคุที่ช่วยให้หายป่วยจากโรคเกี่ยวกับดวงตา และสถูปของยูคิฮิหรือหยางกุ้ยเฟย (Yang Guifei’s Pagoda)ที่ช่วยให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา
*2: ไตรราชกกุธภัณฑ์ (เครื่องราชกกุธภัณฑ์ 3 ชิ้น) ... สมบัติศักดิ์สิทธิ์ 3 ชิ้นที่ปรากฏในตำนานญี่ปุ่น เป็นชื่อเรียกรวมของ Yata no Kagami (กระจกแห่งปัญญา กระจกขนาด 8 อาตะ -ประมาณ 140 ซ.ม.), Yasakani no Magatama (อัญมณีแห่งความเมตตา อัญมณีรูปร่างคล้ายเครื่องหมายลูกน้ำหรือจุลภาคขนาด 8 ชาคุ -ประมาณ 180 ซ.ม.), Ame no Murakumo no Tsurugi (ดาบแห่งความกล้าหาญเที่ยงธรรม) มีอีกชื่อหนึ่งว่า Kusanagi no Tsurugi (ดาบขจัดความทุกข์ยาก)
โรงแรมแนะนำใกล้ศาลเจ้าอัตสึตะ
Photo by Pixta
พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยีโตโยต้าเป็นพิพิธภัณฑ์ในเครือโตโยต้ากรุ๊ป ผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดัง ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นพิพิธภัณฑ์รถยนต์กับพิพิธภัณฑ์เครื่องจักรสิ่งทอ เราสามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมสิ่งทอของญี่ปุ่นได้
ไม่ค่อยมีใครทราบว่ารากฐานของโตโยต้าไม่ใช่รถยนต์ แต่เริ่มจากเครื่องทอผ้า ในพิพิธภัณฑ์เครื่องจักรสิ่งทอ นอกจากเครื่องทอผ้าอัตโนมัติที่โทโยตะ ซาคิจิ ผู้ก่อตั้งโตโยต้ากรุ๊ปได้ประดิษฐ์ขึ้น ยังมีเครื่องจักรทอผ้ารุ่นใหม่ล่าสุดราว 100 เครื่องจัดแสดงอีกด้วย
ในพิพิธภัณฑ์รถยนต์ มีชิ้นส่วนต่างๆ ของรถยนต์ เช่น เครื่องยนต์โตโยต้ารุ่นก่อนๆ จัดแสดง นอกจากจะมีความรู้เกี่ยวกับรถยนต์มากขึ้นแล้ว ยังเพลิดเพลินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อีกด้วยค่ะ
Photo by Pixta
สวนโทคุกาวะ เป็นสวนญี่ปุ่นที่มีเนื้อที่ 44 เฮกเตอร์ เป็นสวนแบบจิเซ็นไคยูชิคิ (*2) ที่สามารถเดินเล่นพลางชื่นชมทิวทัศน์ของสวนสวยในบรรยากาศงดงามได้ อีกทั้งยังสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้ในแต่ละฤดูกาล เช่น ดอกโบตั๋นในฤดูใบไม้ผลิ ดอกฮานาโชบุ (ดอกไอริสญี่ปุ่น) ในฤดูร้อน ดอกฮิกังบานะในฤดูใบไม้ร่วง และดอกซาซังกะในช่วงฤดูหนาว เป็นต้น
*2: จิเซ็นไคยูชิคิ (Chisen-kaiyushiki) ... สวนญี่ปุ่นที่มีสระน้ำอยู่ตรงกลาง สามารถชมวิวสวน ในขณะที่เดินเล่นไปรอบๆ สระน้ำได้
Photo by Pixta
สวนโทคุกาวะยังเป็นสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียง ในฤดูใบไม้ร่วงสีแดงส้มของต้นนิชิคิงิและต้นเมเปิ้ลกว่า 300 ตัดกับสีฟ้าของทะเลสาบริวเซ็น (Ryusen Lake) สระใจกลางสวนช่างงดงามยิ่งนัก ทุกๆ ปีตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคมจะมีการจัดเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสี โดยช่วงกลางคืนจะมีการจัดไลท์อัพของใบไม้เปลี่ยนสีด้วย
Photo by Pixta
เมืองอินุยามะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของจังหวัดไอจิ เคยรุ่งเรืองในฐานะเมืองรอบปราสาทของปราสาทอินุยามะ ที่ยังมีเท็นชุคาคุที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่นหลงเหลือในปัจจุบัน ในอดีตที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็นโชเกียวโตหรือเกียวโตน้อย (เมืองที่มีอาคารบ้านเรือนกลิ่นอายคล้ายกับเกียวโต) แม้ปัจจุบันก็ยังมีสถานที่ที่สัมผัสได้ถึงประวัติศาสตร์หลงเหลืออยู่
จากเมืองนาโกย่าไปยังเมืองอินุยามะใช้เวลา 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ ในกรณีเดินทางด้วยรถไฟ ให้นั่งรถไฟด่วนพิเศษจากสถานีเมเทสึนาโกย่า (Meitetsu Nagoya Station) ไปลงที่สถานีอินุยามะ (Inuyama Station) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 25 นาที ค่าโดยสาร 910 เยน
หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในเมืองอินุยามะในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์เมจิมูระ (Museum Meiji-Mura) ธีมพาร์คในคอนเซ็ปต์สมัยเมจิ ภายในบริเวณมีการนำสิ่งปลูกสร้างในสมัยเมจิย้ายมาสร้างไว้ จึงเต็มไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค
เราสามารถเห็นถึงภาพวิถีการใช้ชีวิตในเมจิ โดยการเช่าเครื่องแต่งกายสไตล์สมัยเมจิแล้วเดินเล่นในธีมพาร์ค หรือการนั่งรถจักรไอน้ำที่ใช้งานจริงในสมัยนั้น ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาก็มีการจัดอีเวนท์ร่วมกับอนิเมะยอดฮิตเรื่องซามูไรพเนจรด้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากแฟนๆ มาก
Photo by Pixta
ปราสาทอินุยามะมีความพิเศษที่เป็นปราสาทส่วนบุคคลจนถึงปี 2004 เท็นชุคาคุที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1537 ว่ากันว่าเป็นเท็นชุคาคุที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นและได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ จากเท็นชุคาคุสามารถชมทิวทัศน์เมืองอินุยามะได้ทั้งเมือง และยังเป็นจุดถ่ายรูปยอดนิยมอีกด้วย
นอกจากนั้น เมืองรอบปราสาทที่อยู่ด้านล่างของปราสาทอินุยามะยังเป็นย่านที่เต็มไปด้วยของอร่อยสำหรับเดินกินด้วย ไปเดินเล่นรอบๆ พลางชิมของอร่อยในเมืองรอบปราสาทอย่างดังโงะและเด็นกาคุ (เต้าหู้ย่างราดมิโซะ)กันนะคะ
Photo by Pixta
เมืองกามาโกริอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดไอจิ เป็นเมืองที่มีทิวทัศน์งดงามล้อมรอบด้วยอ่าวมิคาวะและภูเขา ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติที่สวยงามและออนเซ็น จากเมืองนาโกย่าใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ราว 1 ชั่วโมง ในกรณีเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีกามาโกริ (Gamagori) นั่งรถไฟ JR สายโทไคโด (Tokaido) ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่าโดยสาร 970 เยนค่ะ
กามาโกริออนเซ็นเป็นแหล่งออนเซ็นที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดไอจิ มีที่พักตั้งเรียงรายริมชายหาด เราสามารถชมทะเลที่สวยงามไปพร้อมๆ กับแช่ออนเซ็นได้ เราจะมองเห็นเกาะทาเคชิมะที่อีกด้านของทะเล เป็นเกาะไร้ผู้คนที่ลอยอยู่ในอ่าวมิคาวะ (Mikawa Bay) เชื่อมกับแผ่นดินด้วยสะพานยาว 387 เมตร
Photo by Pixta
ใจกลางเกาะมีศาลเจ้ายาโอโทมิ (Yaotomi Shrine) ศาลเจ้าที่มีประวัติการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1181 เชื่อกันว่า ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องการขอโชคลาภ การคลอดลูกอย่างปลอดภัย และสมหวังในความรัก จึงมีสาวๆ มาเยือนเป็นจำนวนมาก
Photo by Pixta
เมืองโอคาซากิอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดไอจิ เป็นเมืองที่สัมผัสได้ถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น มีสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์อย่างปราสาทโอคาซากิ (Okazaki Castle) ปราสาทซึ่งเป็นสถานที่เกิดของโทคุกาวะ อิเอยาซุ ผู้ก่อตั้งเอโดะบาคุฟุ (รัฐบาลทหารในสมัยเอโดะ)
จากเมืองนาโกย่าไปยังเมืองโอคาซากิ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงด้วยรถยนต์ ในกรณีที่เดินทางโดยรถไฟ ให้นั่งจากสถานีนาโกย่าไปยังสถานีโอคาซากิ (Okazaki) รถไฟ JR สายโทไคโด (Tokaido) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที 620 เยนค่ะ
Photo by Pixta
ปราสาทโอคาซากิเป็นสถานที่เกิดของโทคุกาวะ อิเอยาซุ สิ่งปลูกสร้างที่เห็นในปัจจุบันถูกสร้างขึ้นใหม่เมื่อปี 1959 บริเวณโดยรอบได้รับการปรับให้เป็นสวนโอคาซากิ
สวนโอคาซากิเป็นสถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียง โดยได้รับเลือกเป็น100 สถานที่ชมซากุระที่มีชื่อเสียงในญี่ปุ่น ในเทศกาลชมซากุระที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนของทุกปี มีการจัดขบวนแห่อิเอยาซุพาเหรดที่มีซามูไรและเจ้าหญิงรวมกว่า 700 คน และไลท์อัพของซากุระด้วย
จังหวัดไอจิมีคาบสมุทร 2 แห่ง หากมองจากย่านนาโกย่า ทางใต้คือคาบสมุทรอาสึมิ (Atsumi Peninsula) ส่วนทางตะวันตกคือคาบสมุทรจิตะ (Chita Peninsula) คาบสมุทรจิตะล้อมรอบด้วยทะเล นอกจากจะมีชายหาดที่สวยงามหลายแห่งแล้ว ยังมีอาหารทะเลอร่อยๆ ด้วย
จากเมืองนาโกย่าไปยังคาบสมุทรจิตะใช้เวลาราว 1 ชั่วโมงโดยรถยนต์ หากใช้รถไฟสายเมเทสึโทโคนาเมะ (Meitetsu Tokoname Line) จากสถานีเมเทสึนาโกย่าไปสถานีจิตะฮันดะ (Chita Handa Station) ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่าโดยสาร 660 เยน
Photo by Pixta
มินามิจิตาโจ เมืองที่อยู่ใต้สุดของคาบสมุทรจิตะ มีชายหาดอยู่หลายแห่ง เช่น หาดซันเซ็ต (Sunset Beach)และชายหาดเล่นน้ำทะเลอุสึมิ (Utsumi Beaches) เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนจะคึกคักไปด้วยผู้คนที่มาเล่นน้ำทะเลกัน
อีกทั้งยังมีการจับสัตว์ทะเลอย่างปลาหมึก ปลาไท อานาโกะ (ปลาไหลทะเล) และปลาปักเป้า เราจึงสามารถกินอาหารทะเลสดใหม่ได้ตามร้านอาหารภายในเมืองค่ะ
Photo by Pixta
เมืองโทโคนาเมะ (Tokoname) อยู่ฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรจิตะ มีชื่อเสียงในเรื่องโทโคนาเมะยากิ เครื่องปั้นดินเผาที่ทำจากดินชุเด (shudei clay) ดินที่มีธาตุเหล็กผสมซึ่งขุดหาได้ในท้องถิ่นนี้ ลักษณะพิเศษของเครื่องปั้นดินเผานี้คือพื้นผิวลื่นเรียบและมีความอุ่น
ในเมืองมีถนนเครื่องปั้นดินเผา เป็นถนนที่ทำขึ้นจากเครื่องปั้นดินเผาและประดับด้วยวัตถุต่างๆ ที่ทำจากเครื่องปั้นดินเผา เราจะได้เพลินตากับโทโคนาเมะยากิหลายๆ รูปแบบ
เมืองโทโยตะอยู่ทางตะวันออกของจังหวัดไอจิ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นฐานการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์ของญี่ปุ่น จากเมืองนาโกย่าเดินทางด้วยรถยนต์ใช้เวลา 1 ชั่วโมง
Photo by Pixta
หนึ่งในสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองโทโยตะคือ พิพิธภัณฑ์โตโยต้า พิพิธภัณฑ์ในเครือโตโยต้ากรุ๊ป นอกจากจะมีรถโตโยต้ารุ่นก่อนจนถึงรุ่นล่าสุดจัดแสดงแล้ว ยังสามารถเรียนรู้เทคโนโลยีล่าสุดเกี่ยวกับรถยนต์ และเพลิดเพลินกับการทัวร์ชมโรงงานได้
เนื่องจากไม่มีค่าเข้าชม สำหรับคนที่ชอบรถยนต์ต้องไปชมให้ได้สักครั้งค่ะ
Photo by Pixta
เมืองโทโยตะมีหุบเขาโครังเค ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงามอันดับต้นๆ ในภูมิภาคโทไค สองฝั่งแม่น้ำมีต้นเมเปิ้ลเรียงราย เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ต้นเมเปิ้ลทั้งหมดจะเปลี่ยนสีพร้อมกัน เราจะได้เพลิดเพลินกับใบไม้เปลี่ยนสีที่มีสีสันสดใส อนึ่ง ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิจนถึงฤดูร้อน การชมอาโอะโมมิจิ (ใบไม้สีเขียว) ของต้นเมเปิ้ลที่สวยงามก็นิยมเช่นกัน
เมืองโทโยคาวะเป็นเมืองทางตอนใต้ของจังหวัดไอจิ ตั้งอยู่ในพื้นที่ฮิกาชิมิคาวะ จากเมืองนาโกย่าใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาทีโดยรถยนต์
Photo by Pixta
โทโยคาวะอินาริ จัดเป็น 1 ใน3 ศาลเจ้าอินาริ (Inari Shrine) ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เรโคสึกะ (Reiko-zuka เนินวิญญาณจิ้งจอก) ที่มุมหนึ่งในศาลเจ้ามีรูปปั้นจิ้งจอกหินขนาดใหญ่เล็กกว่า 1,000 ตัวเรียงรายอยู่
รูปปั้นหินเหล่านี้ถวายโดยผู้ที่มาขอพรและผู้ที่สมปรารถนา ที่นี่เป็นสถานที่รับพลังเสริมดวงที่กล่าวกันว่า ช่วยให้สมหวังในเรื่องการค้าเจริญรุ่งเรือง, ครอบครัวเป็นสุข-ปลอดภัย-ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ, ประสบความสุข-โชคลาภ
ในจังหวัดไอจิมีของกินอร่อยที่เรียกกันว่านาโกย่าเมชิ อาหารรสเลิศในท้องถิ่นที่ไม่เหมือนใคร เช่นฮิสึมาบุชิที่กินโดยราดซุปดาชิบนอุนางิคาบายากิ (ปลาไหลญี่ปุ่นย่างทาด้วยซอส) และมิโซะคัตสึที่ราดซอสผสมมิโซะบนทงคัตสึ (หมูชุปแป้งทอด)
Photo by Pixta
การท่องเที่ยวในไอจิ แนะนำให้เลือกพักโรงแรมที่อยู่ในเมืองนาโกย่าค่ะ เพราะจากในเมืองนาโกย่าสามารถเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจังหวัดได้อย่างสะดวก โดยใช้ทางด่วนโทไคคันโจ (Tokai-Kanjo Expressway) และทางด่วนโทเม (Tomei Expressway) ได้ เนื่องจากเป็นการเดินทางโดยใช้รถเช่า จึงควรจองล่วงหน้าให้เรียบร้อยค่ะ
ในกรณีที่เที่ยวเฉพาะในเมืองนาโกย่า แนะนำให้ใช้รถไฟเส้นทางทั่วไปอย่างรถไฟ JR หรือรถไฟใต้ดิน และจองโรงแรมแถวหน้าสถานีนาโกย่าไว้ดีกว่าค่ะ
Chubu Centrair International Airport / Photo by Pixta
วิธีการเดินทางไปเมืองนาโกย่า จังหวัดไอจิ
บินจากสนามบินนาริตะหรือสนามบินฮาเนดะไปสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ (Chubu Centrair International Airport เรียกสั้น ๆ ว่า Centrair) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 60 นาที ค่าโดยสารประมาณ 7,000-20,000 เยนค่ะ
จากเทอร์มินอลที่ 2 สนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ ใช้เวลาเดิน 7 นาที ไปยังสถานีสนามบินนานาชาติชูบุ ซึ่งเป็นสถานีที่ใกล้ที่สุด สำหรับคนที่ใช้บริการสนามบินนานาชาติชูบุเซนแทรร์ในเที่ยวบินกลับ แนะนำให้มาสนามบินโดยเร็วนะคะ
จากสถานีโตเกียว นั่งรถไฟโทไคโดชินคันเซ็น (Tokaido Shinkansen) มุ่งหน้าไปสถานีนาโกย่า ระยะเวลาในการเดินทางจะแตกต่างกันตามขบวนรถไฟชินคันเซ็นที่โดยสาร หากเป็นขบวนรถไฟโนโซมิ (Nozomi) จะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาที หากเป็นขบวนรถไฟโคดามะ (Kodama) ที่จอดทุกสถานีจะใช้เวลาทั้งหมด 2 ชั่วโมง 40 นาที ค่าโดยสาร 10,360 เยนขึ้นไป (แบบไม่จองที่นั่งล่วงหน้า)
แนะนำให้ขึ้นรถจากลานจอดรถคาจิบาชิ (Kajibashi Parking Lot) สถานีโตเกียว หรือชินจูกุบัสเทอร์มินอล (Shinjuku Expressway Bus Terminal) สถานีชินจูกุ ใช้เวลาเดินทางถึงสถานีนาโกย่าประมาณ 5 ชั่วโมง 50 นาที เนื่องจากมีรถบัสกลางคืนให้บริการด้วย ในกรณีที่อยากใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด อยากลองวิธีการเดินทางนี้ค่ะ ค่าโดยสารจะแตกต่างกันตามวันเวลา ราคาตั้งแต่ 2,000-8,000 เยน
จังหวัดไอจิที่มีไฮไลท์น่าสนใจมากมาย แนะนำให้เที่ยวเต็มที่โดยใช้เวลา 2-3 วัน สำหรับคนที่มีเวลาไม่มาก แนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟชินคันเซ็นหรือเครื่องบินแล้วเที่ยวในเมืองนาโกย่าก็ไม่เลวค่ะ