Start planning your trip
เดินเล่นรอบเอโคดะ (Ekoda) สถานีรถไฟเล็กๆ ที่อบอวลด้วยกลิ่นขนมปัง และเป็นฉากในอนิเมะเรื่อง Nodame Cantabile ด้วย!
สถานีเอโคดะอยู่ห่างจากอิเคบุคุโระเพียง 6 นาที เป็นสถานีเล็กๆ ที่รายล้อมด้วยร้านขนมปังมากมาย เมืองเล็กๆ ที่ผู้เขียนเคยอาศัยอยู่ 5 ปีนี้เป็นฉากในอนิเมะเรื่อง Nodame Cantabile และยังมีมหาวิทยาลัยที่ผลิตบุคคลผู้มีชื่อเสียงมากมาย
เดินเล่นรอบเอโคดะ เมืองนักศึกษาเล็กๆ ที่พรั่งพร้อม
ยามที่ผู้เขียนรู้สึกกังวลต่ออนาคตในขณะที่ต้องทุ่มเททำงานตามลำพังในญี่ปุ่น แต่เมื่อได้มาเดินเล่นที่เมืองนี้หัวใจก็รู้สึกสงบขึ้น สถานที่ซึ่งทำให้สบายใจได้เช่นนี้ก็คือเอโคดะ (Ekoda) เมืองที่ผู้เขียนเคยอาศัยอยู่นี่เอง
ตอนนี้ผู้เขียนได้ย้ายไปอยู่เมืองอื่นแล้ว แต่วันนี้ขอทำหน้าที่ไกด์พาทุกคนมาเดินเล่นทอดน่องชมเสน่ห์ของเมืองแห่งนี้ด้วยกัน!
สถานีเอโคดะของรถไฟสายเซบุอิเคบุคุโระ (Seibu Ikebukuro) เป็นสถานีประวัติศาสตร์ที่เปิดให้บริการมาเกือบ 100 ปี แม้พื้นที่โดยรวมจะไม่ใหญ่โตนัก แต่ก็มีสถาบันการศึกษาถึง 8 แห่ง ตั้งแต่ระดับประถมไปจนถึงมหาวิทยาลัย และมีนักเรียนในเครื่องแบบเดินควักไขว่ไปมาตามท้องถนน
สถานีแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อนักเรียนนักศึกษาทั้งหลาย อาคารสถานีออกแบบตามความคิดเห็นของมหาวิทยาลัยต่างๆ ในท้องถิ่นนี้ บอร์ดติดประกาศรอบๆ มีโปสเตอร์การจัดสัมมนาและการแสดงวัฒนธรรมต่างๆ ของนักศึกษาติดอยู่
สถานที่อันน่าจดจำแห่งนี้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Shall we Dance ที่ได้รับรางวัลมากมายอย่างรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก Japan Academy Film Prize (ครั้งที่ 36 ในปี 1996) ในภาพยนตร์มีฉากซึ่งตัวเอกที่ยาคุโช โคจิแสดงจ้องมองห้องสอนเต้นรำจากชานชาลาที่ 1 ของสถานีรถไฟ
ในฐานะคนรักหนังที่จบการศึกษาในสาขาภาพยนตร์มา รู้สึกตื่นเต้นมากที่ได้ยืนในสถานที่บรรยากาศเดียวกับในภาพยนตร์
เอโคดะ เมืองแห่งการสร้างศิลปิน
ในบรรดาสถานศึกษา 8 แห่งในเอโคดะ มีระดับมหาวิทยาลัย 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมุซาชิ (Musashi University) คณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น (College of Arts, Nihon University) ซึ่งรู้จักกันในชื่อนิคเค (Nikkei) และมหาวิทยาลัยดนตรีมุซาชิโนะอาคาเดเมีย (Musashino Academia Musicae University)
โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น (Nihon University) ถือเป็นสถาบันที่ผลิตผู้มีชื่อเสียงมากมายอย่างโยชิโมโตะ บานานะ จากภาควิชาวรรณคดีและคิชิน ชิโนยามะ จากภาควิชาถ่ายภาพ รวมทั้งศิลปินที่มีชื่อเสียงอื่นๆ เช่น คันคุโระ คุโดะ ผู้กำกับและนักแสดง อาโออิ ยู นักแสดงหญิงยอดนิยม และมิทานิ โคคิ โปรดิวเซอร์ชื่อดัง
หากมีโอกาสลองไปงานเทศกาลของคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นที่จัดทุกฤดูใบไม้ร่วงดูนะคะ แล้วจะได้ชมผลงานผ่านความคิดของเหล่าศิลปินในอนาคตค่ะ
มหาวิทยาลัยดนตรีมุซาชิโนะอาคาเดเมียเองก็ผลิตนักเปียโนและนักดนตรีมากมาย เป็นมหาวิทยาลัยดนตรีเอกชนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และยังเป็นต้นฉบับของฉากในอนิเมเรื่องโนดาเมะ วุ่นรักนักดนตรี (Nodame Cantabile) ด้วย
สำหรับแฟนๆ ที่ตามรอยอนิเมะ ในสถานีเอโคดะมีป้ายรูปโนดาเมะตอนเล่นเปียโนด้วยนะ
เอโคดะ ย่านขนมปังอร่อย
เอโคดะยังเป็นย่านแห่งร้านขนมปังด้วย รอบๆ สถานีมีร้านขนมปังราว 20 ร้าน ช่วงเวลาที่ขนมปังอบเสร็จ เมื่อเดินออกจากสถานีจะได้กลิ่นหอมอบอวลไปทั่วจนเลือกไม่ถูกเลยว่าจะตามกลิ่นไปร้านไหนดี
คนที่มาเอโคดะครั้งแรก มีร้านขนมปัง 2 ร้านที่ต้องไปก่อนเลย! จากนี้จะจำลองแผนการเดินเที่ยวรอบเอโคดะใน 1 วันนะคะ
8:30 อาหารเช้าสุดหรูมีสไตล์ที่ Parlour Ekoda
Parlour Ekoda คือหนึ่งในร้านขนมปังอันดับต้นๆ ในเอโคดะ การกินขนมปังจากร้านยอดนิยมนี้ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากต้องตื่นแต่เช้า!
เมื่อก่อนผู้เขียนเคยต้องไปเข้าแถวนานกว่าหนึ่งชั่วโมงเพื่อกินมื้อกลางวันในวันหยุด แต่ถ้าไปวันธรรมดาทันทีที่ร้านเปิดจะได้กินขนมปังหลากหลายเป็นอาหารเช้าในบรรยากาศสบายๆ
เมื่อเข้าไปในร้าน ก็เห็นพนักงานคอยอธิบายรายละเอียดของขนมปังต่างๆ อย่างสุภาพ และพ่อครัวที่ยุ่งอยู่กับการทำขนมปังด้วยสายตามุ่งมั่น
ครั้งนี้ผู้เขียนสั่งชุดขนมปัง (ราคารวมภาษี 980 เยน) ในชุดมีขนมปังโฮลเกรนแฮนด์เมดที่บดด้วยโม่หิน ขนมปังปิ้งเนื้อนุ่ม สลัด และกาแฟคั่วโดยร้านกาแฟชื่อดังในโตเกียว รู้สึกถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดของทางร้าน
12:00 - 15:00 MOTHER GOOSE ขนมปังแบบดั้งเดิมแสนอร่อย
MOTHER GOOSE เปิดมากว่า 100 ปี สืบทอดและบริหารงานโดยเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 มีขนมปังหลากหลายวางเรียงรายอยู่ในร้าน เช่น ขนมปังยอดฮิตที่ขายดีมายาวนานนับแต่สมัยปู่ของเจ้าของร้านรุ่นปัจจุบัน ขนมปังที่คำนึงถึงสารก่อภูมิแพ้ และขนมปังโฮมเมดที่ทำจากผลไม้และยีสต์
ทางร้านได้จัดหาขนมปังที่เรียบง่ายและอร่อยให้แก่เด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาลใกล้เคียงมายาวนานด้วย
เมื่อผู้เขียนอยากกินมื้อกลางวันแบบเบาๆ มักมาซื้อขนมปังไส้คาวหรือขนมปังไส้ครีมที่นี่ หน้าตาอาจไม่ดูหรูหรา แต่เมื่อหยิบขนมปังที่นี่ขึ้นมากินก็ทำให้มีความสุขได้
สถานที่ 3 แห่งที่ต้องไป
ยังมีสถานที่ซึ่งเป็นเหมือนแหล่งประวัติศาสตร์ของท้องถิ่นซึ่งค้ำจุนชีวิตผู้คนในเอโคดะ ไปชมสถานที่อันน่าประทับใจยิ่งเหล่านี้กันค่ะ
16:00 เซ็นเก็นยุ (Sengen Yu) โรงอาบน้ำสาธารณะที่มีทานุกิคอยปกป้อง
โรงอาบน้ำนี้เปิดให้บริการในปี 1927 ปัจจุบันมีรูปปั้นทานุคิอยู่ด้านหน้า ศาสตราจารย์ที่อาศัยอยู่ใกล้ๆ ได้มอบรูปปั้นนี้ให้เจ้าของร้านก่อนจะย้ายไปต่างประเทศ บริเวณพักผ่อนด้านในมีทานุคิสต๊าฟ (ที่ถือผ้าขนหนูและขันไม้เตรียมอาบน้ำดูน่ารัก) ด้วย เป็นของขวัญจากเจ้าของโรงอาบน้ำหนึ่งแห่งอื่นที่ได้มาจากการล่าสัตว์
ภาพจิตรกรรมฝาผนังในโรงอาบน้ำทำจากกระเบื้องโมเสคที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบโดยศาสตราจารย์ของคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น การตกแต่งภายในทำให้รู้สึกได้ถึงการเชื่อมโยงระหว่างเซ็นเก็นยุกับผู้คนในท้องถิ่น
ปกติผู้เขียนไม่ค่อยไปโรงอาบน้ำ แต่จะไปตอนน้ำประปาที่บ้านเย็นจนเป็นน้ำแข็ง ขณะที่ผู้เขียนประหม่าด้วยความไม่คุ้นเคยกับโรงอาบน้ำ ลูกค้าคนอื่นที่มาโรงอาบน้ำก็เข้ามาทักทาย โรงอาบน้ำจึงเป็นเหมือนสถานที่ที่เพื่อนบ้านใกล้เคียงมาพักผ่อนร่วมกัน
17:00 เอโดะฮาจิฟูจิ ฟูจิจำลองมีชื่อของโตเกียว
เมื่อออกจากสถานีโดยทางออกทิศเหนือจะเห็นศาลเจ้าเซ็นเก็น (Sengen Shrine) ตอนอยู่ที่เมืองนี้ผู้เขียนจะไปสักการะที่ศาลเจ้านี้ทุกปีใหม่ ตอนที่ย้ายบ้านก็ไปแสดงความขอบคุณ เมื่อมองดูแผ่นเอมะต่างๆ ที่แหวนอยู่จะเห็นคำอธิษฐานของนักเรียนที่มาขอเพื่อให้สอบผ่านคณะศิลปกรรมศาสตร์ของมหาวิทยาลัยญี่ปุ่นและมหาวิทยาลัยใกล้เคียง
ศาลเจ้าเซ็นเก็นนี้มีฟูจิซุกะ (ภูเขาที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เหมือนกับภูเขาไฟฟูจิ) ที่ใหญ่ที่สุดในโตเกียวสูงราว 8 เมตร
ฟูจิซุกะคือเนินดินที่สร้างขึ้นในช่วงปลายสมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603 - 1868) เพื่อให้ผู้ที่ปีนภูเขาไฟฟูจิไม่ไหวก็สามารถได้รับพรเหมือนการปีนภูเขาไฟฟูจิ ฟูจิซุกะซึ่งมีชื่อเสียงในโตเกียวมี 8 แห่งเรียกกันว่า เอโดะฮาจิฟูจิ (Edo Hachifuji) หรือฟูจิซุกะ 8 แห่งในเอโดะ ซึ่งหนึ่งในนั้นตั้งอยู่ในบริเวณศาลเจ้าเซ็นเก็น
ฟูจิซุกะในศาลเจ้าเซ็นเก็นได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่มีรูปร่างที่สำคัญยิ่งของญี่ปุ่น เปิดให้เข้าชมเฉพาะบางวันในเดือนมกราคม กรกฎาคม และกันยายน
18:00 ข้าวหน้าเนื้อมัตสึยะสาขาแรก
ร้านมัตสึยะ (Matsuya) เป็นร้านข้าวหน้าเนื้อกิวด้งที่มีแฟรนไชส์ทั่วญี่ปุ่นมากกว่า 1,000 สาขา ไม่คาดคิดมาก่อนว่าร้านมัตสึยะแห่งแรกจะตั้งอยู่ในเอโคดะ ภายนอกดูเหมือนกับร้านสาขาอื่นๆ แต่เปิดให้บริการมานานกว่าครึ่งศตวรรษแล้ว
บนผนังมีป้ายที่เขียนว่า 松屋1号店江古田店 (ร้านมัตสึยะ ร้านแรก สาขาเอโคดะ) แขวนอยู่ ข้างๆ มีประวัติการก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน และรูปภาพร้านเริ่มแรกด้วย ให้บริการข้าวหน้าเนื้อในตอนกลางวันและชุดยากินิคุในตอนกลางคืน มีลูกค้าหลากหลายทั้งนักเรียนนักศึกษาและคนทำงาน
ด้วยความคิดที่ว่าอยากให้ลูกค้าได้กินอาหารคุณภาพดีในราคาคุ้มค่านี่เอง ร้านมัตสึยะจึงยังต่อสู้อยู่บนสังเวียนการแข่งขันที่ดุเดือด
ถ้าอยากเดินเล่นสบายๆ ต้องไปที่เอโคดะ
บริเวณรอบสถานีเอโคดะที่ดูสงบแต่เพียบพร้อมนี้ทำให้ได้สัมผัสถึงความเชื่อมโยงระหว่างผู้คนในท้องถิ่นกับร้านค้าเล็กๆ ที่มีความพิเศษ รู้สึกได้ว่าเวลาของที่นี่ผ่านไปช้าๆ ต่างกับเวลาที่สถานีรถไฟใหญ่ๆ
เมื่ออยากหนีจากวันอันวุ่นวายล่ะก็ ลองมาที่เอโคดะ ใช้เวลาอย่างผ่อนคลายโดยเริ่มจากมื้อเช้ากัน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง