9 ที่เที่ยวในเมืองทาจิมิ เมืองแห่งเครื่องกระเบื้อง ใกล้นาโกย่าแค่ 35 นาที
นั่งรถไฟจากสถานี JR นาโกย่าแค่ประมาณ 35 นาทีก็ถึงเมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผา เมืองทาจิมิ (Tajimi) จังหวัดกิฟุ (Gifu) ขอแนะนำ 9 ที่น่าเที่ยวที่จะทำให้เราได้สัมผัสกับสเน่ห์ของเมืองทาจิมิแบบครบถ้วนทั้งเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิ สวนญี่ปุ่นสวยๆ และของกินอร่อยๆ
ทาจิมิ เมืองเล็กน่าเที่ยวใกล้นาโกย่า
ทาจิมิ (Tajimi) หนึ่งในเมืองแห่งเครื่องปั้นดินเผาที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดกิฟุ นั่งรถไฟจากนาโกย่าแค่ 35 นาทีเท่านั้น หรือถ้าขับรถยนต์ก็ประมาณ 50 นาที
เครื่องปั้นดินเผาของเมืองทาจิมิเรียกกันว่าเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิ ในช่วงยุคเซ็นโกคุนิยมใช้ในพิธีชงชา จากนั้นพอเข้ายุคเอโดะก็กลายเป็นภาชนะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน แพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น
ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน วิธีการผลิตและรูปร่างหน้าตาจึงมากมายหลากหลายตามไปด้วย มีตั้งแต่เครื่องกระเบื้องสำหรับใช้ได้ทั่วไป เหมาะจะหาซื้อไปเป็นของฝากหรือของที่ระลึก ไปจนถึงผลงานที่วิจิตรสวยงาม เอาไว้ตั้งโชว์ได้ประหนึ่งงานศิลปะ
เดือนเมษายน 2021 มีฉายอนิเมะเรื่อง Yakunara Mug Cup Mo ที่เอาเมืองทาจิมิและเรื่องราวเกี่ยวกับเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิมาเป็นฉากดำเนินเรื่องผ่านกลุ่มนักเรียนมัธยมชมรมเครื่องปั้นดินเผา ในเว็บไซต์มีฉบับมังกะภาษาอังกฤษและญี่ปุ่นให้อ่านฟรีด้วย
ครั้งนี้เราขอพาทุกคนไป 9 สถานที่น่าสนใจเพื่อทำความรู้จักกับเครื่องปั้นดินเผา วัฒนธรรม และของอร่อยของเมืองทาจิมิ
3 ที่เที่ยวสำหรับคนชอบศิลปะและเครื่องปั้นดินเผา
ก่อนอื่นไปเริ่มกันที่พิพิธภัณฑ์เพื่อดูว่าเครื่องปั้นดินเผาของเมืองทาจิมิเป็นยังไง ต่อด้วยชมโรงงานเครื่องกระเบื้องเพื่อดูว่าเค้าผลิตกันด้วยวิธีไหน
พิพิธภัณฑ์ MOSAIC TILE MUSEUM Tajimi
MOSAIC TILE MUSEUM Tajimi ตั้งอยู่ในเขตคาซาฮาระ (Kasahara) เมืองทาจิมิ แหล่งผลิตกระเบื้องโมเสกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น (*1)
รูปร่างของอาคารพิพิธภัณฑ์ทำเลียนแบบภูเขาที่ถูกขุดดินเพื่อนำมาใช้ทำเครื่องกระเบื้อง ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังระดับโลก ฟูจิโมริ เทรุโนบุ (Fujimori Terunobu)
ที่ชั้น 4 จัดแสดงภาพกระเบื้องโมเสกที่รวบรวมมาจากที่ต่างๆ กระเบื้องภาพจากโรงอาบน้ำเซ็นโต กระเบื้องที่ใช้ในห้องน้ำ และอีกหลากหลายแบบ ส่วนนี้ก็ดีไซน์โดยฟูจิโมริซังเหมือนกัน
สตูดิโอ (*2) สำหรับทดลองสร้างผลงานจากกระเบื้องโมเสก และร้านขายสินค้าที่ระลึกจากกระเบื้องโมเสกก็มี
* 1 ... กระเบื้องที่มีขนาดเล็กกว่า 50 ตารางเซนติเมตร จัดเป็นกระเบื้องโมเสก
* 2 ... สตูดิโอเปิดบริการสำหรับผู้ที่จองไว้เท่านั้น ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2021)
พิพิธภัณฑ์ Mino Ceramic Art Museum
ตลอดระยะเวลาร่วม 1,300 ปี เครื่องกระเบื้องมิโนะยากิได้ให้กำเนิดเครื่องปั้นดินเผาหลากสีหลายสไตล์ในชื่อต่างๆ เช่น เซโตะกุโระ คิเซโตะ ชิโนะ โอริเบะ ซึ่งเราสามารถมาดูความเป็นมาและจุดเด่นของแต่ละประเภทได้ที่ Mino Ceramic Art Museum
ภายในพิพิธภัณฑ์มีผลงานของนักปั้นเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิชื่อดังหลายท่าน ถ้าอยากสัมผัสเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิให้ใกล้ชิดกว่านี้ขอให้แวะไปที่ห้องชา (*3) เพราะเราจะได้ดื่มชาเขียวมัทฉะที่ใส่มาในถ้วยชาจากฝีมือของนักปั้นผู้ได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลสมบัติแห่งชาติ
* 3 ... ห้องชาปิดบริการชั่วคราว ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 (ข้อมูล ณ เดือนมีนาคม 2021)
โรงงานเครื่องกระเบื้องโคเบกามะ
โรงงานเครื่องกระเบื้องโคเบกามะ (Kobeigama) เปิดทำการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1804 ในช่วงยุคเอโดะ เครื่องกระเบื้องคุณภาพดีของที่นี่ได้รับเลือกให้นำไปใช้ในพระราชวังเอโดะด้วย
เจ้าของโรงงานตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงรุ่นปัจจุบันต่างหยิบยกเอาเอกลักษณ์ของงานศิลป์หลากแขนงมาประยุกต์กับงานเครื่องปั้นดินเผาโดยไม่ยึดติดกับรูปแบบเดิมๆ อย่างเช่น คาโต ทาคุโอะ ทายาทรุ่นที่ 6 ผู้นำเอารูปแบบการวาดลวดลายของเครื่องกระเบื้องเปอร์เซียมาผสมผสานกับความเป็นญี่ปุ่น และได้รับเลือกเป็นบุคคลสมบัติแห่งชาติด้วย
ภายใน Museum of Old Ceramics มีจัดแสดงเครื่องกระเบื้องเปอร์เซีย เครื่องแก้วโบราณ และเครื่องกระเบื้องเก่าแก่ ส่วนที่ Arts and crafts Museum ก็มีผลงานของเจ้าของโรงงานรุ่นก่อนๆ รวมถึงสามารถไปดูเตาเผาและสตูดิโอทำงานได้ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้ที่น่าสนใจจนได้รับมิชลินกรีนไกด์ ระดับ 2 ดาว หมายถึงสถานที่น่าไปหากได้แวะมาบริเวณใกล้เคียง
3 ที่เที่ยวพร้อมสถาปัตยกรรมและสวนสวย
นอกจากพิพิธภัณฑ์กับโรงงานเครื่องกระเบื้องแล้ว อาคารสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นสวยๆ น่าสนใจในเมืองก็น่าไปเหมือนกัน
วัดเอโฮจิ
วัดโคเคซัง เอโฮจิ (Eiho-ji Temple) สร้างขึ้นในปี 1313 โดยมุโซ โซเซกิ พระนิกายเซ็นผู้มีชื่อเสียง วิหารกวนอิมและวิหารไคซันโดที่สร้างในช่วงปลายยุคคามาคุระ (ปี 1185 - 1333) ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติชาติ
สวนญี่ปุ่นที่อยู่กลางวัดเป็นจุดที่ได้รับความนิยมมาก โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ร่วงที่ใบของต้นเมเปิลและต้นแปะก๊วยจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเหลืองอย่างสวยงาม
ฮิราคุบิรุ
จากตึกที่เดิมมีแต่ร้านขายอัญมณี แว่นตา และนาฬิกา ที่นี่ได้รับการรีโนเวตใหม่จากชาวเมืองให้มีความหลากหลาย พร้อมตั้งชื่อใหม่ว่า ฮิราคุบิรุ (ฮิราคุ บิลดิ้ง : Hiraku Building) แฝงความหมายถึงการเปิดทาง (ฮิราคุ) สู่อนาคตสำหรับเมืองทาจิมิและผู้มาเยือน
ตอนนี้มีทั้งคาเฟ่และร้านหนังสือมาเปิด ของใช้ของประดับดูแปลกตามีเอกลักษณ์ อย่างชั้นหนังสือนี่ก็ประดับด้วยกระเบื้องมิโนะยากิ โต๊ะกลางและเก้าอี้ก็เป็นของร้านแว่นตาเดิมที่นำมารีเมกใหม่ โดยรวมถือว่าน่าแวะมาเดินดูกันสักครั้ง
อารามทาจิมิชูโดอิน
เทศกาลไวน์ในฤดูใบไม้ร่วง
อารามทาจิมิชูโดอิน (Tajimi Monastery) เป็นอาคารไม้สูง 3 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น สร้างขึ้นในปี 1930 ภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวของพระเยซู และบานหน้าต่างกระจกสเตนกลาสสวยคลาสสิก
ที่สวนของอารามมีสวนองุ่นขนาดใหญ่ ไวน์จากองุ่นในสวนก็มีวางขายอยู่ตรงร้านค้า ลานกว้างก็เป็นที่พักผ่อนของชาวเมือง เหมาะจะแวะมานั่งพักระหว่างเที่ยวเมืองทาจิมิ
3 ร้านอร่อยของเมืองทาจิมิ
มาเที่ยวแล้วจะลืมหาของอร่อยกินได้ยังไง ขอแนะนำร้านอร่อยทั้งอาหาร ขนม และสาเกให้ครบเลย
โรมันเท อุโอเซกิ
เมืองทาจิมิเป็นที่ราบแอ่งกะทะ พอถึงฤดูร้อน อากาศเลยจะร้อนกว่าพื้นที่อื่นๆ อาหารที่ช่วยเพิ่มกำลังกายในฤดูร้อนอย่างปลาไหลจึงเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย ในตัวเมืองก็มีร้านข้าวหน้าปลาไหลให้เลือกหลายร้าน
ร้านที่ได้รับความนิยมมากคือ โรมันเท อุโอเซกิ (Romantei Uoseki) ร้านเก่าแก่ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1897 ปลาไหลของที่นี่จะย่างอย่างเดียว ไม่เอาไปนึ่งก่อน กรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยซอสรสหวาน
โทโชเค็น
โทโชเค็น (Toshoken) ร้านขนมที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ MOSAIC TILE MUSEUM Tajimi ขนมที่กำลังได้รับความนิยมของที่นี่คือขนมในซีรีส์กระเบื้องโมเสคกินได้ (たべられるモザイクタイル®) ด้วยหน้าตาน่ารักและสีสันหลากหลายถ่ายรูปขึ้น มีทั้งแบบเป็นคุกกี้ วุ้นกรอบ และขนมมันจู
ขนมอีกชนิดที่เป็นสินค้าขายดีคือ อาโนโน (あののう®) เป็นขนมอบที่มี 2 ไส้ให้เลือกระหว่างไส้เกาลัดบดคุริคินตงและไส้มัทฉะ ชื่อน่ารักๆ นี่เป็นภาษาถิ่น เทียบกับภาษากลางคือคำว่า อาโนเนะ ที่เอาไว้พูดเกริ่นเวลาจะเรียกหรือทักใคร
มิจิซาคาริ
มิจิซาคาริ (Michisakari) โรงหมักเหล้าเก่าแก่ที่ก่อตั้งในช่วงกลางยุคเอโดะ ช่วงหลังมานี้สาเกรสนุ่มค่อนข้างได้รับความนิยมสูง แต่ที่นี่ก็ขอเน้นไปที่สาเกรสแรงตามสไตล์ดั้งเดิม
สาเกของมิจิซาคาริไม่มีรสแฝง เหมาะจะเอามาดื่มระหว่างมื้ออาหาร แม้แต่ที่ต่างประเทศก็ได้รับความนิยมมากหลังจากคว้ารางวัลชนะเลิศในเทศกาลสาเกลอนดอนถึง 4 ครั้งติดกันตั้งแต่ปี 2013
เที่ยวทั่วเมืองทาจิมิด้วยรถบัส รถยนต์เช่า และจักรยานเช่า
ถ้าอยากเที่ยวให้ทั่วเมืองทาจิมิขอแนะนำเป็นรถบัสหรือรถยนต์เช่า แต่ถ้าอยากตระเวนแถวสถานีทาจิมิเป็นหลัก ขอแนะนำเป็นจักรยานเช่าจะสะดวกมาก ไปเช่าได้ที่ Tajimi Rental Cycle ใกล้กับสถานี (ต้องจองล่วงหน้าทางเว็บไซต์)
เช่าเสร็จแล้วก็ปั่นเล่นไปตามจุดที่แนะนำในบทความนี้ได้ อย่างพิพิธภัณฑ์ Mino Ceramic Art Museum อยู่ห่างประมาณ 4 กิโลเมตร วัดเอโฮจิอยู่ห่างประมาณ 3 กิโลเมตร ถือว่าปั่นได้แบบไม่เหนื่อย
ถ้ามาตรงกับฤดูใบไม้ผลิราวต้นเมษายน ขอแนะนำให้ไปปั่นที่ถนนโทไซโนะมิจิท่ามกลางต้นซากุระบานสองข้างทาง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ยังมีที่เที่ยวอีกเยอะในเมืองทาจิมิ
วิดีโอโปรโมต Tajimi City เมืองแห่งเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิ
ในเมืองทาจิมิยังมีสถานที่น่าสนใจเกี่ยวกับเครื่องกระเบื้องมิโนะยากิอีกหลายแห่ง เช่น พิพิธภัณฑ์ Museum of Modern Ceramic Art, Gifu และ ถนนโอริเบะสตรีท (Tajimi Honcho Oribe Street) ที่เต็มไปด้วยแกลลอรี่และคาเฟ่
ตอนนี้ก็มีการร่วมมือกันระหว่างนักปั้น โรงงานเครื่องปั้นดินเผา และบริษัทเอกชนเพื่อพัฒนาและเผยแพร่เครื่องกระเบื้องมิโนะยากิภายใต้ชื่อโครงการ Ceramic Valley
ครั้งหน้าถ้าได้มานาโกย่า อย่าลืมแวะมาเที่ยวเมืองแห่งเครื่องกระเบื้องที่ทาจิมิกันนะ
All pictures courtesy of Tajimi City
Sponsored by Tajimi City
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง