Start planning your trip
เที่ยวแดนเหนือ เยือนฮอกไกโดหน้าร้อน (Hokkaido)
พูดถึงฮอกไกโดหลายคนคงนึกถึงหิมะ ที่จริงฮอกไกโดก็เหมือนจังหวัดอื่นของญี่ปุ่นที่มีฤดูร้อนกับเค้าเหมือนกันนะ แถมฤดูร้อนของฮอกไกโดก็เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไม่แพ้ฤดูหนาวเลย มาดูกันว่ามีอะไรให้ทำบ้าง
ฮอกไกโด แดนเหนือของญี่ปุ่น
ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นชื่อจังหวัดและชื่อเกาะที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของประเทศญี่ปุ่น มีอากาศหนาวเย็นเป็นส่วนใหญ่ ในฤดูหนาวเมืองที่อยู่ทางเหนือสุดอาจจะมีอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ -23℃ เลยทีเดียว ส่วนในเมืองหลักอย่างซัปโปโร วันที่อากาศหนาวที่สุดก็จะประมาณ -10℃ เพราะมีหิมะตกเยอะ ฮอกไกโดจึงมีสกีรีสอร์ทมากมายหลายแห่ง
จากประเทศไทยก็มีเที่ยวบินตรงจากสนามบินดอนเมือง และสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังสนามบินชินชิโตเสะ (New Chitose Airport) จากนั้นก็ต่อรถไฟประมาณ 40 นาที หรือนั่งรถบัสประมาณ 70 นาทีเข้าไปยังตัวเมืองซัปโปโรได้อย่างสะดวกสบาย ถ้าเป็นการเดินทางจากภายในประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีสายการบินภายในประเทศทั้งแบบฟูลเซอร์วิสและแบบโลว์คอสต์ หรือจะนั่งรถไฟชินคันเซ็นสาย Hokkaido Shinkansen ตรงจากโตเกียวไปเมืองฮาโกดาเตะได้ในเวลา 4 ชั่วโมง
หน้าร้อน ของฮอกไกโด
ถึงจะมีหิมะตกหนักในฤดูหนาว แต่ที่ฮอกไกโดก็มีฤดูร้อนเหมือนกันนะ ฤดูร้อนคือช่วงเดือนมิถุนายน - สิงหาคม ในเดือนสิงหาคมที่ว่ากันว่าร้อนที่สุด วันที่อุณหภูมิสูงที่สุดของเมืองซัปโปโรอยู่ที่ 29.3℃ และความชื้นในอากาศต่ำ ขณะที่โตเกียวจะพุ่งขึ้นไปที่ 34.9℃ อยากให้หน้าร้อนเมืองไทยเป็นอย่างฮอกไกโดบ้างจัง เพราะอากาศที่กำลังสบายๆ อย่างนี้ ทำให้หลายคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงหน้าร้อน เลือกมาฮอกไกโดมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ของญี่ปุ่น
อุณหภูมิต่ำสุด | อุณหภูมิสูงสุด | |
มิถุนายน | 12.1 ℃ | 20.7 ℃ |
กรกฎาคม | 19.3 ℃ | 27.7 ℃ |
สิงหาคม | 18.5 ℃ | 25.8 ℃ |
ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิของซัปโปโร อ้างอิงข้อมูลของปี 2017
การแต่งกาย
ด้วยอุณหภูมิสบายๆ เราสามารถใส่ชุดเหมือนตอนอยู่เมืองไทยกันได้เลย อาจมีร้อนบ้างในตอนกลางวัน ก็แนะนำให้พกอุปกรณ์กันแดด อย่างหมวก แว่นตากันแดด ทาครีมกันแแดดเอาไว้ด้วย ส่วนตอนกลางคืน อุณหภูมิจะลดลงไปอยู่ที่ประมาณ 20℃ ก็แนะนำให้พกเสื้อแขนยาวติดตัวไว้ด้วยดีกว่า
ลองดูข้อมูลเรื่องสภาพอากาศและการแต่งกายตลอดปีของฮอกไกโดได้ที่บทความ รู้ไว้ก่อนไปฮอกไกโด (Hokkaido) สภาพอากาศและเสื้อผ้าที่เหมาะกับการเที่ยว
ของกินประจำฤดู
ฮอกไกโดขึ้นชื่อเรื่องอาหารทะเลสดๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะปู ปูขน แต่พวกนั้นเรียกว่าหาทานได้ตลอดปี แต่ถ้าพูดถึงของกินประจำฤดูร้อนก็ต้องเมล่อนกับหอยเม่นเลย ทั้งคู่จะเริ่มฤดูประมาณเดือนกรกฎาคม แต่เมล่อนจะหมดฤดูประมาณเดือนกันยายน ส่วนหอยเม่นจะมีถึงประมาณเดือนตุลาคม เมล่อนพันธุ์ดังๆ ก็ต้องยูบาริ เนื้อสีส้ม หวาน หอมมากๆ
บางคนบอกว่าทานหอยเม่นแถวโตเกียว ยังไงก็ไม่อร่อยเท่าของฮอกไกโดเลย
ถัดไปมาแยกดูตามโซนใหญ่ๆ กัน
ซัปโปโร (Sapporo)
ซัปโปโร (Sapporo) เมืองหลักของฮอกไกโด หลายคนเลือกจะมาซัปโปโรในช่วงฤดูหนาวเพื่อจะได้เห็นวิวเมืองที่ขาวโพลนไปด้วยหิมะ โดยเฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่มีการจัดงานเทศกาลหิมะเมืองซัปโปโร (Sapporo Snow Festival) ครั้งนี้เราเลยขอแนะนำสถานที่หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำได้ในหน้าร้อนแทนครับ
เบียร์การ์เด้นกลางสวนโอโดริ
เบียร์การ์เด้นเป็นของคู่กับหน้าร้อนญี่ปุ่น โดยเฉพาะฮอกไกโดที่มีโรงงานของเบียร์เจ้าดังอย่าง SAPPORO อยู่ด้วย พอเข้าฤดูร้อน สวนโอโดริ (Odori Park) ที่มีสัญลักษณ์ของเมืองซัปโปโรอย่าง ซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) ก็จะกลายเป็นลานเบียร์ขนาดใหญ่ สามารถไปซื้ออาหารมานั่งทานพร้อมเบียร์เย็นชื่นใจกันได้เลย และในช่วงเวลาจัดงานลานเบียร์ ก็จะมีการจัดงานรำวง ฮอกไกบงโอโดริ (Hokkai Bon Odori) งานรำวงประจำฤดูร้อนของญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย
กำหนดการจัดงานเบียร์การ์เด้นจะอยู่ประมาณช่วงกลางกรกฎาคม - กลางเดือนสิงหาคม ส่วนงานรำวงจะประมาณช่วงสัปดาห์สุดท้ายของงานเบียร์การ์เด้น สามารถดูรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์ทางการครับ
กระโดดโรยตัวจากซัปโปโรทีวีทาวเวอร์
กิจกรรมพิเศษเฉพาะหน้าร้อน กระโดดโรยตัวควิกจัมพ์ จากดาดฟ้าชั้น 4 ของซัปโปโรทีวีทาวเวอร์ (Sapporo TV Tower) ที่ความสูง 27 เมตร
กิจกรรมนี้จัดระหว่างวันที่ 9 มิ.ย. - 8 ต.ค. 2018 เวลา 11:00 - 18:00 (หยุดตรวจสอบอุปกรณ์เวลา 14:00 - 15:00 ของทุกวัน) ปิดในกรณีที่ฝนตกหรือสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ราคาผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็กไม่เกินประถม 1,000 เยน ถ้าซื้อเป็นคู่พร้อมตั๋วขึ้นชมซัปโปโรทีวีทาวเวอร์จะมีส่วนลดด้วย ลองไปดูรูปกับวีดิโอตัวอย่างของกิจกรรมได้ที่เว็บไซต์ทางการครับ
จุดชมวิวเมืองซัปโปโร
เขาโมอิวะ (Mt. Moiwa) เขากลางเมืองซัปโปโรเดินทางสะดวก มีกระเช้าลอยฟ้าและเคเบิลคาร์ให้นั่งขึ้นไปถึงยอดเขา ถ้าในฤดูร้อนก็มีเส้นทางเดินเขาให้เลือกถึง 5 เส้นทาง จากด้านบนสามารถมองเห็นวิวของเมืองซัปโปโรทั้งเมืองไกลไปจนถึงอ่าวอิชิคาริทางเหนือเลย หรือจะเลือกมาชมแสงสีของเมืองซัปโปโรในยามค่ำคืนก็ได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ทุ่งลาเวนเดอร์โฮโรมิโตเกะ (Horomitoge Lavender Garden) ลาเวนเดอร์กว่า 5,000 ต้นบนภูเขาในเมืองซัปโปโร เหมาะมากสำหรับคนที่ไม่อยากเดินทางออกไปดูลาเวนเดอร์ถึงเมืองอื่น แถมยังสามารถชมวิวเมืองซัปโปโรไปได้พร้อมๆ กันด้วย ช่วงเวลาบานเต็มที่จะประมาณเดือนกรกฎาคมครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ของกินอร่อยๆ
หลายคนบอกว่ามาแล้วต้องลองทานซุปคาเร่ (Soup Curry) ซุปคาเร่คือซุปแกงกะหรี่แบบใส จะไม่ข้นเหมือนเวลาที่เราทานข้าวราดแกงกะหรี่ มาพร้อมเครื่องเป็นผักและอื่นๆ ตามที่เราเลือก ทานพร้อมข้าวสวยแยกมาต่างหาก เป็นอาหารที่มีถิ่นกำเนิดที่ซัปโปโรเลยนะ
หรือใครที่ชอบราเม็ง ในซัปโปโรก็มีร้านราเม็งอร่อยๆ มากมาย ถ้าไม่รู้จะไปทานที่ไหนก่อนอื่นพอมาถึงสนามบินชินชิโตเสะแล้วก็ลองไปที่ Hokkaido Noodle Hall ที่ชั้น 3 ดูก่อนได้เลย ที่นี่มีร้านราเม็งจากทั่วฮอกไกโดมาให้เลือกร่วม 10 ร้าน หรือถ้าไปในตัวเมืองก็ต้องที่ ตรอกราเม็งซัปโปโร (Ganso Sapporo Ramen Yokocho) มีร้านราเม็งถึง 17 ร้าน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ที่เที่ยวน่าสนใจอื่นๆ ในซัปโปโร
สำหรับคนที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตยามเช้าของคนท้องถิ่น แนะนำให้ไปตลาดเลยครับ ถ้าในตัวเมืองซัปโปโรก็มีที่ตลาดนิโจ (Nijo Market) มีทั้งอาหารทะเลสดๆ ขาย ร้านอาหารก็มีเยอะ มาถึงฮอกไกโดก็ต้องลองไคเซ็นด้ง ข้าวหน้าอาหารทะเลสดๆ กันหน่อย หรือถ้าออกจากตัวเมืองไปนิดหน่อยก็ตลาดซัปโปโรโจไก (Sapporo Jogai Market)
สถานที่เที่ยวอื่นๆ ก็เช่น ชิโรอิ โคอิบิโตะ พาร์ค (Shiroi Koibito Park) สวนสนุกและโรงงานของขนมคุกกี้ชื่อดัง เดินดูกระบวนการผลิตคุกกี้เสร็จแล้วก็แวะไปทานขนมหวานอร่อยๆ ในร้านคาเฟ่ด้านในต่อได้เลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
โอตารุ (Otaru)
โอตารุ (Otaru) เมืองท่าริมทะเล นั่งรถไฟจากซัปโปโรไปใช้เวลาแค่ 30 นาทีเท่านั้น เดิมเป็นเมืองท่าสำหรับค้าขายกับต่างประเทศ จึงยังมีอาคารโกดังเก่าสไตล์ตะวันตกหลงเหลืออยู่ และยังคงใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้ บริเวณริมโกดังคือคลองโอตารุที่ทอดยาวพร้อมทางเดินริมน้ำ ตอนกลางวันก็สวย ตอนกลางคืนเมื่อเปิดไฟส่องโกดังแล้วยิ่งบรรยากาศดี โรแมนติกมาก มาเดินตอนหน้าหนาวเราอาจจะปากสั่นได้ แต่ถ้ามาหน้าร้อน ตอนกลางคืนอากาศเย็นกำลังดี เดินกันได้สบายๆ เลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ฮาโกดาเตะ (Hakodate)
ฮาโกดาเตะ (Hakodate) อีกเมืองยอดนิยมที่ห้ามพลาดถ้าไปฮอกไกโด โดยเฉพาะวิวของเมืองยามกลางคืนที่ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 3 วิวกลางคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น
ตอนเช้าๆ ก็ไปเดินตลาดเช้าฮาโกดาเตะ (Hakodate Morning Market) หาของสดๆ อร่อยๆ ทานกัน
จากแหลมทาจิมาจิ (Tachimachi Cape) ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกสุดของเมืองฮาโกดาเตะนี้ ในวันที่ฟ้าเปิดจะสามารถมองออกไปเห็นเกาะฮอนชูที่อยู่ห่างออกไป 30 กิโลเมตรได้ด้วยนะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
อาซาฮิคาวะ (Asahikawa) ฟุราโนะ (Furano) บิเอ (Biei)
3 เมืองนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองซัปโปโร ทั้ง 3 ที่ก็มีสถานที่เที่ยวเด่นๆ ของตัวเอง
สถานที่เที่ยวเด่นๆ ในอาซาฮิคาวะ (Asahikawa) ที่คนไทยคุ้นเคยก็คงเป็นสวนสัตว์อาซาฮิยามะ (Asahiyama Zoo) นอกจากสัตว์น้อยใหญ่ทั้งหลาย ยังมีสัตว์เมืองหนาวอย่างหมีขาว และเพนกวิน ทางสวนสัตว์จะมีป้ายบอกเวลาทานอาหารของสัตว์แต่ละชนิด ลองดูตารางเวลาแล้วก็เดินไปดูสัตว์ที่เราสนใจกันได้ นอกจากนี้ก็มีกิจกรรมพาเพนกวินเดินเล่น และกิจกรรมอื่นๆ ที่ทำให้เราได้เห็นเหล่าสัตว์อย่างใกล้ชิดด้วย
ถัดลงมาจากอาซาฮิคาวะก็คือเมือง บิเอ (Biei) ที่นี่โด่งดังเรื่องเนินเขาที่มองเห็นทุ่งหลากสี ที่เกิดจากการปลูกพืชผักต่างชนิดกัน
อีกที่คือสระน้ำสีฟ้า (Blue Pond) ดูที่ไทยกันแล้วก็ลองมาดูสระมรกตของญี่ปุ่นกันบ้าง
ถัดมาคือ ฟุราโนะ (Furano) ที่ตั้งของฟาร์มโทมิตะ (Farm Tomita) ฟาร์มดอกลาเวนเดอร์อันโด่งดัง ใครๆ ก็ต้องแวะไปชมความงามของทุ่งดอกไม้สีรุ้งและชิมซอฟต์ครีมลาเวนเดอร์หอมเย็นสดชื่น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ชิเรโตโกะ (Shiretoko)
ชิเรโตโกะ (Shiretoko) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของเกาะฮอกไกโด ชื่อชิเรโตโกะเป็นภาษาไอนุ (ชนเผ่าดั้งเดิมที่อาศัยบนเกาะฮอกไกโด) แปลว่า ดินแดนที่ยื่นออกไป เพราะมีลักษณะเป็นแหลมยื่นออกไปในทะเล มองออกไปก็เห็นแต่มหาสมุทรสุดสายตา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติ จากนั้นในปี 2005 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมรดกโลก เต็มไปด้วยสัตว์เล็กใหญ่ และเป็นที่อยู่อาศัยของหมีสีน้ำตาลด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
โนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu)
บริเวณ โนโบริเบ็ตสึ (Noboribetsu) มีชื่อเสียงเรื่องบ่อออนเซ็น ที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ หุบเขานรก จิโกคุดานิ (Jigokudani) เต็มไปด้วยบ่อน้ำร้อนกระจายไปทั่วหุบเขา และในบริเวณใกล้เคียงยังมีเทศกาลโอนิฮานาบิ ที่เหล่ายักษ์ยูกิจินจะถือดอกไม้ไฟที่พวยพุ่งออกมาจากกระบอก เดินไปตามทางเพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้ายให้หายไป เทศกาลนี้จะจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน - กรกฎาคม ช่วงกลางคืนทุกวันเกือบ 2 เดือนเลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ขนม - ของฝากยอดฮิต
ด้วยความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติและพื้นที่กว้างใหญ่ทำให้มีฟาร์มโคนมหลายแห่งบนฮอกไกโด ของฝากหลายๆ อย่างจากฮอกไกโดจึงมักเป็นขนมที่ใช้นมเป็นวัตถุดิบ ทั้งชีสเค้กชื่อดังของร้าน Le TAO นามะช็อกโกแลตของ ROYCE ที่ใช้ครีมสดฮอกไกโด หรือจะเป็นบิสกิตลูกเกดบัตเตอร์ครีมของร้าน มารุเซ ลองดูจากบทความแนะนำขนมของฝากจากฮอกไกโดได้เลย
เที่ยวฮอกไกโดหน้าร้อน
นอกจากในฤดูหนาวที่เมืองทั้งเมืองขาวโพลนไปด้วยหิมะ ฤดูร้อนของฮอกไกโดก็เต็มไปด้วยสีสันสดใสของดอกไม้นานาพันธุ์ และธรรมชาติอุดมสมบูรณ์อันกว้างใหญ่ที่หาได้ยากจากเมืองใหญ่อย่างโตเกียวและโอซาก้า แถมอากาศยังไม่ร้อนมากนักเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ ทำให้ฮอกไกโดเป็นหนึ่งในเมืองน่ามาเที่ยวหนีร้อนจริงๆ ถ้ากำลังวางแผนมาเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายน ก็ลองมาเที่ยวฮอกไกโดกันได้นะครับ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง