Start planning your trip
Papi Pain ร้านขนมปังน่ารักอย่างกับเรื่องแม่มดน้อยกิกิ ที่นาโกย่า (Nagoya)
Boulangerie Papi Pain ร้านขนมปังในเมืองนาโกย่า การตบแต่งสไตล์ยุโรปน่ารักๆ ที่เหมือนในเรื่อง "แม่มดน้อยกิกิ" ของสตูดิโอจิบลิ บทความนี้จะพาไปชิมขนมปังขายดีและฟังเรื่องราวลับๆ ตั้งแต่เปิดกิจการจากคุณคาซามะ เจ้าของร้านที่ไปร่ำเรียนการทำขนมปังถึงฝรั่งเศส
Boulangerie Papi Pain (บูลองเชอรี ปาปิ ปัง) ในเมืองนาโกย่า เป็นร้านขนมปังน่ารักสไตล์ยุโรปที่ดูราวกับหลุดออกมาจากภาพยนตร์ของจิบลิเรื่อง "แม่มดน้อยกิกิ" ยังไงยังงั้น
ไม่เพียงแต่ความน่ารักของการตบแต่งร้านเท่านั้น ความพิถีพิถันที่เจ้าของมีต่อขนมปังคืออีกหนึ่งเคล็ดลับของความยอดนิยม ทันทีที่เปิดร้านก็มีคนเดินเข้าออกไม่ขาด ขนมปังบางชนิดขายหมดตั้งแต่ช่วงเช้าเลย ลองเข้าไปดูเสน่ห์ของร้าน Papi Pain ใกล้ๆ กันค่ะ
Papi Pain ร้านที่อยากจะแวะไปทุกครั้ง
Papi Pain ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีอุเอดะ (Ueda) ของรถไฟใต้ดินเมืองนาโกย่า ภายนอกของร้านดูเรียบง่ายแต่แฝงความน่ารักที่ทำให้ต้องหยุดดู เมื่อเปิดประตูสีเขียวน่ารักเข้าไป ก็มีกลิ่นหอมของขนมปังลอยมาแตะจมูกในทันที
เมื่อลองเดินเข้าไปในร้าน การตบแต่งทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ก้าวเข้ามาสู่โลกของ "แม่มดน้อยกิกิ"
คนที่ยืนอยู่ด้านหลังตู้ไม้ที่เรียงรายไปด้วยขนมปังน่าทานนั้นไม่ใช่กิกิ (ตัวละครเอกจากเรื่อง "แม่มดน้อยกิกิ") แต่เป็นพนักงานร้านที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
ร้านขนมปังในญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะให้ลูกค้าเลือกหยิบขนมปังด้วยตัวเอง แต่ที่นี่กลับเรียงขนมปังในตู้ไม้ อยากทานอันไหนพนักงานจะเป็นคนหยิบให้ พร้อมกับอธิบายวิธีการทานให้อร่อยด้วยล่ะ
ไม่ว่าจะครัวซองต์ ขนมปังครีม หรือขนมปังฝรั่งเศส ก็มีป้ายชื่อพร้อมคำอธิบายเขียนไว้ให้ทุกชนิด
เอาล่ะ ถึงเวลาไปฟังเรื่องราวของร้านกับขนมปังกันแล้ว!
วันที่ไปนี้คุณคาซามะ เจ้าของร้านให้สัมภาษณ์พลางนวดแป้งขนมปังไปด้วย ถึงแม้จะทำขนมปังไปด้วยแต่ก็ไม่ลืมให้คำแนะนำแก่ลูกน้องในร้าน
ท่ามกลางบรรยากาศการทำงานที่ดูค่อนข้างยุ่งแต่ก็สัมผัสได้ถึงความสนุก คุณคาซามะเล่าถึงความสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับขนมปังให้ฟัง
ลาออกจากงาน เพราะรู้สึกว่า "อยากทำอะไรสักอย่างด้วยมือของตัวเอง"
ก่อนที่จะเริ่มธุรกิจร้านขนมปัง คุณคาซามะเป็นพนักงานบริษัทในโตเกียวที่สวมสูทไปทำงานทุกวัน หลังจากที่ทำงานมาหลายปีก็เริ่มรู้สึกว่า "อยากทำงานที่ใช้มือตัวเองสร้างสรรค์อะไรสักอย่างขึ้นมา" จึงได้ตัดสินใจลาออก
หลังจากนั้นก็พาภรรยาและลูกไปเรียนทำขนมปังที่ฝรั่งเศสด้วยกัน
คุณคาซามะเรียนภาษาฝรั่งเศสและการทำขนมปัง เพื่อสอบใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นระหว่างที่อาศัยอยู่ในฝรั่งเศส 2 ปี
เขาเล่าว่าเขาให้ความสำคัญกับเวลาแก่คนในครอบครัว และการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ ชาวฝรั่งเศสด้วย เขาได้เรียนรู้วัฒนธรรมอาหารท้องถิ่นจากชาวฝรั่งเศสมากมาย
เปิดร้านของตัวเอง ... แต่ขนมปังฝรั่งเศสขายไม่ออก
"วันแรกที่เริ่มกิจการ ขนมปังฝรั่งเศสขายไม่ออกเท่าไรเลยครับ"
คุณคาซามะเดินทางกลับมาประเทศญี่ปุ่นเมื่อ 15 ปีที่แล้วและเปิดร้านตามที่ตั้งใจ แต่ทว่าญี่ปุ่นในสมัยนั้นมักนิยมทานขนมปังปิ้งเนื้อนิ่มๆ ไม่มีใครซื้อขนมปังฝรั่งเศสแข็งๆ (บาแก็ต) เลย
ขนมปังฝรั่งเศสยังไม่ได้แพร่หลายอย่างกว้างขวางมากเท่าไรในสมัยนั้น
เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงจากสถานการณ์เช่นนี้ คุณคาซามะไม่เพียงแต่ขายขนมปังเท่านั้น แต่ยังเริ่มอธิบายวิธีการทานขนมปังให้อร่อยกับลูกค้าอีกด้วย
เช่น การทานขนมปังฝรั่งเศสแข็งๆ แบบนี้ ให้หั่นแล้วทาแยม หรือนำไปทานด้วยกันกับผักต้ม หรือนำไปจิ้มกับซุปก็อร่อย
นอกจากนั้นทางร้านยังเริ่มจำหน่ายขนมปังฝรั่งเศสที่หั่นแล้วเพื่อให้ทานง่าย เริ่มมีเสียงชื่นชมว่าพอเอาผักมาโปะบนขนมปังฝรั่งเศสนี้แล้วทานจะอร่อยมาก จนกลายเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้านไปเลย
3 ขนมปังยอดฮิตของ Papi Pain
Campagne Common Fig หรือขนมปังฝรั่งเศสผสมมะเดื่อนี้ ด้านนอกกรอบแต่ด้านในมีเนื้อแน่น รสหวานอมเปรี้ยวของมะเดื่อออร์แกนิคจากตุรกี ไม่ควรพลาดค่ะ
เราได้ลองขนมปังฝรั่งเศสยอดฮิตของร้านด้วยค่ะ โรยหน้าด้วยมะกอก มะเขือเทศ และผักโขม รสชาติเปรี้ยวนิดๆ อย่างมีเอกลักษณ์ เหมาะจะทานเป็นมื้อเช้ามาก
ครัวซองต์ก็แนะนำเช่นกันค่ะ ทันทีที่กัดไปจะรู้สึกได้ถึงเนื้อแป้งบางเบานับชั้นไม่ถ้วนพร้อมเสียงยืนยันความกรอบ ตามมาด้วยความหอมอร่อย
ที่มาของชื่อร้านน่ารักๆ "หนังสือภาพในฝรั่งเศส"
ชื่อร้าน Papi Pain ที่ฟังคล้ายเรากับบทคาถานี้ มีที่มาจากหนังสือภาพในฝรั่งเศสค่ะ ก่อนที่คุณคาซามะจะกลับญี่ปุ่น ได้เจอกับหนังสือภาพที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับ "คุณลุงนักวาดภาพผู้มาเปิดร้านขายขนมปัง" โดยบังเอิญ
เขาเองก็คิดว่า "อยากทำร้านขนมปังอันเป็นที่รักของผู้คนในท้องถิ่นแบบเดียวกับคุณลุง" จึงตั้งชื่อร้านโดยผสมระหว่างคำว่า "PAPI (ภาษาฝรั่งเศส หมายถึง "คุณลุง") กับ "Pain (ขนมปัง)" ทั้งภายนอกและการตกแต่งภายในของร้านก็ใช้สิ่งของที่มีสไตล์แบบยุโรปทั้งสิ้น
"อยากให้มีร้านขนมปังแฮนด์เมดเพิ่มขึ้น"
แม้ร้าน Papi Pain จะมีผู้คนมาเยือนเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่ในใจคุณคาซามะ นอกจากจะทำขนมปังแล้ว ยังมีอีกอย่างหนึ่งที่อยากทำ นั่นก็คือ "ฝึกฝนลูกศิษย์ และเพิ่มจำนวนร้านขนมปังแฮนด์เมด"
ในประเทศญี่ปุ่นมีร้านขนมปังแบบแฟรนไชส์เปิดใหม่ตลอดเวลา แต่ร้านขนมปังแฮนด์เมดที่เจ้าของทำเองกลับลดน้อยลง ดังนั้นคุณคาซามะจึงอยากหาลูกศิษย์จากจังหวัดต่างๆ ทั่วญี่ปุ่น และสนับสนุนให้พวกเขาได้มีร้านเป็นของตัวเอง
สุดท้ายนี้
ด้วยหน้าตาน่าทานและกลิ่นหอมยั่วยวนชวนให้ซื้อ หลังจากสัมภาษณ์เรียบร้อยเราก็กลับโดยไม่ลืมซื้อขนมปังติดมือมาด้วย ตอนทานขนมปังที่บ้านก็มีภาพรอยยิ้มอันแสนใจดีของคุณคาซามะและพนักงานคนอื่นๆ แวบขึ้นมาในทันที
ที่ร้าน Papi Pain สิ่งที่เราจะได้เจอไม่ใช่แค่ความน่ารักของร้าน หรือความอร่อยของขนมปังเท่านั้น แต่ยังมีบรรยากาศแสนอบอุ่นพร้อมพนักงานใจดีอีกด้วย ถ้าไปนาโกย่าอย่าลืมแวะไปร้าน Papi Pain กันนะคะ
บัญชีนี้ได้รับการจัดการโดย MATCHA เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง