Start planning your trip
ตะลุยทะเลน้ำแข็งที่อาบาชิริ ฮอกไกโด (Abashiri, Hokkaido)
อาบาชิริ ในฮอกไกโด เมืองที่หันหน้าออกสู่ทะเลโอค็อตสค์ เมื่อย่างเข้าฤดูหนาวจะมีแผ่นน้ำแข็งที่ไหลสุดตระการตาจากไซบีเรียลอยมาให้ชมถึงชายฝั่ง ไปท้าความหนาวชมวิวสวยๆ และที่เที่ยวน่าสนใจในเมืองอาบาชิริกันค่ะ
อาบาชิริ กับที่เที่ยวสไตล์เมืองหิมะแดนเหนือ
ทางตอนเหนือของฮอกไกโดฝั่งทิศตะวันออก มีพื้นที่หนึ่งที่มีเมืองอาบาชิริ (Abashiri) เป็นจุดศูนย์กลาง (จากนี้จะเรียกรวมพื้นที่แถบนี้ว่าอาบาชิริ) เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว จะมีธารน้ำแข็งไหลจากไซบีเรียมาเยือนแถบนี้เป็นประจำทุกปี
นอกจากนั้นยังมีภูเขาเท็นโตะ (Mount Tento) ที่ได้รับเลือกเป็นหนึ่งในสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามของชาติ เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Prison) ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นเรือนจำที่นักโทษทำงานหนักที่สุดในญี่ปุ่น และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหารทะเลสดๆ ทั้งปู ปลาแซลมอน หอยเชลล์ พืชผักอร่อยๆ อย่างมันฝรั่งและหัวหอม
แค่ไปตามร้านอาหารท้องถิ่นและร้านซูชิก็สามารถลิ้มลองปลาสดๆ และผักอร่อยๆ ได้แล้วค่ะ
ในบทความนี้จะขอแนะนำ 5 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำในอาบาชิริค่ะ
1. เที่ยวชมน้ำแข็งบนทะเลโอค็อตสค์ด้วยเรือออโรร่า
Photos courtesy of Doto Kanko Kaihatsu Corp.
เมืองอาบาชิริหันหน้าออกไปทางทะเลโอค็อตสค์ (Okhotsk) ในฤดูหนาวของทุกๆ ปีจะมีแผ่นน้ำแข็งจากทะเลขั้วโลกเหนือที่อยู่แสนไกลลอยมาถึงชายฝั่งของเมืองเลย จุดท่องเที่ยวแรกที่อยากแนะนำก็คือล่องเรือตัดน้ำแข็งชมวิวนั่นเองค่ะ เราสามารถนั่งเรือออกไปชมวิวสวยๆ ท่ามกลางแผ่นน้ำแข็งได้ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมจนถึงปลายเดือนมีนาคม
จากด้านบนเรือ ถ้าโชคดี เราก็อาจจะได้เห็นแมวน้ำนอนเล่นอยู่บนน้ำแข็ง และนกอินทรีทะเลชเตลเลอร์ที่ใกล้จะสูญพันธุ์อีกด้วยค่ะ
Photos courtesy of: Doto Kanko Kaihatsu Corp.
บนเรือจะแบ่งเป็นชั้น 1 ชั้น 2 และดาดฟ้าชมวิว ห้องน้ำก็มีพร้อมค่ะ แล้วยังมีร้านขายของและเลาจน์กาแฟให้บริการเครื่องดื่มอุ่นๆ ด้วย เพียงแต่สภาพอากาศบริเวณระเบียงชมวิวจะหนาวมาก ขอแนะนำให้ป้องกันความหนาวให้ดีด้วยการสวมถุงมือและพันผ้าพันคอค่ะ
ที่สำคัญคือเรือตัดน้ำแข็งชมวิวนี้ลำใหญ่เลยไม่โคลงเคลงเท่าไหร่ค่ะ ช่วงเวลาทำการของเรือออโรร่า จะเริ่มในช่วงกลางเดือนมกราคมถึงราวต้นเดือนเมษายน การขึ้นเรือจำเป็นต้องจองก่อนล่วงหน้า ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการค่ะ
การเดินทางไปท่าขึ้นเรือออโรร่า
จากสถานี JR อาบาชิริ (Abashiri) นั่งรถบัสอาบาชิริ City Sightseeing Tour ใช้เวลา 8 นาที ไปลงรถที่ป้าย Michi No Eki - Ryuhyo Saihyo-sen Noriba (Aurora Boarding Place) ค่าโดยสาร 200 เยน
ค่าโดยสารขึ้นเรือ ผู้ใหญ่ 3,300 เยน เด็กประถม 1,650 เยน (ราคารวมภาษี)
2. สัมผัสโลก -15 องศาที่พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก (Okhotsk Ryuhyo Museum)
พิพิธภัณฑ์น้ำแข็งขั้วโลก (Okhotsk Ryuhyo Museum) เป็นพิพิธภัณฑ์ท่องเที่ยวในธีมธารน้ำแข็งที่อยู่บนยอดเขาเท็นโตะ หนึ่งในสถานที่ชมทัศนียภาพอันงดงามของชาติอย่างที่บอกไป นอกจากนิทรรศการน่าสนใจต่างๆ แล้วอีกอย่างที่เด่นมากคือทิวทัศน์แบบพาโนราม่า 360 องศาของภูเขาและทะเลสาบที่สวยงามของอาบาชิริ และวิวของทะเลโอค็อตสค์จากจุดชมวิวค่ะ
นิทรรศการหลักคือนิทรรศการเกี่ยวกับธารน้ำแข็งและสิ่งมีชีวิตในทะเลตรงชั้นใต้ดิน มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบนิทรรศการไปในปี 2015 เพิ่มภาพเคลื่อนไหวและวิดีโอเข้ามามากขึ้นเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายแม้จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่น
Ryuhyo Genso Theatre ฉายวิดีโอแสดงภาพธรรมชาติของทะเลโอค็อตสค์ผ่านจอภาพ 5 จอโดยไม่มีการใส่เสียงพากย์หรือดนตรีประกอบแทรก เพื่อให้ทุกคนได้สัมผัสกับทะเลภาพและเสียงแบบธรรมชาติเหมือนได้ไปอยู่ในสถานที่จริงเองเลย
หนาวจนผ้าขนหนูแข็งในพริบตา!?
มาสัมผัสกับความหนาวระดับติดลบ 15 องศาได้ที่ Ryuhyo Experience Terrace ในห้องมีก้อนน้ำแข็งขนาด 100 ตันที่นำมาจากในทะเลโอค็อตสค์จริงๆ ให้เราได้ลองสัมผัสด้วย
โอกาสที่จะได้สัมผัสกับก้อนน้ำแข็งใหญ่ขนาดนี้ไม่ได้มีง่ายๆ เลยนะคะ
อีกอย่างที่ทำให้โซนนี้ได้รับความนิยมมากเพราะกิจกรรมชิบาเระค่ะ คำว่า "ชิบาเระ" ในสำเนียงฮอกไกโดหมายถึง "กลายเป็นน้ำแข็ง" ค่ะ
ก่อนที่จะเข้าไปในห้องเจ้าหน้าที่จะแจกผ้าขนหนูเปียกๆ ให้คนละผืน เราก็เอาผ้าไปเหวี่ยงในห้องที่มีอุณหภูมิ -15 องศาประมาณ 20 ครั้ง เพียงไม่นานผ้าขนหนูก็แข็งป๊อกเลยค่ะ พอเห็นภาพเลยใช่ไหมคะว่าอากาศ -15 องศาหนาวขนาดไหน
สำหรับคนที่สวมเสื้อผ้าบางๆ มาก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะที่นี่มีแจ็คเก็ตหนาๆ ให้ยืม ลองสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้เลยนะคะ
ไปดูคลีโอเน่ (Clione) นางฟ้าแห่งท้องทะเล
ในโซนสิ่งมีชีวิตในโอค็อตสค์ เราจะได้เห็นสิ่งมีชีวิตต่างๆ ที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบฮอกไกโดซึ่งไม่ค่อยพบเห็นได้ทั่วไป เช่น นางฟ้าทะเลคลีโอเน่
ภายนอกที่แลดูน่ารักกลับมีอีกด้านที่น่ากลัว เพราะเวลาคลีโอเน่จับเหยื่อ ส่วนหัวของคลีโอเน่จะแยกออกกลายเป็นหนวดแล้วจับเหยื่ออย่างว่องไวแถมจับแล้วไม่ปล่อยอีกต่างหาก
ซอฟท์ครีมธารน้ำแข็ง รสชาติหวานและเค็มที่แสนลงตัว
ซอฟท์ครีมธารน้ำแข็ง (ราคารวมภาษี 300 เยน) ซอฟท์ครีมรสคาราเมลหวานหอมโรยหน้าด้วยเกลือสีฟ้าโดยมีธารน้ำแข็งเป็นแรงบันดาลใจ ตอนแรกที่กัดไปจะได้รสหวานหอม หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยรสเค็ม เป็นรสชาติที่อธิบายได้ยากแต่พอได้ลองแล้วติดใจแน่นอนค่ะ
ซอฟท์ครีมนี้ทำขึ้นโดยได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากคนญี่ปุ่นคนแรกที่ชนะเลิศการแข่งขันเจลาโต้ในอิตาลีมาแล้ว เรียกได้ว่ามีรางวัลการันตีความอร่อยเลยค่ะ ไม่แปลกที่จะเห็นทุกคนเดินถือซอฟท์ครีมกันเต็ม
ซื้อได้ที่ร้าน Café De Clione ที่ชั้น 1 ค่ะ
3. ต้นไม้ทั้ง 7 แห่งเนินเทพนิยาย
เนินเมลเฮน (Marchen Hill) เป็นจุดถ่ายรูปยอดฮิตอยู่ระหว่างทางมุ่งหน้าเข้าเมืองอาบาชิริจากสนามบินเมะมัมเบ็ตสึ (Memanbetsu Airport) ต้นสนคาระมัตสึ 7 ต้นที่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเตี้ยๆ โดยมีพื้นหิมะขาวเบื้องหน้า และท้องฟ้ากว้างใหญ่เป็นฉากหลัง
ขอแนะนำให้มาช่วงพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกค่ะ ท้องฟ้าจะสวยงามมากๆ
วิธีการเดินทางไปยังเนินเมลเฮน
จากสนามบินเมะมัมเบ็ตสึ (Memanbetsu Airport) นั่งรถบัสอาบาชิริ คันที่วิ่งไป Abashiri Bus Terminal ประมาณ 10 นาที ลงรถที่ป้าย Showa Dai 2 ก็จะถึงเลย ค่าโดยสาร 330 เยน
4. สถานีคิตะฮามะ สถานีรถไฟที่ใกล้กับทะเลโอค็อตสค์ที่สุด
ที่นี่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์จีนเรื่อง If you are the one ที่นำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังอย่างซูฉี และเป็นสถานีที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันเยอะมากเพราะเมื่อมองจากชานชาลาของสถานีออกไป เบื้องหน้าก็คือทะเลโอค็อตสค์อันกว้างใหญ่ ถือเป็นสถานีที่มีวิวสวยๆ ให้ดูตรงหน้าเลย ข้างสถานีมีจุดชมวิวด้วย
ถ้าไปในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนมีนาคมที่เป็นช่วงพีคของธารน้ำแข็ง ก็อาจจะได้เห็นน้ำแข็งไหลมาใกล้ๆ ในระยะประชิดเลยค่ะ
ผนังในอาคารสถานีรถไฟเต็มไปด้วยนามบัตรและกระดาษโน้ตอย่างในรูปเลยค่ะ เยอะขนาดนี้เห็นแล้วก็ตะลึงค่ะ ถ้าได้มาเยือนก็อย่าลืมมาทิ้งข้อความเล็กๆ น้อยๆ ไว้บ้างนะคะ แล้วก็แวะไปนั่งพักจิบกาแฟทานของว่างที่ร้านกาแฟได้นะคะ
การเดินทางไปยังสถานีคิตะฮามะ
จากสถานี JR อาบาชิริ (Abashiri) นั่งรถไฟสายเซ็มโม (Senmo Main Line) ใช้เวลา 15 นาที ลงรถที่สถานีคิตะฮามะ (Kitahama) ค่าโดยสาร 260 เยนค่ะ
5. ชมพิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ เรือนจำที่น่าสะพรึงที่สุดในญี่ปุ่น
เรือนจำอาบาชิริ เป็นเรือนจำที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือสุดของญี่ปุ่น มีมาตั้งแต่สมัยเมจิ (ปี 1868 - 1912) ปัจจุบันเรือนจำถูกย้ายไปยังสถานที่ใหม่แล้ว ที่นี่จึงถูกเปลี่ยนมาเป็น พิพิธภัณฑ์เรือนจำอาบาชิริ (Abashiri Prison Musuem) โดยยังคงสภาพไว้เหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
โดยเฉพาะบริเวณอาคารห้องขังเก่าและหอสังเกตการณ์ถือว่าเป็นอาคารเรือนจำไม้ที่ใหญ่ที่สุดและเก่าที่สุดในโลกเลยค่ะ
นอกจากภาษาญี่ปุ่นแล้ว คำอธิบายต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ยังมีเขียนกำกับอีก 4 ภาษา ได้แก่ ภาษาอังกฤษ, ภาษาเกาหลี, ภาษาจีนตัวเต็ม และ ภาษาจีนตัวย่อ
ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในเรือนจำอาบาชิริ
ภายในหอประวัติศาสตร์เรือนจำมีโซนฉายภาพวิดีโอ Experience Theatre - Akai Shuto No Mori แสดงสภาพการทำงานสร้างถนนในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายที่เกิดขึ้นจริงกับผู้ต้องขังเมื่อ 100 กว่าปีก่อนหน้านี้
มีการจัดแสดงโซ่ตรวนและเสื้อผ้าที่นักโทษในสมัยนั้นเคยใช้จริงเอาไว้ด้วย ได้เห็นภาพเหล่านี้ก็ทำให้เข้าใจถึงชีวิตทั้งหลายที่ถูกบังคับให้ใช้แรงงานอย่างโหดร้าย
นอกจากนั้นยังมี "มกโกะ" อุปกรณ์ที่ทำจากเชือกและตาข่ายใช้สำหรับขนย้ายสิ่งของซึ่งผู้ต้องขังใช้ตอนทำงานก่อสร้างถนนมาจัดแสดงด้วย สามารถลองแบกได้ด้วยนะคะ
หุ่นขี้ผึ้งของผู้คุมเรือนจำและนักโทษตามจุดต่างๆ
ภายในอาคารมีหุ่นขี้ผึ้งตั้งไว้ทุกหนแห่ง ทำให้เราสัมผัสได้ถึงความสมจริงของวิถีชีวิตในสมัยนั้นเลย ตั้งแต่ทานอาหาร รับโทษติดคุก ไปจนถึงวิถีชีวิตของผู้คุมเรือนจำค่ะ
ถึงจะหนาวแต่คุ้มค่า ฝ่าความหนาวไปเที่ยวอาบาชิริกัน
การเดินทางมายังอาบาชิริ ใช้เวลานั่งเครื่องบิน 2 ชั่วโมงจากโตเกียวค่ะ จากซัปโปโร นั่งรถไฟต่ออีก 5 ชั่วโมงก็จะถึงที่หมาย เนื่องจากเป็นที่ที่หนาวจัด จึงควรเตรียมผ้าพันคอ ถุงมือ เสื้อโค้ทหนาๆ ไปให้พร้อมนะคะ
อาบาชิริ มีทิวทัศน์แบบพิเศษๆ ที่ชมได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น ลองหาโอกาสมาเยือนสักครั้งดูไหมคะ
อ่านเพิ่มเติม
เปรียบเทียบวิธีการเดินทางจากโตเกียวไปฮอคไกโดอย่างละเอียดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา
รู้ไว้ก่อนไปฮอกไกโด (Hokkaido) สภาพอากาศและเสื้อผ้าที่เหมาะกับการเที่ยว
8 ขนมของฝากห้ามพลาดจากฮอกไกโด -ตอนแรก-
8 ขนมของฝากห้ามพลาดจากฮอกไกโด -ตอนจบ-
In cooperation with Okhotsk Ryu-hyo Museum, Abashiri Prison
1995年北海道生まれ。銭湯と旅行、映画が好きです。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง