Start planning your trip
กูรูราเม็งขอบอก! แนะนำ 15 ราเม็งอร่อยขั้นเทพในอิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) พลาดแล้วจะเสียใจ!
แนะนำราเม็งอร่อยขั้นเทพในอิเคะบุคุโระ ย่านที่มีร้านราเม็งมากที่สุดในโตเกียว โดยกูรูราเม็งชาวญี่ปุ่นที่ทานราเม็งมาแล้วอย่างโชกโชนกว่า 5,000 ชาม ถ้าอยากลองทานสุดยอดราเม็งอร่อยเด็ดในอิเคะบุคุโระ ต้องอ่านบทความนี้ของ MATCHA ไม่มีพลาดแน่นอน!
อิเคะบุคุโระ (Ikebukuro)
แหล่งราเม็งอร่อยอันดับ 1 ของโตเกียว
อิเคะบุคุโระ (Ikebukuro) น่าจะเป็นย่านที่มีจำนวนร้านราเม็งมากที่สุดของโตเกียวเลยทีเดียว ร้านเยอะขนาดนี้ จะไปกินร้านไหนก็คงต้องมีงงกันบ้างแหละ
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ ผมนักกินราเม็งตัวยงที่ตระเวนชิมราเม็งมาแล้วทั่วโตเกียว ปีละกว่า 900 ชาม ชิมรวมๆ กันแล้วมากกว่า 5,000 ชาม จะขอมาแนะนำร้านที่ผมเลือกแล้วว่าเป็นร้านราเม็งที่อร่อยสุดในย่านอิเคะบุคุโระ
1. "Chuka Soba Shinagawa" ร้านราเม็ง "ธรรมดา" ที่ไม่ธรรมดา
ในบรรดาร้านราเม็งมากมายในย่านอิเคะบุคุโระ ร้านที่ผมชอบมากที่สุดก็คือร้าน "Chuka Soba Shinagawa (จูกะโซบะ ชินากาวะ)" เมนูที่อยากให้ลองก็ในรูปด้านบนนี่เลย "Chuka Soba (จูกะโซบะ)" ครับ (ในภาพเป็นชามพิเศษเพิ่มไข่และหมูชาชู ราคารวมภาษี 1,000 เยน)
ในร้านราเม็งอาจเห็นชื่อบางเมนูเขียนว่า "โซบะ" แต่จริงๆ แล้วก็หมายถึงเส้นราเม็ง
ชามนี้เอาจริงๆ แล้วก็คือโชยุราเม็งแบธรรมด๊าธรรมดานี่แหละครับ แต่ทั้งซุป เส้น และเครื่องนั้นจัดอยู่ในขั้นสุด ไม่คิดว่าราเม็งที่หากินได้ทั่วๆ ไปจะสามารถทำให้อร่อยได้ขนาดนี้ โดยเฉพาะเส้นทำเองนี่บอกเลยว่าเด็ด แถมเพิ่มเป็นชามกลางได้ฟรียิ่งดีเข้าไปใหญ่
ถึงจะแอบห่างจากสถานีอิเคะบุคุโระออกมาซักหน่อย แต่ก็ถือว่าสมควรค่าต่อการเดินมาลองชิม แถมเมนูกลางวันกับกลางคืนที่ไม่เหมือนกันก็เป็นจุดเด่น อย่างราเม็งในภาพนั้นเป็นราเม็งที่มีขายเฉพาะกลางวันเท่านั้น ใครจะมาลองก็อย่าลืมเรื่องเวลากันนะ
2. "Menya Hulu-lu" ราเม็งสุดอร่อยในบรรยากาศแบบฮาวาย
ร้านที่ไม่ว่าจะมองทั้งด้านนอกด้านในก็ดูไม่เหมือนร้านราเม็งเอาเสียเลย แต่กลับได้รับความนิยมสุดๆ ในย่านนี้กับร้าน Menya Hulu-lu (เม็นยะ ฮูลูลู) เมนูหลักของร้านคือ โชยุราเม็งโชยุและชิโอะราเม็ง (ราเม็งซุปรสเกลือ) โดยส่วนตัวแล้วผมชอบ "Shoyo Soba (โชยุ โซบะ)" (ราคารวมภาษี 790 เยน)
ซุปที่ต้มจากโครงไก่ให้รสชาติอ่อนโยนแต่ก็เข้มข้น เข้ากันได้ดีกับบะหมี่เส้นเล็กที่ทำเอง ที่ถึงขนาดต้องไปหอบน้ำมาจากฮาวายเพื่อมาทำเส้น หากได้ชิมสักคำจะเข้าใจแน่นอนว่าทำไมนอกร้านถึงมีคนยอมต่อคิวรอชิมราเม็งของร้านนี้ นอกจากราเม็งแล้ว จะจับคู่กับเมนูเครื่องเคียงอย่าง Spam Onigiri ก็คุ้ม ผมแนะนำอย่างสุดๆ เลยว่าชุดนี้ห้ามพลาด
ที่ร้าน Hulu-lu จะมีเมนูพิเศษประจำวัน - ประจำฤดู แถมมีแฟนๆ เยอะไม่เบา ตัวผมนั้นชอบราเม็งที่ขายวันศุกร์อย่าง Tsukemen (สึเคเม็ง) ถ้าถามว่าทำไม ก็เพราะว่าจะได้กินเส้นที่ทางร้านทำเองได้เต็มที่ไปเลยไง
3. "Menya Rockando" ราเม็งสีเขียวสุดตะลึง
ในบรรดาร้านราเม็งที่จะมาแนะนำในบทความนี้ ร้านMenya Rockando (เม็นยะ รกคันโด) ถือว่าเป็นร้านที่มีความเฉพาะตัวสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในครั้งนี้เลย ผมขอท้าให้ลอง "Shio Green (ชิโอะ กรีน)" (เพิ่มไข่และชาชู ราคารวมภาษี 1,200 เยน)
จุดเด่นก็คือความเขียวของเส้นที่ผสม Euglena ที่มีคุณค่าทางอาหารเป็นเลิศ ส่วนซุปนั้นก็เป็นซุปดาชิสไตล์ญี่ปุ่นไร้สารเติมแต่ง ทั้งซุปและเส้นต่างอ่อนโยนต่อร่างกาย ถือเป็นราเม็งที่แนะนำสำหรับสาวๆ หรือผู้ที่รักสุขภาพทั้งหลาย
ร้าน Menya Rockando จะชอบทำโปรโมชั่นราเม็งรสพิเศษออกมาบ่อยๆ ส่วนมากจะแยกเป็นโปรของวันธรรมดาและวันหยุด นี่ก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของร้าน ที่ไม่ว่าจะไปกี่ครั้งก็มีราเม็งใหม่ๆ ให้ได้กินไม่มีเบื่อ
4. "Tori no Ana" ราเม็งที่มีแต่ไก่ ไก่ และไก่
ในย่านอิเคะบุคุโระ ร้านราเม็งน้อยร้านที่จะขายซุปโทริไพตัน (*1) และหนึ่งในร้านส่วนน้อยนั้นก็คือร้าน Tori no Ana (โทริ โนะ อานะ) ทุกเมนูจะใช้ซุปโทริไพตันทั้งหมด ถ้าใครมาเป็นครั้งแรกก็ขอแนะนำเมนู "Shiro Tori Ramen (ชิโระ โทริ ราเม็ง)" (ราคารวมภาษี 740 เยน)
ซุปที่เคี่ยวมาจากโครงไก่ให้รสเข้มและมีความข้น แต่ไม่เหม็นคาว ไม่เลี่ยน กินง่ายมากๆ อย่างท็อปปิ้งที่ปกติจะเป็นหมูชาชู พอมาที่ร้านนี้ก็กลายเป็นเนื้อไก่แทน เป็นราเม็งสารพัดไก่จริงๆ ถึงจะไม่ได้มีความแปลกใหม่อะไรมากมาย แต่ก็ทำให้แนะนำร้านนี้ได้แบบสบายใจ
นอกเหนือจากราเม็งอร่อยๆ ในวันที่ฝนตกที่ร้านจะมีร่มให้ยืมอีกต่างหาก ใจดีจริงๆ แถมด้วยราเม็งรสพิเศษที่จะเปลี่ยนไปทุกๆ เดือนก็ห้ามพลาดครับ
*1 : โทริไพตัน (Toripaitan) ... ซุปที่ต้มจากโครงไก่ ซุปที่ได้จะเป็นสีขาวขุ่น ภายนอกอาจดูเหมือนซุปกระดูกหมู แต่กลิ่นจะเบากว่าและทานง่ายกว่า
5. "Mendokoro Hanada Ikebukuro"
มิโซะราเม็งสุดเข้มข้นที่กินแล้วต้องติดใจไปตามๆ กัน
มิโซะราเม็งรสเข้มข้นที่ไม่ว่าใครก็ต้องยกนิ้วให้ ร้านราเม็งคิวยาว Mendokoro Hanada Ikebukuro (เม็นโดโกโระ ฮานาดะ อิเคะบุคุโระ) ในบรรดาร้านราเม็งมากมายที่แข่งกันเรื่องราเม็งแปลกๆ เพื่อเอาชนะความเบื่อหน่าย ที่ร้านนี้กลับวัดด้วยราเม็งแค่ 2 ชนิดอย่างมิโซะราเม็ง และมิโซะราเม็งแบบเผ็ดเท่านั้น (ในรูปคือมิโซะราเม็งธรรมดา ราคารวมภาษี 830 เยน)
จุดเด่นก็คือซุปเข้มข้นที่จะเคลือบไปตามเส้นราเม็ง ยังไม่ทันจะกินเส้นหมดเลย ซุปก็เกือบจะหมดแล้ว คำแรกเมื่อเข้าปากก็คือความรุนแรงราวกับโดนอัพเปอร์คัทจากซุป ที่ทำมาเอาใจคอลูกค้าที่ชอบมิโซะราเม็ง ตามมาด้วยเส้นเหนียวหนึบเป็นหมัดฮุก เรียกได้ว่าไม่ยอมกันทั้งคู่
ปกติจะมีบริการเพิ่มผักและกระเทียมฟรีตลอดทั้งวัน ถ้ามาในช่วงกลางวันของวันธรรมดา ทางร้านยังมีบริการแถมข้าวสวยขนาดครึ่งถ้วยฟรีสำหรับผู้ที่สั่งราเม็งด้วย เหมาะกับคนที่อยากกินจนอิ่มโดยเฉพาะ ไม่แปลกที่ลูกค้าประจำมักจะเป็นผู้ชายซะมาก
6. "Vejipota Tsukemen Enji" เข้มข้นแต่ไม่เลี่ยน
ถ้าอยากกินสึเคเม็งเข้มข้นในย่านนี้ ไม่ต้องคิดมากตรงดิ่งมาร้านนี้ได้เลย "Vejipota Tsukemen Enji (เบจิโปตะ สึเคเม็ง เอ็นจิ)" ใครจะสั่งราเม็งก็โอเค แต่มาถึงที่แล้วก็ต้องสั่งสึเคเม็งตามชื่อร้านอย่าง "Vejipota Tsukemen (เบจิโปตะ สึเคเม็ง)" (*2) (ราคารวมภาษี 800 เยน)
จุดเด่นคือการเอาผักไปเคี่ยวในซุปทงคตสึเกียวไค (*3) จนได้ซุปที่ข้นหนืด แต่ไม่มัน ทำให้ไม่เลี่ยนเลย เส้นจะมีให้เลือก 2 แบบ แต่ผมแนะนำHaiga-iri men (เส้นผสมจมูกข้าว) ที่เต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหาร รสชาติของเส้นก็เข้ากันได้ดีกับซุปด้วย
แค่ชามธรรมดาของที่นี่ก็ถือว่าเยอะแล้วนะ แต่ทางร้านยังใจป้ำจัดเพิ่มขนาดเป็นชามใหญ่ได้ฟรีให้ด้วย เป็นอีก 1 ในร้านราเม็งแถบนี้ที่ใครอยากกินดุๆ ต้องมา
ปกติแล้วหน้าร้านก็มีคนเข้าคิวรออยู่ตลอด แต่เนื่องจากคิวค่อนข้างเดินเร็วทำให้รอไม่นานเลย
*2 : Vejipota ... ชื่อเต็มๆ คือ Vegetable Potage หรือซุปโปตาจผัก ซุปข้นผัก
*3 : ซุปทงคตสึเกียวไค ... การนำซุปเกียวไคที่ได้จากอาหารทะเลและปลาคัตสึโอะตากแห้ง ผสมลงไปในซุปทงคตสึเข้มข้นจากกระดูกหมู เป็นซุปปกติที่ใช้สำหรับเมนูสึเคเมงในญี่ปุ่น
7. "TOKYO UNDERGROUND RAMEN Ganja"
ราเม็งอร่อยๆ ที่หากินได้ง่ายๆ ในสถานี
ถ้าอยู่ในบริเวณสถานีและอยากกินราเม็ง สึเคเม็งอร่อยๆ ก็ต้องร้านนี้ "TOKYO UNDERGROUND RAMEN Ganja (กันจะ)"
ร้านนี้เดิมทีอยู่ที่จังหวัดไซตามะ ซึ่งที่นั่นขึ้นชื่อเรื่องสึเคเม็งรสเข้มข้นอยู่แล้ว แต่ที่ร้านสาขาอิเคะบุคุโระนี้ก็มีสึเคเม็งรสเบาๆ อย่างในรูป "Tsukemen Light (สึเคเม็ง ไลโตะ)" เตรียมไว้ให้ได้ลองเหมือนกัน
ซุปโครงไก่ใสๆ ผสมกับซุปโชยุให้รสที่กำลังพอดี ไม่ว่าใครก็ต้องถูกใจ กินคู่กับเส้นราเม็งทำเองแบบเส้นใหญ่ ต้องขอบอกว่าอร่อย! เป็นคู่ที่ลงตัวมากเพราะซุปก็ช่วยขับความอร่อยของเส้น ทานได้เรื่อยๆ จนหมดชาม
นอกจากเดินทางง่ายเพราะตั้งอยู่ในสถานีแล้ว ที่ร้านยังรองรับรถเข็นเด็กและวีลแชร์อีกด้วย เพราะฉะนั้นถือเป็นร้านที่เหมาะมากสำหรับครอบครัวที่ไม่สะดวกไปร้านราเม็งยอดฮิตที่ต้องต่อคิวเยอะๆ
8. "Karashibi Miso Ramen Kikanbo Ikebukuro"
เผ็ดจัด ชาจริง กับราเม็งสูตรเฉพาะ
"Karashibi Miso Ramen Kikanbo Ikebukuro (คาราชิบิ มิโซะราเม็ง คิคัมโบ อิเคะบุคุโระ)" แค่ชื่อร้านก็ยาวแล้ว แต่ก็ยังยาวสู้คิวของแฟนราเม็งที่มารอชิมไม่ได้ ด้วยราเม็งสูตรเฉพาะที่ผสมผสานความเผ็ดร้อนของพริกและความเผ็ดซ่าของซันโช (พริกไทยญี่ปุ่น) เมนูราเม็งของที่นี่มีแค่ที่เขียนไว้ในชื่อร้านก็คือ "Karashibi Miso Ramen (คาราชิบิ มิโซะราเม็ง)" (ราคารวมภาษี 800 เยน) และเมนูเครื่องเคียงเท่านั้น
ความเด็ดของร้านไม่ได้มีแค่ความเผ็ดและความชาของพริกเท่านั้น แต่ตัวซุปก็กลมกล่อมลงตัว บอกตามตรงว่าอร่อยจริงๆ คือไม่ได้ขายแค่ความแปลกแต่ยังทำออกมาได้อร่อยด้วย เข้าใจเลยว่าทำไมถึงมีลูกค้าประจำเยอะ ความเผ็ดและความชายังเลือกได้ถึง 5 ระดับ แบบไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม เว้นแต่ว่าอยากลองระดับเผ็ดสุดยอด
ร้านนี้มีลูกค้าต่าวชาติแวะเวียนมาเยอะเหมือนกัน ดีไม่ดีจะมากกว่าลูกค้าชาวญี่ปุ่นด้วยซ้ำ ต้องบอกว่าถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ร้านนี้จะมีคนต่อคิวอยู่ตลอด ถ้าคิวยาวมากๆ ก็อาจต้องรอนานพอสมควร ถ้าใครอยากจะมาลองก็ลองวางแผนกันให้ดีๆ นะครับ
9. "Higashi Ikebukuro Taishoken Honten" ต้นตำรับสึเคเม็ง
สึเคเม็ง ราเม็งแห้งยอดฮิตติดชาร์ตที่ตอนนี้ขายกันทั่วไป ว่ากันว่าต้นกำเนิดนั้นมาจากผู้ก่อตั้งร้าน "Higashi Ikebukuro Taishoken Honten (ฮิกาชิ อิเคะบุคุโระ ไทโชเค็น ฮนเต็น)" ซึ่งที่นี่ทั้งๆ ที่เป็นต้นตำรับ แต่กลับไม่เรียกเมนูนี้ว่าสึเคเม็ง แต่จะใช้ชื่อว่า "Mori Soba (โมริ โซบะ)" แทน (ราคารวมภาษี 750 เยน)
ซุปเข้มข้นที่ทำมาจาก หมู ไก่ ปลา และวัตถุดิบชนิดนานาชนิด ที่ถือเป็นต้นแบบของซุปสึเคเม็งในปัจจุบัน เด่นที่รสหวานอมเปรี้ยว เส้นทำเองที่นุ่มลื่นและปริมาณที่มาเน้นๆ ใครที่คิดจะสั่งชามพิเศษแบบเล่นๆ ขอบอกไว้เลยว่าโอกาสที่จะกินไม่หมดมีสูงมาก
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของร้าน Higashi Ikebukuro Taishoken ก็คือท็อปปิ้งหลากหลายนอกเหนือจากชาชูกับไข่ต้ม เสริมด้วยกับแกล้มและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ต่างๆ จะสั่งมากินเล่นก่อนสั่งราเม็งก็ได้ครับ
10. "Shinasoba Tanaka" ราเม็งรสเด็ดด้วยความอร่อยจากทะเล
"Shinasoba Tanaka (ชินะโซบะ ทานากะ)" ร้านราเม็งยอดฮิตในย่านอิเคะบุคุโระฝั่งตะวันออก มีเจ้าของร้านหน้าตาดีที่ชอบเล่นกีฬาโต้คลื่นเป็นชีวิตจิตใจ
ราเม็งนั้นก็เต็มไปด้วยความอร่อยจากทะเลอย่างเมนูอันดับหนึ่งของร้านดังในรูปก็คือ "Aji Nibosoba" (ในรูปเพิ่มชาชู ไข่ และท็อปปิ้งอื่นๆ ราคารวมภาษี 950 เยน)
ที่บอกว่าความอร่อยจากทะเลก็คือที่ร้านจะใช้ปลาและอาหารทะเลเท่านั้นในการทำซุป ไม่พึ่งหมูและไก่เลย ได้ออกมาเป็นซุปเข้มข้นที่เต็มไปด้วยอุมามิและความหอมหวลของปลาและอาหารทะเล แบบไม่ต้องง้อกระดูกหมู แนะนำให้เพิ่มสาหร่ายเป็นท็อปปิ้งด้วยครับ รสชาติเข้ากันได้ดีมาก
ทุกวันอาทิตย์ทางร้านจะมีราเม็งเมนูพิเศษขายด้วย ทำให้ลูกค้าไม่เบื่อกับเมนูเดิมๆ ส่วนตอนเย็นก็มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไว้ให้บริการ มาดื่มชิลล์ๆ ซักแก้วแล้วปิดท้ายด้วยราเม็งซักชาม สุดยอด!
11. "Tonchin Ikebukuro Honten" ทงคตสึราเม็งสูตรออริจินัลของโตเกียว
"Tonchin Ikebukuro Honten (ทนจิน อิเคะบุคุโระ ฮนเต็น)" ร้านทงคตสึราเม็ง (ราเม็งซุปกระดูกหมู) ยอดนิยมที่มีประวัติมายาวนานในย่านอิเคะบุคุโระ ราเม็งของที่ร้านเป็น "ทงคตสึราเม็งแบบโตเกียว" เพียงหนึ่งเดียว (ราคารวมภาษี 680 เยน) แตกต่างจากทงคตสึราเม็งชื่อดังของทางเมืองฮากาตะ
เติมทั้งไก่และผักลงไปเคี่ยวพร้อมกระดูกหมู ไม่คาว ไม่มัน รสชาตินุ่มนวลและกินง่าย จับคู่กับราเม็งเส้นใหญ่ที่ไม่ค่อยเจอในทงคตสึราเม็งทั่วไป แถมมีบริการเพิ่มเส้นฟรีไม่คิดเงินด้วย
นอกจากเพิ่มเส้นฟรี ยังมีข้าวสวยร้อนๆ ฟรีอีก ถือเป็นร้านที่คุ้มค่าคุ้มราคาร้านหนึ่งในย่านอิเคะบุคุโระ การให้บริการของทางร้านเรื่องความใส่ใจยังเป็นที่ลือชาทำให้มีฐานแฟนๆ มากร้านหนึ่งในสมรภูมิราเม็งที่ดุเดือดในตอนนี้
12. "Mendokoro Shinohara" โชยุราเม็งชามเด็ดที่พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
ร้านราเม็งสุดฮอตในย่านอิเคะบุคุโระที่มีคนมาต่อคิวรอตั้งแต่ก่อนร้านเปิด ร้าน "Mendokoro Shinohara (เม็นโดโกโระ ชิโนะฮาระ)" แนะนำให้สั่ง "Tokusei Shoyu Soba (โทคุเซ โชยุ โซบะ)" ที่จัดเครื่องกันมาเน้นๆ (ราคารวมภาษี 1,050 เยน)
ซุปใสรสกลมกล่อมที่ใช้วัตถุดิบหลากหลายโดยมีปลามะไดและหอยต่างๆ เป็นส่วมผสมหลัก เป็นซุปที่ดึงความอร่อยของวัตถุดิบออกมาได้อย่างลงตัว หมูชาชูปรุงสุกด้วยความร้อนต่ำ ทำให้เนื้อสัมผัสนุ่มชุ่มฉ่ำและหวาน ควรค่าแก่การสั่งเพิ่มเป็นพิเศษมาก
อีกเมนูที่ไม่อยากให้พลาดคือ "Tai Paitan Soba (ไท ไพตัน โซบะ)" เป็นซุปโครงไก่โทริไพตันผสมกับปลามะได นอกเหนือจากเมนูหลักๆ ที่กล่าวไป ทางร้านยังมีเมนูพิเศษออกขายเป็นระยะๆ ลูกค้าขาประจำก็ไม่น้อยเลย
13. "Miharu สาขา Ikebukuro" ราเม็งซุปเข้มข้นจากปลา ปราศจากสารปรุงแต่ง
ร้าน "Miharu (มิฮารุ)" สร้างสรรค์ราเม็งที่ไม่ใส่สารปรุงแต่ง ทั้งยังมีรสชาติที่เข้มข้นแต่เป็นมิตรต่อร่างกาย ที่ร้านมีทั้งราเม็ง สึเคเม็ง และอาบุระโซบะพร้อมเสิร์ฟ เมนูที่นิยมที่สุดคือ "Abura Soba" (ราคารวมภาษี 830 เยน)
ซอสข้นที่ทำจากปลาเป็นตัวชูโรงเลย ทั้งที่ไม่ใช้สารปรุงแต่งแต่ก็ถึงรสถึงชาติ เพิ่มกลิ่นหอมด้วยต้นหอมและหัวหอมที่จะช่วยให้กินต่อได้เรื่อยๆ โดยไม่เลี่ยน ที่ร้านนี้จะเสิร์ฟราเม็งพร้อมกับไข่ต้มยางมะตูม วิธีกินคือจิ้มไข่ให้แตกและนำไข่แดงคลุกเคล้ากับเส้น บอกเลยว่าอร่อย!
โดยส่วนตัวแล้วผมจะชอบเพิ่มท็อปปิ้งเป็นหมูชาชูและเม็นมะ (หน่อไม้ดอง) จะสั่งมาเป็นกับแกล้มสำหรับเบียร์เย็นๆ ก็ได้ครับ นอกจากราเม็งยังมีเมนูข้างเคียงเป็นแกงกะหรี่แห้งที่ผสมหมึกของปลาหมึก อร่อยจนรักพี่เสียดายน้อง เป็นเมนูที่สมควรแก่การลิ้มลอง
14. "Uchi" ร้านราเม็งบรรยากาศเหมือนอยู่บ้านหนึ่งเดียวในย่านอิเคะบุคุโระ
ร้าน "Uchi (อุจิ)" ร้านนี้เดินค่อนข้างไกลจากสถานีอิเคะบุคุโระ ทางออกทิศตะวันตก (West exit) ทั้งยังหายาก แต่ก็ไม่วายมีแฟนคลับอยู่มากมาย เป็นร้านที่เสิร์ฟราเม็งและสึเคเม็งซุปทงคตสึเกียวไค เมนูยอดฮิตคือ "Chuka Soba (จูกะ โซบะ)" (ราคารวมภาษี 700 เยน)
ซุปแบบมันน้อย ปรุงให้ไม่หวานและเปรี้ยวจนเกินไป แต่ก็ยังดึงความอร่อยของวัตถุดิบออกมาอย่างดีเยี่ยม ถึงจะเป็นซุปที่มีความข้นแต่ก็กินง่าย มาคู่กับราเม็งเส้นใหญ่ ที่สามารถเพิ่มปริมาณได้ฟรี
หนึ่งสิ่งที่ร้าน Uchi โด่งดังก็คือการบริการที่สุดยอดราวกับนั่งกินราเม็งอยู่ที่บ้านด้วยบรรยากาศสบายๆ นอกจากจะเพิ่มเส้นได้แล้วทางร้านยังมีข้าวสวยให้ฟรีอีก 1 ชาม ถ้าใครกำลังมองหาร้านที่กินได้เต็มอิ่มก็ไม่ควรพลาดร้านนี้
15. "Rokubo Tantanmen" วัดกันด้วยตันตันเม็ง
"Rokubo Tantanmen (โรคุโบ ตันตันเม็ง)" ร้านราเม็งในย่านอิเคะบุคุโระที่ลือชื่อจากการเสิร์ฟแค่ตันตันเม็งเพียงอย่างเดียว จะมี 2 เมนูให้เลือกคือตันตันเม็งรสชาติต้นตำรับจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน หรือตันตันเม็งสไตล์ญี่ปุ่น ที่ปรุงออกมาให้ถูกปากชาวญี่ปุ่น ในรูปนี่เป็นแบบหลัง "Nishiki Shiru-nashi Tantanmen (นิชิกิ ชิรุนาชิ ตันตันเม็ง)" ตันตันเม็งแห้งสไตล์ญี่ปุ่น (ราคารวมภาษี 830 เยน)
ราเม็งสุดอร่อยที่ใช้งาบดเป็นเบส ผสมกับเครื่องเทศนานาชนิดและพริกน้ำมันเพิ่มความเผ็ดร้อนให้รสชาติ มาคู่กับราเม็งเส้นใหญ่หนึบๆ สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ทั้งหมด 6 ระดับ ซึ่งต่อให้เป็นระดับที่เผ็ดสูงสุดก็ไม่ได้เผ็ดอะไรขนาดนั้น ใครที่เป็นคอของเผ็ดน่าจะรับมือได้อย่างสบายๆ
ในระหว่างกินสามารถเติมน้ำส้มสายชูดำและกระเทียมเพื่อเปลี่ยนรสชาติได้อีก สั่งไข่ออนเซ็นมาเพิ่มเป็นท็อปปิ้งก็เข้ากันดี ถ้ากินเส้นหมดแล้วยังเหลือหมูสับหรือซุปอยู่ ก็แนะนำให้สั่งข้าวสวยร้อนๆ มาคลุกและกินปิดท้ายเป็นอันจบพิธี
กินราเม็งให้จุใจในย่านอิเคะบุคุโระ
ก็จบไปกับบทความแนะนำร้านราเม็งในย่านที่การแข่งขันราเม็งดุเดือดไปทุกหย่อมหญ้าอย่างอิเคะบุคุโระ หวังว่าผู้อ่านจะได้พบกับร้านราเม็งที่ถูกใจจากบทความนี้นะครับ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
旅と音楽とラーメンをこよなく愛するエンジニア。 中学生のときにオーストラリアでホームステイしたことをきっかけに、学生時代はバックパッカーにハマる。そんな中で改めて日本の良さを実感し、それをもっと世界中に広めたいと思ってMATCHAのライターに。 マイブームはカメラで、最近はHDRとタイムラプスに挑戦中。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง