Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

เคยากิ เกสต์เฮาส์ บ้านพักแสนอบอุ่นสไตล์บ้านญี่ปุ่นที่เซ็นได (Keyaki Guesthouse, Sendai)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

เคยากิ เกสต์เฮาส์ (Keyaki Guesthouse) ในเมืองเซ็นได จังหวัดมิยางิ เป็นเกสต์เฮาส์ที่รีโนเวทมาจากบ้านเก่าญี่ปุ่นที่มีมาตั้งแต่ในอดีต พนักงานที่นี่ให้การต้อนรับผู้เข้าพักอย่างอบอุ่น เปรียบเสมือนบ้านที่เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจหลังเที่ยวทั้งวันค่ะ

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more

ที่พักผ่อนคลายใจและกายยามท่องเที่ยวในเซ็นได

เมืองเซ็นได (Sendai) จังหวัดมิยางิ (Miyagi) เมืองใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคโทโฮคุ มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ดังๆ เช่น ปราสาทเซ็นได และ ซุยโฮเด็น ยังมีชื่อเสียงเรื่องอาหารอร่อยมากมาย อย่างลิ้นวัว และของหวานที่ทำจากซุนดะ (*1) ถ้าออกนอกเมืองไปอีกนิดนึง ก็สามารถเดินทางไปชมเกาะมัทสึชิมะ หนึ่งในสามทิวทัศน์ขึ้นชื่อของญี่ปุ่นแบบไปเช้าเย็นกลับได้ และยังเหมาะที่จะใช้ปักหลักเป็นที่พักเวลามาเที่ยวจังหวัดมิยางิอีกด้วยค่ะ

*1 : ซุนดะ ... ถั่วแระบดละเอียด

หลังจากแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทานอาหารอร่อยๆ เรียบร้อยแล้ว อยากลองไปคุยกับผู้คนในพื้นที่หรือนักเดินทางด้วยกันดูไหมคะ เคยากิ เกสต์เฮาส์ (Keyaki Guesthouse) ที่เราจะพาไปรู้จักในครั้งนี้ เป็นที่พักที่ให้ความรู้สึกเหมือนเรามาเที่ยวบ้านเพื่อนยังไงยังงั้นเลย ที่พักนี้รีโนเวทจากร้านอาหารหรูในสมัยก่อน เราจึงเพลิดเพลินกับบรรยากาศบ้านญี่ปุ่นแบบเก่าได้ด้วยค่ะ

การต้อนรับด้วยบรรยากาศอบอุ่น

ซ้าย : คุณโนโซมิ, ขวา : คุณหลิว

ในวันที่ไปนี้ได้เจอกับคุณโนโซมิ ผู้เป็นโอคามิ (*2) กับคุณหลิว พนักงานชาวไต้หวันรอต้อนรับค่ะ

"เคยรู้สึกว่าเราผูกพันกับที่นั้นๆ เวลาพูดคุยจนสนิทสนมกับผู้คนที่ให้บริการเราตามเกสต์เฮาส์บ้างไหมคะ แล้วก็จะรู้สึกว่า 'อยากกลับไปที่นั่นอีกจัง' พอได้ไปหลายๆ ที่มากเข้าก็เริ่มรู้สึกอยากจะเป็นฝ่ายให้บริการขึ้นมาบ้างค่ะ" คุณโนโซมิผู้มีเสน่ห์อยู่ที่เสียงหัวเราะร่าเริงกล่าว

คุณหลิวเดินทางมาประเทศญี่ปุ่นในรูปแบบของ Working Holiday มาอาศัยพร้อมทำงานให้เกสต์เฮาส์แห่งนี้เป็นเวลาหนึ่งปีตั้งแต่เดือนกันยายน 2018 คุณหลิวบอกว่าตกหลุมรักที่นี่ตั้งแต่แรกเห็นในเว็บไซต์เลย และเสริมอีกว่า "ได้คุยกับผู้คนมากมาย สนุกดีค่ะ"

สตาฟคนอื่นก็เฟรนด์ลี่มากๆ ค่ะ แล้วยังรู้ข้อมูลสถานที่รอบๆ อย่างละเอียดอีกด้วย อยากให้แนะนำร้านอะไรก็ลองถามได้เลยค่ะ

*2 : โอคามิ ... ชื่อเรียกเจ้าของหรือผู้ที่บริหารจัดการเรียวกังหรือร้านอาหารที่เป็นผู้หญิง

ห้องพักที่ยังเหลือเค้าญี่ปุ่นสมัยโชวะ

โต๊ะกลมแบบย้อนยุคหน้าตาน่ารักตรงพื้นที่ส่วมรวม

หลังจากจัดการเรื่องเข้าพักที่เคาน์เตอร์เสร็จเรียบร้อยก็มองไปเห็นพื้นที่ส่วนรวม เป็นห้องนั่งเล่นที่จำลองบรรยากาศเก่าๆ แบบยุคโชวะ (ปี 1926 - 1989) มีพื้นเสื่อทาตามิ ประตูฟุซุมะ และโต๊ะกลมชาบุได (*3) เฟอร์นิเจอร์บางส่วนนี่เป็นของเก่าตั้งแต่สมัยเป็นร้านอาหารเลยค่ะ

ห้องนี้มีทั้งกลุ่มคนที่มานั่งคุยกันสนุกสนาน มีทั้งคนที่หิ้วคอมพิวเตอร์มาทำนั่งทำงาน จะมานั่งเล่น นั่งคุยกับสตาฟ หรือมานั่งวางแผนเที่ยวก็ตามใจเลยค่ะ

*3 : โต๊ะกลมชาบุได ... โต๊ะเตี้ยกลมใช้สำหรับทานอาหาร ในช่วงต้นยุคโชวะคนในครอบครัวจะมานั่งล้อมโต๊ะทานอาหารและพูดคุยกัน จึงถือเป็นสิ่งที่แสดงถึงบรรยากาศแบบยุคโชวะ

ตรงตู้นี้มีชาญี่ปุ่น ชาฝรั่ง และกาแฟวางให้บริการ มาดื่มได้ตามสบายค่ะ แก้วกาแฟที่ดื่มเสร็จแล้วให้เอาไปล้างในครัว และนำกลับมาวางที่เดิมค่ะ

ห้องพักเน้นความเป็นส่วนตัว

ห้องพักมีทั้งหมด 3 ห้อง 3 แบบคือหอพักรวมเฉพาะผู้หญิง หอพักรวมชายหญิง และห้องเดี่ยวค่ะ หอพักรวมชายหญิงราคา 2,800 เยน หอพักรวมแยกชายหญิง 3,000 เยน และห้องเดี่ยวคนละ 3,800 เยน ราคาทั้งหมดรวมภาษีแล้ว

เตียงนอนในหอพักรวมโปร่งโล่งไม่รู้สึกอึดอัด มีที่ให้วางของ ปลั๊กไฟ 2 ช่อง และโคมไฟสำหรับอ่านหนังสือ มีไม้แขวนเสื้อให้ด้วย ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็ปิดม่านกั้นที่มีให้ทุกเตียงได้

สัมภาระขนาดใหญ่ให้วางไว้ด้านนอกเตียงกันค่ะ สิ่งสำคัญอีกอย่างคือเราจะไม่ใส่รองเท้าในเกสต์เฮาส์ เพราะแต่ละห้องจะปูด้วยเสื่อทาตามิ ถ้าอยากเคลียร์สัมภาระสามารถใช้พื้นที่ด้านนอกเตียงได้ค่ะ

ทำอาหารเองในครัว นั่งดื่มเบาๆ ที่เคาน์เตอร์บาร์

ผู้เข้าพักสามารถเข้าไปใช้ห้องครัวได้นะคะ แค่ไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารแล้วก็มาใช้อุปกรณ์ในครัวทำทานเองได้เลย มีไมโครเวฟ เตาอบ และภาชนะต่างๆ ให้ใช้ด้วย

ใกล้ๆ กับทางเข้ามีเคาน์เตอร์บาร์ให้บริการ แม้ใกล้ๆ ที่พักจะมีถนนโคคุบุนโจที่มีร้านกินดื่มมากมาย แต่ถ้าอยากดื่มเบาๆ แค่แก้วเดียวไม่อยากจะออกไปไหนไกลก็สอบถามสตาฟได้เลย

ที่นี่ก็เป็นพื้นที่ส่วนร่วมเช่นเดียวกันค่ะ ไม่ต้องสั่งเครื่องดื่มก็สามารถใช้งานได้ตามต้องการ สำหรับคนที่เมื่อยเท้า อยากนั่งเก้าอี้มากกว่าก็มานั่งพักตรงนี้ก็ได้นะคะ

ห้องอาบน้ำสะอาด เรียบง่าย

ห้องอาบน้ำมี 2 ห้อง ห้องนึงใช้ได้จนถึงเวลา 22:00 ส่วนอีกห้องสามารถใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีผ้าขนหนูให้เช่า ผ้าเช็ดมือ 50 เยน ผ้าเช็ดตัว 100 เยนค่ะ

ห้องเปลี่ยนชุดมีเครื่องซักผ้าและเครื่องอบแห้งด้วย ใช้ได้ตั้งแต่ 8:00 - 22:00 ถ้าต้องการใช้งานก็ให้เรียกสตาฟนะคะ

ที่น่าเดินเที่ยวใกล้ๆ

เซ็นโตที่คนในท้องถิ่นนิยมแวะไป

เดินจากเกสต์เฮาส์ไปราว 5 นาทีจะเจอกับเซ็นโตที่ชื่อว่า โคะมะโนะยุ (Komanoyu) ส่วนใหญ่คนที่ไปใช้บริการจะเป็นคนญี่ปุ่นท้องถิ่น เลยอาจจะมีเขียนแต่ภาษาญี่ปุ่น แต่บอกเลยว่ามานอนแช่ตัวในน้ำร้อน พร้อมชมภาพวิวเกาะมัตสึชิมะบนกำแพงนี้ ช่วยคลายความเหนื่อยล้าและทำให้สดชื่นขึ้นมากโขเลยล่ะค่ะ

ค่าบริการผู้ใหญ่คนละ 440 เยน ซื้อตั๋วตรงตู้ขายตั๋วอัตโนมัติ จะนำแชมพู - สบู่อาบน้ำไปเองหรือจะไปซื้อที่เซ็นโตก็ได้ ส่วนผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดตัวสามารถเช่าได้ในราคา 50 เยนค่ะ

ถนนโจเซ็นจิโดริที่สวยงามกับร้านกินดื่ม

เคยากิ จากชื่อ เคยากิ เกสต์เฮาส์นี้เป็นชื่อต้นไม้ประจำจังหวัดมิยางิค่ะ บนถนนโจเซ็นจิโดริ (Jozenji-dori) มีต้นเคยากิตั้งเรียงรายร่มรื่น ห่างจากเกสต์เฮาส์แค่ 3 นาที กลางถนนทำเป็นทางเดินใต้ต้นไม้เหมาะจะมาเดินเล่น ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชม ส่วนเดือนธันวาคมมีไฟประดับอิลลูมิเนชั่นบนต้นเคยากิ กลายเป็นอุโมงค์แสงที่สว่างไสวสวยงามค่ะ

ด้านหน้า เซ็นไดมีเดียเท็ก (Sendai Mediatheque) บนถนนโจเซ็นจิโดริเป็นจุดจอดรถบัสท่องเที่ยว Loople Sendai (Sendai Sightseeing City Loop Bus) นั่งรถบัสไปสถานีรถไฟเซ็นไดใช้เวลาประมาณ 15 นาที ค่าโดยสาร 260 เยนค่ะ

จากถนนโจเซ็นจิโดริ มีอีกถนนที่เชื่อมต่อกันโดยตรงอีกแห่งนึงก็คือถนนโคคุบุนโจโดริ (Kokubuncho-dori) ซึ่งเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยร้านกินดื่มค่ะ ไม่ว่าจะถนนเส้นไหนก็มีร้านอาหารเยอะเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องอาหารการกินเลย

พักผ่อนคลาย ชาร์จพลังก่อนเดินทางต่อ

หลังจากเดินเที่ยวคนเดียวจนเหนื่อยทั้งวัน จะกลับไปนอนพักในห้องของตัวเองก็ได้ แต่ตอนนี้อยากจะพูดคุยกับใครสักคนให้ช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าค่ะ

คุณโนโซมิบอกว่า "จะไปนอนพักผ่อนบนเตียง จะมาอ่านหนังสือในห้องรวม หรือจะมาชวนสตาฟและผู้เข้าพักคนอื่นคุยก็ได้ อยากให้เกสต์เฮาส์นี้ได้เป็นที่พักในแบบที่ทุกคนชอบค่ะ"

ตอนที่ผู้เขียนไปพักที่นี่ ก็ได้รีแลกซ์และพักผ่อนอย่างสบายกายสบายใจ ต้องขอบคุณสตาฟที่ต้อนรับอย่างอบอุ่น ทุกคนสนใจลองมาหาที่ที่อยากจะกลับไปอีกรอบดูที่เคยากิ เกสต์เฮาส์กันไหมคะ

In cooperation with Sendai Keyaki Guesthouse

บทความโดย

Miho Moriya

Tokyo,Japan

MATCHA editor and freelance writer. Born, raised, and currently living in Tokyo. Have visited over 30 countries and lived in four different prefectures. I have traveled to almost all 47 prefectures in Japan! I try to create articles that help convey the charms of a destination through words and pictures. I love forests, temples, and camels.
more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ