ครบเครื่องเรื่องเฮียวโกะ! รวมที่เที่ยว ช้อปปิ้ง และของอร่อย

จังหวัดเฮียวโกะมีอะไรน่าสนใจบ้างนะ?

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU(ซ้ายบน)

จังหวัดเฮียวโกะอยู่ในภูมิภาคคันไซ ไม่ห่างจากจังหวัดโอซาก้าและเกียวโต เดินทางไปมาสะดวก และเป็นพื้นที่ที่มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกันด้วย

มีทั้งเมืองท่าอย่างโกเบ ปราสาทฮิเมจิ ปราสาทสีขาวที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ภูเขารกโกะที่มีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่งดงามติดอันดับต้นๆ ของญี่ปุ่น แหล่งชอปปิงและอาหารเลิศรส บทความนี้ขอแนะนำข้อมูลสำคัญในการท่องเที่ยวจังหวัดเฮียวโกะ ทั้งสถานที่น่าสนใจและเมนูอาหารที่พลาดไม่ได้ค่ะ!

สารบัญ

• 5 จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด
• 7 จุดท่องเที่ยวน่าสนใจในเฮียวโกะ
• 5 จุดชอปปิงสำหรับทุกคน
• 5 ของอร่อย ไม่กินไม่ได้
• วิธีเดินทางสู่โกเบ

5 จุดท่องเที่ยวที่ห้ามพลาด

1. หอคอยแห่งโกเบ (Kobe Port Tower)

ภาพจาก "หอคอยสีแดงไฉไลใต้ท้องฟ้าสดใส! เสน่ห์ของ Kobe Port Tower ที่สูงถึง 108 เมตร"

เมืองที่ชื่อเสียงที่สุดในจังหวัดเฮียวโกะก็คงเป็นเมืองโกเบ โกเบเป็นเมืองท่าที่เจริญรุ่งเรือง ได้รับการพัฒนาและหลอมรวมวัฒนธรรมจากต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

สัญลักษณ์ของโกเบก็คือ หอคอยโกเบ (Kobe Port Tower) หอชมวิวสีแดงที่สูง 108 เมตร มีสถาปัตยกรรมรูปทรงแบบไฮเพอร์โบลอยด์ (Hyperboloid structure) ที่โค้งเว้าตรงกลาง กลางคืนจะเปิดไฟประดับสวยงาม หากขึ้นไปด้านบนหอคอยจะสามารถชมวิวยามค่ำคืนของโกเบที่ขนานนามว่า "ทิวทัศน์สิบล้านดอลลาร์"ในแบบพาโนรามาด้วยค่ะ

Kobe Port Tower
ที่อยู่: 5-5 Hatobacho, Chuo, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.kobe-port-tower.com/language/english.html (ภาษาอังกฤษ)

2. วิวยามค่ำคืนของภูเขามายะ

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

ทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโกเบนั้นเป็น 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยงามของญี่ปุ่น เช่นเดียวกับเมืองนางาซากิและเมืองฮาโกดาเตะ จุดชมวิวสุดพิเศษคือจุดชมวิวมายะซัง คิคุเซนได (Mt. Maya Kikuseidai) ที่ด้านบนภูเขามายะค่ะ

ว่ากันว่าหากนำจำนวนแสงไฟทั้งหมดที่เห็นจากจุดชมวิวมาคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้า จะตกราว 10 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว จึงขนานนามทิวทัศน์ยามค่ำคืนของโกเบว่า "ทิวทัศน์ยามค่ำคืนสิบล้านดอลลาร์" ค่ะ

Mt. Maya Kikuseidai
ที่อยู่: 2-2 Mayayamacho, Nada, Kobe, Hyogo Google Map

3. อิจินคัง อาคารสไตล์ตะวันตกในย่านคิตาโนะ

หลังจากเปิดท่าเรือโกเบในปี 1868 ชาวต่างชาติทั้งจากอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย ได้มาพักอาศัยที่เมืองโกเบ นำไปสู่การพัฒนาวัฒนธรรมใหม่ๆ

อิจินคัง (Ijinkan) คือบ้านพักที่ชาวต่างชาติอาศัยอยู่ในสมัยนั้น ปัจจุบันในย่านคิตาโนะยังมีอิจินคังเหลืออยู่ประมาณ 30 หลัง และมีมากกว่า 10 หลังเปิดให้เข้าชมค่ะ

อิจินคังตั้งอยู่ในย่านคิตาโนะ มีทางลาดชันค่อนข้างเยอะ และเป็นถนนแคบๆ ที่ไม่ค่อยมีรถผ่าน เหมาะแก่การหลงเข้าไปเดินเล่นมากๆ ค่ะ

Kitano Ijinkan Street
ที่อยู่: Kitanomachi, Chuo, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://www.kobeijinkan.com/en/ (ภาษาอังกฤษ)

4.ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

Picture courtesy of Himeji City

ปราสาทฮิเมจิเป็นปราสาทที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

ปราสาทฮิเมจิเริ่มก่อสร้างในปี 1346 และได้รับการบูรณะมาหลายครั้งจนมีสภาพเช่นปัจจุบัน ปราสาทในญี่ปุ่นบางแห่งได้รับการบูรณะในศตวรรษที่ 20 แต่เท็นชุคาคุ (ป้อมปราสาท) ในปราสาทฮิเมจิที่สร้างเสร็จในปี 1609 ยังคงสภาพเดิมอยู่จนถึงปัจจุบัน

Picture courtesy of Himeji City

จุดเด่นของปราสาทฮิเมจิอยู่ตรงที่ป้อมปราสาทสีขาวงดงาม แต่จากการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลาจึงเปลี่ยนเป็นสีเทาเล็กน้อย ปี 2015 การบูรณะครั้งใหญ่เสร็จสิ้น ด้วยการทาสีปูนใหม่และเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา ปราสาทฮิเมจิจึงกลับมาสวยงดงามตามเดิมค่ะ

อย่างช่วงวันหยุดติดต่อกันจะมีนักท่องเที่ยวค่อนข้างหนาแน่น สามารถดูปริมาณความหนาแน่นได้ในเว็บไซต์ด้านล่างค่ะ นอกจากนี้ยังมีบริการทัวร์ภาษาอังกฤษโดยไกด์มืออาชีพวันละ 2 รอบด้วยค่ะ

Himeji Castle
ที่อยู่: 68 Honmachi, Himeji, Hyogo, Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.himejicastle.jp/en/ (ภาษาอังกฤษ)

5. อาริมะออนเซ็น (Arima Onsen)

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

อาริมะออนเซ็นเป็นเมืองออนเซ็นที่กล่าวว่าเก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น มีประวัติยาวนานกว่า 1,000 ปี

ในเมืองกะทัดรัดขนาดสี่เหลี่ยมประมาณ 1 กิโลเมตร มีโรงแรม บ่อน้ำร้อน ร้านอาหาร และร้านขายของจึงกระจุกตัวกันอยู่

ภาพจาก "3 ออนเซ็นสีทองแห่งอาริมะออนเซ็น ที่ไปแช่แบบไม่ต้องค้างคืนก็ได้ (Arima onsen, Kobe)"

จุดเด่นของอาริมะออนเซ็นคือน้ำพุร้อนสีน้ำตาลแดง เรียกว่า "คินเซ็นหรือออนเซ็นสีทอง" จริงๆ ตาน้ำใส แต่เพราะมีธาตุเหล็กประกอบอยู่มาก เมื่อสัมผัสกับอากาศจึงเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง ว่ากันว่าดีสำหรับคนที่มีอาการหนาวสั่นง่าย ปวดเอว ปวดกล้ามเนื้อและไขข้อ

นอกจากนี้ยังมีปริมาณโซเดียมเข้มข้นด้วย จึงช่วยให้ผิวชุ่มชื้น มาผ่อนคลายความเหน็ดเหนื่อยที่ออนเซ็นกันนะ

Arima Onsen (Arima Hot Springs Tourism Association)
ที่อยู่: 790-3 Arimacho, Kita, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://visit.arima-onsen.com/ (ภาษาอังกฤษ)

7 จุดท่องเที่ยวน่าสนใจในเฮียวโกะ

1. ภูเขารกโกะ (Mt. Rokko)

Rokkosan Pasture. Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

ภูเขารกโกะมีฟาร์มและสิ่งอำนวยความสะดวกในการทำกิจกรรมต่างๆ ที่สนุกได้ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก จึงได้รับความนิยมสูงค่ะ

หากไปเที่ยวฟาร์มรกโกะซัง (Rokkosan Pasture) ต้องไปกินซอฟท์ครีมที่ทำจากนมสดใหม่ให้ได้นะคะ และหากไปที่ Rokko Garden Terrace จะมีคาเฟ่และร้านอาหารต่างๆ ให้บริการอาหารที่ใช้วัตถุดิบท้องถิ่น สามารถกินอาหารพลางชมวิวสวยๆ ได้ด้วยค่ะ ส่วนของฝากก็มีให้เลือกซื้อมากมายค่ะ

Rokko Garden Terrace. Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

ยังสามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ เช่น เล่นกีฬาแนวกรีฑาที่ Rokkosan Field Athletic และทำบาร์บีคิวสักมื้อที่ Rokkosan Country House ได้ค่ะ

2. คิโนซากิออนเซ็น (Kinosaki Onsen)

Picture courtesy of Picture courtesy of Kinosaki Onsen Free Photo Collection (ภาษาญี่ปุ่น)

คิโนซากิออนเซ็นคือออนเซ็นที่กล่าวว่ามีประวัติยาวนานกว่า 1,300 ปี มีอาคารไม้เก่าแก่เรียงรายตามแนวแม่น้ำโอทานิที่ไหลผ่านกลางเมือง

Picture courtesy of Kinosaki Onsen Free Photo Collection (ภาษาญี่ปุ่น)

ภายในเมืองจะมีบ่อน้ำร้อนกลางแจ้ง (โรงอาบน้ำสาธารณะ) 7 แห่ง การใส่ชุดยูกาตะเที่ยวบ่อน้ำร้อนคือวิธีท่องเที่ยวในแบบฉบับคิโนซากิออนเซ็น ลองไปแช่บ่อออนเซ็นหลายๆ แห่งที่สนใจดู เช่น "อิจิโนะยุ (Ichino-yu)" อยู่ใจกลางเมือง "ยานากิยุ (Yanagi-yu)" เป็นอาคารไม้ที่มีเสน่ห์

ยังมีร้านให้เช่าชุดยูกาตะด้วย ต้องลองสวมชุดยูกาตะไปเดินเล่นรอบๆ เมืองออนเซ็นในบรรยากาศที่มีเสน่ห์ดูนะคะ

Kinosaki Onsen (Kinosaki Tourist Information Center)
ที่อยู่: 357-1 Yushima, Kinosakicho, Toyooka, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://kinosaki-spa.gr.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

3. ทัมบะ ซาซายามะ (Tanba Sasayama)

ภาพจาก "ชมวิวอายุ 400 ปี!? เที่ยวเมืองรอบปราสาทที่ "ทัมบะ ซาซายามะ"มรดกของญี่ปุ่นในเฮียวโกะ"

พื้นที่ทัมบะ ซาซายามะมีประวัติยาวนานถึง 400 ปี ไม่ว่าเดินไปทางไหนจะเห็นบ้านเรือนไม้สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม "เขตร้านค้าคาวารามาจิ สึมาอิริโชคากุน (Kawaramachi Merchant Housing District)" ในภาพด้านบนเป็นย่านการค้ายาวประมาณ 500 เมตร เรียงรายไปด้วยบ้านเรือนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ

Kawaramachi Merchant Housing District
ที่อยู่: Kawaramachi, Sasayama, Hyogo Google Map

4. ปราสาททาเคดะ (Takeda Castle) ปราสาทลอยฟ้า

ปราสาททาเคดะตั้งอยู่บนยอดเขาที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 350 เมตร กล่าวกันว่าเป็น "มาชูปิกชู"ของญี่ปุ่น ที่รู้จักกันด้วยลักษณะน่าพิศวงเหมือนปราสาทลอยอยู่ท่ามกลางหมอกยามเข้า

ปัจจุบันมีเพียงกำแพงหินที่เหลืออยู่ แต่เชื่อกันว่าเดิมเป็นปราสาทขนาดใหญ่มากเลยค่ะ

ในเดือนตุลาคมถึงพฤศจิกายน จะมีหมอกปกคลุมตั้งแต่รุ่งเช้าจนถึงประมาณ 8 โมง เราสามารถมองเห็นปราสาทท่ามกลางทะเลหมอก แต่ถ้าอยากชมตังปราสาททั้งหมดให้ไปที่หุบเขาริสึอุน (Ritsuun Gorge) หรือ สันเขาฟุจิวะ (Fujiwa Pass) โดยที่ หุบเขาริสึอุนจะมีจุดชมวิว 3 แห่ง และมีที่จอดรถกว้างขวางจุได้ประมาณ 50 คัน ห่างจากสถานีทาเคดะโดยรถยนต์หรือแท็กซี่ประมาณ 10 นาทีค่ะ

Takeda Castle Ruins
ที่อยู่: Takeda, Wadayamacho, Asago, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.city.asago.hyogo.jp/takeda/ (ภาษาญี่ปุ่น)

5. สะพานอาคาชิไคเคียว (Akashi-Kaikyo Bridge)

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

สะพานอาคาชิไคเคียวเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก มีความยาวกว่า 3,911 เมตร และใช้เวลาก่อสร้างถึง 10 ปี

สะพานนี้มีความสำคัญยิ่งที่เชื่อมระหว่างเกาะฮอนชูกับเกาะอาวาจิ และเกาะอาวาจิกับภูมิภาคชิโกะคุด้วย บนสะพานจะประดับด้วยไฟสวยงามทำให้วิวกลางคืนงดงามน่ามองมากๆ ค่ะ

นอกจากนี้ Bridge World for Akashi-Kaikyo Bridge ยังมีการจัดทัวร์พาชมบริเวณที่ไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั่วไป และขึ้นหอคอยสูง 300 เมตรเพื่อชมวิวพาโนรามา 360 องศาด้วยค่ะ จุดนัดพบของทัวร์จะอยู่ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ชื่อว่า Akashi Kaikyo BRIDGE EXHIBITION CENTER กิจกรรมของทัวร์คือพาไปดูเทคโนโลยีการก่อสร้างสะพาน และสามารถชมสะพานแขวนในระยะใกล้ได้ด้วยเนื่องจากตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นสะพานอาคาชิไคเคียว

Akashi-Kaikyo Bridge (Akashi Kaikyo BRIDGE EXHIBITION CENTER)
ที่อยู่: 4-114 Higashi-Maikocho, Tarumi, Kobe Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.hashinokagakukan.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)
เว็บไซต์ทัวร์:https://www.jb-honshi.co.jp/english/bridgeworld/index.html

6. เกาะอาวาจิ (Awaji Island)

ดอกนาโนะฮานะ (Na no hana) ภายในสวนสาธารณะ "Awaji Hanasajiki" เกาะอาวาจิ หนึ่งในสถานที่ชมดอกไม้ที่งดงามในสี่ฤดู

เมื่อข้ามสะพานอาคาชิไคเคียวจากจังหวัดเฮียวโกะจะมาถึงเกาะอาวาจิ เกาะอาวาจิมีอาหารเลิศรสมากมาย เช่น อาหารทะเลสดใหม่ วัวอาวาจิที่เลี้ยงบนเกาะ และผักอร่อยๆ อย่างหัวหอมใหญ่ที่หวานฉ่ำด้วย

Fukura Marche

Fukura Marche คือร้านอาหารที่เราสามารถไปเลือกปลาดิบสดที่มาสั่งทำเมนู "ข้าวหน้าปลาดิบแบบเลือกได้ (Self Kaisendon)" ที่นี่ยังมีร้านขายของที่ระลึกด้วยค่ะ ในละแวกเดียวกันมีร้านไอศกรีมเจลาโต้ "G.ELM" ร้านยอดนิยมที่เน้นวัตถุดิบในท้องถิ่นด้วย

ถัดมาเป็น โรงละครหุ่นกระบอกอาวาจิ (Awaji Ningyoza หรือ Awaji Puppet Theater) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน จัดแสดงละครหุ่นกระบอกที่ฝังรากลึกในเกาะอาวาจิได้ทุกวัน คุณสามารถดื่มด่ำกับศิลปะการแสดงดั้งเดิมอันทรงคุณค่าได้แสดงวันละ 4 รอบ รอบละประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาต่อรอบอยู่ที่ 1,000 – 1,500 เยน

Awaji Island
เว็บไซต์ทางการ: https://www.awajishima-kanko.jp/en/ (ภาษาอังกฤษ)

7. เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวที่มีเอกลักษณ์ของโกเบ อยู่ไม่ไกลจากสถานีชินนางาตะ (Shin-Nagata)

"เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28" เป็นชื่อของมังงะและอนิเมะทางโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมในช่วงปี 1950-1960 เป็นเรื่องราวที่พระเอกของเรื่องซึ่งเป็นเด็กหนุ่มบังคับหุ่นยนต์ขนาดใหญ่ "เทตสึจิน หมายเลย28" ต่อสู้กับเหล่าร้ายและหุ่นยนต์ศัตรูเพื่อความสงบสุขของโลก

Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

เนื่องจากคุณโยโกยามะ มิทสึเทรุ ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้เกิดที่เมืองโกเบ จึงมีการจัดตั้งหุ่น "เทตสึจิน หุ่นเหล็กหมายเลข 28" ขนาดมหึมาในสวนวากามัตสึ (Wakamatsu Park)ทางใต้ของสถานี JR ชินนางาตะ (JR Shin-Nagata) ตัวหุ่นสูงประมาณ 15 เมตร หนักประมาณ 50 ตัน ขนาดใกล้เคียงกับในเรื่องการ์ตูน ใครเห็นก็ต้องรู้สึกว้าวกับความอลังการแน่นอนค่ะ

Tetsujin 28-go Monument
ที่อยู่: Wakamatsu Park, 6-3 Wakamatsucho, Nagata, Kobe Google Map

5 จุดชอปปิงสำหรับทุกคน

หากอยากจะชอปปิง ไปเฮียวโกะกันค่ะ! เฮียวโกะเป็นสถานที่ครบครันสำหรับนักชอป ทั้งเอาท์เลทถึง 2 แห่ง และพื้นที่ที่มีแฟชั่นอินเทรนด์เรียงราย

1. เอาท์เลทมอลล์ (Outlet Malls)

Kobe-Sanda Premium Outlets. Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

เมืองโกเบ จังหวัดเฮียวโกะ มีเอาท์เลทอยู่ 2 แห่ง คือ "Kobe-Sanda Premium Outlets" และ "Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe"

Kobe-Sanda Premium Outlets เป็นเอาท์เลทที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในญี่ปุ่น และใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นฝั่งตะวันตก ที่มีร้านค้ามากกว่า 200 ร้านค่ะ

Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe Picture courtesy of KOBE TOURISM BUREAU

ส่วน Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe เป็นเอาท์เลทที่อยู่ติดทะเล มีร้านค้าประมาณ 140 ร้าน ตกแต่งสไตล์ยุโรปตอนใต้ในลักษณะศูนย์การค้าแบบเปิด (Open Mall)

Kobe-Sanda Premium Outlets
ที่อยู่: 7-3 Kozudai, Kita, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://www.premiumoutlets.co.jp/kobesanda/ (ภาษาญี่ปุ่น)

Mitsui Outlet Park Marine Pia Kobe
ที่อยู่: 12-2 Kaigandori, Tarumi, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://mitsui-shopping-park.com/mop/kobe/english/ (ภาษาอังกฤษ)

2. ซาคาเอะมาจิและทอร์เวสต์

Sakaemachi　

ซาคาเอะมาจิ (Sakaemachi) เป็นย่านหนึ่งใจกลางเมืองโกเบ ใช้เวลาเดินจากโมโตมาจิ (Motomachi) ประมาณ 10 นาที ที่รวมร้านค้าต่างๆ เช่น ร้านขายของชำที่รีโนเวทจากอาคารย้อนยุค ร้านเสื้อผ้า แกลลอรี่ และคาเฟ่ เอาไว้

Torwest

และย่านทอร์เวสต์ (Torwest) ย่านชอปปิงที่อยู่ระหว่างสถานีซันโนมิยะ (Sannomiya) และสถานีโมโตมาจิ (Motomachi) มีร้านเสื้อผ้าเล็กๆ แต่มีสินค้าครบครัน ร้านเสื้อผ้ามือสอง และคาเฟ่ เรียงรายซ่อนอยู่ในตรอกเล็กๆ เป็นถนนที่แค่เดินเล่นก็เพลิดเพลินแล้วค่ะ

Sakaemachi: Google Map
Torwest: Google Map

3. ถนนอุโอโนทานะ โชเทนไก (Uonotana Shotengai)

ภาพจาก "มาลิ้มลองอาหารทะเลที่พึ่งตกใหม่ๆ ！เฮียวโกะ อากาชิ ย่านการค้า Uonotana"

อุโอโนทานะ โชเทนไก อยู่แถวพื้นที่อากาชิ (Akashi area) เป็นย่านการค้าที่คนท้องถิ่นมักจะมาเดินกัน ว่ากันว่ามีมาตั้งแต่ 400 ปีที่แล้ว ย่านนี้เต็มไปด้วยอาหารที่คนญี่ปุ่นกินกันในชีวิตประจำวัน เช่น อาหารทะเลสด ของดอง และเครื่องเคียงต่างๆ เรียงรายให้เลือกซื้อกันค่ะ

Uonotana Shotengai
ที่อยู่: Honmachi, Akashi, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.uonotana.or.jp/index.html (ภาษาญี่ปุ่น)

4. Kobe Brick Warehouse และ Umie

ภาพจาก "นั่งคาเฟ่ชิคๆ และหาซื้อเครื่องเขียนในย่านเก๋ริมท่าเรือโกเบที่ Kobe Brick Warehouse"

บริเวณอ่าวโกเบมีอาคารพาณิชย์ต่างๆ มากมาย เราขอแนะนำ Kobe Brick Warehouse (Kobe Renga Soko) ภายในอาคารอิฐหนาที่สร้างขึ้นในครึ่งหลังของทศวรรษ 1890 มีคาเฟ่และร้านอาหารค่ะ

ด้านในมีร้านขายเครื่องเขียน NAGASAWA สาขา Kobe Brick Warehouse เรียงรายไปด้วยเครื่องเขียนนานาชนิดที่คัดสรรจากทั่วญี่ปุ่นโดยพนักงานผู้ชื่นชอบเครื่องเขียน แม้คนที่ไม่สนใจเครื่องเขียนเป็นพิเศษก็ยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจค่ะ

Kobe Brick Warehouse
ที่อยู่: 1-5-5 Higashi-kawasakicho, Chuo, Kobe,Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.kobe-renga.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

Kobe Harborland umie

หากเดินจาก Kobe Brick Warehouse ต่อมาอีกประมาณ 5 นาที จะเจอห้างสรรพสินค้า Kobe Harborland umieเป็นอีกจุดชอปปิงที่น่าสนใจค่ะ

Kobe Harborland and Umie
ที่อยู่: 1-7-2 Higashi-kawasakicho, Chuo, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://en.umie.global/

5. ซันโนมิยะเซ็นเตอร์ไก (Sannomiya Center Gai Shopping Street)

ซันโนมิยะเซ็นเตอร์ไก เป็นย่านการค้ายาวประมาณ 600 เมตร อยู่ไม่ห่างจากสถานีซันโนมิยะ (Sannomiya) ในโกเบ มีร้านค้าเรียงรายตลอดสองข้างทางตั้งแต่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้า ร้านเสื้อผ้า ไปจนถึงคาเฟ่ค่ะ

Sannomiya Center Gai Shopping Street
ที่อยู่: Sannomiyacho, Chuo, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://en.kobe-sc.jp/

5 ของอร่อยไม่กินไม่ได้

1. เนื้อโกเบกิว (Kobe Beef)

ภาพจาก "มื้อเที่ยงสุดหรูด้วยเนื้อโกเบกิวราคาน่าคบที่ เทปปันยากิ Kobe Tanryu"

หากมาที่โกเบ ต้องมาทานเนื้อโกเบกิวกันนะคะ! เนื้อโกเบกิวเป็นแบรนด์เนื้อวัวของจังหวัดเฮียวโกะอยู่ในวัวสายพันธ์ทาจิมะ ได้รับการรับรองจากสมาคมส่งเสริมการจัดจำหน่ายเนื้อโกเบกิว (Kobe Beef Marketing & Distribution Promotion Association) ซึ่งมีมาตรฐานการตรวจที่เข้มงวด

หากอยากจะกินสเต๊กดีๆ คุณภาพสูง ขอแนะนำร้านมิโซโนะ (Misono) ร้านต้นตำรับเท็ปปันยากิสเต็ก แต่ถ้าต้องการราคาย่อมเยาลงมาหน่อย ร้านโกเบทันริว(Kobe Tanryu)มีเมนูอาหารกลางวันเนื้อโกเบกิวในราคาประมาณ 3,000 เยนค่ะ และหากนึกถึงอาหารจานด่วนของญี่ปุ่นอย่างข้าวหน้าเนื้อ ก็ต้องเป็นร้านฮิโรชิเกะ (Hiroshige)ที่เสิร์ฟข้าวหน้าเนื้อสุดหรูจากเนื้อโกเบกิวค่ะ!

2. ขนมปัง

ภาพจาก "4 ขนมปังแนะนำในโกเบ เมืองแห่งขนมปังชื่อดัง"

โกเบเป็นเมืองประวัติศาสตร์ซึ่งมีวัฒนธรรมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมต่างประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เชฟขนมปังชาวเยอรมันได้เข้ามาเปิดร้านเบเกอรี่ ทำให้เกิดวัฒนธรรมการกินขนมปังในโกเบขึ้น

ขนมปังจากร้านดังที่น่าสนใจ เช่น "ขนมปังครีมแบล็คที (Black Tea Cream Bread)" ขนมปังสอดไส้ครีมรสชาดำ (ชาฝรั่) ที่ใส่ใบชาอย่างเต็มที่ จากร้านซา มาร์ชุ (Ça Marche) ร้านขนมปังชื่อดังในย่านคิตาโนะ โกเบ รวมทั้ง "อังโชคุ (Anshoku)" ขนมปังแถวไส้อังโกะ (ถั่วแดงกวน)ยอดนิยมจากร้านโทมี่ส์ (Tommy’s) มาลองชิมขนมปังในวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ของเมืองโกเบกันดูนะคะ

3. อาหารจีนที่นันคินมาจิ (Nankinmachi)

เป็ดปักกิ่ง หนังเป็ดย่างกรอบห่อกับต้นหอม ราดซอสหวาน ภาพจาก "15 สิ่งน่าทำเมื่อไปโกเบ (Kobe) เมืองท่าแสนสวยใกล้โอซาก้า"

เมื่อเดินจากสถานีโมโตมาจิ (Motomachi) ประมาณ 5 นาที จะถึงนันคินมาจิ ย่านไชน่าทาวน์ของญี่ปุ่นตะวันตก ในอาณาบริเวณจากตะวันตกถึงตะวันออก 270 เมตร และจากเหนือถึงใต้ 110 เมตร อัดแน่นด้วยร้านรวงต่างๆ กว่า 100 ร้านค้าค่ะ

จะเข้าร้านอาหารเพื่อทานมื้อกลางวันหรือดินเนอร์ก็ดี หรือจะซื้ออาหารกินง่ายๆ จากร้านข้างทาง เดินไปกินไปก็เป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนุกของไชน่าทาวน์นะคะ

Nankinmachi
ที่อยู่: Sakaemachidori, Chuo, Kobe, Hyogo Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://www.nankinmachi.or.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)

4. อากาชิยากิ (Akashiyaki)

อากาชิยากิเป็นเมนูคล้ายทาโกยากิ ซึ่งใช้ปลาหมึกยักษ์ที่จับได้ในเมืองอากาชิ จังหวัดเฮียวโกะเป็นส่วนผสมหลัก

ทาโกยากิจะใส่ปลาหมึกยักษ์กับต้นหอมในเนื้อแป้งที่ทำจากแป้งสาลีแล้วนำไปย่าง ราดซอสและกิน ส่วนอากาชิยากิจะมีไข่เป็นส่วนผสมมากกว่าทาโกยากิ และกินคู่กับซุปซึยุแทนซอสค่ะ ยิ่งใส่ไข่เยอะ เนื้อแป้งยิ่งนุ่มฟู ส่วนด้านในจะเยิ้มๆ เป็นเมนูที่กินเพลินๆ ได้เรื่อยๆ ค่ะ

5. ขนมหวานของฝาก

ภาพจาก "อิ่มอร่อยกับขนมหวานกลมกล่อม! 5 ของฝากจากจังหวัดเฮียวโกะ"

โกเบมีร้านขนมหวานที่ทันสมัยมากมาย ท้ายสุดนี้ขอแนะนำขนมหวานของฝากจากโกเบค่ะ

ขนมหวานที่ได้รับความนิยมสูงอย่างหนึ่งของโกเบก็คือ "โกเบมาโฮ โนะ สึโบะพุดดิ้ง (Kobe Magic Pot Pudding)" จากร้านโกเบฟรานซ์ (Kobe Frantz’s) ในไหประกอบด้วยส่วนผสม 3 ชั้น คือ ครีม คัสตาร์ด และคาราเมล มีการออกแบบถ้วยพุดดิ้งเป็นไหขนาดเล็กน่ารักมากค่ะ

ภาพจาก "อิ่มอร่อยกับขนมหวานกลมกล่อม! 5 ของฝากจากจังหวัดเฮียวโกะ"

โกรฟเฟรอะ (Gaufre) เป็นขนมที่ทำจากแผ่นแป้งเซมเบ้บางๆ สอดไส้ครีมรสหวาน เป็นขนมที่ดัดแปลงจากขนมหวานของฝรั่งเศสเป็นสไตล์ญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่ประมาณมือของผู้ชายค่ะ

วิธีเดินทางสู่โกเบ

สถานีโกเบ ซันโนะมิยะ ของรถไฟฮันคิว ภาพจาก "15 สิ่งน่าทำเมื่อไปโกเบ (Kobe) เมืองท่าแสนสวยใกล้โอซาก้า"

ขอแนะนำการเดินทางไปเมืองโกเบ พื้นที่ศูนย์กลางของจังหวัดเฮียวโกะ

จากโอซาก้า - เกียวโต

เดินทางไปสถานี JR ซันโนะมิยะ (JR Sannomiya) จากโอซาก้าใช้เวลาเร็วสุด 21 นาที (รถไฟ JR สายโกเบ ชินไคโซคุ - JR Kobe Line Limited Express, 410 เยน) และจากเกียวโต ใช้เวลาเร็วสุด 52 นาทีค่ะ (รถไฟ JR สายเกียวโต ชินไคโซคุ - JR Kyoto Line Limited Express, 1,080 เยน)

จากสนามบินนานาชาติคันไซ

หากเดินทางจากสนามบินนานาชาติคันไซ แนะนำให้นั่งรถบัสค่ะ

จากเทอมินอล 1 ของสนามบินคันไซ
ออกจากล็อบบี้ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ขึ้นรถบัสป้ายที่ 6 ปลายทางโกเบซันโนะมิยะ - รกโกไอส์แลนด์ (Kobe-Sannomiya/Rokko Island) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 65 นาที

จากเทอมินอล 2 ของสนามบินคันไซ
ออกจากล็อบบี้ผู้โดยสาร ขึ้นรถบัสป้ายที่ 4 ปลายทางโกเบซันโนะมิยะ - รกโกไอส์แลนด์ (Kobe-Sannomiya/Rokko Island) ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที

*ซื้อตั๋วรถบัสก่อนที่เครื่องจำหน่ายอัตโนมัติใกล้ป้ายรถ

จุดลงรถบัสปลายทาง: Kobe-Sannomiya Google Map

ค่าโดยสาร:
เที่ยวเดียว 1,950 เยน (ผู้ใหญ่) / 980 เยน (เด็ก)
ไปกลับ 3,080 เยน (ผู้ใหญ่)

ขอให้สนุกกับเฮียวโกะนะคะ

เฮียวโกะเป็นเมืองที่มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งสถานที่มรดกโลก เมืองท่าอันทันสมัย แหล่งชอปปิง และอาหารอร่อยๆ ขอให้ท่องเที่ยวกันให้สนุกนะคะ

Main image courtesy of KOBE TOURISM BUREAU