AEON MALL Tokoname ศูนย์การค้าที่มีออนเซ็นและสนามแข่งรถ! เดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์มาแค่ 3 นาที

เพลิดเพลินกับอาราชิยามะ เกียวโต (Arashiyama Kyoto)! สิ่งน่าทำ, สถานที่ขึ้นชื่อน่าไป, ข้อมูลการเดินทาง และอื่นๆ

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

อาราชิยามะ เกียวโตเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ในเกียวโต เมืองหลวงเก่า ที่มีวัดเท็นริวจิ ทางเดินป่าไผ่ และสิ่งก่อสร้างเชิงประวัติศาสตร์มากมาย บทความนี้ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ พร้อมทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเที่ยวด้วยค่ะ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ไฮไลต์น่าสนใจในอาราชิยามะและข้อมูลที่เป็นประโยชน์

Arashiyama Bamboo Grove

อาราชิยามะเป็นพื้นที่ที่มีสถานที่มีชื่อเสียงมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางป่าไผ่ที่หนาทึบ วัดเท็นริวจิ (Tenryuji Temple) มรดกโลก และอาคารบ้านเรือนเก่าที่ได้รับการอนุรักษ์ อาราชิยามะจึงเป็นสถานที่ที่ขาดไม่ได้ในการท่องเที่ยวเกียวโตค่ะ

นอกจากสามารถเดินทางไปได้ง่ายๆ ด้วยรถไฟจากสถานีเกียวโตแล้ว ยังมีทิวทัศน์และสิ่งน่าทำมากมายที่หาชมและหาทำได้เฉพาะที่นี่ จึงมักคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ

บทความนี้ขอแนะนำข้อมูลอันเป็นประโยชน์ เช่น 8 สถานที่ขึ้นชื่อในอาราชิยามะและอาหารขึ้นชื่อ รวมทั้งวิธีท่องเที่ยวแบบเลี่ยงความแออัด การเดินทางไปยังอาราชิยามะ และตั๋วสุดคุ้ม

คู่มือแนะนำอาราชิยามะ

8 สถานที่ขึ้นชื่อ
1. เส้นทางป่าไผ่ (Chikurin no Komichi หรือ Arashiyama Bamboo Grove)
2. วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple): วัดเซ็นที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
3. สวนลิงอาราชิยามะ (Arashiyama Monkey Park Iwatayama): พบกับสัตว์โลกน่ารัก
4. สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge): ดื่มด่ำกับวิวงดงาม
5. รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ (Sagano Romantic Train)
6. โอโคจิซังโซ (Okochi Sanso Villa): ชมบ้านญี่ปุ่นโบราณ
7. วัดโจจัคโคจิ (Jojakko-ji Temple): สัมผัสกับความเงียบสงบ
8. วัดกิโอจิ (Giouji Temple): สวนมอสญี่ปุ่นที่เงียบสงบ

อาหารขึ้นชื่อ
9. อาหารว่างแนะนำ
10. อาราชิยามะ โยชิมูระ (Arashiyama Yoshimura): โซบะ
11. ชิเก็ตสึ (Shigetsu): โชจินเรียวริ
12. อราบิก้า เกียวโต อาราชิยามะ (% Arabica Kyoto Arashiyama)

วิธีการเดินทาง
13. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนอาราชิยามะ
14. การเดินทางจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตไปอาราชิยามะ

1. เส้นทางป่าไผ่ (Chikurin no Komichi หรือ Arashiyama Bamboo Grove)

Arashiyama Bamboo Grove

หากจะกล่าวว่าเส้นทางป่าไผ่เป็นสัญลักษณ์ของอาราชิยามะก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริง น่าจะมีใครหลายคนเคยเห็นรูปต้นไผ่เขียวขจีและบรรยากาศลึกลับบนโซเชียลมีเดียใช่ไหมคะ แต่ "สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" พอได้ลองไปเดินเล่นที่นี่จริงๆ เราจะรู้สึกราวกับกำลังเดินเข้าไปในอีกโลกหนึ่ง เส้นทางนี้สามารถเดินเล่นได้ตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

ทางเดินนี้มีความยาวทั้งหมดประมาณ 600 เมตร ในละแวกรอบๆ มีสถานีโทร็อคโคะอาราชิยามะ (Torokko Arashiyama), วัดเท็นริวจิ วัดนิกายเซนที่มีชื่อเสียง และโอโคจิซังโซที่ก่อตั้งโดยดารานักแสดงผู้มีผลงานในช่วงครึ่งแรกของทศวรรษที่ 20 ทั้งหมดตั้งอยู่ทางเหนือของสะพานโทเก็ตสึเคียวที่จะกล่าวถึงหลังจากนี้

ในเดือนธันวาคมมีการจัดอิลูมิเนชั่น (ไฟประดับ) ในช่วงกลางคืน ช่วยเพิ่มบรรยากาศให้ดูลึกลับขึ้นไปอีกขั้น

ตลอดทั้งปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยอะมากโดยเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และจะแน่นมากในช่วงเที่ยงของวัน ท่านที่อยากหลีกเลี่ยงความแออัดของผู้คนจึงควรเลี่ยงช่วงเวลาดังกล่าวค่ะ

2. วัดเท็นริวจิ (Tenryu-ji Temple): วัดเซ็นที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก

Tenryuji Temple

Picture courtesy of Tenryu-ji Temple

วัดเท็นริวจิเป็นหนึ่งในวัดนิกายเซ็นชั้นนำของญี่ปุ่น สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1339 จากความสำคัญเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ จึงได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์กรยูเนสโก (UNESCO)

ผู้เดินทางมาสักการะสามารถเที่ยวชมวิหารต่างๆ ในวัด รวมถึงฮัตโต (หอเทศนาธรรม) ที่มีภาพมังกรในหมู่เมฆ (Cloud Dragon) อันมีชื่อเสียง ในสวนญี่ปุ่นที่มีต้นไม้ล้อมรอบสระน้ำ สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่งดงามได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังสามารถทดลองนั่งสมาธิและคัดลอกคัมภีร์พระสูตรได้ด้วย

ร้านอาหารชิเก็ตสึ (Shigetsu) ที่อยู่ในวัด สามารถชิมอาหารมังสวิรัติ (อาหารในศาสนาพุทธดั้งเดิมที่ทำจากผัก เต้าหู้ และอื่นๆ) อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในเว็บไซต์ทางการด้านล่าง

เนื่องจากวัดนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง จึงคาดได้ว่าช่วงสุดสัปดาห์และช่วงเทศกาลจะมีคนหนาแน่นค่ะ

Tenryuji Temple

Picture courtesy of Tenryu-ji Temple

วัดเท็นริวจิใช้เวลาเดินจากสถานี JR ซากะอาราชิยามะ (JR Saga-Arashiyama) ประมาณ 13 นาที หรือเดินจากสถานีฮันคิวอาราชิยามะ (Hankyu Arashiyama) ประมาณ 15 นาที ค่าธรรมเนียมการเข้าชมสวนญี่ปุ่น ผู้ใหญ่ 500 เยน (เข้าสักการะวิหารต่างๆ เพิ่มอีก 300 เยน) หากจะสักการะในฮัตโตต้องชำระแยกต่างหากอีก 500 เยนค่ะ (เข้าสักการะฮัตโตได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันสักการะพิเศษในฤดูใบไม้ผลิกับใบไม้ร่วงเท่านั้น) โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่

เปิดให้เข้าสักการะในเวลา 8:30 - 17:30 น. ตลอดทั้งปี ยกเว้นในช่วงวันที่ 21 ตุลาคม - 20 มีนาคม จะเปิดในเวลา 8:30 - 17:00 น. และประตูวัดจะปิดก่อนหมดเวลาสักการะ 30 นาทีค่ะ

วัดเท็นริวจิ
ที่อยู่: 68 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.tenryuji.com/en/

3. สวนลิงอาราชิยามะ (Arashiyama Monkey Park Iwatayama): พบกับสัตว์โลกน่ารัก

Arashiyama Monkey Park Iwayatama

Picture courtesy of Arashiyama Monkey Park Iwatayama

ที่สวนลิงอาราชิยามะ เราสามารถชมลิงกังญี่ปุ่นตามธรรมชาติที่อาศัยบนภูเขาที่มองเห็นเมืองเกียวโตทั้งเมืองได้

ที่นี่เหมาะกับการมาเที่ยวแบบครอบครัวและคนรักสัตว์ เหล่าลิงน้อยน่ารักจะทำให้หัวใจของผู้มาเยือนอ่อนโยน

หากซื้ออาหารสัตว์ที่จุดพักผ่อน ก็สามารถให้อาหารลิงได้ (ห้ามนำอาหารสัตว์เข้ามาเอง) แต่นอกจากพื้นที่ที่กำหนดแล้ว ให้หลีกเลี่ยงการให้อาหาร สัมผัส หรือสบตาลิงเป็นเวลานานๆ ค่ะ

สวนลิงใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากสถานีฮันคิว อาราชิยามะ (Hankyu Arashiyama) หรือใช้เวลาเดิน 13 นาทีจากสถานี JR ซากะอาราชิยามะ (JR Saga-Arashiyama) จากทางเข้าไปจนถึงจุดที่ลิงรวมตัวกันอยู่ ใช้เวลาเดินขึ้นทางลาดชันประมาณ 20 นาที ให้เลือกเครื่องแต่งกายและรองเท้าที่สวมใส่ง่าย ส่วนสัมภาระเก็บไว้ในตู้ล็อกเกอร์หยอดเหรียญ จะทำให้สะดวกสบายมากขึ้นค่ะ

Arashiyama Monkey Park Iwayatama

Picture courtesy of Arashiyama Monkey Park Iwatayama

สำหรับเวลาทำการ ตั้งแต่ 15 มีนาคมถึง 30 กันยายน จะเปิดในเวลา 9:00 - 16:30 น. ส่วนวันที่ 1 ตุลาคมถึง 14 มีนาคม จะเปิดในเวลา 9:00 - 16:00 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ (อายุ 16 ปีขึ้นไป) 550 เยน, เด็ก (4 ขวบ - 15 ปี) 250 เยน, เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบเข้าฟรี

สวนลิงอาราชิยามะ
ที่อยู่: 61 Arashiyama Nakaoshitacho, Nishikyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.monkeypark.jp/Englishpage.html

4. สะพานโทเก็ตสึเคียว (Togetsu-kyo Bridge): ดื่มด่ำกับวิวงดงาม

Togetsukyo Bridge

สะพานโทเก็ตสึเคียวอันงดงามเป็นสะพานที่มีชื่อเสียงระดับโลก สะพานข้ามแม่น้ำคัตสึระ (Katsura River) แห่งนี้ คอยรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากสถานีฮันคิวอาราชิยามะ (Hankyu Arashiyama)

ที่นี่เป็นจุดถ่ายรูปที่มีคนแน่นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูที่ซากุระบานและใบไม้เปลี่ยนสียิ่งคับคั่งด้วยผู้คนมากขึ้นไปอีก สำหรับท่านที่อยากหลีกเลี่ยงคนเยอะๆ แนะนำให้ไปตอนช่วงเช้าๆ ค่ะ ช่วงเทศกาลโอบ้งในกลางเดือนสิงหาคม ตอนกลางคืนจะมีการลอยโคมไฟบนแม่น้ำคัตสึระด้วย

สะพานโทเก็ตสึเคียว
ที่อยู่: Saganakanoshimacho, Ukyo, Kyoto Google Map

5. รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ (Sagano Romantic Train)

Sagano Scenic Railway

รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะเป็นรถไฟที่เพลิดเพลินกับธรรมชาติได้จากหน้าต่างขบวนรถ มีความยาวทั้งหมด 7 กิโลเมตร วิ่งคดเคี้ยวไปตามแม่น้ำคัตสึระระหว่างสถานีโทร็อคโคะซากะ (Torokko Saga) กับสถานีโทร็อคโคะคาเมโอกะ (Torokko Kameoka)

รถไฟย้อนยุคขบวนนี้วิ่งด้วยความเร็วช้าๆ จึงสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์รอบๆ ตลอดเวลาที่โดยสาร 25 นาทีได้ หากลงรถที่สถานีโทร็อคโคะคาเมโอกะ ก็จะถึงเมืองคาเมโอกะที่มีธรรมชาติ อุดมสมบูรณ์ ซึ่งต่างกับเมืองเกียวโตโดยสิ้นเชิง

การโดยสารรถไฟ ให้ไปขึ้นที่สถานีโทร็อคโคะอาราชิยามะหรือสถานีโทร็อคโคะซากะ ตั๋วโดยสารสามารถซื้อในวันเดินทางได้ แต่สามารถหาซื้อได้ที่เคาน์เตอร์ขายตั๋ว (Midori-no-Madoguchi Counter) ของ JR-West

"เดอะริชคาร์ (The Rich Car)" ตู้รถไฟหมายเลข 5 (Car No. 5) ที่เพดานรถไฟเป็นกระจกใส และตัวรถเปิดโล่งไม่มีกระจกหน้าต่างปิด ทำให้ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ได้มากยิ่งขึ้น ตั๋วรถไฟตู้นี้ซื้อได้แค่ที่สถานีโทร็อคโคะในวันเดินทางเท่านั้น

รถไฟสายโรแมนติกซากาโนะ
เว็บไซต์ทางการ: https://www.sagano-kanko.co.jp/en/

6. โอโคจิซังโซ (Okochi Sanso Villa): ชมบ้านญี่ปุ่นโบราณ

Okochi Sanso Villa

Picture courtesy of Okochi Sanso Villa

โอโคจิซังโซ เป็นบ้านพักตากอากาศที่สร้างขึ้นโดยโอโคจิ เด็นจิโร่ (ค.ศ. 1898 - 1962) นักแสดงภาพยนตร์ที่มีผลงานช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 ตัวอาคารได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี และยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมอีกด้วย

ภายในบริเวณบ้านพักตากอากาศมีห้องชงชาและสวนญี่ปุ่นด้วย ผู้ที่เดินทางมาเยือนจึงสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมได้หลากหลาย อีกทั้งยังสามารถเดินเล่นสบายๆ ในสวนได้ด้วย จึงสามารถพักผ่อนสักครู่ก่อนออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป

Okochi Sanso Villa

Picture courtesy of Okochi Sanso Villa

ค่าเข้าชม 1,000 เยน ราคานี้รวมชาเขียวกับขนมญี่ปุ่นด้วย เวลาเปิดสวน 9:00 - 17:00 น. ไม่มีวันหยุดตลอดทั้งปี ใช้เวลาเดิน 15 นาทีจากสถานี JR ซากะอาราชิยามะ (JR Saga Arashiyama) และอยู่ติดกับสถานีโทร็อคโคะอาราชิยามะ (Torokko Arashiyama)

โอโคจิซังโซ
ที่อยู่: 8 Sagaogurayama Tabuchiyamacho, Ukyo, Kyoto Google Map

7. วัดโจจัคโคจิ (Jojakko-ji Temple): สัมผัสกับความเงียบสงบ

常寂光寺

Picture courtesy of Jojakko-ji Temple
วัดโจจัคโคจิขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติอันสมบูรณ์และสถาปัตยกรรมอันน่าทึ่ง หนึ่งในสิ่งที่มีชื่อเสียงคือเจดีย์ทาโฮโต (Tahoto) ซึ่งสร้างขึ้นในต้นศตวรรษที่ 17 ยังมีประตูนิโอมง (Niomon) ซึ่งสร้างขึ้นในศตวรรษที่ 14 ถือว่าเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน

Jojakkoji Temple

Picture courtesy of Jojakko-ji Temple

ภายในวัดมีต้นไม้และดอกไม้ปลูกไว้มากมาย ทำให้สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของแต่ละฤดูกาลได้ ฤดูใบไม้ร่วงมีใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงาม ส่วนฤดูใบไม้ผลิมีดอกโมจิสึสึจิสีชมพู (ดอกสึสึจิชนิดหนึ่ง) บานสะพรั่งตัดกับมอสสีสดใส

วัดโจจัคโคจิใช้เวลาเดิน 5 นาทีจากทางออกทิศเหนือของป่าไผ่ เวลาเปิดให้สักการะ 9:00 - 17:00 น. (แผนกต้อนรับเปิดถึง 16:30 น.) ค่าเข้าชม 500 เยน

วัดโจจัคโคจิ
ที่อยู่: 3 Sagaogurayama Oguracho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://www.jojakko-ji.or.jp/

8. วัดกิโอจิ (Giouji Temple): สวนมอสญี่ปุ่นที่เงียบสงบ

Gioji Temple

Picture courtesy of Giouji Temple

วัดกิโอจิก็เป็นวัดที่มีชื่อเสียงซึ่งขึ้นชื่อเรื่องโซอัน (บ้านหลังคามุงฟาง) และสวนมอสขนาดใหญ่ วัดนี้ปรากฏใน "ตำนานเฮเคะหรือเฮเคะโมโนกาตาริ (The Tale of the Heike)" ที่พูดถึงสงครามเก็มเป (Genpei War) สงครามภายในประเทศที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 12 ที่นี่ได้รับความนิยมมากในฐานะจุดชมทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งผู้ที่มาสักการะจะต้องทึ่งกับความงดงามนั้นแน่นอน

Gioji Temple

Picture courtesy of Giouji Temple

เวลาเปิดให้เข้าสักการะ 9:00 - 17:00 น. (แผนกต้อนรับเปิดถึง 16:30 น.) วัดกิโอจิเป็นวัดในสายวัดไดคาคุจิ (Daikakuji Temple) หากซื้อตั๋วเข้าชมแบบเหมารวมราคา 600 เยน จะสามารถเข้าวัดทั้ง 2 แห่งนี้ได้ จากวัดกิโอจิเดินไปวัดไดคาคุจิใช้เวลาราว 25 นาที

วัดกิโอจิ
ที่อยู่: 32 Sagatoriimoto Kozakacho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.giouji.or.jp/en

9. อาหารว่างแนะนำ

Dango

แน่นอนว่า ที่อาราชิยามะเราจะได้ชิมอาหารญี่ปุ่นและลิ้มรสอาหารว่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเกียวโตด้วย โดยเฉพาะในละแวกสะพานโทเก็ตสึเคียวมีร้านรวงที่ขายอาหารกินง่ายๆ ตั้งเรียงอยู่หลายร้าน

ของว่างยอดนิยมก็คือดังโงะ (ขนมเสียบไม้ที่ทำจากแป้งข้าวจ้าว) กินกับถั่วแดงกวนหรือราดซอสมิทาราชิที่มีรสหวานออกเค็มนิดๆ ดังโงะมีหลายแบบต่างกันตามท้องถิ่นหรือฤดูกาล

ของว่างที่หากินได้เฉพาะที่อาราชิยามะคือซอฟต์ครีมเต้าหู้ ซอฟต์ครีมของ "เคียวซุอัน (Kyozuan)" มีชื่อเสียงในเรื่องความเหนียวหนึบ คว่ำแล้วไม่หกแน่นอน

สำหรับคนที่อยากกินแบบอิ่มท้อง แนะนำให้กินโครกเกะที่เพิ่งทอดเสร็จใหม่ๆ เราจะได้เพลิดเพลินกับโครกเกะที่ใช้วัตถุดิบต่างกันในร้านหลายแห่ง เหมาะจะซื้อเพื่อเดินกินไปด้วย

10. อาราชิยามะ โยชิมูระ (Arashiyama Yoshimura): โซบะ

Arashiyama Yoshimura

Picture courtesy of Arashiyama Yoshimura

"อาราชิยามะ โยชิมูระ" ร้านโซบะทำมืออยู่ใกล้กับสะพานโทเก็ตสึเคียว ริมแม่น้ำคัตสึระ เป็นร้านโซบะ (เส้นที่ทำจากแป้งโซบะนวดด้วยน้ำและหั่นละเอียด) ที่มีชื่อเสียง และยังเพลิดเพลินกับชุดโซบะหลากหลายแบบให้เลือก เช่น ปลา เท็มปุระ หรือผักดองเกียวโต เมนูที่ร้านมีทั้งภาษาอังกฤษ ภาษาจีน และภาษาเกาหลี

เวลาทำการปกติ 11:00 - 17:00 น. แต่จะต่างกันตามฤดูกาล ควรตรวจสอบเวลาทำการบนเว็บไซต์ทางการให้ดีๆ นะคะ

อาราชิยามะ โยชิมูระ
ที่อยู่: 3 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://yoshimura-gr.com/soba/index.php

11. ชิเก็ตสึ (Shigetsu): โชจินเรียวริ

Shigetsu

Picture courtesy of Tenryuji

"ชิเก็ตสึ" เป็นร้านอาหารที่อยู่ในวัดเท็นริวจิ ที่นี่เป็นร้านที่สามารถกินโชจินเรียวริ (อาหารมังสวิรัติหรืออาหารเจของญี่ปุ่น) ซึ่งเป็นอาหารแบบพุทธศาสนาดั้งเดิมอย่างข้าวกับเต้าหู้และผักตามฤดูกาล โชจินเรียวริที่ไม่ใช้วัตถุดิบจากเนื้อสัตว์ใดๆ ทั้งสิ้น จึงเหมาะที่สุดในกรณีที่คนมาด้วยมีความกังวลเกี่ยวกับการกินอาหารค่ะ

ในรายการอาหารมีเขียนไว้ทั้งหมด 3 เมนู แต่บางรายการต้องจองล่วงหน้า 2 ท่านขึ้นไป อาหารในรูปชื่อว่า "ยูกิ" เมนูนี้ไม่จำเป็นต้องจองก่อนค่ะ สามารถตรวจสอบอาหารอื่นๆ ได้ที่เว็บไซต์ทางการค่ะ

เปิดให้บริการในเวลา 11:00 - 14:00 น. ไม่เปิดทำการในช่วงมื้อเย็น ไม่มีวันหยุดตลอดทั้งปี

ชิเก็ตสึ
ที่อยู่: 68 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: http://www.tenryuji.com/en/shigetsu/

12. อราบิก้า เกียวโต อาราชิยามะ (% Arabica Kyoto Arashiyama)

% Arabica Kyoto Arashiyama

ถ้าอยากเรียกความสดชื่นกลับมาระหว่างเที่ยวล่ะก็ ไปที่ % ARABICA Kyoto Arashiyama กันเลย! ร้านกาแฟเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสะพานโทเก็ตสึเคียวแห่งนี้เราจะได้เพลิดเพลินกับsingle origin coffee (กาแฟที่มาจากแหล่งเพาะปลูกเดียว มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว) ซึ่งเลือกใช้กาแฟที่ผลิตในท้องถิ่น และลาเต้ที่สวยหรู ในญี่ปุ่นเปิดให้บริการ 3 สาขา โดยสาขาอาราชิยามะแห่งนี้มีทำเลติดแม่น้ำและกาแฟที่แสนอร่อยจึงมีลูกค้าแน่นตลอดทั้งวัน

ปกติแล้วต้องรอคิวตลอด สำหรับคนที่ไม่อยากรอคิว แนะนำให้ไปแต่เช้าค่ะ จะได้ลิ้มรสกาแฟแสนอร่อยไปพร้อมๆ กับชมวิวที่สวยงดงาม เวลาให้บริการ 8:00-18:00 น.

% ARABICA Kyoto Arashiyama
ที่อยู่: 3-47 Sagatenryuji Susukinobabacho, Ukyo, Kyoto Google Map
เว็บไซต์ทางการ: https://arabica.coffee/location/arabica-kyoto-arashiyama/ (ภาษาอังกฤษ)

13. ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปเยือนอาราชิยามะ

Arashiyama

อาราชิยามะเป็นสถานที่ยอดนิยม ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาก จึงควรเตรียมใจไว้เลยว่าต้องต่อคิวรอในจุดหมายที่อยากไปแน่นอน โดยปกติช่วงบ่าย สุดสัปดาห์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์จะมีคนแน่นมาก หากต้องการเลี่ยง แนะนำให้ไปช่วงวันธรรมดาหรือช่วงเช้าจะดีกว่าค่ะ สำหรับคนที่อยากถ่ายรูปทิวทัศน์แบบที่ไม่มีคน ให้ออกมาให้เช้าที่สุดเท่าที่ทำได้ค่ะ

ฤดูกาลซากุระบาน (ปลายเดือนมีนาคม -ต้นเดือนเมษายน) ในเกียวโต ก็เป็นช่วงที่มีนักท่องเที่ยวเยอะเช่นกัน สำหรับคนที่อยากเลี่ยงฝูงชน ในฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็ควรเลี่ยงช่วงปลายเดือนตุลาคมซึ่งเหมาะแก่การชมด้วยเช่นกัน แม้เราจะดื่มด่ำกับความงดงามของทิวทัศน์ในอาราชิยามะได้ทั้งสองฤดูกาล แต่ผู้คนก็จะเยอะมาก

14. การเดินทางจากสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองเกียวโตไปอาราชิยามะ

Sagano Scenic Railway

อาราชิยามะห่างจากใจกลางเกียวโตไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 9 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้สะดวก และมีวิธีการเดินทางหลายวิธี

หากเดินทางจากสถานี JR เกียวโต (JR Kyoto) ไปอาราชิยามะ ให้นั่งรถไฟสายซังอิน-ซากาโนะ (San'in/Sagano Main Line) ที่มุ่งหน้าไปยังคาเมโอกะ (Kameoka) หรือโซโนเบะ (Sonobe) และลงรถที่สถานีซากะอาราชิยามะ (Saga Arashiyama) ใช้เวลา 17 นาทีโดยรถไฟท้องถิ่น (Local Train จอดทุกสถานี) และ 11 นาทีโดยสารรถไฟด่วน (Rapid Train) ค่าโดยสารเที่ยวละ 240 เยน สามารถใช้ Japan Rail Pass ได้

เดินทางจากย่านกิอง (Gion) หรือคาวาฮาระมาจิ (Kawaramachi) ให้ใช้รถไฟฮันคิว (Hankyu Railway) จากสถานีฮันคิวคาวาฮาระมาจิ (Hankyu Kawaramachi) ขึ้นรถไฟขบวนที่ไปอุเมดะ (Umeda) เปลี่ยนขบวนที่สถานีคัตสึระ (Katsura) ไปลงที่สถานีอาราชิยามะ (Arashiyama) ใช้เวลาโดยสาร 14 นาที ค่าโดยสารเที่ยวละ 220 เยน

เส้นทางที่ 3 ก็คือรันเด็ง (Randen) รถรางที่วิ่งจากใจกลางเกียวโตไปยังอาราชิยามะ สำหรับผู้ที่อยากแวะวัดเรียวอันจิ (Ryoan-ji Temple) ที่มีสวนหินก็ให้ใช้บริการรถรางนี้ ค่าโดยสารเที่ยวละ 220 เยน ให้เปลี่ยนรถที่สถานีคาตาบิระโนะสึจิ (Katabiranotsuji) ใช้เวลาโดยสารประมาณ 25 นาที

ไปดื่มด่ำกับอาราชิยามะ เกียวโตกันเถอะ!

หากไปเที่ยวเกียวโตแล้ว ต้องไม่พลาดไปอาราชิยามะ ที่เดินทางไปได้สะดวก มีวัดและอาคารที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม และยังมีอาหารอร่อยๆ ให้ลิ้มรสด้วย การเที่ยวในอาราชิยามะจะใช้เวลาประมาณครึ่งวันหรือถึงหนึ่งวันเต็ม ที่นี่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวเยอะแค่สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมเท่านั้น ดังนั้นจึงควรวางแผนที่เป็นไปได้แน่ๆ และเหมาะกับกำหนดการเดินทางของตัวเองด้วยค่ะ

Written by

Avatar

Jasmine O

Kyoto, Japan

เกิดที่อเมริกาใต้ประเทศแคลิฟอร์เนียและในปัจจุบันอาศัยอยู่ในโอซาก้า ผมเป็นคนประหยัดทีน หลังจากจบระดับปริญญาวิชาการในสาขาเศรษฐศาสตร์ ฉันได้ร่วมโครงการ JET เพื่อสอนภาษาอังกฤษในจังหวัดเฮโยะโก และตัดสินใจที่จะทำงานในญี่ปุ่นในภายหลัง

หลังจากสำเร็จการศึกษาในโปรแกรม 10 เดือนที่มหาวิทยาลัยรวมของอเมริกาและแคนาดาศึกษาเรื่องญี่ปุ่น ฉันเป็นคนรับประทานอาหารเจ และหลงใหลในวัฒนธรรมญี่ปุ่น แถมยังเป็นคนที่ใช้มือซ้าย รักภาคภูมิตะวันตกมากเป็นพิเศษ!

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง