หวาน สด อร่อย! ผักอร่อยแบบเกษตรวิถีธรรมชาติของฟุกุชิมะ (Fukushima)
ผักธรรมดาทำไมถึงอร่อยได้ขนาดนี้! นี่คือเสียงตอบรับจริงจากคนที่ได้ลองทานผักอร่อยๆ จากเมืองอิวาคิ จังหวัดฟุกุชิมะ ไปชมเคล็ดลับความอร่อยของผักชั้นยอดของอิวาคิและร้านอิซากายะที่เตรียมเมนูอาหารท้องถิ่นแสนอร่อยไว้ต้อนรับทุกคน
พบกับความอร่อยของผักในฟุกุชิมะ
"ไม่เคยเจอผักที่อร่อยขนาดนี้มาก่อน" เมื่อได้ยินประโยคนี้เราเลยลองเดินทางมายังเมืองอิวาคิ (Iwaki) จังหวัดฟุกุชิมะ ภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku)
เมืองอิวาคิตั้งอยู่ทางใต้สุดของจังหวัดฟุกุชิมะที่กว้างใหญ่ ปลูกพืชผักต่างๆ ที่ใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศในท้องถิ่น ครั้งนี้เราได้ไปเยี่ยมฟาร์มมะเขือเทศ และเกษตรกรที่ปลูกกะหล่ำปลีและบล็อกโคลีซึ่งเป็นผักที่มีรสชาติอร่อยและเป็นที่นิยมในบรรดาผักทั้งหลายของฟุกุชิมะ
เราขอแนะนำเคล็ดลับความอร่อยของผักและร้านอิซากายะที่สามารถกินอาหารรสเลิศโดยใช้ผักแสนอร่อยนี้
* ผักที่ผลิตและส่งออกจากฟาร์มในเมืองอิวาคิ จังหวัดฟุกุชิมะ รวมถึงฟาร์มที่แนะนำในบทความนี้ได้ทำการควบคุมและตรวจสอบสารกัมมันตรังสีก่อนนำออกขาย ผลการตรวจทั้งหมดเผยแพร่บนเว็บไซต์ของเมืองอิวาคิ (ภาษาญี่ปุ่น) ผลการตรวจสอบสารกัมมันตรังสีของฟาร์มที่แนะนำในบทความนี้ยังไม่เคยเกินค่ามาตรฐานนับตั้งแต่เริ่มตรวจในปี 2011
ฟาร์มชิราอิชิ สุดยอดการทำเกษตรธรรมชาติ
แห่งแรกที่เราไปเยือนคือ ฟาร์มชิราอิชิ (Shiraishi Farm) ขับรถ 15 นาทีจากสถานีอิวาคิ
ที่นี่ได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคมากมาย บางคนถึงกับพูดว่า "ถ้าได้กินผักของที่นี่แล้วจะไม่อยากกินผักของที่อื่นอีกเลย"
เราได้รับการต้อนรับจากคุณชิราอิชิ นากาโทชิ เกษตรกรรุ่น 8 ที่สืบทอดสวนของตระกูลมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เขามีบุคลิกร่าเริงในชุดสีแดงสดที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ประจำตัวของเขา
เกษตรวิถีธรรมชาติที่ใช้ประโยชน์จากสภาพอากาศของอิวาคิอย่างเต็มที่
เกษตรวิถีธรรมชาติของฟาร์มชิราอิชิใช้วิธีเพาะปลูกที่ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงหรือปุ๋ยเคมี
ปล่อยให้ผักเติบโตเองตามสภาพธรรมชาติที่เป็นอยู่เท่าที่เป็นได้ เวลารดน้ำคือเวลาที่ฝนตกลงมาเองเท่านั้น เพราะคุณชิราอิชิเชื่อว่า "ผักที่อร่อยที่สุดคือผักที่ปลูกให้เหมาะสมกับดินและภูมิอากาศ"
ฟาร์มชิราอิชิล้อมรอบด้วยภูเขา บริเวณรอบสวนผักก็ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ ดังนั้นลมเย็นจะพัดจากภูเขามาสู่สวนผัก สายลมเย็นและแห้งนี้เองจะทำให้ผักมีรสหวานอร่อย
ผักที่ฟาร์มชิราอิชิปลูกในเดือนกุมภาพันธ์ที่เราไปพอดีคือกะหล่ำปลีและบล็อกโคลี "ลองชิมไหมครับ ส่วนสีขาวที่ใกล้แกนจะหวานที่สุดเลยครับ" คุณชิราอิชิพูดแล้วก็บิดกะหล่ำปลีมาให้เราชิม
กะหล่ำปลีสดและฉ่ำน้ำมาก
เสียงกะหล่ำปลีสดๆ ดังกร๊อบขึ้นมาทันทีที่เรากัด จากนั้นก็ตามมาด้วยความหวานที่กระจายออกมาในทุกครั้งที่เคี้ยวโดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรเลย พอเราร้องว่าอร่อยมาก! คุณชิราอิชิที่ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ก็พูดออกมาว่า "นี่แหละกะหล่ำปลีของเราครับ"
คุณชิราอิชิกล่าวต่อว่า "แต่ปีนี้แย่ครับ 90% ของผักเสียหายหมด"
90% ของผักที่เสียหายจากพายุ ไม่สามารถนำออกขายได้
ร่องรอยความเสียหายจากพายุก็ยังหลงเหลือให้เห็นอยู่ในฟาร์มชิราอิชิ
ความจริงแล้วในเดือนตุลาคม 2019 พายุลูกใหญ่ได้โจมตีพื้นที่เมืองโอกาวามาจิ (Ogawamachi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของฟาร์มชิราอิชิ
พายุหมายเลข 19 (พายุไต้ฝุ่นฮากีบิส) สร้างความเสียหายมหาศาลไปทั่วประเทศญี่ปุ่น น้ำจากแม่น้ำนัตสึอิ (Natsui River) ที่อยู่ติดกับฟาร์มเอ่อล้นเข้ามาจนแปลงผักจมอยู่ใต้น้ำลึกหลายเมตร ผักกว่า 90% ตกอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถนำออกขายได้
สวนที่ควรจะมีกะหล่ำปลีเรียงรายอยู่กลับเต็มไปด้วยโคลน ผักที่ได้ก็เหลือน้อย
พอเราได้เห็นสภาพแปลงผักถูกปกคลุมไปด้วยโคลนแข็งอย่างนี้ก็คิดว่าคุณชิราอิชิคงกลุ้มใจจนแทบสิ้นหวัง แต่สิ่งที่เขาพูดออกมาเป็นคำพูดที่เราไม่คาดคิดมาก่อน
"เอาน่า ปีนี้แย่ แต่โคลนเยอะขนาดนี้ ปีหน้าผักต้องอร่อยแน่ๆ"
แปลงผักมีแต่โคลนอย่างนี้ จะปลูกผักให้อร่อยได้ยังไงกันนะ
โคลนนี่แหละที่ทำให้ผักอร่อย
"โคลนนี้เป็นโคลนดีที่เต็มไปด้วยสารอาหาร เห็นไหมครับว่าผักก็ยังงอกโตอยู่ ถ้าโคลนไม่ดีผักก็คงตายหมดแล้ว"
เดิมทีสวนผักของฟาร์มชิราอิชิตั้งอยู่บนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์พรั่งพร้อมด้วยสารอาหาร แล้วยังได้พายุช่วยพัดโคลนที่อุดมสมบูรณ์มาเติมให้อีก
แม่น้ำนัตสึอิที่ไหลอยู่ข้างแปลงผัก
หลังจากนี้คุณชิราอิชิจะไถเพื่อผสมโคลนและดินด้านใต้เข้าด้วยกันเพื่อเป็นสารอาหารให้ผัก "ด้วยสารอาหารจากโคลนนี้ ปีหน้าเราจะได้ผักที่อร่อยมากขึ้นครับ"
เมื่อ 30 ปีที่แล้วฟาร์มชิราอิชิก็เคยประสบอุทกภัยที่คล้ายคลึงกัน และสารอาหารจากโคลนที่ปกคลุม ณ เวลานั้นยังหลงเหลือมาถึงปัจจุบัน
"เพราะงั้นจากนี้ก็ไม่ต้องห่วงแล้วครับ ปลูกผักอร่อยๆ ต่อไปได้อีก 30 ปีเลยครับ" คุณชิราอิชิยังพูดเล่นพร้อมหัวเราะไปด้วยจนไม่น่าเชื่อว่าเพิ่งจะเจอกับภัยพายุครั้งใหญ่มา
"ตอนแรกผมคิดว่าเจอพายุขนาดนี้คงไม่ไหวแน่ๆ แต่ผักก็ยังมีชีวิตอยู่"
เปลี่ยนความสูญเสียจากน้ำท่วมให้เป็นพลังที่จะก้าวเดินต่อไป ถ้อยคำของคุณชิราอิชิผู้ปลูกผักแสนอร่อยด้วยเกษตรวิถีธรรมชาติอย่างแท้จริงนั้นเต็มไปด้วยพลังใจอันร้อนแรงไม่แพ้ชุดสีแดงประจำกายเลยจริงๆ
Wonder Farm สวนสนุกแห่งมะเขือเทศ
อิวาคิ เมืองที่ได้รับฉายาว่า "ฮาวายแห่งโทโฮคุ" เพราะมีช่วงเวลาที่แดดออกต่อวันยาวนาน ผักที่ปลูกโดยใช้ประโยชน์จากภูมิอากาศแบบนี้คือมะเขือเทศ
นั่งรถยนต์จากฟาร์มชิราอิชิประมาณ 15 นาที ก็มาถึง Wonder Farm สวนสนุกแห่งมะเขือเทศที่เพลิดเพลินได้ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่
Wonder Farm ไม่ได้ทำแค่ปลูกมะเขือเทศเฉยๆ แต่ยังพรั่งพร้อมด้วยร้านอาหารที่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารบุฟเฟ่ต์ที่ใช้มะเขือเทศและผักปลอดสารพิษ และร้านขายผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะเขือเทศ
มะเขือเทศซันไชน์ (Sunshine Tomato) ที่ปลูกได้ที่อิวาคิ
มะเขือเทศหลากพันธุ์ที่ปลูกใน Wonder Farm มีชื่อแบรนด์ว่า มะเขือเทศซันไชน์ (Sunshine Tomato) รสหวานอมเปรี้ยวกำลังดี อร่อยสดชื่น
คุณโมโตคิ ตัวแทนของ Wonder Farm
"เมืองอิวาคินั้น ฤดูร้อนเย็นสบาย ฤดูหนาวก็อบอุ่น และมีช่วงกลางวันที่แดดออกยาวนานติดอันดับของญี่ปุ่น มะเขือเทศนั้นขาดแสงแดดไม่ได้ ดังนั้นการจะปลูกมะเขือเทศให้ได้ตลอดทั้งปีในญี่ปุ่นก็ต้องเป็นที่นี่ครับ" คุณโมโตคิ ฮิโรชิ ตัวแทนของ Woner Farm อธิบายให้เราฟัง
การเลือกมะเขือเทศเพื่อทำน้ำผลไม้สุดอร่อย
น้ำมะเขือเทศ Wonder Red Premium Tomato Juice มีส่วนผสมของมะเขือเทศซันไชน์ 7 พันธุ์ที่มีความหวานสูง
Wonder Red Premium Tomato Juice เป็นผลิตภัณฑ์ยอดนิยมที่ผลิตจากโรงงานของที่นี่เองโดยใช้มะเขือเทศดังกล่าว น้ำมะเขือเทศทั่วไปมักใช้มะเขือเทศสำหรับแปรรูปในการทำ แต่ที่นี่ใช้มะเขือเทศซันไชน์ซึ่งเป็นพันธุ์สำหรับทานสดๆ ถึง 100%
ความหวานอร่อยยอดเยี่ยมสดชื่นที่ไร้สารปรุงแต่งสังเคราะห์ใดๆ เข้มข้นมาก สามารถเอาไปอุ่นทานเป็นซุปได้เลย
Wonder Farm ยังเปิดสวนให้ลูกค้าทั่วไปเข้าร่วมกิจกรรมเก็บมะเขือเทศได้ทุกวัน โดยเราสามารถเพลิดเพลินกับมะเขือเทศต่างๆ ถึง 9 สายพันธุ์ที่มีรสชาติต่างกันได้ตามชอบ (จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ราคาไม่รวมภาษีคนละ 900 เยน) จองล่วงหน้าได้ที่เว็บไซต์ทางการ
อยากกินผักให้อร่อยขึ้นไปอีกทำยังไงดี
ตอนนี้เรามีบล็อกโคลีกับกะหล่ำปลีจากฟาร์มชิราอิชิ และมะเขือเทศจาก Wonder Farm อยู่ในมือแล้ว
เราอยากกินผักเหล่านี้ในแบบที่อร่อยขึ้นไปอีก! ทีมสัมภาษณ์จึงนำผักที่ได้มุ่งหน้าไปยังร้านอิซากายะแห่งหนึ่ง
วากะ (Waka) ดื่มด่ำอาหารท้องถิ่นจานเด็ด
ร้านที่เรามาคือ วากะ (Waka) ร้านอิซากายะที่เดินเพียง 5 นาทีจากสถานี JR อิวาคิ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารพื้นเมืองของอิวาคิแสนอร่อย
ผู้รับหน้าที่ดึงความอร่อยของผักให้ออกมามากที่สุดคือคุณทาคากิ คุเมะ เจ้าของร้านวากะ "ปกติร้านเราใช้ผักจากฟาร์มชิราอิชิและ Wonder Farm อยู่แล้ว" ได้ยินคุณทาคากิพูดอย่างนี้เรายิ่งทนรอชิมไม่ไหว
อาหารจานอร่อยจากผักของอิวาคิ
จานแรกเริ่มจากซอยกะหล่ำปลีของฟาร์มชิราอิชิ
ผสมกะหล่ำปลีเข้ากับไข่และหัวมันยามะอิโมะขูด นำไปทอดจนสุกทั่วเสร็จออกมาเป็น วากะยากิ (Wakayaki) เมนูออริจินอลของร้านวากะ ปกติจะใช้ต้นหอมของฟาร์มชิราอิชิ แต่ครั้งนี้ใช้กะหล่ำปลีแทนเป็นพิเศษ จิ้มทานกับซอสโชยุผสมพริกเขียวสูตรโฮมเมด
มันยามะอิโมะทำให้เคี้ยวนุ่ม เสริมด้วยรสสัมผัสและความหวานจากกะหล่ำปลี เป็นอาหารที่คล้ายโอโคโนมิยากิของโอซาก้า แต่มีความหวานของผักมากกว่า
พอเราขอเพิ่มเมนูกะหล่ำปลีแบบง่ายๆ อร่อยๆ คุณทาคากิก็จัดเมนูกะหล่ำปลีเค็ม ชิโอะแคบเบ็ตสึ มาให้ทันที กะหล่ำปลีสดคลุกเคล้ากับสาหร่ายคมบุเค็ม (* 1) และน้ำมันงา ช่างง่ายสมคำขอจริงๆ แต่อร่อยจนหยุดทานไม่ได้เลย
* 1 : สาหร่ายคมบุเค็ม ... สาหร่ายคมบุหั่นฝอยที่ต้มจนรสชาติเข้าเนื้อแล้วคลุกเกลือ
"บล็อกโคลีเอาไปทำเป็นเท็มปุระไหม" พอพูดเช่นนี้คุณทาคากิก็ทำอาหารจานนี้มาให้ นี่น่าจะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เราได้ทานเท็มปุระบล็อกโคลี
พอจิ้มเกลือทานคำแรก ทำไมรสชาติมันถึงได้เข้มขนาดนี้ รสชาติที่เหมือนกลั่นเอาความอร่อยของผักออกมาจนอดคิดไม่ได้ว่าบล็อกโคลีที่เคยกินมานั้นคืออะไรกันแน่! ไม่น่าเชื่อว่าการเอามาทอดเป็นเท็มปุระจะทำให้รสชาติของบล็อกโคลีเด่นขึ้นมากอย่างนี้
หลังทานเท็มปุระเสร็จก็มาล้างปากให้สดชื่นด้วยมะเขือเทศจาก Wonder Farm ที่เสิร์ฟมาแบบสดๆ ง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยความอร่อย
เมนูจากวัตถุดิบในท้องถิ่นที่เปลี่ยนทุกวัน
ร้านวากะมีอาหารจัดเรียงเช่นนี้เสมอ ใครอยากทานอะไรก็เลือกเอาอย่างนั้น
คุณทาคากิ จะไปซื้อผักถึงสวนของฟาร์มชิราอิชิด้วยตัวเองทุกครั้ง วัตถุดิบอื่นๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นผลผลิตของจังหวัดฟุกุชิมะทั้งนั้น เธอจะเดินทางไปยังฟาร์มและร้านขายตรงของฟาร์มต่างๆ เพื่อสั่งซื้อวัตถุดิบมาทำเมนูที่แตกต่างกันทุกวัน จะมาทานบ่อยแค่ไหนก็ไม่เบื่อ
ด้วยบุคลิกเรียบง่ายไม่เสแสร้งของคุณทาคากิเองก็ดึงดูดผู้คนมากมายให้แวะเวียนมาทานอาหารที่ร้าน
พอทำอาหารเสร็จ เราก็ได้ยินคุณทาคากิพูดเปรยขึ้นมากับตัวเองว่า "พรุ่งนี้ทำกะหล่ำปลีดองดีกว่า"
ถ้าอยากทานผักของอิวาคิ เชิญแวะมาที่ร้านวากะนะครับ แล้วคุณจะได้พบกับอาหารที่อร่อยที่สุดของวันนั้น
ความอร่อยที่ข้ามพ้นภัยพิบัติแผ่นดินไหวและพายุ
ร้านวากะตั้งอยู่ใน โยอาเกะอิจิบะ (Yoake Ichiba) ย่านร้านกินดื่มอิซากายะที่อบอวลไปด้วยบรรยากาศย้อนยุค
หลังจากเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ญี่ปุ่นตะวันออกเมื่อปี 2011 ได้มีการปรับปรุงย่านร้านเหล้าเดิมและเปิดให้บริการในเดือนพฤศจิกายนของปีเดียวกัน เรียงรายไปด้วยร้านอิซากายะสไตล์ต่างๆ เช่น ร้านยากิโทริ ร้านอาหารอิตาเลี่ยน และร้านอาหารพื้นเมือง ทำเลสะดวกห่างจากสถานีรถไฟเพียง 3 นาที ทำให้แสงไฟของเมืองสว่างขึ้นอีกครั้งและผู้คนก็เริ่มกลับมารวมตัวกัน
จังหวัดฟุกุชิมะซึ่งยังอยู่ระหว่างการฟื้นฟูจากภัยพิบัติแผ่นดินไหว กลับต้องได้รับผลกระทบจากพายุใหญ่ในปี 2019 ไม่ใช่แค่พืชผลทางการเกษตรเท่านั้นที่เสียหาย อย่างบริเวณแม่น้ำคิโดะกาวะ เมืองฟุทาบะก็ไม่สามารถจับปลาแซลมอนและผลิตอิคุระ (ไข่ปลาแซลมอน) ซึ่งเป็นของขึ้นชื่อในท้องถิ่นได้เลย
ขณะนี้ฟุกุชิมะทั้งจังหวัดกำลังพยายามยืนหยัดและมุ่งไปข้างหน้าอีกครั้ง อย่างที่เห็นได้จากฟาร์มชิราอิชิที่กำลังเตรียมปลูกผักอร่อยๆ สำหรับปีหน้า และกลุ่มประมงแม่น้ำคิโดะกาวะที่กำลังสร้างแบรนด์ให้กับไข่ปลาแซลมอนของตน
ไปทานผักอร่อยๆ ของฟุกุชิมะกัน!
คุณชิราอิชิ ฟาร์มชิราอิชิ (ซ้าย) และคุณโมโตคิ ตัวแทนของ Wonder Farm (ขวา)
หากอยากลิ้มรสชาติของฟุกุชิมะอย่างนี้ ต้องลองแวะมาให้ถึงที่ครับ บอกเลยว่ารสชาติของผักเก็บสดๆ นี่เหนือชั้นจริงๆ
การเดินทางมาเมืองอิวาคิ
จากโตเกียว (สถานีชินากาวะ สถานีโตเกียว หรือสถานีอุเอโนะ) นั่งรถไฟด่วนขบวนฮิตาจิ (Limited Express Hitachi) ลงที่สถานีอิวาคิ (Iwaki) ใช้เวลาราว 2 ชั่วโมง 15 นาที ร้านวากะที่แนะนำในตอนท้าย เดินจากสถานีแค่ 5 นาทีเท่านั้น เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทานผักของอิวาคิได้สบายๆ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
Written by Kousuke DEKI
Photos by Eri Miura
In cooperation with Shiroishi Farm, Wonder Farm, Waka, Yoake Ichiba
Sponsored by METI
บัญชีส่งเสริมการขายของ MATCHA สำหรับการโฆษณาองค์กรและรัฐบาลท้องถิ่น เรามุ่งมั่นที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านของเราอย่างสนุกสนาน
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง