Unseen Japan สัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งฤดูหนาวของเมืองมัตสึโมโตะ 2 วัน 1 คืน

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

นอกจากจะซื้อขนมญี่ปุ่นกลับไปทานแล้ว เวลามาญี่ปุ่นลองมาซื้อเครื่องปรุงและอาหารสำเร็จในซุปเปอร์มาร์เก็ตกลับไปทำให้มื้ออาหารที่เมืองไทยเป็นมื้ออร่อยด้วยรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ กัน! เราขอแนะนำ 7 ของกินหาซื้อง่ายตามซุปเปอร์หรือร้านอย่างดองกี้โฮเต้ให้ไปตามซื้อเลย

บทความโดย

Kogetsu

Tokyo, Japan

สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์

Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?

more

เวลามาเที่ยวญี่ปุ่น หลายๆ คนคงเลือกซื้อขนมกลับบ้านไปเป็นของฝากให้ตัวเองและคนรอบข้าง แต่วันนี้เราจะมาแนะนำ 7 ของฝากแบบใหม่ที่เป็นของกินได้เหมือนกัน แต่สามารถนำขึ้นโต๊ะอาหารเป็นมื้อหลัก ให้เราได้อร่อยกับรสชาติแบบญี่ปุ่นแท้ๆ แม้จะอยู่ที่บ้านของตัวเอง

ของฝากที่เรามาบอกเล่าคราวนี้สามารถหาซื้อได้ง่ายๆ จากซุปเปอร์มาร์เกต ร้านขายของราคาประหยัดอย่างดองกี้โฮเต้ (Don Quijote) หรือร้านสะดวกซื้อบางสาขา
จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปเก็บข้อมูลเอาไว้ตอนมีโอกาสมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งหน้าเลยค่ะ

เนื่องจากของที่แนะนำเป็นของกิน จึงควรตรวจสอบวันหมดอายุ โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นของแช่เย็น สินค้าที่ไม่ได้แพ็คสูญญากาศ สินค้าที่ไม่ใช่ของแห้ง อาจมีวันหมดอายุเร็ว
โดยมองหาตัวเลขสีดำพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์ ญี่ปุ่นจะใช้ตัวเลขปีขึ้นก่อน เช่น หมดอายุวันที่ 12 มีนาคม 2020 จะพิมพ์ตัวเลขว่า 2020.03.12 เป็นต้น

7 ของกินที่ไม่ใช่ขนมน่าซื้อเป็นของฝากจากญี่ปุ่น

  1. 1. ซุปมิโซะ
  2. 2. สารพัดซุปญี่ปุ่น
  3. 3. กับข้าวญี่ปุ่นแบบสำเร็จรูป
  4. 4. ราเม็งและบะหมี่สำเร็จรูป
  5. 5. ผงทำซูชิ
  6. 6. เครื่องปรุงอาหารสำเร็จ
  7. 7. ผงเติมความอร่อยให้ข้าว
  8. ของแถม "ข้าวญี่ปุ่น"

1. ซุปมิโซะ

พูดถึงอาหารญี่ปุ่น สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยในแต่ละมื้อก็คือซุปเต้าเจี้ยวที่เรียกกันว่า "ซุปมิโซะ (Miso soup)"
หากใครอยากจะซดซุปอร่อยๆ นี้ที่บ้าน การจะปรุงเองจะต้องซื้อหาทั้งเต้าเจี้ยวญี่ปุ่น น้ำซุปแบบญี่ปุ่น โชยุ และอื่นๆ อาจจะยุ่งยากแถมต้องหาสูตรมาหัดทำอีก ถ้าชอบทำอาหารก็ดีไป แต่ถ้าไม่ถนัดล่ะ?

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

แต่ขอเพียงแวะเข้าซุปเปอร์มาร์เกต เราจะพบกับซุปมิโซะสำเร็จรูปแบบต่างๆ มากมาย เช่น ซุปในถ้วย ซุปผงให้เลือก
แบบที่แนะนำคือซุปก้อนที่ทำการฟรีซดราย (Freeze dry) ทั้งตัวซุปและเครื่องอย่างสาหร่าย เต้าหู้ ผัก ฯลฯ เอาไว้แล้ว แค่แกะใส่ชาม เทน้ำร้อนลงไป คนๆ ก็ได้ซุปมิโซะอร่อยๆ ทานอย่างง่ายดายที่บ้านแล้วค่ะ
ราคาของซุปมิโซะมักจะอยู่ที่ราวๆ 100 เยนต่อ 1 ที่ มีขายทั้งแบบทีละซอง หรือเป็นแพ็ค
อย่างในรูปนั้นเป็นแพ็ค 5 ห่อ ราคาเพียง 451 เยน ราคาสำหรับ 1 ชามไม่ถึง 100 เยนเลยค่ะ

2. สารพัดซุปญี่ปุ่น

นอกจากซุปมิโซะแล้ว อาหารญี่ปุ่นที่หลายคนชอบทานกันคงหนีไม่พ้นหม้อไฟต่างๆ ที่แสนจะทำง่ายแค่เตรียมน้ำซุป แล้วโยนผัก เนื้อสัตว์ที่ชอบลงไป ใครชอบชาบูชาบูก็หาเนื้อสไลซ์ไว้จุ่มก็ได้ แต่เจ้ากรรมปัญหาอยู่ที่น้ำซุปนี้สิ จะไปหาสูตรมาจากไหน

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

แก้ปัญหานี้ได้ง่ายๆ ด้วยการเดินไปหาซื้อน้ำซุปสำเร็จรูปกันดีกว่า ซึ่งในท้องตลาดก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งซุปปลาสไตล์ญี่ปุ่น ซุปสุกี้ยากี้ ซุปกระดูกหมู (ทงคตสึ) ซุปหม้อไฟนักซูโม่ (จังโกะ) ซุปน้ำเต้าหู้ ซุปรสมิโซะ ซุปรสกิมจิ และอื่นๆ สามารถหาซื้อแบบน้ำซุปใส่ซอง เอาไปเทใส่หม้อต้มทานได้เลย ราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ราวๆ 300-400 เยน

แต่สำหรับคนที่ต้องขนใส่กระเป๋าขึ้นเครื่อง ซื้อเป็นน้ำซุปอาจจำไม่สะดวกเท่าไหร่ เราเลยจะแนะนำซุปแบบน้ำซอสเข้มข้นซองหรือถ้วยเล็กให้ไปผสมน้ำเองอย่างในรูป ซุปปลาแห้งซองเล็ก (ด้านขวา) 4 ซองสำหรับ 4 ที่ ราคา 268 เยน และซุปหม้อไฟโยเซนาเบะ (หม้อไฟทรงเครื่อง) แบบถ้วย (ด้านซ้าย) 6 ถ้วยสำหรับ 6 คน ราคา 268 เยนเช่นกัน

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

ส่วนใครที่ชอบทำอาหารเองนั้น การเตรียมน้ำซุปสต๊อกแบบญี่ปุ่น (ดาชิ) จะลำบากตรงที่ต้องหาปลาแห้งหรือสาหร่ายมาต้ม ถ้าอย่างนั้นมาซื้อหัวน้ำซุปเข้มข้นที่เรียกว่า "ซึยุ (Tsuyu)" ไปใช้กันดีกว่า ซึยุนั้นใช้ง่าย เพียงแค่ผสมน้ำให้เจือจางลง และอาจปรุงรสเพิ่มนิดหน่อยตามชอบ จะเอาไปทำน้ำซุปของอุด้ง โซบะ หม้อไฟชาบู หรือจะเอาไว้ตุ๋นอาหารแบบญี่ปุ่นก็ได้ 

3. กับข้าวญี่ปุ่นแบบสำเร็จรูป

สะดวกสบายง่ายสุดๆ ก็คือซื้อของสำเร็จกลับบ้านไปทาน!
เราสามารถหากับข้าวญี่ปุ่นที่ปรุงสำเร็จแล้วแพ็คเรียบร้อยสวยงามได้ จะมีทั้งแบบเป็นซอง เป็นกล่อง (ซึ่งมักเป็นซองภายในอีกที) และแบบกระป๋อง ราคาเริ่มตั้งแต่ราวๆ 100 เยนขึ้นไปจนถึงหลายร้อยเยน แล้วแต่อาหารค่ะ เพียงขนกลับบ้านแล้วแกะมาอุ่นทานได้เลย แบบซองส่วนใหญ่มักจะอุ่นโดยนำซองไปใส่ในน้ำเดือดได้ แต่ถ้าหากใครอ่านภาษาไม่ออก ไม่แน่ใจ เราแนะนำว่าแกะมาเทใส่จานชามแล้วนำไปอุ่นจะปลอดภัยที่สุด

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

ในรูปเป็นอาหารกระป๋องราคาตั้งแต่ 98 - 300 เยน มีทั้งปลานิชินย่างซอส หอยลายญี่ปุ่นตุ๋น และปลาบุริตุ๋นไช้เท้า ส่วนซองเป็นปลาซัมมะย่างซอส ราคา 324 เยนค่ะ

4. ราเม็งและบะหมี่สำเร็จรูป

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคงเป็นของที่บางคนเคยซื้อกลับไปเป็นของฝากเช่นกัน เนื่องจากทำง่าย อร่อย และมีหลากหลายรสชาติมาก ใครชอบความสะดวกก็ซื้อแบบคัพ แค่เติมน้ำร้อน รอ 3-5 นาทีแล้วแต่ชนิด ก็เปิดฝาอร่อยได้เลย ส่วนใครชอบแบบพกใส่กระเป๋าเดินทางง่ายให้หาซื้อแบบซอง เอากลับบ้านไปต้ม ใส่เครื่องตามชอบเลย

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

รูปด้านบนมีทั้งบะหมี่ถ้วยซุปเกลือ (ชิโอะราเม็ง) บะหมี่สำเร็จรูปแบบซองรสน้ำซุปกระดูกหมู และที่พิเศษหน่อยคือบะหมี่ซองรสหมี่เย็นซึ่งจะต้องลวกเส้น ล้างน้ำเย็น แล้วนำมาคลุกกับซอส ถ้าแช่ซอสไว้ในตู้เย็นก่อนจะยิ่งอร่อย! ราคาแต่ละอย่างนั้นอยู่ราวๆ 90-150 เยนเท่านั้น

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

อีกแบบที่อยากแนะนำคือราเม็งสำเร็จแช่เย็นที่จะวางตามตู้แช่ ราเม็งพวกนี้มักจะเป็นเส้นสดหรือกึ่งสดพร้อมน้ำซุป บางทีก็เป็นราเม็งที่ทำรสชาติจากร้านราเม็งชื่อดัง อย่างในรูปก็เป็นราเม็งสูตรจากร้านดังในโตเกียวชื่อชิบาตะ (Shibata) ราคาจะแพงขึ้นมาที่ 355 เยน (สำหรับ 2 ที่) แต่รสชาติก็จะสดใหม่กว่า
*ข้อควรระวังคือเนื่องจากเป็นของแช่เย็น จึงไม่ควรซื้อเก็บไว้หลายวันก่อนกลับ แนะนำให้ซื้อก่อนกับเลยหรือล่วงหน้าแค่วันเดียวแล้วเก็บไว้ในตู้เย็นโรงแรม และเมื่อกลับถึงบ้านแล้วต้องรีบนำใส่ตู้เย็น
หากอาศัยอยู่ในประเทศหรือสถานที่ที่เดินทางใช้เวลานาน ควรหลีกเลี่ยงสินค้าแบบนี้เพื่อความปลอดภัย

5. ผงทำซูชิ

พูดถึงอาหารญี่ปุ่นแล้วไม่พูดถึงซูชิถือว่าพูดไม่ครบ เราอาจจะคิดว่าซูชิต้องทำยากมากๆ ต้องไปทานที่ร้านเท่านั้น แต่ในญี่ปุ่นมีขายผงทำซูชิให้เราทำข้าวซูชิง่ายๆที่บ้านได้ จากนั้นก็หาหน้าซูชิที่ชอบมาแปะลงด้านบนก็พอ

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

ซองสีส้มเป็นผงปรุงรสข้าวสำหรับทำซูชิ (150 เยน) ผสมผงนี่ 1 ช้อนกับข้าวอุ่นๆ 300 กรัม คลุกให้เข้ากันก็ได้ข้าวซูชิแล้ว! ส่วนซองสีขาวเป็นน้ำปรุงพร้อมเครื่องสำหรับทำข้าวหน้าปลาดิบทรงเครื่อง (โกะโมคุจิราชิ - Gomoku Chirashi) 1 ซองเทผสมกับข้าวอุ่น 150 กรัม คลุกให้เข้ากันก็จะได้ข้าวสำหรับทำข้าวหน้าปลาดิบแล้ว (139 เยน มี 2 ซอง)

จากนั้นหาซื้อปลาสำหรับทานดิบแถวบ้าน หรือทำเครื่องอย่างไข่หวาน เทมปุระ กุ้งลวก ฯลฯ มาใส่เป็นหน้าได้
ปั้นซูชิกับครอบครัวก็สนุก ใครไม่อยากปั้น ก็ตักข้าวใส่ชาม หาเครื่องวางหน้าเป็นข้าวหน้าปลาดิบก็ง่ายสุดๆ เลยค่ะ

6. เครื่องปรุงอาหารสำเร็จ

ทำอาหารญี่ปุ่นใครว่ายาก เพราะเราหาเครื่องปรุงอาหารแบบสำเร็จมาใช้ทำได้ง่ายๆ ไงล่ะ!
เครื่องปรุงสำเร็จนี้ก็คือเครื่องปรุงอาหารที่เราไม่ต้องปรุงเพิ่มแล้ว แค่ใส่เครื่องปรุงเหล่านี้ลงไปกับผักเนื้อที่เราหามา อาจจะต้องคลุกๆ คนๆ สักนิดหน่อย เท่านี้ก็เสร็จ

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

กล่องสีดำในรูปคือก้อนแกงกะหรี่ญี่ปุ่นสำเร็จรูปรสเผ็ดพิเศษ (332 เยน) แค่ผัดๆ เครื่องที่อยากใส่ จากนั้นเติมน้ำ ต้มจนเดือด แกะก้อนแกงใส่ลงไปต้มจนละลายและเดือดอีกครั้ง ก็ได้แกงกะหรี่ญี่ปุ่นแล้ว
ส่วนกล่องสีแดงเป็นน้ำปรุงข้าวอบเห็ดมัตสึทาเกะ (473 เยน) ตวงข้าว 3 ถ้วยใส่ลงในหม้อหุงข้าวกับน้ำปรุงนี้ แล้วหุงตามปกติ รู้ตัวอีกทีตอนนั่งทานข้าวอบเห็ดอร่อยๆ เลย

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

สินค้าที่ค่อนข้างใหม่ในญี่ปุ่นอีกอย่างคือซองพร้อมเครื่องปรุงสำหรับทำอาหารในไมโครเวฟค่ะ
ซองในรูปมีน้ำซอสปรุงเนื้อหมูชาชูเรียบร้อยแล้ว นำเนื้อหมู 250 กรัม จิ้มรูด้วยส้อมใส่ลงในซอง ขยำๆ ให้ซอสเข้าเนื้อ แล้วนำเข้าไมโครเวฟให้ด้านหน้าซองอยู่ด้านบน เปิดเครื่องเพียง 8 -9:30 นาที หมูชาชูก็รอไปอยู่บนจานของคุณแล้ว
*การปรุงอาหารในไมโครเวฟจำเป็นต้องทำตามคำแนะนำด้านหลังซองเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น

7. ผงเติมความอร่อยให้ข้าว

ข้าวเปล่าๆ จะไม่น่าเบื่ออีกต่อไปด้วยของ 2 อย่างที่จะแนะนำนี้

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

อย่างแรกคือผงโรยข้าว (ฟุริคาเคะ - Furikake) เป็นผงปรุงรสต่างๆ ที่คนญี่ปุ่นใช้โรยลงไปบนข้าวเพื่อเพิ่มรสชาติ บางครั้งก็นำไปคลุกกับข้าวก้อนปั้นเป็นข้าวปั้นสามเหลี่ยม (โอนิกิริ) มีทั้งรสสาหร่าย รสไข่ รสปลาแซลมอน รสสุกี้ยากี้ รสวาซาบิ รสไข่ปลาเมงไทโกะ และอื่นๆ อีกมากมาย ขายในท้องตลาดซองใหญ่ราคาประมาณ 100 เยน และแบบซองเล็กแพ็คหลายซอง หลายรส ราคาอยู่ที่แพ็ค 20 ซองประมาณ 200-300 เยน

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

ส่วนอีกอย่างคือผงทำข้าวต้มญี่ปุ่นที่เรียกว่าโอฉะซุเกะ (Ochazuke) ภายในซองจะมีผงซุปและเครื่องอย่างผัก สาหร่าย เนื้อสัตว์อบแห้ง วิธีทานก็แค่ตักข้าวใส่ชาม โรยผง แล้วราดน้ำร้อนลงไป เมื่อผงซุปละลายเข้ากับน้ำ ก็จะได้ข้าวต้มญี่ปุ่นแล้ว
ในรูปมีทั้งแบบแพ็คใหญ่ ประกอบด้วย 3 รสของดีภูมิภาคโทโฮคุทั้งหอยเชลล์ (โฮตาเตะ) ลิ้นวัว และไข่หอยเม่น (อุนิ) อย่างละ 2 ซอง ราคาแพ็คละ 756 เยน ส่วนแพ็คเล็กคือผงทำข้าวต้มกลิ่นส้มยูซุ แพ็ค 3 ซอง ราคา 250 เยน

ของแถม "ข้าวญี่ปุ่น"

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

ทานอาหารญี่ปุ่นให้อร่อยสุดๆ จะขาด "ข้าว" ไปได้อย่างไร ญี่ปุ่นมีการโปรโมทพันธุ์ข้าวแต่ละแบรนด์ว่ามีรสชาติและความนุ่มต่างกันไป
พอบอกให้ซื้อข้าวกลับ เราอาจนึกถึงข้าวสารกระสอบใหญ่ๆ จะแบกกลับได้ไง!? แต่ญี่ปุ่นเขามีข้าวสารแบบแพ็คเล็กขนาด 2 ถ้วย (ราคาตั้งแต่ 300 เยนขึ้นไปแล้วแต่พันธุ์และยี่ห้อ) ซึ่งมีพันธุ์ดังๆ ให้เลือกชิมทั้งโคชิฮิคาริ (Koshihikari) ฮิโตเมะโบเระ (Hitomebore) ยูเมะปิริกะ (Yumepirika) ซึยะฮิเมะ (Tsuyahime) อาคิตะโคะมาจิ (Akitakomachi) และอื่นๆ ไซส์เล็กอาจจะหาซื้อยากนิด เวลาไปเดินซุปเปอร์มาร์เกตหรือดองกี้ก็ลองมองหากันดูนะ

7 ของฝากแนะนำ เอาความอร่อยของญี่ปุ่นสู่โต๊ะอาหารบ้านคุณ!

สำหรับใครที่บ้านไม่มีหม้อหุงข้าวหรือขี้เกียจหุง แต่อยากซื้อแต่ละเมนูด้านบนไปทานให้ครบเครื่องที่บ้าน เราก็มีอีกวิธีคือซื้อข้าวหุงสำเร็จแบบแพ็คกลับไปค่ะ ซึ่งก็มีให้เลือกหลายพันธุ์เช่นกัน รวมถึงยังมีข้าวหุงปรุงรสอย่างข้าวอบไก่ ข้าวผัดแกงกะหรี่ และอื่นๆ ด้วย ราคาตกอยู่ที่แพ็คละประมาณ 100 เยนขึ้นไปแล้วแต่พันธุ์และยี่ห้อค่ะ

ของฝากจากญี่ปุ่นที่กลายเป็นมื้ออาหารที่บ้าน

ของกินได้เป็นของฝากยอดนิยมทั้งสำหรับตัวเองและคนรอบข้าง แต่เรามักจะนึกถึงขนมกันเป็นส่วนมาก มาลองพัฒนาไปอีกขั้นด้วยการซื้อหาของฝากที่จะกลายเป็นอาหารมื้อหลักของที่บ้านกันดูไหมคะ รับรองว่าจะได้หวนนึกถึงประสบการณ์ดีๆ ระหว่างเที่ยว หรือไม่ก็ทำให้ผู้ได้รับของฝากหลงรักญี่ปุ่นไปอีกคนแน่นอน

บทความโดย

Kogetsu

Tokyo, Japan

สาวชาวบางกอกที่มาหลงอยู่ในโตเกียวมาแล้วหลายปี แต่ยังแพ้รถไฟในเวลา Rush Hour ลัลล้ากับการทำงาน ว่างๆ ก็แว่บไปเที่ยว ชิมของอร่อย เที่ยวติ่งตามรอย
ชอบบรรยากาศของศาลเจ้าเป็นพิเศษ สนใจวัฒนธรรมญี่ปุ่น รวมไปถึง Pop culture~♥
เจอแมวเป็นไม่ได้ ต้องทักทายเหมียวๆ ใส่ประจำ
มีประสบการณ์แปลมากกว่า 10 ปี (เราจะไม่พูดเรื่องอายุ ...) ชอบงานขีดๆ เขียนๆ เลยมาเป็นบรรณาธิการเว็บไซต์

Facebook / Twitter ส่วนตัวที่เขียนเกี่ยวกับญี่ปุ่นเป็นงานอดิเรก ปัจจุบัน (12/2019) มีผู้ติดตามอย่างละราวๆ 40,000 คน ก็เรียกว่าเป็นบล๊อกเกอร์ตัวจ้อยๆ ได้ ... ล่ะมั้ง?

more
เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง

อันดับ

ไม่พบบทความ