ขนมประจำจังหวัดนีงาตะ! ทานเล่นก็อร่อย เป็นของฝากก็เหมาะ

นีงาตะ เป็นแหล่งผลิตข้าวอีกที่หนึ่งของญี่ปุ่น แถมยังหันหน้าเข้าสู่ทะเลญี่ปุ่น ทำให้ที่นี่ก็มีผลผลิตทางการประมงที่อุดมสมบูรณ์ด้วยเช่นกัน ดังนั้น ถ้าถามถึงของขึ้นชื่อของจังหวัดนีงาตะ หลายคนคงจะต้องนึกถึงข้าว, สาเกญี่ปุ่น และอาหารทะเลสด ๆ แน่ ๆ เลย

แต่อันที่จริงแล้ว ของดีจากนีงาตะไม่ได้มีแค่นั้นนะคะ ขนมอร่อย ๆ ก็มีอยู่มากมายเลยที่นีงาตะ

ในบทความนี้ จะแนะนำของทานเล่นแบบเรียบง่าย ที่มีทานกันมาตั้งแต่สมัยก่อนให้เพื่อน ๆ รู้จักค่ะ

1.「ป๊บโปะยากิ」ความอร่อยจากร้านแผงลอย

ที่เมืองชิบาตะและเมืองมุระคามิซึ่งอยู่ในภูมิภาคคาเอ็ตสึของจังหวัดนีงาตะ มีขนมขึ้นชื่ออยู่อย่างหนึ่งที่คนแถบนี้รู้จักกันดี ชื่อว่า「ป๊บโปะยากิ」เป็นขนมเนื้อนุ่มที่ได้ความหวานจากน้ำตาลดำ

ที่มาของชื่อ「ป๊บโปะยากิ」มีเรื่องเล่าหลายตำรา ส่วนใหญ่ว่ากันว่ามาจากลักษณะของไอน้ำที่พวยพุ่งออกมาคล้ายกับรถจักรไอน้ำ (ที่ญี่ปุ่นเรียกรถจักรไอน้ำว่า "ป๊บโปะ") และมีเสียงพุ่งออกมาคล้ายเคียงกันด้วย

ส่วนใหญ่ขนมชนิดนี้จะมีขายตามร้านแผงลอยในงานเทศกาลที่จัดขึ้นที่ศาลเจ้า (คล้าย ๆ กับงานวัด) ไม่ค่อยจะมีขายตามร้านค้าทั่วไปค่ะ ราคาตามร้านแผงลอยประมาณ 3 ไม้ 100 เยน หรือส่วนใหญ่จะขายเป็นชุด ชุดละ 9 ไม้บ้าง หรือ 15 ไม้บ้าง

แม้ว่าขนม「ป๊บโปะยากิ」จะหาทานได้แค่ตามงานเทศกาลของศาลเจ้า แต่เพื่อน ๆ สามารถหาซื้อ 「ขนมปังนึ่งสไตล์ป๊บโปะยากิ」ของยามะซากิได้ค่ะ ซึ่งมีขายแค่ที่จังหวัดนีงาตะและจังหวัดยามะกาตะเท่านั้น ถ้ามีโอกาสแวะเวียนไปก็ลองหาซื้อได้ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านสะดวกซื้อดูได้เลย

2.「ซาซะดังโกะ」ขนมตั้งแต่สมัยสงคราม

「ซาซะดังโกะ」เป็นขนมญี่ปุ่นที่มีอังโกะสอดไส้ในโยโมกิดังโกะ(※2) นำมาห่อด้วยใบไผ่ แล้วนำไปนึ่งหรือต้ม ลองกัดคำใหญ่เข้าไป เพื่อน ๆ จะได้รับรสชาติและกลิ่นหอมของโยโมกิและใบไผ่ค่ะ

ในหนังสือประวัติศาสตร์ของนีงาตะที่ชื่อว่า『Hokuetsu Fuudoki』กล่าวไว้ว่า 「ซาซะดังโกะ」เป็นของกินที่ใช้เป็นเสบียงติดตัวตั้งแต่ยุคสมัยเซ็นโกคุ หรือตั้งแต่สมัยที่มีสงคราม จนปัจจุบันก็ยังเป็นขนมที่ใช้ใบไผ่ห่ออยู่

ซาซะดังโกะเริ่มเป็นขนมที่รู้จักกันดีว่าเป็น「ขนมดังโกะสอดไส้ถั่วแดง」ในช่วงยุคสมัยเมจิ ที่น้ำตาลสามารถหามาทำอาหารได้ง่ายขึ้นแล้วค่ะ

ขนมชนิดนี้จะมีขายอยู่ตามร้านขายของฝากตามสถานี หรือที่สถานีรถไฟชินคันเซ็นด้วย เพราะเป็นเหมือนขนมประจำถิ่นของนีงาตะค่ะ เหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากมาก ๆ เลย แต่ซาซะดังโกะอาจจะมีอายุได้ไม่นาน แค่ 4-5 วันก็หมดอายุแล้วค่ะ ซื้อแล้วก็รีบทานให้หมดจะดีกว่า
※2：โยโมกิดังโกะ……ดังโกะที่มีสมุนไพรจำพวกหญ้าที่ชื่อว่า「โยโมกิ」ผสมอยู่ในตัวแป้งด้วย

3.「โมโมะทาโร่」ไอศกรีมประจำถิ่น

ไอศกรีมแท่งของนีงาตะที่มีมานานกว่า 40 ปี ก็คือ「โมโมะทาโร่」นี่เอง เป็นไอศกรีมจากบริษัท Seihyo บริษัทในจังหวัดนีงาตะ

คำว่า「โมโมะ」จากคำว่า「โมโมะทาโร่」ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึง ลูกพีช แต่รสชาติของไอศกรีมกลับเป็นรสสตรอเบอร์รี่ จุดเด่นอยู่ที่รสสัมผัสเหมือนน้ำแข็งไส รสชาติหอมหวานพอดี ๆ ค่ะ

ที่มาของไอศกรีมตัวนี้มาจากน้ำแข็งไสปั้นเป็นทรงลูกพีชและราดน้ำเชื่อมรสสตรอเบอร์รี่ที่ขายตามงานเทศกาลของศาลเจ้า นอกจากนี้ก็มีไอศกรีม「คินทาโร่」รสถั่วแดง และไอศกรีม 「โมโมเอะจัง」รสสับปะรดที่แนะนำให้เพื่อน ๆ ลองชิมกันค่ะ

4.「คาคิโนะทาเนะ」ขนมประจำนีงาตะ

ถ้าพูดถึงขนมของนีงาตะ ชื่อที่มักจะถูกนึกถึงเป็นอันดับต้น ๆ เลยก็คือ「คาคิโนะทาเนะ」ขนมข้าวเกรียบที่ทำจากแป้งข้าวเหนียวที่นวดแล้วนำมาปั้นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ปรุงรสด้วยซอสโชยุแล้วนำไปย่างนี้ เป็นกับแกล้มยอดนิยมของคนญี่ปุ่นเลยทีเดียว เคล็ดลับความอร่อยอยู่ที่แป้งข้าวเหนียวชั้นดีของนีงาตะนี่เอง

คาคิโนะทาเนะมักจะหาซื้อได้ง่าย ๆ ทั่วไป ซึ่งมักจะมีของบริษัท「Kameda Seika」หรือบริษัทต่างชาติต่าง ๆ ก็มี แต่ที่มาหรือคาคิโนะทาเนะต้นตำรับมาจาก「Naniwaya Seika」

รูปทรงที่ดูแปลกตาไม่เหมือนข้าวเกรียบอื่น ๆ เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดโดยบังเอิญ ในตอนแรกจะใช้แม่พิมพ์ขึ้นรูปให้เป็นวงรี แต่มีอยู่วันหนึ่งแม่พิมพ์เสียหาย ทำให้ต้องทำคาคิโนะทาเนะทั้ง ๆ ที่แม่พิมพ์ไม่สมประกอบ ทำให้ได้เป็นรูปทรงเหมือนปัจจุบันที่หน้าตาเหมือนเมล็ดลูกพลับและกลายเป็นชื่อ "คาคิโนะทาเนะ" มาจนถึงทุกวันนี้ (คาคิโนะทาเนะ แปลว่า เมล็ดลูกพลับ)

「คาคิโนะทาเนะ」ที่นิยมทานเป็นกับแกล้มคู่กับเหล้านี้ มีแบบที่ปรุงรสให้เผ็ดด้วยโชยุและพริกป่น นอกจากนี้ก็มีรสวาซาบิ รสพริกไทยด้วยค่ะ หรือแบบที่แปลกออกไปอีกก็มีคาคิโนะทาเนะแบบเคลือบช็อคโกแลต เรียกได้ว่ามีรสชาติหลากหลายมากมายให้เลือกชิมเลยล่ะค่ะ

คาคิโนะทาเนะเป็นขนมที่ไม่รีบหมดอายุเหมือนขนมด้านบน ทำให้หลายคนมักจะซื้อเป็นของฝากค่ะ

สุดท้ายนี้

เป็นยังไงกันบ้างคะ? ในบทความนี้เราก็ได้แนะนำขนมและของว่าง รวมทั้งที่มาของขนมแต่ละชนิดไปแล้ว ที่นีงาตะไม่ได้มีดีแค่ข้าวหรือสาเกเท่านั้น แต่มีขนมอื่น ๆ มากมายที่คนนีงาตะชื่นชอบมาตั้งแต่สมัยก่อน ไม่ว่าจะขนมชนิดไหนก็สามารถหาซื้อได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านขายของฝากในพื้นที่ แถมยังราคาไม่แพง ไม่เกิน 1,000 เยนด้วยค่ะ

ถ้ามีโอกาสมาเที่ยวที่นีงาตะ อย่าลืมหาขนมที่เราแนะนำชิมกันดูนะคะ ว่าอร่อยขนาดไหน!