อาหารญี่ปุ่นไม่ได้มีแค่ซูชิ! 5 อาหารที่ไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องลอง

นอกจากซูชิ
อาหารที่เป็นเอกลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่นมีอะไรอีกบ้างนะ?

หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่นที่ใครๆ ก็รู้จักคงหนีไม่พ้นซูชิแน่ๆ ยิ่งถ้าได้ทานซูชิหลายๆ หน้าที่ญี่ปุ่นคงเป็นอะไรที่ฟินนน ... มากๆ

แต่นอกจากซูชิแล้ว อาหารที่โดดเด่นของญี่ปุ่นยังมีอีกเพียบเลยค่ะ และในบทความนี้ เราจะพาไปดูอาหารญี่ปุ่นแสนอร่อยที่ไหนๆ ก็ไปจนถึงญี่ปุ่นแล้ว ต้องห้ามพลาดไปลองชิมกันเลย

อาหารที่จะแนะนำในคราวนี้ เป็นอาหารใกล้ตัวที่หาซื้อได้ง่ายมากๆ นอกจากจะมีจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารแล้ว ยังหาได้ไม่ยากตามร้านสะดวกซื้ออีกด้วยค่า

1. นัตโต

นัตโตเป็นอาหารที่ได้จากการนำถั่วเหลืองมาหมัก ในนัตโตมีโปรตีน ไฟเบอร์ วิตามินและแร่ธาตุรวมอยู่มาก นักโภชนาการจำนวนมากพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านัตโตนี่เป็นสุดยอดอาหารเลย

พอเปิดแพ็คมาเราจะเห็นเมล็ดถั่วเหมือนถูกเคลือบด้วยวุ้นหนืดๆ เอาไว้ ก่อนทานเราจะต้องใช้ตะเกียบคน คนจากสีใสๆ ให้เป็นสีออกขาวข้นเลย เค้าว่ากันว่ายิ่งคนนานยิ่งได้ประโยชน์ ถึงหน้าตาจะดูคล้ายกาวเหนียวๆ แต่รสชาติเยี่ยมห่างไกลจากสิ่งที่ตาเห็นเลยค่ะ

นัตโตจะขายโดยบรรจุในแพ็คโฟมเล็กๆ สำหรับ 1 ที่ มีซอสและมัสตาร์ดแถมให้ ไว้สำหรับผสมกับนัตโตและทานได้เลย

คนญี่ปุ่นทานนัตโตโดยการเทลงบนข้าวขาว นอกจากนั้นก็มีเป็นนัตโตมากิที่เป็นข้าวปั้นห่อสาหร่ายไส้นัตโต ซึ่งมีขายในร้านสะดวกซื้อด้วย

แม้ภายนอกอาจจะดูไม่น่าทาน แต่ไหนๆ ก็ไปถึงญี่ปุ่นแล้ว ลองชิมกันสักครั้งนะ

2. โมจิ

"ซากุระโมจิ" โมจิที่ห่อด้วยใบซากุระ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลชมดอกไม้

โมจิเกิดจากการนำข้าวเหนียวไปบดและทำให้เป็นรูปร่างกลมๆ สามารถนำมาทานเป็นของทานเล่นได้ สัมผัสของโมจินั้นอ่อนนุ่ม มีความยืดหยุ่น และเหนียวๆ โมจิกลมๆ ลูกเล็กๆ อาจจะนำไปเสียบไม้ หรือทานทั้งแบบนั้นเลยก็ได้

ตัวของโมจิเองไม่มีรสชาติ เพราะงั้นจึงต้องราดน้ำจิ้มหวานหรือซอสเพื่อเพิ่มรสชาติ สามารถทานได้หลากหลายแบบ ไม่ว่าจะใส่ในอาหารจานหลัก ขนม ของหวานก็ได้ ทำได้หลายรสชาติค่ะ

"มิตาราชิดังโงะ" ราดซอสโชยุ

โมจิเป็นอาหารที่แค่มองภายนอกก็น่าทานแล้ว โมจิในอาหารบางชนิดก็มีสีสันหลากหลาย เช่น สีขาว สีชมพู หรือสีเขียว ขึ้นอยู่กับว่านำไปใส่ในอาหารแบบไหน

โมจิที่เป็นของทานเล่นก็มี มีแบบที่ปรุงรสด้วยโชยุด้วย ส่วนโมจิเสียบไม้ที่ราดด้วยซอสเผ็ดหวาน จะเรียกว่า "มิตาราชิดังโงะ" อร่อยสุดๆ!

โมจิไส้ครีม และโมจิรสชาเขียวก็มีนะคะ ถ้าไปเที่ยวญี่ปุ่นล่ะก็ อย่าลืมลองชิมโมจิแบบที่ยังไม่เคยลองให้ได้นะคะ!

3. อังโกะ

อังโกะทำจากถั่วแดง เรียกได้ว่าเป็นราชินีแห่งขนมญี่ปุ่นเลยค่ะ! อังโกะที่มีสัมผัสนุ่มนวลและมีสีน้ำตาลแดงถูกนำไปใช้ในขนมหวานหลายชนิดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง ไอศครีม โมจิ โดรายากิ ไทยากิ เป็นต้น

อังโกะมีประวัติความเป็นมายาวนาน เป็นขนมหวานดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ยังเป็นที่นิยมแม้ในปัจจุบัน ขนมไส้อังโกะที่บรรจุห่ออย่างสวยงาม เหมาะที่จะซื้อไปเป็นของฝากให้ครอบครัวและเพื่อนฝูงที่สุดเลยค่ะ

อังโกะเก็บได้ไม่นาน ส่วนใหญ่จะมีระยะเวลาทานเพียง 3 วัน ซื้อแล้วต้องรีบทานนะคะ

อังโกะ เรียกได้ว่าเป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมขนมหวานญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ไปถึงญี่ปุ่นแล้วต้องลองขนมไส้อังโกะให้ได้นะคะ ดื่มด่ำกับรสชาติญี่ปุ่นแท้ๆ ที่ทุกคนชื่นชอบมาอย่างยาวนานกันค่ะ

4. มัทฉะและขนมหวานรสชาเขียวมัทฉะ

การลอง "ดื่มชาเขียวมัทฉะ" เป็นสิ่งที่แตกต่างจากการดื่มชาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง มัทฉะมีสีเขียวเข้ม และมีรสหวานซ่อนอยู่ในรสขม น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ลืมยากสำหรับคนที่ชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ

ประวัติของชาในญี่ปุ่นมีมาอย่างยาวนาน ซึ่งชาเขียวมัทฉะก็ดำรงตำแหน่งสำคัญในประวัติศาสตร์นั้นเช่นกัน ในอดีต "ซาโด" หรือการชงชาต้อนรับแขกเป็นวัฒนธรรมการต้อนรับขับสู้ที่มีพิธีการ จัดเป็นศิลปะประเภทหนึ่งเลย โชคดีที่พวกเราในสมัยปัจจุบันสามารถเพลิดเพลินกับมัทฉะได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องมีพิธีรีตองมากนัก

สามารถสั่งมัทฉะได้ในคาเฟ่ ซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อ ผงชาเขียวมัทฉะก็หาซื้อได้ในซูเปอร์ฯ ค่ะ

ชาเขียวมัทฉะเป็นเครื่องดื่มสำคัญที่อยู่ใกล้ชิดกับจิตใจ (และท้องไส้) คนญี่ปุ่นมาเนิ่นนาน และไม่น่าแปลกใจที่มีการนำไปใช้เป็นส่วนผสมของอาหารหลากชนิด ทั้งโมจิ ขนมปัง ช็อกโกแลต และไอศครีมอีกเพียบ

5. โอโคโนมิยากิ

โอโคโนมิยากิเป็นอาหารที่นำกะหล่ำปลี, แป้งสาลี, ไข่, เส้นราเม็ง และวัตถุดิบอื่นๆ ที่ชอบมาผสมกัน และทอดบนกระทะเหล็ก บางทีก็เป็นอาหารที่อธิบายยากค่ะ

โอโคโนมิยากิเป็นชื่อในภาษาญี่ปุ่น บางประเทศก็เรียกว่า "พิซซ่าญี่ปุ่น" หรือ "แพนเค้กสไตล์ญี่ปุ่น" ดูไปดูมามันก็เหมือนแพนเค้กที่โรยหน้าด้วยซอสจริงๆ นั่นแหละ โดยปกติแล้วจะโรยด้วยหัวหอมยาวและคัทสึโอะบุชิ

ถึงจะเรียกว่าโอโคโนมิยากิเหมือนกัน แต่ก็มีรูปร่าง รสชาติ และวิธีทำต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ พูดได้เต็มปากเลยว่าโอโคโนมิยากิมีหลายชนิดมาก แต่โดยหลักแล้วจะแบ่งได้เป็น 2 แบบใหญ่ๆ คือ โอโคโนมิยากิของฮิโรชิม่า กับของโอซาก้าค่ะ

โอโคโนมิยากิของฮิโรชิม่าจะซ้อนวัตถุดิบทีละชั้น ส่วนโอโคโนมิยากิของโอซาก้าจะนำวัตถุดิบมาผสมเข้าด้วยกันทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะแบบไหนก็มีเสน่ห์ของตัวเอง อยากให้ลองทั้งสองแบบเลยนะคะ

โอโคโนมิยากิเป็นอาหารที่ทานแล้วอิ่มท้อง มีรสชาติเข้มข้น มองผ่านๆ ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่จริงๆ แล้วรสชาติอร่อยมาก ทานแล้วหยุดไม่ได้เลยค่ะ

อาหารแนะนำอื่นๆ

จาก "สารานุกรมคำญี่ปุ่น ไทยากิ อิมากาวายากิ"

ในประเทศญี่ปุ่นยังมีอาหารอร่อยๆ อีกมากมาย อาหารที่แนะนำไปในบทความนี้ แนะนำสำหรับคนที่อยากลองชิมแก่นแท้ของวัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นค่ะ ลองเดินเข้าไปร้านตามท้องถิ่น และลองชิมอาหารหลายๆ อย่างกันค่ะ ขอย้ำอีกครั้งนะคะ ไหนๆ ก็มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้ว นอกจากอาหารที่เรารู้จักกันดี หรือใครๆ ก็ทานกัน ลองไปทานอาหารอื่นๆ ที่ยังไม่เคยทานดู รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ!