เมืองมุราคามิ จังหวัดนีงาตะ: ทัวร์ชมตุ๊กตาฮินะในมาชิยะ พร้อมเพลิดเพลินกับกิจกรรม ที่เที่ยว และอาหารท้องถิ่น

ซูชิ จิฮารุ ร้านซูชิแบบดั้งเดิมในบรรยากาศสบายๆ ที่โอซาก้า (Osaka)

บริการนี้รวมโฆษณาที่ได้รับการสนับสนุน
article thumbnail image

ถ้านึกถึงอาหารของโอซาก้าก็คงไม่พ้นโอโคโนมิยากิ หรือทาโกะยากิ แต่รู้มั๊ยในโอซาก้ามีร้านซูชิที่ติดอันดับมิชลินไกด์ด้วย เราขอแนะนำร้านซูชิแบบเอโดะ ในบรรยากาศที่กันเองและราคาสบายกระเป๋ากับร้าน ซูชิ จิฮารุ

วันที่ปรับปรุงล่าสุด :

ซูชิ อาจจะไม่ใช่สิ่งแรกๆ ที่เราจะนึกถึงเมื่อมาเที่ยวโอซาก้า เพราะว่าที่นี้เต็มไปด้วยอาหารขึ้นชื่ออย่าง โอโคโนมิยากิ และ ทาโกะยากิ จึงทำให้หลายๆ คนลืมนึกไปว่า โอซาก้าเองก็มีท่าเรือและมีปลาสดหลากหลายชนิดให้ได้ลองชิมกัน

ในบทความนี้ เราอยากจะมาแนะนำร้าน ซูชิ จิฮารุ (Sushi Chiharu) ร้านที่มีบรรยากาศสบายๆ ที่คุณสามารถดื่มด่ำไปกับซูชิชั้นเลิศที่เชฟของร้านจะมาปั้นสดๆ ต่อหน้าคุณ

ร้านซูชิ จิฮารุ ร้านซูชิแบบเอโดะมาเอะ

Sushi Chiharu

ร้านซูชิ จิฮารุนั้น เปิดในเดือนธันวาคม ปี 2014 ในย่านฟุคุชิมะ (Fukushima) ของเมืองโอซาก้า และถือว่าเป็นร้านซูชิที่ยังเป็นน้องใหม่อยู่ เป้าหมายของซูชิ จิฮารุนั้นคือการให้ลูกค้าได้มีโอกาสลิ้มลองซูชิแบบดั้งเดิม หรือที่เรียกว่าซูชิแบบเอโดะมาเอะ ในราคาที่เข้าถึงได้ไม่ยาก แถมยังเป็นร้านที่ได้รับการตีพิมพ์ในมิชลินไกด์ฉบับเกียวโต - โอซาก้าในปี 2016 ด้วย

สำหรับซูชิ จิฮารุแล้ว จุดเด่นนั้นไม่ได้อยู่ที่ความสดของปลา แต่ทางร้านมุ่งเน้นไปยังการเสิร์ฟซูชิที่มีความหลากหลายของรสชาติ ซึ่งทางร้านได้มีวิธีการจัดเตรียมวัตถุดิบด้วยการต้ม หมักเกลือ หรือแม้กระทั่งหมักน้ำส้มสายชู สำหรับซูชิแบบเอโดะมาเอะนั้น การเตรียมวัตถุดิบแบบนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก

Sushi Chiharu

ทางจิฮารุเอง ยังมีการติดต่อกับทางโรงเรียนสอนทำอาหาร ซึ่งเมื่อนักเรียนของทางโรงเรียนสอนทำอาหารเรียนจบ ก็ยังมาสามารถมาเป็นเชฟของทางร้านได้อีกด้วย ทำให้นักเรียนสามารถฝึกฝนลับฝีมือและทักษะได้ทันทีหลังจากเรียนจบจากโรงเรียน โดยไม่ต้องไปเสียเวลาไปกับการหางาน

เมนูของทางร้านนั้น จัดเตรียมไว้หลากหลายแบบสำหรับงบประมาณที่แตกต่างกันไปของแต่ละคน ในชุดอาหารกลางวันของทางร้าน สนนราคาที่ 2,800 เท่านั้น ซึ่งในราคานี้จะได้ซูชิทั้งหมด 9 คำพร้อมกับซุปมิโซะร้อนๆ 1 ถ้วย สำหรับอาหารเย็น คอร์สเริ่มต้นสนนราคาที่ 3,500 เยน โดยจะมีเมนูเรียกน้ำย่อย 3 เมนู ซาชิมิ 2 แบบ ซูชิทั้งหมด 9 คำ และชาเขียวร้อน หากลูกค้าท่านใดต้องการความเป็นส่วนตัวมากกว่านี้ สามารถเลือกจับจองที่นั่งชั้น 2 ที่มาพร้อมกับคอร์สราคา 7,000 เยนได้อีกด้วย

ซูชิแบบเอโดะมาเอะคืออะไร

Sushi Chiharu - Traditional Osaka Sushi In A Relaxing Atmosphere

คำว่าซูชินั้น เป็นคำเรียกอาหารที่ทำจากข้าวคลุกน้ำส้มสายชูและมีปลาสดมาด้วย แต่ถึงกระนั้นซูชินั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ ซูชิแบบเอโดะมาเอะนั้นก็เป็นรูปแบบหนึ่งของซูชิ ที่ถูกคิดค้นเมื่อ 150 ปีก่อนในสมัยเอโดะ คำว่า เอโดะมาเอะ นั้นแปลว่า "แบบเอโดะ" ทำให้คำว่า ซูชิแบบเอโดะมาเอะ สามารถแปลความหมายได้ว่า "ซูชิแบบสมัยเอโดะ" นั่นเอง

ในสมัยเอโดะผู้คนต่างใช้ชีวิตแบบเร่งรีบและไม่ค่อยมีเวลามากนัก จึงทำให้ในสมัยนั้นอาหารประเภททำเสร็จเร็วกินได้ง่ายแบบซูชิได้รับความนิยมมากไม่ต่างจากฟาสต์ฟู้ดในสมัยนี้ และมักจะขายกันตามร้านเคลื่อนที่ที่กลายมาเป็นต้นกำเนิดของร้านยะไต หรือแผงลอยในปัจจุบัน

Sushi Chiharu

เมื่อเป็นร้านแผงลอยและสมัยนั้นยังไม่มีตู้เย็น คนขายก็ต้องพยายามหาทางรักษาความสดใหม่ของวัตถุดิบให้อยู่ได้นานที่สุด จึงเริ่มใช้วิธีการแช่ของสดอย่างปลาไหล กุ้ง หรือหอยลงในน้ำซุป หรือแม้กระทั่งการย่างด้วยเตาถ่านก็มี

สำหรับปลาอย่าง ปลามากุโระ ปลาคัตสึโอะ และปลาตาเดียวนั้น ความสำคัญจะอยู่ที่รสของเนื้อปลา เพราะฉะนั้นจะใช้วิธีการแช่ปลาลงในน้ำโชยุ ซึ่งโซเดียมที่มีอยู่มากในโชยุจะช่วยป้องกันไม่ให้เนื้อปลาช้ำง่าย ส่วนปลาชนิดอื่นๆ เช่น ปลาแฮริ่ง หรือปลาซาบะนั้นจะมีรสจัดอยู่แล้ว แค่หมักด้วยเกลือและน้ำส้มสายชูก็พอ

กรรมวิธีที่แตกต่างกันนี้ ก็ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยอันเป็นเอกลักษณ์ของแต่ละวัตถุดิบได้เป็นอย่างดี

หลังจากเตรียมเนื้อปลาเสร็จแล้ว ก็จะนำปลาเหล่านี้ไปวางไปบนข้าวคลุกน้ำส้มสายชูที่ปั้นแล้ว ซึ่งน้ำส้มสายชูที่ปรุงอยู่กับข้าวนั้นยังมีความสามารถในการป้องกันเชื้อแบคทีเรียไม่ให้เติบโตและยังช่วยไม่ให้เนื้อปลาช้ำไปมากขึ้น ในเวลาเดียวกันยังช่วยเสริมรสของเนื้อปลาให้โดดเด่นมากยิ่งขึ้นไปอีก

มื้อกลางวันที่ร้านจิฮารุ อิ่มอร่อยไปกับซูชิเลิศรสในบรรยากาศสบายๆ

Sushi Chiharu

สำหรับวันนี้ เราจะมาแนะนำมื้ออาหารกลางวันของร้านจิฮารุ ที่ถือได้ว่าเป็นเมนูที่คุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุด ในเมนูนี้จะประกอบไปด้วยซูชิหน้ารวมทั้งหมด 9 คำ ซุปมิโซะ และชาเขียว 1 แก้ว สนนราคาย่อมเยาที่ 2,800 เยนเท่านั้น

ซึ่งก่อนที่เชฟจะเสิร์ฟซูชิ ทางเชฟจะถามลูกค้าว่าแพ้อาหาร หรือไม่ชอบหน้าของซูชิอะไรหรือเปล่า ถ้าหากมีขอให้บอกกับเชฟได้เลย เพราะว่าหน้าซูชิทั้งหมดนั้นเชฟจะเป็นคนกำหนดให้เองทั้งหมด

หลังจากที่บอกเชฟไปแล้วว่ามีอะไรที่ไม่ชอบ เชฟก็จะบรรจงเลือกปลาที่เป็นปลาสำหรับหน้านั้นๆ เพื่อให้ได้ซูชิที่มีรสอร่อยมากที่สุด ซึ่งปลาที่ใช้นั้นทางร้านจะออกไปเลือกมาวันต่อวันจากตลาดปลาใกล้ๆ ทุกเช้า

Sushi Chiharu

สำหรับท่านใดที่โทรมาจองที่นั่งล่วงหน้ากับที่ร้าน ทางร้านจะจัดเตรียมอาหารเรียกน้ำย่อยให้ฟรีอีกด้วย ในวันนี้เราได้รับไข่ตุ๋นมาเป็นของทานเล่นก่อนมื้ออาหาร ซึ่งอาหารเรียกน้ำย่อยนี้จะแตกต่างกันไปตามวันและฤดูกาล

Sushi Chiharu

หลังจากเสิร์ฟอาหารเรียกน้ำย่อยไปแล้ว ทางร้านก็จะเตรียมจานแก้วที่สวยงามและมีขิงดอกวางเคียงอยู่ข้างจาน

Sushi Chiharu

จากนั้นเชฟจะเสิร์ฟซูชิให้ลูกค้าทีละคำ เพื่อให้ลูกค้าได้ทานซูชิที่สดที่สุด ส่วนหากใครไม่มั่นใจหรือไม่รู้ว่าหน้าซูชินี้คืออะไร ไม่ต้องเป็นห่วงเลย เพราะว่าหลังจากเสิร์ฟเสร็จแล้ว เชฟก็จะอธิบายว่าหน้าซูชินี้คืออะไร ที่ร้านจิฮารุนี้พนักงานส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ และมีบางคนที่สามารถพูดภาษาเยอรมันได้ด้วย

Sushi Chiharu

อย่างที่บอกไปว่าเชฟจะทำและเสิร์ฟซูชิคำต่อคำ แต่บางหน้าก็ต้องใช้เวลาเตรียมนาน อย่างเช่นกรณีของเรานั้น เชฟได้เตรียมปลาไหลน้ำเค็มย่างบนใบไผ่ก่อนจะเริ่มทำซูชิหน้าอื่น เชฟจะไม่มีการเร่งให้เราทานเสร็จเร็วๆ แต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปอย่างสบายๆ ไม่มีอะไรรีบร้อน แต่ก็เต็มไปด้วยความพิถีพิถัน

Sushi Chiharu

ส่วนใหญ่แล้ว ลูกค้าจะรับประทานซูชิทันทีที่ปั้นเสร็จ แต่ถ้าอยากจะรอให้ปั้นเสร็จก่อนจบครบแล้วค่อยรับประทานก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ทางร้านจะไม่แนะนำวิธีนี้ เพราะว่าซูชินั้นควรจะรับประทานเลยทันทีหลังจากที่ทำเสร็จเพื่อไม่ให้สูญเสียความสดใหม่

Sushi Chiharu - Traditional Osaka Sushi In A Relaxing Atmosphere

จากในรูปจะเป็นซูชิทั้งหมด 9 หน้าของวันนี้ ซึ่งมีหน้าเคระยากิหรือซูชิหน้าไข่เจียวสไตล์เอโดะ รวมอยู่ด้วย มาพร้อมกับซุปมิโซะและชาเขียว ถึงแม้เวลาซูชิเหล่านี้ทางผู้เขียนจะไม่ได้รับประทานเลยทันที แต่ก็ยังมีความอร่อยและสดมากเหมือนพึ่งทำเสร็จใหม่ๆ เลยทีเดียว

สำหรับอาหารมื้อกลางวันนั้น จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกว่านาน แต่จริงๆ แล้วกลับรู้สึกไม่นานเลย เมื่อจบมื้ออาหารคุณจะต้องรู้สึกผ่อนคลายด้วยบรรยากาศและซูชิเลิศรสของร้านจิฮารุอย่างแน่นอน

ร้านซูชิแบบเอโดะมาเอะในเมืองโอซาก้า

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้ผู้อ่านบางท่านอาจเกิดคำถามว่า ทำไมเราต้องยอมจ่ายเงินที่แพงกว่าซูชิจานหมุนตั้ง 3 หรือ 4 เท่าในปริมาณที่เท่ากัน คำตอบของคำถามนี้ก็คือ ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

ซูชิจานหมุนนั้นอาจจะเป็นอาหารที่อร่อยและรวดเร็ว แต่สิ่งที่ร้านซูชิจานหมุนนั้นไม่ตอบโจทย์ก็คือ ความพิถีพิถันในการจัดเตรียมวัตถุดิบและคุณภาพของวัตถุดิบนั่นเอง อีกจุดหนึ่งก็คือ ร้านซูชิแบบเอโดะมาเอะนั้นเป็นร้านซูชิที่หาได้ยากในปัจจุบัน แม้กระทั่งในญี่ปุ่นเอง

ถ้าคุณอยากได้รับประสบการณ์การรับประทานซูชิแบบเอโดะมาเอะ ขอแนะนำให้ทาลองลิ้มรสซูชิของร้านจิฮารุดูสักครั้งค่ะ

ความร่วมมือในการเก็บข้อมูล : ร้านซูชิ จิฮารุ

Written by

เกิดที่เบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี และที่โตเกียวตั้งแต่ปี 2008 ฉันใช้ภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่

ฉันเป็นแม่ของแมว 3 ตัว สิ่งที่ฉันชอบรวมถึงเพลงร็อคยุค 90, มวยสากล, ประวัติศาสตร์, ช็อกโกแลตและของหวาน, รสชาติเปสตาชิโอในอะไรก็ตาม, แมว, ค้างคาว, มังกร, แวมไพร์, และสิ่งที่น่ารักทุกอย่าง

ฉันชื่นชอบนักเขียนอาน ไรซ์ และวงดนตรี LUNA SEA

ฉันแนะนำหนัง "คริสต์มาสในสนามรบ" ที่มีเดวิด โบวีและซา카โมโตะ รยุอิ ร่วมแสดงครับ

เนื้อหาในบทความนี้อ้างอิงจากการเก็บข้อมูลในช่วงเวลาที่เขียนบทความ อาจมีการเปลี่ยนแปลงของรายละเอียดสินค้า บริการ ราคาในภายหลังได้ กรุณาตรวจสอบกับสถานที่นั้นอีกครั้งก่อนการไปใช้บริการ
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง