Start planning your trip
13 สถานที่ท่องเที่ยวในอาคิตะที่ห้ามพลาด! พร้อมแผนการท่องเที่ยว วิธีการเดินทาง อาหารขึ้นชื่อ และจุดชมวิวสวยๆ ทั้ง 4 ฤดู
จังหวัดอาคิตะที่เต็มไปด้วยสีสรรแห่งฤดูกาล ซากุระในฤดูใบไม้ผลิ ทิวเขาใหญ่ตระการตาและงานเทศกาลในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีและทุ่งข้าวสีทองในฤดูใบไม้ร่วง และฉากหิมะอลังการในฤดูหนาว ขอแนะนำสิ่งที่ไม่ควรพลาด พร้อมแผนการเที่ยวและของขึ้นชื่อ
จังหวัดอาคิตะเป็นสถานที่แบบไหนกันนะ
จังหวัดอาคิตะตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะฮอนชู ติดทะเลญี่ปุ่น ถ้าจะค้นหาว่าจังหวัดอาคิตะอยู่ตรงไหน ลองมองหาคาบสมุทรโอกะ (Oga Peninsula) ที่ยื่นออกไปในทะเลญี่ปุ่นดูสิค่ะ
เสน่ห์ของจังหวัดอาคิตะคือธรรมชาติที่ผันเปลี่ยนไปในแต่ละฤดูกาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งทิวทัศน์หิมะในฤดูหนาวที่สวยงามสุดๆ ยังมีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนจังหวัดอื่นๆ อย่างอาหารท้องถิ่นและงานเทศกาลต่างๆ ให้เพลิดเพลินไปกับดินแดนที่งดงามด้วย
สารบัญ
- 5 บริเวณของอาคิตะและวิธีการเดินทางภายในจังหวัด
- วิธีการเดินมาจังหวัดอาคิตะ
- สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณชิราคามิ
- สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณอาคิตะตอนกลางและโอกะ
- สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณโทวาดะ ฮาจิมันไต โอดาเตะ
- สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณทะเลสาบทาซาวะ คาคุโนดาเตะ และไดเซ็น
- อาหารขึ้นชื่อ
- สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในแต่ละฤดูกาลที่แนะนำ
- แผนการท่องเที่ยว
5 บริเวณของอาคิตะและวิธีการเดินทางภายในจังหวัด
จังหวัดอาคิตะเป็นจังหวัดขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยเทือกเขาต่างๆ สามารถแบ่งบริเวณที่เที่ยวโดยใช้สถานีอาคิตะเป็นศูนย์กลางได้ 5 บริเวณ วิธีการเดินทางไปในแต่ละบริเวณใช้รถไฟเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับสถานที่ซึ่งห่างไกลจากสถานีรถไฟแทนที่จะนั่งรถไฟไปถึงสถานีที่ใกล้ที่สุด ใช้วิธีนั่งแท็กซี่หรือเช่ารถขับจากสถานีอาคิตะไปจะเร็วกว่า
มีทั้งแท็กซี่ท่องเที่ยวและแท็กซี่ที่ใช้ร่วมกัน (shared taxis) สำหรับให้บริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ และยังมีทัวร์โดยแท็กซี่ที่ออกเดินทางจากสถานีอาคิตะด้วย จองล่วงหน้าไว้เพื่อความสบายใจในการเดินทาง
1. บริเวณชิราคามิ (Shirakami Area)
บริเวณชิราคามิตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดอาคิตะ เป็นบริเวณชายขอบที่ติดกับจังหวัดอาโอโมริ ในปี 1993 ป่าต้นบุนะ (ต้นบีชญี่ปุ่น) ป่าดงดิบบน "เทือกเขาชิราคามิ" ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
มี "ป่าดาเคได (Dakedai Forest) ป่าเพื่อการศึกษาและสำรวจธรรมชาติ" ซึ่งได้สร้างเส้นทางเดินเพื่อเพลิดเพลินกับป่าดงดิบได้ง่าย และ "ฟุตาสึโมริ (Futatsumori)" ภูเขาที่สนุกกับการเดินเขา การเดินทางจากสถานีอาคิตะ ขอแนะนำให้เช่ารถหรือไม่ก็จองทัวร์รถแท็กซี่ก่อนล่วงหน้าค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณชิราคามิ
2. บริเวณอาคิตะตอนกลางและโอกะ (Central Akita and Oga Area)
มีสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังกระจายอยู่มากมายอย่างที่บริเวณใกล้ๆ สถานีอาคิตะมีหอเอกสารเกี่ยวกับประวัติของ "เทศกาลคันโต (Kanto Festival)" เทศกาลดั้งเดิมของจังหวัดอาคิตะ ส่วนที่เมืองโอกะ (Oga) ซึ่งมีคาบสมุทรที่ยื่นออกไปในทะเลญี่ปุ่น มี "พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะกาโอะ (Oga Aquarium GAO)" "หมู่บ้านออนเซ็นโอกะ" และ "พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ (Namahage Museum)"
จากสถานีอาคิตะนั่งรถไฟ JR สายโอกะ (JR Oga Line) ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจากสถานีโอกะใช้บริการแท็กซี่ท่องเที่ยวหรือ "รถนามาฮาเกะชัตเตอร์ แท็กซี่ที่ใช้ร่วมกันของโอกะฮันโต (Namahage Shuttle Service - Share Taxi in Oga, Akita)" ที่จองได้ถึงก่อนเดินทาง 1 วัน จะสะดวกที่สุด
สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณอาคิตะตอนกลางและโอกะ
3. บริเวณโทวาดะ, ฮาจิมันไต และโอดาเตะ (Towada, Hachimantai, and Odate Area)
ทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดอาคิตะมี "อุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park)" ที่ครอบคลุมอาณาบริเวณถึงจังหวัดข้างเคียงได้แก่ จังหวัดอาโอโมริและจังหวัดอิวาเตะ จุดเด่นที่เป็นสัญลักษณ์ของอุทยานนี้คือ "ทะเลสาบโทวาดะ (Lake Towada)" ที่อยู่ติดชายขอบจังหวัดอาโอโมริ ทะลาสาบโทวาดะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อที่สามารถชมทิวทัศน์ได้ทั้ง 4 ฤดู
เขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi) ที่อุดมไปด้วยพื้นพันธุ์บนเทือกเขาสูงและดอกไม้นานาพรรณ ในฤดูหนาวมีจุเฮียว (Juhyo ปรากฏการณ์น้ำแข็งเกาะต้นไม้หรือที่เรียกกันว่า Ice monster) ให้ได้ชมกัน ส่วนที่เมืองโอดาเตะ แหล่งกำเนิดของสุนัขอาคิตะมี "พิพิธภัณฑ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ (Akita Dog Museum)" ให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์นี้ การเดินทางจากสถานีอาคิตะแนะนำให้เช่ารถหรือใช้บริการแท็กซี่ ถ้าเดินทางโดยรถไฟ JR สายโออุ (Ou Main Line) จนถึงสถานีโอดาเตะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณโทวาดะ, ฮาจิมันไต และโอดาเตะ
4. บริเวณทะเลสาบทาซาวะ, คาคุโนดาเตะ และไดเซ็น (Lake Tazawa, Kakunodate, and Daisen Area)
เมืองเซ็นโบคุ (Senboku) มี "ทะเลสาบทาซาวะ (Lake Tazawa)" ทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น ใช้เวลาเดินทางจากสถานีอาคิตะถึงสถานีทาซาวาโกะ (Tazawako) โดยรถไฟชินคันเซ็นอาคิตะ (Akita Shinkansen Train) ประมาณ 1 ชั่วโมง ส่วนบริเวณสถานีคาคุโนดาเตะในเมืองเดียวกันมี "บ้านบุเคยาชิคิ (Bukeyashiki Street)" และ "เมืองไดเซ็น" ที่อยู่ข้างๆ มี "เทศกาลดอกไม้ไฟโอมาการิ (Omagari Fireworks Festival)" เทศกาลดอกไม้ไฟที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี
สถานที่ท่องเที่ยวบริเวณทะเลสาบทาซาวะ, คาคุโนดาเตะ และไดเซ็น
5. บริเวณโยโกเตะและยูซาวะ (Yokote and Yuzawa Area)
เมืองโยโกเตะ (Yokote) ที่อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของจังหวัดอาคิตะ เป็นเมืองการค้าที่รุ่งเรืองมาตั้งแต่อดีต ปัจจุบันยังมีร้านค้าและโกดังสินค้าในช่วงปี 1900 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติด้านวัฒนธรรมหลงเหลืออยู่ สามารถชม "คามาคุระ (Kamakura)"*1 ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งฤดูหนาว และชิม "โยโกเตะยากิโซบะ" อาหารขึ้นชื่อในท้องถิ่นได้
ส่วนที่เมืองยูซาวะนอกจากจะมีบ่อน้ำพุร้อนแล้วยังมี "อินานิวะอุด้ง (Inaniwa Udon)" 1 ใน 3 อุด้งชื่อดังของญี่ปุ่นให้ได้ชิมกัน ใช้เวลาเดินทางจากสถานีอาคิตะถึงสถานีโยโกเตะโดยรถไฟสาย Ou Main Line ประมาณ 1 ชั่วโมง และจากสถานีโยโกเตะถึงสถานียูซาวะ ก็ใช้รถไฟสาย Ou Main Line เช่นกัน ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
*1:คามาคุระ……บ้านที่ทำจากหิมะ (ถ้ำหิมะ)
วิธีการเดินทาง
เดินทางจากโตเกียวโดยเครื่องบินเร็วที่สุด
photo by Pixta
กรณีเดินทางโดยเครื่องบินจากสนามบินฮาเนดะไปถึงสนามบินอาคิตะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 5 นาที (ค่าโดยสารเที่ยวเดียว ราคาตั้งแต่ 6,800 เยน) จากสนามบินอาคิตะถึงสถานีรถไฟอาคิตะเดินทางโดยรสบัสลิมูซีนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ (ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 930 เยน) จากสนามบินนาริตะไม่มีเที่ยวบินตรงไปสนามบินอาคิตะ
กรณีเดินทางจากสถานีโตเกียวจนถึงสถานีอาคิตะโดยรถไฟ "โคมาจิ” รถไฟชินคันเซ็นสายอาคิตะ (Akita Shinkansen Komachi) ใช้เวลาเร็วสุด 3 ชั่วโมง 37 นาที (ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 17,800 เยน)
สามารถเดินทางจากสนามบินเซ็นได ประตูสู่ภูมิภาคโทโฮคุได้เช่นกัน
กรณีใช้สนามบินเซ็นไดในจังหวัดมิยางิที่เที่ยวบินระหว่างต่างประเทศขึ้นลงสะดวก แล้วจะเดินทางไปอาคิตะ ก่อนอื่นนั่งรถไฟ JR สายหลักโทโฮคุ (JR Tohoku Main Line) จากสถานีสนามบินเซ็นไดไปลงที่สถานีเซ็นไดใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากนั้นจากสถานีเซ็นไดขึ้นรถไฟ "โคะมาจิ" ชินคันเซ็นสายโทโฮคุ ไปลงที่สถานีอาคิตะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 15 นาที (ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 10,370 เยน)
จากสนามบินเซ็นไดมีรถบัสด่วนไปอาคิตะเช่นกัน (ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ค่าโดยสารเที่ยวเดียว 4,300 เยน)
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณชิราคามิ
1. เทือกเขาชิราคามิ (Shirakami-Sanchi Mountains)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"เทือกเขาชิราคามิ" ที่ครอบคลุมอาณาบริเวณทั้งจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอาโอโมริ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแห่งแรกของญี่ปุ่นในปี 1993 บริเวณที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแท้จริงแล้วคือป่าต้นบุนะ ป่าดงดิบตามธรรมชาติที่ยังไม่มีการสำรวจ แต่สามารถชมป่าต้นบุนะตามธรรมชาติได้ในบริเวณป่าที่เปิดให้เข้าชมอย่าง "ป่าดาเคได ป่าเพื่อการศึกษาและสำรวจธรรมชาติ" และ "หุบเขามาเซะ (Mase Valley)" ก็เช่นกัน
จากสถานีอาคิตะสามารถขึ้นรถไฟท่องเที่ยวสาย "รีสอร์ทชิราคามิ (Resort Shirakami)" ชมวิวได้ สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ของเทือกเขาชิราคามิ ทะเลญี่ปุ่น และพระอาทิตย์ตกจากบนรถไฟ ที่เคาน์เตอร์บนขบวนรถ ท่านสามารถลิ้มรสกาแฟและเหล้าท้องถิ่นที่ใช้น้ำธรรมชาติจากเทือกเขาชิราคามิ
ปี 2016 มีการนำขบวนรถไฟ "บุนะเฮนเซ (Bunahensei)" ที่มีภาพป่าต้นบุนะมาให้บริการ เป็นขบวนรถที่นั่งสบายซึ่งใช้วัสดุจากไม้ในท้องถิ่นจำนวนมาก เช่น ต้นบุนะซึ่งเป็นต้นไม้สัญลักษณ์ของที่นี่, ต้นสนอาคิตะคุณภาพดี และอื่นๆ
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณอาคิตะตอนกลางและโอกะ
2. ห้องสมุดนาคาจิมะ (Nakajima Library) มหาวิทยาลัยนานาชาติอาคิตะ (Akita International University)
"ห้องสมุดนาคาจิมะ" เป็นอาคารที่โอ่อ่าหรูหราด้วยเทคนิคการก่อสร้างแบบดั้งเดิมที่ใช้ไม้สนอาคิตะ ไม้สนธรรมชาติคุณภาพสูง เป็นสถานที่ในอุดมคติที่ออกแบบจุดต่างๆ ในห้องสมุดโดยคำนึงถึงผู้ใช้งาน
มีโต๊ะอ่านหนังสือตั้งอยู่ด้านหลังตู้หนังสือที่ออกแบบการจัดวางตู้เป็นแบบขั้นบันได ทำให้มีสมาธิในการอ่านหนังสือ ส่วนเก้าอี้ก็ปรับความสูงให้พอดีกับส่วนสูงของตัวเองได้ทำให้นั่งแล้วไม่เมื่อย เป็นห้องสมุดที่ใครก็มาใช้บริการได้ อีกทั้งมีหนังสือต่างประเทศและหนังสือภาพเยอะมากแม้แต่นักท่องเที่ยวก็สามารถใช้เวลาเพลิดเพลินที่นี่ได้
3. พิพิธภัณฑ์บาสเกตบอลโนชิโระ (Noshiro Basketball Library & Museum)
"พิพิธภัณฑ์บาสเกตบอลโนชิโระ" เปิดในปี 2012 จัดแสดงทั้งเอกสาร ภาพเหมือน และสินค้าที่เกี่ยวกับบาสเกตบอลทั้งในและนอกประเทศ
เมืองโนชิโระซึ่งผูกพันกับกีฬาบาสเกตบอล มีโรงเรียนมัธยมเทคนิคโนชิโระ โรงเรียนที่ทาบุเซะ ยูตะ อดีตนักเตะเอ็นบีเอเคยเรียน นอกจากนี้ยังเป็นโรงเรียนที่ผลิตนักกีฬาที่มีชื่อเสียงอีกหลายคนด้วย
โรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่งที่ปรากฏในการ์ตูน "สแลมดังก์" มีโรงเรียนมัธยมเทคนิคโนชิโระเป็นต้นแบบ อาจารย์อิโนอุเอะ ทาเคฮิโกะ นักวาดการ์ตูนเรื่องนี้ได้เดินทางไปเก็บข้อมูลที่โรงเรียนแห่งนี้ เพื่อการ์ตูน "สแลมดังก์" เลยทีเดียว
พิพิธภัณฑ์บาสเกตบอลโนชิโระแม้เป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ แต่เนื้อหาที่จัดแสดงนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ล้ำค่าทั้งสิ้น
4. พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะและพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"โอกะ โนะ นามาฮาเกะ" เป็นประเพณีดั้งเดิมของโอกะที่วัยรุ่นในท้องถิ่นจะแต่งตัวเป็นยักษ์แล้วไปเยือนแต่ละบ้านในคืนข้ามปีวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี เพื่อเป็นการขอพรให้สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยและการเก็บเกี่ยวได้ผลดี ในปี 1978 ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกชาติด้านภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่าง และในปี 2018 ก็ได้การยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกด้านวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่าง
ยักษ์จะปรากฏตัวออกมาเพื่อขจัดจิตใจที่เกียจคร้านโดยมุ่งเป้าไปที่เด็กๆ ไม่เพียงเท่านี้ยังแฝงไว้ด้วยความหมายของการฉลองปีใหม่ด้วย ที่ "พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ" สามารถสวมชุดนามาฮาเกะแล้วถ่ายรูปเป็นที่ระลึก และชมภาพยนตร์ที่สัมผัสถึงจิตใจของผู้คนชาวโอกะที่สืบทอดประเพณีนามาฮาเกะด้วย
"พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง (Oga Shinzan Folklore Musuem)"ที่อยู่ติดกัน เป็นการจำลองบ้านเรือนของชาวโอกะ ให้ผู้คนได้สัมผัสและเรียนรู้เกี่ยวกับนามาฮาเกะ
พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5. พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ กาโอะ (Oga Aquarium GAO)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ กาโอะ" เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่อยู่เลียบชายฝั่งคาบสมุทรโอกะ อยู่ในตำแหน่งที่ดีใกล้ทะเล จึงสามารถชมสิ่งมีชีวิตที่มีถิ่นกำเนิดในจังหวัดอาคิตะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตู้ปลาขนาดใหญ่ที่จำลองทะเลโอกะอลังการน่าประทับใจยิ่ง
นอกจากนี้ยังมีมุมสัตว์หายาก เช่น ปลาที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบของอาคิตะ และสิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ จัดแสดงให้ชม
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณโทวาดะ, ฮาจิมันไต และโอดาเตะ
6. ทะเลสาบโทวาดะ
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"ทะเลสาบโทวาดะ" ที่อยู่บริเวณชายขอบระหว่างจังหวัดอาคิตะและจังหวัดอาโอโมริ เต็มไปด้วยสีสันแห่งฤดูกาลทั้ง 4 ของอาคิตะ ทั้งยามะซากุระ (Yamazakura ซากุระสายพันธุ์โบราน) ในฤดูใบไม้ผลิ สีเขียวขจีในฤดูร้อน ใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง และทิวทัศน์หิมะงามตระการในฤดูหนาว หากเดินทางมุ่งไปทะเลสาบจากทางทิศใต้จะมี "ช่องเขาฮาสึคะ (Hatsuka)" เมตรที่สามารถแวะชมวิวทะเลสาบโทวาดะแบบพาโนรามาที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 631 เมตร
ยังมีจุดให้ถ่ายรูปสวยๆ ได้มากมาย เช่น จากจุดชมวิวชิเมเท (Shimeitei) ในบริเวณใกล้เคียง เมื่อมองทะเลสาบด้านตะวันตกของทะเลสายโทวาดะจะเห็นขอบทะเลสาบเป็นรูปหัวใจ
7. พิพิธภัณฑ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ
photo by Pixta
สุนัขพันธุ์อาคิตะที่มีหูตั้ง หางม้วน แข็งแรง รูปร่างน่าเกรงขามทำให้เป็นที่นิยม "พิพิธภัณฑ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ" สร้างขึ้นในปี 1977 เป็นหอเอกสารที่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับสุนัขพันธุ์อาคิตะได้
ว่ากันว่า เมื่อ 400 ปีก่อน ผู้ปกครองที่ดินบริเวณรอบเมืองโอดาเตะนิยมให้สุนัขสู้กัน สุนัขสายพันธุ์อาคิตะเกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขล่าสัตว์กับสุนัขท้องถิ่นของโอดาเตะ ในปี 1931 สุนัขพันธุ์อาคิตะก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศญี่ปุ่น
นอกจากนี้ยังมีประเพณีดั้งเดิมเกี่ยวกับสุนัขที่เมืองยูซาวะ (Yuzawa) ด้วย เป็นประเพณีปัดเป่าความโชคร้ายเรื่องโจรขโมยที่มีประวัติยาวนานกว่า 400 ปี ที่เรียกว่า "เทศกาลอินุคโคะ (Inukko)"
สมัยก่อนมีประเพณีที่ทำ "อินุคโคะ (น้องหมา)" รูปปั้นสุนัขจากแป้งข้าวเจ้าถวายไว้ที่โถงทางเข้าบ้านเพื่อเป็นเครื่องรางคุ้มครองป้องกันภัย แต่ปัจจุบันจะทำ "อินุคโคะ" จากหิมะถวายไว้หน้า "โอโดกโคะ (ศาลเจ้าเล็ก)" ที่ทำจากหิมะแทน กลายเป็นกิจกรรมเทศกาลคึกคักที่อธิษฐานขอพรให้น้องหมาที่รัก ชมดอกไม้ไฟ และอื่นๆ
โรงแรมแนะนำใกล้พิพิธภัณฑ์สุนัขอาคิตะ
8. นิวโตออนเซ็น (Nyuto Onsen)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"เมืองออนเซ็นนิวโต" ตั้งอยู่บริเวณเชิง "เขานิวโต (Mt. Nyuto)" ภายใน "อุทยานแห่งชาติโทวาดะฮาจิมันไต (Towada-Hachimantai National Park)" ว่ากันว่า ในออนเซ็นทั้งหมด 7 แห่ง "สึรุโนะยุ (Tsuru no yu)" เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่สุด ในปี 1638 ผู้ถือครองที่ดินในอาคิตะมักมาแช่ออนเซ็นนี้เพื่อบำบัดรักษาโรค
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
ว่ากันว่า อาคารหลังคามุงฟางที่เหลืออยู่ในปัจจุบันหลังนี้ ตอนที่ผู้ถือครองที่ดินในสมัยนั้นมาออนเซ็น ซามุไรคุ้มกันจะมารวมกันที่นี่ นิวโตออนเซ็นมีตาน้ำแยกกันทั้ง 7 แห่ง หากซื้อบัตรทัวร์ออนเซ็นรวม (ราคา 1,800 เยน) จะเข้าออนเซ็นได้ทั้งหมด อย่าลืมลองไปแช่น้ำพุร้อนสบายๆ ที่นิวโตออนเซ็นและให้ธรรมชาติของป่าบุนะที่รายล้อมช่วยบำบัดร่างกายและจิตใจดูนะคะ
9. จุเฮียวที่เขาโมริโยชิ
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"เขาโมริโยชิ" ที่รู้จักกันว่าเป็นภูเขาแห่งดอกไม้นานาพรรณ ที่มีจุเฮียวบนต้นสนใบแหลมแมรี่ส์ให้ได้ชมทุกปี
ถ้าขึ้นรถไฟอาคิตะ ไนริคุ จูคัง (Akita Nairiku Jukan) มาลงที่สถานีอานิไอ (Aniai) จากนั้นต่อแท็กซี่ของทัวร์ท่องเที่ยวรอบเขาโมริโยชิ (Mt. Moriyoshi Tour Taxi) ประมาณ 20 นาที ไปลงที่ลานสกีอานิ (Ani Ski Resort) แล้วขึ้นรถกระเช้าลอยฟ้าอานิไปลงที่สถานียอดเขา เดินอีกประมาณ 3-5 นาทีก็จะเข้าไปถึงจุดที่มีจุเฮียวอยู่จำนวนมากแล้ว นอกจากนี้การเล่นสกีผ่านทิวป่าผ่าแนวจุเฮียวก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขาโมริโยชิด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวในบริเวณทะเลสาบทาซาวะ คาคุโนดาเตะ และไดเซ็น
10. ทะเลสาบทาซาวะ
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
ทะเลสาบทาซาวะเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดในญี่ปุ่น มีความลึกถึง 423.4 เมตร เมื่อแสงอาทิตย์ส่องกระทบผิวน้ำจะมีสีสันสดใสแตกต่างกันตามระดับความลึกของน้ำแต่ละที่ ทะเลสาบแห่งนี้ยังมีตำนาน "เจ้าหญิงทาสึโกะ (Tatsuko)" ที่ดื่มน้ำบนภูเขาด้วยหวังจะมีความงามเป็นอมตะจนกลายเป็นมังกร เรื่องราวของเจ้าหญิงมังกรที่ดูแลทะเลสาบทาซาวะนี้ยังคงเล่าสืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน
อย่าลืมไปดูรูปปั้นสัมฤทธิ์ของเจ้าหญิงทาสึโกะที่ทาตาจิริ (Katajiri) ในวัดไซเมียวจิ (Saimyo-ji Temple) เขตนิชิคิโจ (Nishikicho) เมืองเซ็นโบคุ (Semboku) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณทะเลสาบกันนะคะ หรือจะชมรูปปั้นเจ้าหญิงทาสึโกะจากบนเรือท่องเที่ยวที่ออกจาก " Lake Tazawa Rent House" ที่อยู่ทางด้านตะวันออกของทะเลสาบทาซาวะก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถเช่าจักรยานขี่ไปตามเส้นทางปั่นจักรยานได้อีกด้วย
11. หมู่บ้านซามูไร คาคุโนดาเตะ (Kakunodate Bukeyashiki )
photo by Pixta
"บุเคะ" (Buke ตระกูลซามูไร) หมายถึงเจ้าหน้าที่รัฐที่ปฏิบัติงานทางการทหารญี่ปุ่นในสมัยก่อน "บุเคะยาชิคิ" หมายถึงบ้านของตระกูลซามูไร ที่คาคุโนดาเตะ (Kakunodate) เมืองเซ็นโบคุ มีบ้านซามุไรตั้งเรียงราย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่นในฐานะสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม
เนื่องจากมีเหตุไฟไหม้บ่อยครั้ง ราวปี 1620 จึงมีการแบ่งส่วนเหนือใต้ออกจากกันด้วย "ฮิโยเคจิ (hiyokechi แนวกันไฟ)" ด้านเหนือที่บุเคะอาศัยเรียกว่า "อุจิมาจิ (เมืองชั้นใน)" ส่วนทางใต้ที่พ่อค้าอาศัยอยู่เป็นโทมาจิ (เมืองชั้นนอก) ริมถนนมีต้นชิดาเระซากุระ (ซากุระพันธุ์กิ่งย้อย) ในฤดูใบไม้ผลิจึงคึกคักด้วยผู้คนที่มาชมดอกซากุระบาน
เขื่อนกั้นแม่น้ำฮิโนคิไน (Hinokinai River) ติดกับหมู่บ้านซามูไร มีซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะให้ชมอีกด้วย เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ บริเวณนี้จะเต็มไปสีสันของต้นซากุระราว 1,500 ต้น
12. หุบเขาดาคิคาเอริ (Dakikaeri Gorge)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"หุบเขาดาคิคาเอริ" อยู่ห่างจากสถานีจินได (Jindai) เมืองเซ็นโบคุโดยแท็กซี่เพียง 5 นาที หุบเขาของแม่น้ำทามะที่ไหลผ่านระหว่างทะเลสาบทาซาวะและคาคุโนดาเตะมีความยาว 10 กิโลเมตร ว่ากันว่า ที่มาของชื่อมาจากในสมัยก่อนเวลาเดินสวนทางกัน ทางแคบมากจนแทบจะต้องกอดกันถึงจะผ่านไปได้
photo by Pixta
ที่นี่มีจุดชมวิวและสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ หลายที่ให้ชม เช่น "คามิโนะอิวะบาชิ (Kami no Iwa Bridge)" สะพานแขวนเก่าแก่ที่สุดในจังหวัดอาคิตะ หรือ "น้ำตกมิคาเอริ (Mikaeri Falls)" ที่สวยจนต้องหันไปมองซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ในช่วงฤดูหนาวทางสำหรับเดินเที่ยวจะปิด ขอให้ระวังด้วยนะคะ
เนื่องจากที่นี่ห่างจากบริเวณสถานีคาคุโนดาเตะที่มีชื่อเสียงในเรื่องบ้านซามูไรที่เรียงรายโดยรถแท็กซี่เพียง 15 นาที จึงขอแนะนำให้มาเที่ยวที่นี่และที่คาคุโนดาเตะพร้อมกันเลยค่ะ
13. รถไฟสายอาคิตะไนริคุจูคัง (Akita Nairiku Jukan)
Picture courtesy of Akita Nairiku Jukan Tetsudo
"รถไฟสายอาคิตะไนริคุจูคัง" เป็นรถไฟสายท้องถิ่นที่เชื่อมสถานีคาคุโนดาเตะกับสถานีทาคาโนสึ (Takanosu) ในเมืองคิตะอาคิตะ ใช้เวลาวิ่งเที่ยวเดียวประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เริ่มวิ่งจากคาคุโนดาเตะที่ขึ้นชื่อเรื่องซากุระ แล้วคุณจะถูกโอบล้อมด้วยทิวทัศน์ที่งดงามที่สุด
photo by Pixta
ในฤดูร้อนมี "ศิลปะบนทุ่งนา" จากการปลูกต้นกล้าชนิดต่างๆ ให้เป็นลวดลายในธีมที่เกี่ยวข้องกับอาคิตะให้ชมหลายแห่งจากบนขบวนรถไฟ ส่วนในฤดูใบไม้ร่วงคุณสามารถดื่มดำกับใบไม้เปลี่ยนสีที่งดงามน่าประทับใจ ทอดยาวจากสถานีโอคาชิไน (Okashinai) ไปจนถึงสถานีคายาคุซะ (Kayakusa)
ส่วนสถานีอานิไอเป็นจุดแวะลงรถระหว่างทาง คุณสามารถขึ้นแท็กซี่ท่องเที่ยวหรือรถบัสประจำทางไปที่เขาโมริโยชิเพื่อเพลิดเพลินกับพันธุ์ไม้บนเขาสูงและใบไม้เปลี่ยนสีได้ ในฤดูหนาวก็ขึ้นกระเช้าไปชมจุเฮียวได้ด้วย ส่วนที่สถานีอานิมาเอดะ (Animaeda) ก็มีที่พักพร้อมออนเซ็นหรือจะแช่ออนเซ็นแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้เช่นกัน
อาหารขึ้นชื่อ
อย่าพลาดชิมอาหารขึ้นชื่อเพื่อสัมผัสถึงประวัติศาสตร์ของอาคิตะที่สถานที่ท่องเที่ยวดูนะคะ
คิริทัมโปะ (Kiritampo)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
ข้าวสวยสีขาวที่นำไปปั้น เสียบไม้แล้วย่างเรียกว่า "ทัมโปะ"
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
ส่วนหม้อไฟที่ใส่ทัมโปะที่ตัดแล้วลงไปจะเรียกว่า "คิริทัมโปะนาเบะ" แต่ถ้าไม่ตัดแล้วราดซอสอย่างมิโซะกินจะเรียกว่า "ทัมโปะราดมิโซะ" ดูเหมือนทัมโปะมีในหลายพื้นที่ แต่เชื่อกันว่า ที่ใส่ในหม้อไฟนั้นเริ่มต้นขึ้นที่ทางเหนือของจังหวัดอาคิตะ
เป็นอาหารท้องถิ่นที่แพร่หลายรอบบริเวณโอดาเตะที่มีภูเขาและไร่นาให้เก็บเกี่ยวข้าว ผักป่าและไก่บ้านพันธุ์ฮิไน (Hinaidori) มาปรุงเป็นอาหารได้ ความอร่อยของวัตถุดิบและน้ำซุปที่ทำจากโชยุที่แทรกซึมเข้าไปในข้าวที่ถูกนำไปย่างเหมือนกับโมจิ จึงเป็นเมนูที่เลิศรสมาก
สามารถรับประทานได้ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองโอดาเตะได้อย่างที่ร้าน "โฮคุชูคลับ (Hokushu Club)" นอกจากนี้ ในฤดูใบไม้ร่วงที่เก็บเกี่ยวข้าวใหม่และเก็บผักป่าได้ แต่ละท้องถิ่นจะจัดงาน "ทัมโปะไค (Tampokai)" ให้ได้ชิมคิริทัมโปะนาเบะที่ใช้ไก่ฮิไนด้วย
โยโกเตะยากิโซบะ (Yokote Yakisoba)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
กล่าวกันว่า ในเมืองโยโกเตะจังหวัดอาคิตะ มีชายคนหนึ่งขาย "โอโคโนมิยากิ" อาหารปรุงง่ายเพียงนำวัตถุดิบที่ชื่นชอบใส่ในเนื้อแป้งทำมาจากแป้งสาลี ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปย่าง เขาได้คิดเมนูใหม่คือ "โยโกเตะยากิโซบะ" ขึ้น
"โยโกเตะยากิโซบะ" เป็นยากิโซบะเส้นใหญ่ตรงผัดกับกะหล่ำปลีและเนื้อหมูบด ท็อปปิ้งด้วยไข่ดาวและฟุคุจินสึเคะ (Fukujintsuke ผักดอง) และตั้งชื่อยากิโซบะนี้ตามชื่อชื่อเมืองที่ขายจนฟื้นฟูเมืองได้ ในปัจจุบันเมนูนี้เป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อระดับ B (ฟาสฟู้ดแบบญี่ปุ่น) ของเมืองโยโกเตะ
เนื้อหมูโทวาดะโกะโคเก็ง (Towadako Koken Pork)
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
แบรนด์เนื้อหมูของอาคิตะอย่างแบรนด์เนื้อหมูโทวาดะโกะโคเก็งที่เรียกว่า "โมโมบุตะ" เป็นเนื้อหมูคุณภาพสูงที่ใส่ใจสุขภาพ มีมาตรการป้องกันโรคที่เข้มงวดไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในฟาร์มเลี้ยง และจัดสภาพแวดล้อมที่ดีให้หมูให้แข็งแรงและปลอดภัย
หมูจะดื่มน้ำบริสุทธิ์ที่มีฤทธิ์ทางชีวภาพช่วยในการเจริญเติบโตของหมู และทำให้หมูสุขภาพดีแข็งแรงโดยไม่ต้องใช้สารเคมี และขึ้นชื่อในเรื่องเนื้อนุ่ม
ทั้งผลิตภัณฑ์แปรรูปอย่างแฮมและไส้กรอกหรืออาหารสำเร็จรูปอย่างโครกเกะ หาซื้อชิมได้ที่ "ร้านโคโมโมะ โทวาดะ (Komomo Towada Store)" โดยเดินจากสถานีโทวาดะมินามิ (Towadaminami) เมืองคาซึโนะ (Kazuno) จังหวัดอาคิตะ เพียง 10 นาที
สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมในแต่ละฤดูกาลที่แนะนำ
แต่ละพื้นที่ของจังหวัดอาคิตะมีสิ่งที่น่าชมแตกต่างกันในแต่ละฤดูกาล เราได้คัดสรรสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ ในแต่ละฤดูมาให้แล้วค่ะ
ฤดูใบไม้ผลิ
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
ถ้ามาเที่ยวอาคิตะในฤดูใบไม้ผลิไม่ควรพลาด "คาคุโนดาเตะ" จุดชมดอกซากุระ มาจากการที่ภรรยาคนที่ 2 ของตระกูลซาตาเคะซึ่งปกครองพื้นที่คาคุโนดาเตะ ได้นำต้นชิดาเระซากุระจากบ้านเกิดในเกียวโตมาปลูกในปี 1656 จากนั้นก็ปลูกต่อเนื่องกันมา 11 รุ่น ลูกหลานของต้นซากุระเหล่านั้นได้เติบโตกลายเป็นแนวซากุระที่งดงามคอยต้อนรับคุณอยู่
ยิ่งรวมกับซากุระพันธุ์โซเมโยชิโนะที่ "เขื่อนกั้นแม่น้ำฮิโนคิไน" ทิวทัศน์ของบ้านเรือนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานจะถูกแต่งแต้มสีสันเป็นสีชมพูงดงามจนลืมไม่ลงแน่นอน
ฤดูร้อน
photo by Pixta
ถ้าพูดถึงหน้าร้อนของอาคิตะก็ต้องเป็นงานเทศกาล "เทศกาลคันโต" ที่จัดขึ้นในเมืองอาคิตะเป็นงานเทศกาลที่นำโคมไฟจากกระดาษมาขึงบนไม้ไผ่ให้มีลักษณะคล้ายรวงข้าว เพื่อขอพรให้การเก็บเกี่ยวได้ผลดีและปัดเป่าความโชคร้าย เทศกาลมีทั้งกลางวันและกลางคืน ในตอนกลางคืน โคมไฟที่สว่างจะส่งประกายคล้ายรวงข้าวสีทองสวยงาม สะกดสายตาผู้คน
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
เมืองไดเซ็นก็มี "งานดอกไม้ไฟโอมางาริ" งานแข่งขันดอกไม้ไฟที่ยอดเยี่ยมซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในญี่ปุ่น ลองไปชมดอกไม้ไฟที่มีภูเขาและแม่น้ำเป็นฉากหลัง ดื่มดำกับทิวทัศน์ที่งดงามสมกับเป็นหน้าร้อนที่อาคิตะดูนะคะ
เมืองเซนโบคุมีทั้งวิวจาก "คามิโนะอิวะฮาชิ" สะพานแขวนในหุบเขาดาคิคาเอริ และวิว "น้ำตกมิคาเอริ" ที่งดงามจนมองแล้วต้องหันกลับมามองซ้ำ เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการชมธรรมชาติที่เขียวขจีในฤดูร้อน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ฤดูใบไม้ร่วง
Picture courtesy of Akita Tourism Federation
"ทะเลสาบโทวาดะ"ที่ถูกย้อมไปด้วยสีสันแห่งฤดูใบไม้ร่วง สามารถชมวิวของใบไม้เปลี่ยนสีจากเส้นทางเดินเที่ยวได้ หรือจะขึ้นเรือท่องเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีจากในทะเลสาบก็ดีไม่น้อยเช่นกัน
"หุบเขาดาคิคาเอริ" ในฤดูใบไม้ร่วง สายน้ำสีน้ำเงินของแม่น้ำทามะตัดกับใบไม้เปลี่ยนสีเป็นจุดชมวิวที่งดงามยิ่ง ยังมีการจัดงานเทศกาลใบไม้เปลี่ยนสีในจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ขึ้นชื่อซึ่งเป็นป่าดงดิบที่มีต้นสนแดง ต้นเคยากิ และต้นเมเปิลด้วย
ฤดูหนาว
photo by Pixta
สำหรับฤดูหนาวขอแนะนำ "เทศกาลหิมะโยโกเตะ" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 450 ปี สามารถเพลิดเพลินกับ "คามาคุระ" บ้านจากหิมะในศาลเจ้าชินโต (ยาชิโระ) สถานที่บูชาเทพเจ้าได้ นอกจากการถ่ายภาพประเพณีที่สมกับเป็นเมืองโยโกเตะ เมืองที่มีหิมะตกมากแล้ว ลองเข้าไปในคามาคุระเพื่อสัมผัสกับบรรยากาศแบบฤดูหนาวดูนะคะ
อีกจุดที่ไม่ควรพลาดคือ "เขาโมริโยชิ"ที่สามารถชมจุเฮียวได้ มีถุงเท้าและรองเท้าหิมะให้ยืม เดินแค่นิดเดียวก็เห็นวิวจุเฮียวอยู่เบื้องหน้าแล้ว เส้นทางไปชมจุเฮียวไปง่ายลองท้าทายตัวเองดูนะคะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ตัวอย่างแผนการท่องเที่ยว
ครั้งนี้ขอแนะนำแผนการท่องเที่ยวสำหรับ 5 วัน 4 คืน สมมติว่าเราไปถึงสนามบินเซ็นไดเวลา 15:30 น. เราจะไปรอบจังหวัดอาคิตะในทิศทวนเข็มนาฬิกากันค่ะ
วันที่ 1: ไปชิมอาหารขึ้นชื่อระดับ B ของอาคิตะอย่างโยโกเตะยากิโซบะ
จากสนามบินเซ็นไดไปถึงสถานีเซ็นไดใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากสถานีเซ็นไดขึ้นรถบัสด่วน "สายกรีนไลเนอร์ (Green Liner)" ไปโยโกเตะกัน ลองไปกินโยโกเตะยากิโซบะที่มีรสชาติแสนอ่อนโยนกัน โดยแต่ละร้านจะมีซอสสูตรออริจินัลของตัวเอง จากนั้นไปห้องสมุดนาคาจิมะ ที่มหาวิทยาลัยนานาชาติอาคิตะกันต่อค่ะ
บุคคลภายนอกใช้บริการได้ในวันธรรมดาเวลา 8:30 - 22:00 น. วันเสาร์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดยาวในเวลา 10:00 - 18:00 น. วันอาทิตย์ในเวลา 10:00-22:00 น.
ช่วงเย็น: โยโกเตะยากิโซบะ
ช่วงกลางคืน: หอสมุดนาคาจิมะ
พักค้างคืนบริเวณใกล้สถานีอาคิตะ
วันที่ 2: เที่ยวรอบคาบสมุทรโอกะ
photo by Pixta
จากสถานีอาคิตะใช้รถไฟ JR สายโอกะไปลงที่สถานีโอกะ วันที่ 2 ไปเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ กาโอะ, พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง จากสถานีโอกะใช้บริการแท็กซี่ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะสะดวกที่สุดค่ะ
ถ้าเป็นแฟนบาสเกตบอลก็ขึ้นรถจากสถานีโอกะไปลงที่สถานีโออิวาเคะ (Oiwake) จากนั้นก็ต่อรถไฟท่องเที่ยวสาย "รีสอร์ทชิราคามิ" มุ่งหน้าไปสถานีโนชิโระ และพิพิธภัณฑ์บาสเกตบอลโนชิโระ
ช่วงเช้า: พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำโอกะ กาโอะ
ช่วงบ่าย: พิพิธภัณฑ์นามาฮาเกะ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านโอกะชินซัง หรือพิพิธภัณฑ์บาสเกตบอลโนชิโระ
พักค้างคืนที่บริเวณสถานีฮิงาชิโนชิโระ (Higashi Noshiro)
วันที่ 3: ชมวิวเทือกเขาชิราคามิจากหน้าต่างรถไฟและเดินเล่นต่อที่โอดาเตะ
photo by Pixta
วันที่ 3 เริ่มจากชมวิวที่บริเวณชิราคามิแล้วเดินทางไปโอดาเตะกัน จากสถานีฮิงาชิโนชิโระขึ้นรถไฟท่องเที่ยวสาย "รีสอร์ทชิราคามิ" ไปชมวิวเทือกเขาชิราคามิกัน จากนั้นใช้สายโกโน (Gono) กลับมาที่สถานีอาคิตะชิราคามิ (Akita Shirakami) และสถานีอิวาดาเตะ (Iwadate) แล้วเปลี่ยนเป็นสาย Oo Main Line ที่สถานีฮิงาชิโนชิโระเพื่อเดินทางไปโอดาเตะ
ไปดูสุนัขพันธุ์อาคิตะที่พิพิธภัณฑ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ พิพิธภัณฑ์สุนัขหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นได้ (ปลายเดือนเมษายน - ปลายเดือนพฤศจิกายน) ตอนค่ำก็ไปกินคิริทัมโปะที่สืบทอดกันในแต่ละครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นในบริเวณโอดาเตะกันค่ะ
ช่วงเช้า: เทือกเขาชิราคามิ
ช่วงบ่าย: พิพิธภัณฑ์สุนัขพันธุ์อาคิตะ
ช่วงค่ำ: กินคิริทัมโปะ
พักค้างคืนที่บริเวณใกล้สถานีโอดาเตะ
วันที่ 4: ดื่มด่ำธรรมชาติที่ทะเลสาบโทวาดะและนิวโตออนเซ็น
photo by Pixta
วันที่ 4 ไปสัมผัสกับธรรมชาติกันค่ะ แช่ออนเซ็นคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางกัน เดินทางจากโอดาเตะถึงทะเลสาบโทวาดะโดยแท็กซี่หรือเช่ารถขับใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ไปเดินเล่นผ่อนคลายกันที่เส้นทางเดินเที่ยวรอบทะเลสาบโทวาดะกันค่ะ!
มื้อกลางวันลองไปชิมไส้กรอกหรือโครกเกะจากโมโมบุตะที่วางใจได้ว่าปราศจากโรคจากฟาร์ม 4 แห่งในจังหวัดอาคิตะ ได้แก่ พอร์คแลนด์ ฟาร์มโทวาดะโกะโคเก็ง ฟาร์มแลนด์ และไบโอแลนด์ ช่วงค่ำก็ไปผ่อนคลายที่นิวโตออนเซ็นกันค่ะ
ช่วงเช้า: ทะเลสาบโทวาดะ
ช่วงบ่าย: ตระเวนชิมเนื้อหมูโทวาดะโกะโคเก็ง
ช่วงเย็น: นิวโตออนเซ็น แล้วเข้าพักแถวบริเวณสถานีทาซาวะโกะ
วันที่ 5: ไปเดินเที่ยวที่หุบเขาดาคิคาเอริและหมู่บ้านซามูไรกันเถอะ
วันสุดท้ายเป็นการตระเวนไปสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังที่พลาดไม่ได้ ขอแนะนำให้ไปหุบเขาดาคิคาเอริและหมู่บ้านซามูไรค่ะ เดินทางจากสถานีทาซาวาโกะไปคาคุโนดาเตะโดยรถไฟสายทาซาวะที่มุ่งหน้าไปโอมางาริ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สำหรับท่านที่พอมีเวลาอาจไปทั้งสองที่เลย ส่วนขากลับมีเที่ยวบินตรงช่วงเย็นจากสนามบินเซ็นไดไปสนามบินนานาชาติเถาหยวน (Taoyuan International Airport) ของไต้หวันเลย
ช่วงเช้า:หุบเขาดาคิคาเอริและหมู่บ้านซามูไร
ช่วงบ่าย:เดินทางไปสนามบินเซ็นได
บทส่งท้าย
เสน่ห์ของจังหวัดอาคิตะคือธรรมชาติที่มีให้ชมได้ทั้ง 4 ฤดู ทิวทัศน์งดงามที่ทะเลสาบและภูเขารังสรรค์ขึ้น จังหวัดอาคิตะที่ไม่ว่าจะมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล มีทั้งอาหารท้องถิ่น เหล้าท้องถิ่น ออนเซ็นขึ้นชื่อ รวมทั้งกิจกรรมและเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ในทุกฤดูกาล มาเที่ยวกันให้ได้นะคะ
Main image by Pixta
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
旅関連を中心に、いろいろなところで執筆しています。娘たちとお出かけしたい場所を探す日々。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง