Start planning your trip
สัมผัส 7 วัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น~เกอิชา,ซูโม่,คาบูกิ ฯลฯ~
บทความรวบรวมวัฒนธรรมเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นมากมายไม่ว่าจะเป็นนินจา, เกอิชา, คาบูกิ, ซูโม่, พิธีชงชา, ซาเซ็น และการเขียนพู่กันซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่สามารถสัมผัสประสบการณ์จริงได้ในญี่ปุ่นเท่านั้น และแหล่งสัมผัสกิจกรรมดังกล่าว
มาสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นกันเถอะ!!
เนื่องจากในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมมากมาย ผู้เขียนจึงเชื่อว่าหลายคนน่าจะอยากลองมาสัมผัสกันดูสักครั้งเมื่อได้มาเที่ยวญี่ปุ่น ในครั้งนี้เราจึงขอมาแนะนำวัฒนธรรมดั้งเดิมยอดนิยมของญี่ปุ่นกันค่ะ ^^
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
พู่กันและหมึก ศิลปะดั้งเดิม「โชะโด」 ชั้นเรียนการเขียนพู่กันสำหรับนักท่องเที่ยว
ข้อมูลพื้นฐานกับความสวยงามของ「ไมโกะ」「เกอิโกะ」และสถานที่ที่จะได้พบเจอพวกเธอ
เปิดโลกแห่ง「นินจา」! หมู่บ้านนินจาอยู่ที่ไหนกันนะ?
คาบูกิ
「คาบูกิ」เป็นศิลปะการแสดงดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่สืบทอดมานานกว่า 400 ปีตั้งแต่ สมัยเอโดะ โดยเป็นการเอนเตอร์เทนคนดูด้วยองค์ประกอบ 3 อย่างประกอบด้วยละคร การร่ายรำ และดนตรี จุดเริ่มต้นของคาบูกิมาจากการร่ายรำ “คาบูกิโอโดริ” ของผู้หญิงคนหนึ่งในสมัยเอโดะ เมื่อคาบูกิโอโดริเริ่มแพร่หลายออกไปก็กลายเป็นรูปแบบศิลปะการแสดงละครในที่สุด แต่หลังจากนั้น การแสดงคาบูกิกลับถูกสั่งห้ามไม่ให้ผู้หญิงแสดงอย่างน่าเสียดาย เพราะว่าทำให้ศีลธรรมในสังคมสั่นคลอน
แม้กระทั่งในปัจจุบัน การแสดงคาบูกิก็อนุญาตให้เฉพาะผู้ชายขึ้นแสดงเท่านั้น ส่วนบทบาทของผู้หญิงจะเป็นผู้ชายแต่งหญิงแทน เราเรียกนักแสดงชายที่แสดงเป็นผู้หญิงว่า “อนนะกาตะ” หนึ่งในไฮไลท์ของคาบูกิจึงอยู่ที่สีหน้าและท่าทางของนักแสดงชายที่ดูเป็นผู้หญิ๊ง...ผู้หญิงยิ่งกว่าผู้หญิงจริงๆเลยนี่แหละ
เราสามารถชมการแสดงคาบูกิได้ตลอดทั้งปีตามโรงละครคาบูกิ เช่น “คาบูกิสะ” ย่านกินซ่าในโตเกียว เป็นต้น นอกจากนี้ ในโอซาก้าและเกียวโตก็ยังมีการจัดการแสดงคาบูกิตามช่วงเวลาที่กำหนดอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ซูโม่
“ซูโม่” เป็นกีฬาประจำชาติญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมไปไกลถึงต่างประเทศถึงขนาดว่ามีนักซูโม่ชาวต่างชาติมาแข่งขันซูโม่ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว ซูโม่เป็นการแข่งขันปลุกปล้ำกันระหว่างนักกีฬา 2 คนซึ่งพันผ้าที่เรียกว่า “มาวาชิ” เอาไว้ตรงเอวบนเวทีซูโม่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4.55 เมตร โดยเราเรียกนักกีฬาซูโม่ว่า “ริคิชิ”
ซูโม่ถูกจัดขึ้นเป็นการแข่งขันกีฬาอย่างเป็นทางการเมื่อศตวรรษที่ 17 ในปัจจุบันมีนักกีฬาซูโม่ชาวต่างชาติมากมาย แต่เดิมแล้วนับเป็นพิธีกรรมทางศาสนาด้วย แม้แต่ในปัจจุบัน วันแรกของการแข่งขันก็ยังคงหลงเหลือธรรมเนียมการฝังเครื่องเซ่นไหว้อย่างเหล้าญี่ปุ่น ข้าว หรือเกลือลงในเวทีซูโม่เพื่อเป็นการอัญเชิญเทพเจ้าแห่งซูโม่ และวันสุดท้ายของการแข่งขันก็ยังคงมีการส่งลาเทพเจ้าอย่าง “เซ็นชูราคุ” อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
ในโตเกียว เราสามารถชมการแข่งขันซูโม่ได้เฉพาะที่ “Ryōgoku Kokugikan” เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ไมโกะ・เกกิ
“ไมโกะ・เกกิ” คือ ผู้หญิงแต่งชุดกิโมโนที่คอยสร้างสีสันในงานเลี้ยงด้วยศิลปะการแสดงอย่างการร้องเพลงหรือร่ายรำและการพูดคุย ไมโกะ・เกกิมีต้นกำเนิดมาจากมิสึชายะแถวศาลเจ้ายาซากะในเกียวโตเมื่อราว 300 ปีที่แล้ว “มิสึชายะ” หมายถึง โรงน้ำชาพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยวหรือผู้คนที่มากราบไหว้สักการะวัดและศาลเจ้า โดยจุดเริ่มต้นของไมโกะ・เกกิอยู่ที่หญิงสาวที่ทำงานในโรงน้ำชาเริ่มร้องรำทำเพลงเอนเตอร์เทนแขกนี่แหละ
เราสามารถพบกับพวกเธอได้ในเขตรวมร้านเกกิที่เรียกว่า “ฮานามาจิ / กาไก” ในเกียวโต
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ข้อมูลพื้นฐานกับความสวยงามของ「ไมโกะ」「เกอิโกะ」และสถานที่ที่จะได้พบเจอพวกเธอ
โชโด (การเขียนอักษรด้วยพู่กัน)
ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมและศิลปะการแสดงที่สืบทอดมาเป็นเวลาหลายร้อยปีมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ “โชโด” นี่แหละ โดยเป็นวัฒนธรรมการเขียนตัวอักษรหรือประโยคดั้งเดิมของญี่ปุ่น
“โชโด” เป็นศิลปะการเขียนตัวอักษรคันจิหรือตัวอักษรคานะโดยใช้พู่กันและหมึกดำซึ่งเป็นเครื่องเขียนที่ใช้กันมาตั้งแต่ในอดีต ในช่วงแรกจะเป็นการเขียนตัวอักษรโดยเน้นเรื่องการใช้งานจริง แต่ในปัจจุบันกลับกลายเป็นศิลปะการเขียนตัวอักษรเพื่อความสวยงามตามการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมแทน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
พู่กันและหมึก ศิลปะดั้งเดิม「โชะโด」 ชั้นเรียนการเขียนพู่กันสำหรับนักท่องเที่ยว
นินจา
เมื่อเอ่ยถึงประเทศญี่ปุ่นแล้วหลายคนจะต้องนึกถึง “นินจา” กันอย่างแน่นอน นินจาเป็นที่รู้จักกันดีในระดับโลกไม่เพียงแค่ในญี่ปุ่นเท่านั้น โดยหมายถึงผู้ทำงานสืบข้อมูลของฝ่ายตรงข้ามที่มีบทบาทในช่วงศตวรรษที่ 10 จนถึงศตวรรษที่ 18
นินจาโดยทั่วไปเป็นผู้ประกอบอาชีพชาวนาหรือช่างฝีมือ โดยอาศัยการฝึกฝนฝีมืออย่างลับๆ และเริ่มออกปฏิบัติการลับหลังได้รับคำสั่งจากผู้ว่าจ้าง งานของนินจาจะเป็นงานแนวลอบเร้นที่เรียกว่า “คุสะ” โดยมีหน้าที่เแฝงตัวเข้าไปเป็นชาวบ้านท้องถิ่นของฝั่งศัตรูอย่างแนบเนียนเป็นเวลานานหลายปี บางครั้งก็ต้องรอโอกาสนานถึงหลาย 10 ปีกว่าจะสามารถบรรลุภารกิจสปายหรือโค่นล้มอำนาจของฝั่งศัตรูได้เลยทีเดียว
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ซาโด (พิธีชงชา)
“ซาโด / ชาโด” เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่สามารถทั้งชม สัมผัส และลิ้มลองได้อย่างง่ายๆเลยล่ะค่ะ ซาโดเป็นงานพิธีที่จัดขึ้นตามขั้นตอนไล่ตั้งแต่การชงชาไปจนถึงดื่มชา โดยทั้งสองฝั่งประกอบด้วยฝั่งที่เตรียมชาเขียว “มัจฉะ” และฝั่งที่ได้รับการรับรองด้วยน้ำชาจะปฏิบัติตามตามขั้นตอนและมารยาทของพิธีชงชาซึ่งแตกต่างจากการดื่มชาทั่วไปในชีวิตประจำวัน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
เรียนรู้ความรู้พื้นฐานของ จะโด(พิธีชงชาญีุ่่น) และสถานที่เปิดประสบการณ์จะโด
นิกายเซน
คำว่า “เซน (Zen)” เป็นที่รู้จักกันดีทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ ต้นกำเนิดของนิกายเซนอยู่ในประเทศจีนก็จริง แต่ก็มีแนวคิดเรื่องที่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่นอยู่เหมือนกัน “เซน” เป็นนิกายหนึ่งในศาสนาพุทธที่มีเป้าหมายเพื่อถ่ายทอดหัวใจของพระพุทธเจ้าที่ไม่สามารถถ่ายทอดผ่านตัวอักษรหรือคำพูดได้ ผู้ก่อตั้งนิกายเซนเป็นพระภิกษุชาวจีนชื่อ “ดารุมะ / พระโพธิธรรม” นิกายเซนนี้ไม่มีหลักธรรมคำสอนเฉพาะและเทพเจ้าตามความเชื่อ หลังจากนิกายเซนเผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศญี่ปุ่นก็มีการปรับเปลี่ยนลักษณะเฉพาะและส่งอิทธิพลต่อวัฒนธรรมญี่ปุ่นมากมายมากกว่าที่จะเป็นแค่นิกายหนึ่งของศาสนาเท่านั้น
เอกลักษณ์ของนิกายเซนอยู่ที่การปฏิบัติธรรมที่เรียกว่า “ซาเซ็น” ซึ่งเป็นการนั่งขัดสมาธิโดยไม่เคลื่อนไหวร่างกายเป็นเวลาหลายชั่วโมงนี่แหละ พื้นฐานของนิกายเซ็นคือการกลับเข้าสู่สภาพอันว่างเปล่าด้วยจิตใจอันว่างเปล่าผ่านการนั่งสมาธิ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
คำสอนของพุทธศาสนา นิกายเซนคือ? สัมผัสประสบการณ์การนั่งสมาธิและศิลปะของนิกายเซน , สวนญี่ปุ่นขนาดใหญ่
วิธีการเที่ยว「คาบูกิสะ」แบบไม่ต้องมีตั๋ว!
ตามรอยศิลปะการแสดงของญี่ปุ่น 「โรงละครคาโฮะ」ฟุกุโอกะ ที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1931
ย้อนไปสมัยเอโดะ! โอนิเฮ เอโดะ โดโคโระ บนลานจอดรถฮานิว
「วัดเคนนินจิ」วัดนิกายเซนที่เก่าแก่ที่สุดในเกียวโต
Photos by AC, Pixta
旅行が趣味の22歳です。日本の魅力をお届けします。
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง