Start planning your trip
7 แหล่งท่องเที่ยวแนะนำของเมืองโทยามะ (Toyama) ในจังหวัดโทยามะ
เมืองโทะยามะที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เวนิสแห่งตะวันออก" มีสถานที่ท่องเที่ยวพิเศษที่สัมผัสวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ได้หลายแห่ง ในบทความนี้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ 7 แห่ง ซึ่งแนะนำโรงแรมที่เหมาะแก่การพักผ่อนไปจนถึงของฝากและการท่องเที่ยว!
ประวัติศาสตร์และไฮไลท์ของจังหวัดโทยามะ (Toyama) "เวนิสแห่งตะวันออก"
จังหวัดโทยามะเป็นจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมาก เพราะเปรียบเสมือนประตูทางเข้าสู่เทือกเขาทาเทยามะที่ดูยิ่งใหญ่และทรงสง่า เทือกเขาทาเทยามะได้รับการขนานนามว่าเทือกเขาแอลป์แห่งตอนเหนือของญี่ปุ่น มีนักปีนเขาไปเยือนเป็นจำนวนมาก
ภายในเมืองโทยามะมีแม่น้ำ 7 สายไหลจากทิศใต้ไปยังทิศเหนือ น้ำใสๆ ที่ไหลมาจากภูเขาจะลงไปรวมกันในทะเลญี่ปุ่น ดังนั้น โทยามะจึงมีชื่อเสียงว่าเป็น "เมืองหลวงแห่งน้ำ" บางครั้งก็ถูกเรียกด้วยฉายา "เวนิสแห่งตะวันออก"
จากโตเกียว เดินทางด้วยชินคังเซ็นจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 10 นาที ไปยังโทยามะ เมืองที่สามารถลิ้มรสวัฒนธรรมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมีชีวิตชีวา อาหารพื้นเมืองแสนอร่อย และวิวทิวทัศน์ที่งดงามได้ จังหวัดนี้เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในเมืองที่ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของญี่ปุ่น
นอกจากนั้น เขตโทยามะยังเป็นที่รู้จักว่าเป็นเมืองท่าเรือ มีการขนส่งสินค้าไปยังหลายๆ พื้นที่ทางตอนใต้รวมถึงเมืองเกียวโตตั้งแต่อดีต ในช่วงยุคสมัยเซนโกคุ (ศตวรรษที่ 15 ถึง 16) ยังมีประวัติศาสตร์การต่อสู้แย่งชิงเมืองของเหล่าไดเมียวเกิดขึ้นที่นี่ด้วย เมืองนี้รุ่งเรืองในยุคสมัยเอโดะ (ปี 1603 จนถึง 1868) ยาคุณภาพสูงที่ผลิตขึ้นในโทยามะเป็นของขึ้นชื่อในสมัยนั้น
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โทยามะได้รับความเสียหายครั้งใหญ่ จึงน่าเสียดายที่แทบจะไม่เหลือร่องรอยหลักฐานใดๆ ที่แสดงถึงประวัติศาสตร์ของโทยามะไว้เลย ว่ากันว่าในความเป็นจริง การโจมตีทางอากาศในวันที่ 1 สิงหาคม ปี 1945 กว่า 99 เปอร์เซ็นของเมืองโทยามะถูกทำลายไปเสียสิ้น
แต่ภายหลังสงคราม เมืองโทยามะก็กลับมายืนได้อีกครั้งท่ามกลางเถ้าถ่าน ในปัจจุบันเมืองได้รับการฟื้นฟูจนกลับมาเป็นเมืองที่งดงาม เรียงรายไปด้วยตึกอาคารใหม่ๆ สไตล์โมเดิร์น และอุดมสมบูรณ์ไปด้วยสีเขียว
เมืองโทยามะรุ่งเรืองไปด้วยอุตสาหกรรมกระจก ภายในเมืองจะสามารถมองเห็นตึกที่มีหน้าต่างที่เป็นบานกระจกขนาดใหญ่ และตึกที่แปะด้วยกระจกทั้งตึกจำนวนมาก เมื่อตึกลักษณะเหล่านั้นกับแม่น้ำใส่แจ๋วประกอบเข้าด้วยกัน ก็ทำให้ทั้งเมืองมีความโปร่งใสและเจิดจ้า เป็นความงดงามที่เต็มไปด้วยแสงถึงขั้นสรรหาคำมาเปรียบเปรยไม่ได้เลยทีเดียว
ในบทความนี้ จะแนะนำจุดที่จะทำให้เห็นเสน่ห์ของโทยามะและแหล่งท่องเที่ยวที่คนท้องถิ่นแนะนำ 7 แห่ง
ที่เที่ยวแนะนำ 7 แห่งของเมืองโทยามะ
1. ล่องเรือแม่น้ำมัตสึ (Matsu River Cruise)
2. พิพิธภัณฑ์เมืองโทยามะ (TOYAMA MUNICIPAL FOLK MUSEUM)
3. ร้านอิเคดะยะยาสุเบอิ (Ikedaya Yasubei)
4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)
5. พิพิธภัณฑ์อุเมะคามะ U-mei คัง (Umekama Museum U-mei Kan)
6. ร้านชิมาคาวะอาเมะเท็น (Shimakawa Ameten)
7. ร้านสึกิเซไก (Tsukisekai Honpo)
1. ล่องเรือแม่น้ำมัตสึ (Matsu River Cruise)
หากจะสำรวจเมืองโทยามะละก็ แนะนำให้ล่องเรือในแม่น้ำมัตสึ ที่จะไหลไปตามย่านต่างๆ ใจกลางเมือง แม่น้ำมัตสึเป็นสายหนึ่งของแม่น้ำจินซือ (Jintsu) ที่เชื่อมกับเทือกเขาแอลป์ตอนเหนือกับทะเลญี่ปุ่น
เนื่องจากสองข้างทางของแม่น้ำมีต้นซากุระปลูกอยู่ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิจึงมีคนนิยมมาล่องเรือชมแม่น้ำเป็นจำนวนมาก ในช่วงฤดูร้อนต้นไม้จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวมรกต ให้ความรู้สึกเย็นสบาย จึงแทบจะทำให้ลืมไปเลยว่านี่คือฤดูร้อน
ส่วนในช่วงฤดูใบไม้ร่วง สามารถดื่มด่ำกับอุโมงค์ต้นไม้เปลี่ยนสีที่งดงามจนอดหลงใหลไม่ได้พร้อมกับทิวทัศน์ของเมืองด้วยล่ะ
※เรือในแม่น้ำมัตสึจะงดให้บริการตั้งแต่เดือนธันวาคมจนถึงกลางเดือนมีนาคม รายละเอียดอื่นๆ โปรดดูที่ปฏิทินเดินเรือ
เรือชมวิวแม่น้ำมัตสึจะใช้เวลาประมาณ30 นาทีต่อครั้ง นักท่องเที่ยวสามารถฟังคำอธิบายจากเซนโด(*1)เกี่ยวกับการพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของโทยามะตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะจนถึงปัจจุบัน และการฟื้นฟูตั้งแต่หลังช่วงสงครามโลกครั้งที่สองได้
เรื่องเล่าของเซนโดมีชีวิตชีวา นอกจากความเชี่ยวชาญในการเล่าเรื่องแล้วยังเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน หากได้ฟังเรื่องราวต่างๆ มุมมองที่มีต่อเมืองโทยามะก็จะเปลี่ยนไป สะพานและอาคารแต่ละแห่งจะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของการกลับมามีชีวิตใหม่ของโทยามะอีกครั้ง
*1 : เซนโด ...... ผู้ควบคุมเรือที่มีตำแหน่งสูงสุด
สะพานหลายแห่งที่พาดผ่านบนแม่น้ำมัตสึ แต่ละแห่งก็มีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเมืองทั้งสิ้น
นอกจากจะเป็นสิ่งก่อสร้างเชิงประวัติศาสตร์แล้ว ลักษณะภายนอกก็มีความงดงามอย่างมาก สามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ที่สวยงามซึ่งมีแค่ผู้ที่โดยสารเรือเท่านั้นที่สามารถเห็นได้
การล่องเรือสามารถเหมาเที่ยวได้ และยังมีบริการรับประทานอาหารบนเรืออีกด้วย แนะนำสำหรับคนที่อยากลิ้มลองอาหารท้องถิ่นบนเรือในบรรยากาศสุดพิเศษใต้แสงเทียน ซึ่งจะกลายเป็นความทรงจำที่ทำให้ไม่ลืมเลือนเมืองแห่งน้ำนี้อีกเลย!
ตั๋วล่องเรือ สามารถซื้อและจองได้ที่ "มัตสึคาวะจายะ (Matsukawa chaya)" คาเฟ่ที่อยู่เลียบแม่น้ำในสวนสาธารณะโทยามะโจชิ (Toyamajoshi Park)
หากอยากพักชั่วคราวในระหว่างที่กำลังท่องเที่ยวในเมืองก็แนะนำให้มาที่มัตสึคาวะจายะเช่นกัน อาหารว่าง ของหวาน และเครื่องดื่มของที่นี่จะช่วยให้ได้พักหายใจสบายๆ ก่อนไปลุยเที่ยวต่อ
ในพิพิธภัณฑ์ที่ระลึกทาคิ เรนทาโร่ (Taki Rentaro Kinenkan) เป็นที่รวบรวมเอกสารและสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับทาคิ เรนทาโร่ นักประพันธ์เพลง เขาทุกข์ทรมานจากวัณโรค และจากโลกนี้ไปในขณะอายุได้ 23 ปี แต่เขาเป็นนักเปียโนที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ และเป็นนักประพันธ์เพลงที่ทิ้งผลงานที่เป็นแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนมากมาย
"โคโจโนะสึกิ (Kojo no Tsuki)" ที่แปลว่า "จันทราแห่งปราสาทรกร้าง" เป็นหนึ่งในเพลงที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ทาคิแต่งขึ้น ว่ากันว่าเป็นเพลงที่แต่งโดยได้รับแรงบันดาลใจจากวิวทิวทัศน์ของเมืองโทยามะ
ในระหว่างล่องเรือสามารถสัมผัสหลากหลายเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของทาคิ และเมืองโทยามะได้ สามารถเช็คข้อมูลการท่องเที่ยวบนเรือที่จะกลายเป็นความทรงจำไม่รู้ลืมได้จากด้านล่าง
2. พิพิธภัณฑ์เมืองโทยามะ (TOYAMA MUNICIPAL FOLK MUSEUM)
พิพิธภัณฑ์เมืองโทยามะอยู่ในบริเวณตัวปราสาทโทยามะ (Toyama Castle) สามารถศึกษาประวัติของโทยามะได้จากนิทรรศการที่ชั้น 1 และชั้น 2
ปราสาทโทยามะที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1543 มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 4 ศตวรรษ ปราสาทและเมืองรอบๆ เคยเป็นสถานที่ต่อสู้แย่งชิงอำนาจกันระหว่างไดเมียวที่มีอำนาจมาก่อน
ที่นี่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาของเมืองจากสิ่งของที่นำมาจัดแสดงและแผนที่ที่เปิดให้ชมในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 17 ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความไม่สงบก่อนยุคสมัยเอโดะ ไปจนถึงยุคสมัยเมจิ
รอบๆ พิพิธภัณฑ์เป็นพื้นที่กว้างของสวนสาธารณะโทยามะโจชิ (Toyamajoshi Park) ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้และต้นไม้นานาพรรณได้ตลอดทั้งปี จึงเป็นจุดยอดนิยมในการพักผ่อนสำหรับชาวเมือง ในสวนมีสวนแบบญี่ปุ่นซึ่งสามารถดื่มด่ำกับทิวทัศน์งดงามที่สร้างขึ้นมาเลียนแบบภูเขาและทะเลได้
3. ร้านอิเคดะยะยาสุเบอิ (Ikedaya Yasubei)
จังหวัดโทยามะมีชื่อเสียงในเรื่องของการผลิตยามาตั้งแต่อดีต อุตสาหกรรมการผลิตยารุ่งเรืองในช่วงครึ่งหลังศตวรรษที่ 17 ในยุคสมัยเอโดะมีพ่อค้าขายยารักษาโรคของเมืองโทยามะเร่ขายยารักษาในเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ
หนึ่งในร้านขายยาที่มีส่วนร่วมในการผลิตและจำหน่ายยาตั้งแต่ยุคสมัยเอโดะก็คือร้านอิเคดะยะยาสุเบอิ ซึ่งมีชื่อเสียงมากในยา "ฮังโคทัง (Hankotan)" ซึ่งเป็นยาลูกกลอนชนิดหนึ่ง
ยาที่ผลิตโดยร้านอิเคดะยะยาสุเบอิเริ่มตั้งแต่"ฮังโคทัง" นั้น ทั้งหมดทำจากวัตถุดิบออร์แกนิค และใช้วิธีการผลิตตามหลักการของยาสมุนไพรจีนแบบดั้งเดิม
ที่ร้านอิเคดะยะยาสุเบอิสาขาหลักที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เราสามารถชมอุปกรณ์ ภาชนะและชั้นที่เก็บวัตถุดิบต่างๆ กว่าร้อยชนิดที่ใช้สำหรับผลิตยาที่มีมาตั้งแต่สมัยก่อนได้
นอกจากนั้น ยังมีพนักงานที่ช่วยอธิบายวิธีการทำฮังโคทังและแสดงการทำาจริงให้ชมวันละหลายรอบให้ด้วย นอกจากนี้เรายังจะได้ทดลองตัดยาด้วยอุปกรณ์สมัยก่อนอีกด้วยล่ะ
ที่ชั้น 1 ของร้านสามารถซื้อยาที่ผลิตโดยร้านอิเคดะยะยาสุเบอิ เช่น ยาและชาสมุนไพรได้
ส่วนที่ชั้น 2 มีร้านอาหารเคนโคเซน ยาขุโตะ (Kenkozen Yakuto) ซึ่งนำเสนออาหารเพื่อสุขภาพตามแนวคิดของตำราของแพทย์แผนจีนที่เชื่อว่า "อาหารเป็นยาชนิดหนึ่ง"
อาหารปรุงด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน และเตรียมเมนูที่ให้ความสมดุลที่ดีต่อร่างกาย ชุดอาหารเพื่อสุขภาพสามารถเลือกอาหารคอร์สในราคาเริ่มต้น 2,000 เยนไปจนถึง 3,000 เยนได้ แต่ขอให้ระวังว่าหากจะรับประทานอาหาร จำเป็นที่จะต้องจองมาก่อนล่วงหน้า
4. พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะ (Toyama Glass Art Museum)
อุตสาหกรรมการผลิตแก้วแบกรับทั้งวัฒนธรรมและเศรษฐกิจของโทยามะ เนื่องจากภาชนะที่ทำจากแก้วเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเก็บรักษายา ดังนั้นในยุคสมัยเอโดะจึงมีการสร้างโรงผลิตแก้วขึ้นมาหลายแห่ง
ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะ สามารถชมศิลปะแก้วชั้นยอดที่สร้างโดยศิลปินต่างประเทศและศิลปินจากทั่วประเทศญี่ปุ่นได้ นอกจากแผนการจัดแสดงผลงานศิลปะแก้วแบบใหม่ล่าสุดแล้ว ยังมีนิทรรศการถาวรที่แนะนำประวัติศาสตร์กับผลงานของศิลปะแก้วระดับโลกอีกด้วย
พิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะตั้งอยู่ในชั้น 2 ถึงชั้น 6 ของอาคาร TOYAMA คิราริ (TOYAMA Kirari) ซึ่งเป็นอาคารเอนกประสงค์ขนาดใหญ่ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดัง คุมะ เคงโกะ (Kuma Kengo) ภายในอาคารนี้นอกจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะแล้ว ยังมีห้องสมุดเมืองโทยามะ และคาเฟ่ทำเลดีซึ่งสามารถมองเห็นวิวทั้งเมืองได้อีกด้วย
หากใครอยากรู้เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะกระจกเมืองโทยามะอีก สามารถอ่านได้จากบทความด้านล่างเลย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5. พิพิธภัณฑ์อุเมะคามะ U-mei คัง (Umekama Museum U-mei Kan)
หนึ่งในผลิตผลชื่อดังของโทยามะก็คือลูกชิ้นปลา"คามะโบโกะ" ที่ทำจากเนื้อปลาบด ยี่ห้อ "อุเมะคามะ (Umekama)" ก่อตั้งขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ในปัจจุบันถือเป็นผู้ผลิตที่เป็นตัวแทนอุตสาหกรรมผลิตคามะโบโกะของโทยามะ
คามะโบโกะคืออาหารชนิดหนึ่ง วิธีการทำคือใส่นำเนื้อปลาบดมาปรุงรส ปั้นเป็นรูป และนำไปนึ่ง ที่พิพิธภัณฑ์อุเมะคามะ U-mei คัง (อุเมคัง) สามารถฟังคำอธิบายเกี่ยวกับประวัติและกรรมวิธีการผลิตคามะโบโกะ และคุณค่าทางโภชนาการได้
สามารถทัศนศึกษากระบวนการผลิตคามะโบโกะที่ตกแต่งหน้าตาให้สวยงาม เช่น คามะโบโกะที่ทำเป็นรูปร่างปลาไทสีแดงซึ่งเป็นที่นิยมในการมอบเป็นของขวัญในโอกาสแสดงความยินดีต่างๆ (เนื่องจากคนญี่ปุ่นมองว่าปลาไทเป็นปลามงคล)
หากเก็บคามะโบโกะไว้ในตู้เย็นจะอยู่ได้ถึงประมาณ 1 สัปดาห์ คามะโบโกะที่ทำอย่างพิถีพิถันนั้นอร่อยและถือเป็นของฝากชั้นเลิศเลยเชียวล่ะ
หากไปเที่ยวโทยามะก็อย่าลืมแวะไปพิพิธภัณฑ์อุเมะคามะ ลองชิมคามะโบโกะเด็ดๆ กันดูนะคะ
6. ร้านชิมาคาวะอาเมะเท็น (Shimakawa Ameten)
ลูกอมที่ทำจากน้ำเชื่อมข้าวมอลต์ก็เป็นของขึ้นชื่อของโทยามะ น้ำเชื่อมข้าวมอลต์หากใช้กับยาจะช่วยทุเลาความขมได้ น้ำเชื่อมนี้จึงรุ่งเรืองขึ้นมาเพราะเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมการผลิตยาในโทยามะนั่นเอง
ร้านลูกอม ชิมาคาวะอาเมะเท็นเป็นร้านขายสินค้าของโรงงาน "ชิมาคาวะเซอัน (Shimakawa Seian)" โรงงานผลิตลูกอมที่ทำจากน้ำเชื่อมข้าวมอลต์โดยเฉพาะ ซึ่งก่อตั้งเมื่อปี ค.ศ. 1663
ภายในร้านประดับไปด้วยรูปภาพแนะนำกระบวนการผลิตต่างๆ อีกทั้งยังสามารถลองชิมลูกอมน้ำเชื่อมข้าวมอลต์ยอดนิยม 2 ชนิดได้อีกด้วย สิ่งสำคัญที่ทำให้ลูกอมน้ำเชื่อมข้าวมอลต์เป็นที่ชื่นชอบของคนหลากวัยมาเป็นระยะเวลายาวนานก็คือความหวานที่ลงตัว และความหวานจากธรรมชาติที่ไม่ทำให้คอแห้ง
มาลองซื้อลูกอมน้ำเชื่อมข้าวมอลต์ของร้านชิมาคาวะอาเมะเท็น สินค้าที่เป็นดั่งสัญลักษณ์ของโทยามะกลับไปเป็นของฝากกันดูไหมคะ
7. ร้านสึกิเซไก (Tsukisekai Honpo)
สึกิเซไกเป็นบริษัทที่ผลิตขนมญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงและมีฐานการผลิตอยู่ในโทยามะ ภาคภูมิใจในประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1 ศตวรรษ ขนมที่ทำอย่างประณีตนุ่มลิ้นจนถึงขนาดละลายในปาก ผู้ที่ชื่นชอบสัมผัสรสชาตินั้นมีอยู่ทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น
สาขาหลักที่อยู่ใจกลางเมืองโทยามะมีขนมหลากหลายชนิดที่ผลิตโดยสึกิเซไกวางเรียงอยู่ รวมไปถึงขนมชั้นเลิศที่ไว้เสิร์ฟคู่กันในซาโด (พิธีชงชา)
สินค้าประจำของร้านคือ "สึกิเซไก (Tsukisekai)" จะทำจากไข่สด และ "วะซัมบง (Wasanbon)" น้ำตาลชั้นสูงที่ผลิตในภูมิภาคชิโกกุเป็นหลัก หากนำไปเป็นของฝาก คิดว่าผู้รับคงจะดีใจไม่น้อย
ที่พักแนะนำต้อง Hotel Grand Terrace Toyama!
เพื่อที่จะได้เพลิดเพลินกับการเที่ยวรอบๆ โทยามะอย่างไม่ต้องรีบร้อน แนะนำให้พักค้างสัก 1 คืน โรงแรม Hotel Grand Terrace Toyama อยู่ในทำเลดี เดินทางดวก โดยใช้เวลาเดินจากสถานี JR โทยามะเพียง 10 นาที
ห้องพักมีขนาดกว้าง หน้าต่างก็หันหน้าเข้าหาเทือกเขาทาเทยามะ จึงสามารถชมวิวได้ทั้งเมือง ที่ล็อบบี้มีพนักงานที่พูดภาษาอังกฤษได้คอยต้อนรับ 24 ชั่วโมง หากลองไปสอบถาม พนักงานจะช่วยแนะนำสถานที่ที่สามารถเพลิดเพลินในเมืองให้ด้วยนะ
การตกแต่งภายแนวศิลปะบริเวณล็อบบี้เต็มไปด้วยศิลปะแก้วอันแสนประณีตของโทยามะ เป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุดไม่ว่าจะสำหรับจะมานั่งประชุมงาน อ่านหนังสือพิมพ์ หรือชมผลงานศิลปะที่ประดับอยู่รอบๆ
ชวนไปเที่ยวแสนสนุกในโทยามะ!
จะเดินเล่นเรื่อยเปื่อยในเมืองโทยามะ หรือจะสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ ก็มีให้ไปหลายที่
ไม่ว่าจะก้าวเท้าไปที่ไหนในเมือง ก็สามารถชมวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ต่างๆ ได้ตลอด ทั้งการล่องเรือแม่น้ำมัตสึที่จะให้เราได้คุ้นเคยกับประวัติของโทยามะมากขึ้น
ต้องมาลองไปเที่ยวชมและสัมผัสสิ่งดีๆ ในโทยามะสักครั้งดูให้ได้นะ!
※บทความนี้แปลและเรียบเรียงมาจากฉบับภาษาอังกฤษ
เป็นบรรณาธิการที่ MATCHA ตั้งแต่ปี 2016 ความหลงใหลของฉันในละครโนะและศิลปะการแสดงของประเทศญี่ปุ่นคือสิ่งที่นำฉันมาที่นี่ เรื่องทุกอย่างที่ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทุกวันคือสิ่งที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่
ฉันเรียนรู้การจัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikenobo School) และพิธีสามัคคี (Omote Senke) ตั้งแต่ปี 2012 งานเขียนเรื่องสั้นและบทวิจารณ์ละครที่ฉันเขียนนอกเวลาทำงานสามารถอ่านได้ในเว็บไซต์วรรณกรรมรวม "บังกุ คิงโย"
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง