Start planning your trip
5 เหตุผลที่แนะนำให้ทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นมื้อเช้า สุขภาพดีและอร่อยด้วย!
อาหารเช้าแบบฉบับญี่ปุ่น ประกอบด้วย ข้าว ซุปมิโซะ กับข้าวแสนอร่อย และผักดอง ที่สัมผัสได้ถึงแต่ละฤดูกาลด้วยการปรุงรสและรูปลักษณ์ เมื่อต้องเลือกอาหารเช้าแล้วละก็ ต้องลองชิมอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น เพื่อสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ยอดเยี่ยมดูนะคะ
อาหารเช้าแบบญี่ปุ่น - อาหารที่ลิ้มรสด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า
Photo by Pixta
หนึ่งในความสุขของการเดินทางคือการเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นที่มีรสชาติและรสสัมผัสต่างจากอาหารที่เราทานเป็นประจำทุกวัน
เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่น อาหารญี่ปุ่นคือสิ่งที่ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม วาโชคุ (Washoku : 和食) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ไม่มีรูปร่างขององค์การยูเนสโกในปี 2013 ด้วยเหตุผลสำคัญยิ่งได้แก่ วิธีการเลือกวัตถุดิบ วิธีการเตรียมการ วิธีการจัดวาง และอื่นๆ ที่ได้รับการสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน และสะท้อนให้เห็นถึงโลกทัศน์ที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
หากที่พักในญี่ปุ่นมีอาหารเช้าให้ด้วยแล้ว ก็สามารถลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่นั่นได้ แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าจะเลือกทานมื้อเช้าเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม หรือขนมปังกับเนย ซีเรียลกับโยเกิร์ตละก็ เดี๋ยวเราช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้นเอง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5 เหตุผลในการเลือกทานอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเป็นมื้อเช้า
เมนูอาหารเช้าตามฤดูกาลที่ให้บริการในเรียวกังและโรงแรมชั้นนำ / Photo by Pixta
ปกติที่โรงแรมในญี่ปุ่นมักจะมีอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมหรือแบบตะวันตกให้เลือกทานได้ โดยโรงแรมชั้นประหยัด (Business Hotel) มักให้บริการเป็นบุฟเฟ่ต์จึงเลือกทานเองได้ทั้งสองแบบ หลังจากทานข้าว ไข่ม้วน และซุปมิโซะเสร็จ ค่อนตามด้วยโยเกิร์ตกับซีเรียลก็ได้
กลับกัน ถ้าพักเรียวกัง (โรงแรมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม) อาหารเช้ามักจะเป็นอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ที่นอกจากจะสวยน่าทานแล้วยังอร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย
ถ้าจำเป็นต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น เราขอแนะนำให้เลือกอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ค่ะ
1. มีสารอาหารสมดุลครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ และดีต่อสุขภาพ
Photo by Pixta
เมนูอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นทั่วไปประกอบด้วยข้าว ซุปมิโซะ กับข้าว และผักดอง เป็นเมนูพื้นฐานที่เรียกว่า อิจิจูซันไซ (Ichiju Sansai) หมายความว่า ในอาหารหนึ่งมื้อจะมีข้าว กับข้าว 3 อย่าง และซุปมิโซะ กับข้าวจะปรุงโดยใช้ปลา เนื้อ ไข่ และผักตามชอบ
อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพราะเมนูต่างๆ มีสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายสมดุลครบถ้วนทั้ง 5 หมู่
สารอาหารดังกล่าวประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แร่ธาตุ วิตามิน และเส้นใยอาหาร เพราะเป็นอาหารที่มีสารอาหารสมดุลครบถ้วนทั้ง 5 หมู่ ร่างกายจึงได้รับพลังงานมากพอที่จะใช้งานได้จนถึงช่วงบ่าย
2. โอกาสลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม
เมนูอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นประกอบด้วยอาหารดั้งเดิมเหล่านี้
ข้าวสวย
ข้าวญี่ปุ่นเหนียวนุ่มเป็นสิ่งที่ผู้มาเที่ยวญี่ปุ่นไม่ควรพลาดยิ่ง ชาวต่างชาติหลายคนต่างประหลาดใจที่ข้าวญี่ปุ่นแตกต่างกับข้าวที่พวกเขาเคยกินในประเทศของตนมาก เนื้อสัมผัสและรสชาติของข้าวขึ้นอยู่กับว่าปลูกที่ไหน ด้วยวิธีการอย่างไร
เมื่อเร็วๆ นี้ ข้าวกล้องสีน้ำตาลและข้าวกล้องผสมธัญพืช 5 ชนิดก็ได้รับความนิยมสูงในฐานะข้าวที่ให้สารอาหารที่หลากหลาย
ซุปมิโซะ
ซุปมิโซะทำจากมิโซะหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นที่ได้จากการหมักถั่วเหลือง น้ำซุปมักทำจากคมบุ (สาหร่ายทะเล) หรือนิโบชิ (ปลาอบแห้ง) วัตถุดิบต่างๆ เช่น เต้าหู้ แผ่นเต้าหู้ทอด สาหร่ายวากาเมะ กะหล่ำปลี ต้นหอม และหอยต่างๆ สามารถเปลี่ยนได้ทุกวันตามชอบค่ะ
ซุปมิโซะเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้จึงมีซุปมิโซะรวมอยู่ในชุดอาหารที่ให้บริการที่ร้านอาหาร
ปลา
Photo by Pixta
เนื่องจากญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ล้อมรอบด้วยทะเล อาหารทะเลต่างๆ จึงเป็นเมนูประจำโต๊ะอาหารทุกวัน อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจะปรุงปลาด้วยวิธีดึงรสชาติความอร่อยของปลาออกมา
อาหารเช้าที่แนะนำที่สุดคือแซลมอนย่างหอมๆ รสชาติอ่อนๆ แต่มีคุณค่าทางโภชนาการและสีสันสวยงามดึงดูดสายตา
ปลาอาจิย่าง ปลาซาบะย่าง และปลาซัมมะย่างก็มักเสิร์ฟในอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมด้วย
ผักดองญี่ปุ่น
สึเคโมโนะ (อาหารดอง) เป็นอาหารอีกจานที่ขาดไม่ได้ในอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ช่วยแก้เลี่ยน มีทั้งผักที่ดองด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู ผักที่ดองด้วยน้ำเกลือและกากเหล้าสาเกคาซุ และผักที่ดองด้วยโคเมะนุคะ (รำข้าว)
อุเมะโบชิ (บ๊วยดอง) เป็นหนึ่งในผักดองที่เสิร์ฟมาพร้อมกับอาหารเช้า รสชาติแตกต่างกันขึ้นอยู่กับพันธุ์ของลูกบ๊วยและวิธีการดอง แต่ทั้งหมดมีความเปรี้ยวและกลิ่นหอมอบอวลเป็นเอกลักษณ์ เมื่อทานตอนเช้าช่วยปลุกให้รู้สึกสดชื่นขึ้นทันที
วัตถุดิบอื่นๆ ที่มักนำมาดอง ได้แก่ แตงกวา หัวไชเท้า แครอท และ ขิง อีกอย่างคือ ทาคุอัง (ไชโป้วญี่ปุ่น) เป็นหัวไชเท้าดองแบบหนึ่งที่แต่งสีด้วยสีเหลืองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน ผักดองจะเสิร์ฟในปริมาณน้อยแต่จัดเรียงบนจานอย่างงดงาม
กับข้าวยอดฮิต
เมื่อกับข้าวหลักเป็นปลา มักมาพร้อมกับข้าวอีกหนึ่งจาน และสลัดหรือกับข้าวที่เป็นผักอีกหนึ่งจาน
ทามาโกะยากิ (ไข่ม้วน) เป็นหนึ่งในกับข้าวยอดนิยม ทั้งอร่อยและสีสันสดใส
นัตโต (ถั่วหมัก) ที่อุดมไปด้วยเส้นใยและคุณค่าทางโภชนาการเป็นอาหารเช้ายอดนิยมอีกหนึ่งจาน แม้เป็นอาหารที่ดูเรียบง่าย แต่เมื่อใส่มัสตาร์ด โชยุ และต้นหอม ผสมให้เข้ากันดีแล้วโปะบนข้าวสวยร้อนๆ ละก็อร่อยสุดๆ เคล็ดลับความอร่อยคือการคนผสมนัตโตจนเหนียวหนืด
3. หน้าตาน่าทาน
Photo by Pixta
อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไม่เพียงอร่อยเท่านั้น แต่ยังมีรูปลักษณ์ที่งดงามด้วย แต่ละจานเสิร์ฟในภาชนะที่ดึงความงดงามของอาหารออกมา หนึ่งในเคล็ดลับของการปรุงอาหารญี่ปุ่นให้น่าทานคือการเลือกใส่วัตถุดิบที่มีสีพื้นฐาน ได้แก่ ขาว เขียว เหลือง และแดง
หากไปบ้านชาวญี่ปุ่น อาจเห็นแครอทดองวางอยู่ข้างปลาซาบะย่างก็ได้ นี่เป็นการเพิ่มสีสันให้อาหารดูน่าทาน และแน่นอนว่ารสชาติอร่อยเข้ากันด้วย
4. ปรุงง่ายกว่าที่คิด
Photo by Pixta
เมื่อนึกถึงอาหารเช้าที่ประกอบด้วย ข้าว ซุปมิโซะ และกับข้าว 3 อย่าง คงคิดว่าต้องใช้เวลาปรุงอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แต่จริงๆ แล้วใช้เวลาราว 15 นาทีเท่านั้นค่ะ
ข้าวสวยก็ตั้งเวลาหุงอัตโนมัติด้วยหม้อหุงข้าวไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืน ตื่นมาก็ได้ข้าวสวยร้อนๆ พร้อมทาน
ซุปมิโซะก็ทำน้ำซุปดาชิ (น้ำซุปสต๊อก) ไว้ล่วงหน้าแล้วแช่ตู้เย็นไว้ เช้ามาก็เอามาตั้งไฟ ใส่สาหร่าย เต้าหู้สับ หรือเครื่องตามชอบ ปิดท้ายด้วยตักมิโซะลงไปคนให้ละลายเข้ากันก็เสร็จได้ใน 5 นาที
ปลาแซลมอนเลือกที่หั่นเป็นชิ้นและปรุงรสด้วยเกลืออ่อนๆ ไว้แล้วตามซูเปอร์มาร์เก็ต มานาบด้วยกระทะให้สุกทั้ง 2 ฝั่งราว 5 นาที ส่วนนัตโตมีขายเป็นแพ็ค ก่อนทานก็คนผสมให้เข้ากันจนหนืดดี
ทามาโกะยากิ สามารถทอดให้สวยได้ง่ายดายด้วยกระทะสำหรับทอดไข่ม้วนทรงสี่เหลี่ยม
ผักดองแสนอร่อยก็มีจำหน่ายที่ซูเปอร์มาร์เก็ต เพราะเก็บได้นานสามารถซื้อเก็บไว้ หรือจะทำเองก็ได้ แต่ก่อนอื่นต้องทำความคุ้นเคยกับการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมก่อน อาจใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 ปีก่อนที่จะดองได้อร่อย
ผักต่างๆ จะทำผักสลัดง่ายๆ หรือต้มในน้ำซุปดาชิก็อร่อย ครอบครัวชาวญี่ปุ่นมักต้มผักทั้งหมดในวันหยุดสุดสัปดาห์แล้วค่อยตักแบ่งออกมาทานในวันธรรมดา
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
5. เป็นโอกาสดีในการสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น!
Photo by Pixta
วัฒนธรรมเกิดจากการปฏิสัมพันธ์ของผู้คนกับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ ชาวญี่ปุ่นได้สร้างสรรค์วิธีปุรงอาหารที่รักษารสชาติและคุณค่าทางอาหารของวัตถุดิบไว้ให้ได้มากที่สุด และสอดคล้องกับสภาพดินฟ้าอากาศของญี่ปุ่น ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถดื่มด่ำกับรสชาติแท้จริงของวัตถุดิบ เช่น ปลา ข้าว และผักในอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมได้
ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการกินอาหารตามฤดูกาล พ่อครัวอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมจะนำอาหารทะเลตามฤดูกาลมาใส่ในรายการอาหาร ในฤดูใบไม้ผลิจะใส่หน่อไม้ในข้าวหรือซุปมิโซะ ในฤดูใบไม้ร่วงจะใช้เกาลัดหรือเห็ดปรุงอาหาร
ชาวญี่ปุ่นมีความคิดที่หยั่งรากลึกในจิตใจว่า ฤดูกาลผันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และเราควรดื่มด่ำไปกับช่วงเวลานั้น รวมถึงอาหารอร่อยๆ ด้วย
อาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมไม่เพียงทำให้อิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังเป็นอาหารตาอาหารใจที่แสดงถึงฤดูกาลทั้งสี่ด้วยการตกแต่งและภาชนะที่ใส่ อย่างในฤดูใบไม้ผลิก็อาจเห็นผักที่ถูกตัดแต่งเป็นรูปดอกซากุระ ในฤดูร้อนสร้างความรู้สึกเย็นสบายด้วยภาชนะโทนสีฟ้า ในฤดูใบไม้ร่วงใช้ภาชนะที่เป็นรูปใบเมเปิ้ลหรือมีลวดลายใบเมเปิ้ล ไม่ว่าจะจาน ที่วางตะเกียบ กาน้ำชา ชาม หรือตะเกียบก็มีนะคะ
เมนูอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นดูเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยโลกทัศน์และสุนทรียภาพของอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม ลองเพ่งพินิจและลิ้มรสอาหารแต่ละจานด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้าดูนะคะ
สถานที่ที่เพลิดเพลินกับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น
เมื่อพักที่เรียวกัง จะได้รับประทานอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ยอดเยี่ยม อาหารอร่อยคือส่วนหนึ่งในโอโมเตนาชิ (หัวใจของการบริการแบบญี่ปุ่น) ที่เรียวกัง หากอยากทานอาหารเช้าแบบญี่ปุ่น มีร้านอาหารในโตเกียวที่ให้บริการด้วยค่ะ
มาเพลิดเพลินกับอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นกัน
การได้ลิ้มรสอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นอาจเป็นประสบการณ์ที่เปลี่ยนชีวิต บางท่านอาจอยากลองทำด้วยตัวเอง สำหรับท่านที่สนใจลองเข้าร่วมชั้นเรียนทำอาหารในญี่ปุ่นดูสิคะ หรือจะแวะไปที่ร้านอุปกรณ์ทำอาหารและซื้อเครื่องมือที่แสนสะดวกและง่ายต่อการใช้งานก็น่าสนใจไม่น้อย
เคล็ดลับในการรับประทานอาหารเช้าแบบญี่ปุ่นคือการรักษารสชาติของวัตถุดิบให้มากที่สุด ไม่ปรุงรสมากเกิน และใส่ความรู้สึกของฤดูกาลลงไป ขอให้ลองทำอาหารด้วยความสนุกสนานนะคะ!
Main image by Pixta
เป็นบรรณาธิการที่ MATCHA ตั้งแต่ปี 2016 ความหลงใหลของฉันในละครโนะและศิลปะการแสดงของประเทศญี่ปุ่นคือสิ่งที่นำฉันมาที่นี่ เรื่องทุกอย่างที่ฉันเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของประเทศญี่ปุ่นทุกวันคือสิ่งที่ทำให้ฉันอยู่ที่นี่
ฉันเรียนรู้การจัดดอกไม้อิเคบานะ (Ikenobo School) และพิธีสามัคคี (Omote Senke) ตั้งแต่ปี 2012 งานเขียนเรื่องสั้นและบทวิจารณ์ละครที่ฉันเขียนนอกเวลาทำงานสามารถอ่านได้ในเว็บไซต์วรรณกรรมรวม "บังกุ คิงโย"
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง