Start planning your trip
เที่ยวอาซากุสะ (Asakusa) แบบจัดเต็ม! 54 แหล่งท่องเที่ยว & ช้อปปิ้งยอดนิยม!
ขอแนะนำ “อาซากุสะ” (Asakusa) ที่เที่ยวระดับโลกที่ทุกคนต้องรู้จักชื่อ มาดูกันว่าโซนนี้นอกจากวัดและศาลเจ้าเก่าแก่ หรือที่เที่ยวสุดทันสมัยอย่างโตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree) แล้วจะมีอะไรบ้าง พร้อมข้อมูลวิธีการเดินทาง อาหาร และช้อปปิ้ง ครบครันในที่เดียว!
มาโตเกียว ต้องมาอาซากุสะ (Asakusa)!
อาซากุสะ (Asakusa) แหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโตเกียวแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองในฐานะที่เป็นย่านชุมชนที่ได้รับการสนับสนุนด้านการค้าและ ศิลปะการแสดงดั้งเดิม มาตั้งแต่ใน สมัยเอโดะ แม้ในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลือร้านค้าดั้งเดิมและอาคารบ้านเรือนเก่าแก่อยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ในปี 2012 ก็ได้เกิด โตเกียวสกายทรี หอคอยส่งสัญญาณสูง 634 เมตรขึ้นมาในบริเวณใกล้เคียงด้วย หลังจากนั้นมา อาซากุสะก็เริ่มกลายเป็น ย่านที่ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมและเทคโนโลยีอันทันสมัย ไปโดยปริยาย
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ก่อนไปโตเกียวต้องอ่าน! ทุกข้อมูลทั้งสถานที่เที่ยวที่กิน ที่พัก การเดินทาง อากาศ
สารบัญ:
1.ข้อมูลการเดินทางไปยังอาซากุสะ
2.วิธีการเดินทางท่องเที่ยวอาซากุสะ
3.บริการและแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในอาซากุสะ
4.แหล่งช้อปปิ้งสำหรับหาซื้อของฝากในอาซากุสะ
5.ข้อมูลอาหารขึ้นชื่อในอาซากุสะ
6.ร้านค้าแนะนำโดยฝ่ายบรรณาธิการ MATCHA〜 ตั้งแต่อาหารยันของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่น
7.แผนเที่ยวอาซากุสะ
8.งานอีเว้นท์ในอาซากุสะ
9.โรงแรมแนะนำในอาซากุสะ
10.ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว
วิธีการเดินทางไปยังอาซากุสะ
วิธีการเดินทางจากสนามบินนาริตะไปยังอาซากุสะ
วิธีการเดินทางไปยังอาซากุสะสามารถใช้บริการสายรถไฟ Tokyo Metro Ginza Line・Tobu Railway Isezaki Line (Tobu Sky Tree Line) ・Toei Subway Asakusa Line・Tsukuba Express เหล่านี้ได้เลยค่ะ ในกรณีที่ต้องการเดินทางจากสนามบินนาริตะเข้าเมืองอาซากุสะโดยตรง ถ้าเกิดใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษของ Keisei Narita Sky Access Line (For Oshiage) ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเดินทางมาถึงสถานีอาซากุสะ Toei Asakusa Line ได้โดยตรง แต่บางขบวนก็ไม่ใช่สายตรง (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา) นะจ๊ะ... สำหรับใครที่ขึ้นรถไฟขบวนที่ไม่ใช่สายตรงให้ไปเปลี่ยนขบวนเป็น Toei Subway Asakusa Line (For Oshiage) ที่ Aoto Station ระยะเวลาในการเดินทางประมาณ 57 นาที ค่าโดยสาร 1,290 เยน
วิธีการเดินทางจากสนามบินฮาเนดะไปยังอาซากุสะ
ส่วนวิธีการเดินทางจาก สนามบินฮาเนดะ ไปยังอาซากุสะนั้นทั้งเข้าใจง่าย แถมยังมีราคาไม่แพงอีกต่างหาก ถ้าเกิดใช้บริการรถไฟของ Keikyu Airport Line AIRPORT LIMITED EXPRESS (For Narita Airport) ที่วิ่งให้บริการจาก Haneda Airport Domestic Terminal Station เราจะสามารถเดินทางมาถึงสถานีรถไฟใต้ดินอาซากุสะได้โดยใช้เวลาประมาณ 36 นาที ค่าโดยสาร 660 เยน
วิธีการเดินทางจากชินจุกุไปยังอาซากุสะ
การเดินทางจาก ชินจุกุ ย่านชุมชนชั้นนำของโตเกียวไปยังอาซากุสะใช้เวลาเพียง 26 นาทีเท่านั้น โดยใช้บริการรถไฟสาย JR Chuo・Sobu Line และ Toei Asakusa Line เราสามารถนั่ง รถไฟธรรมดาจอดทุกสถานีของ JR Chuo・Sobu Line (For Chiba) จาก JR Shinjuku Station มาถึง Asakusabashi Station ได้โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นก็เปลี่ยนขบวนเป็น Toei Asakusa Line (For Aoto) เพื่อเดินทางมาถึง Asakusa Station เพียง 2 นาทีเท่านั้น ค่าโดยสารรวม 350 เยน / เที่ยว สำหรับใครที่วางแผนเดินทางไปเที่ยวชินจุกุก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวอาซากุสะกันด้วยน้า...
วิธีการเดินทางจากอุเอโนะไปยังอาซากุสะ
“อุเอโนะ” คือ ย่านขึ้นชื่อเรื่องการค้าขายของโตเกียวในฐานะที่เป็นแถบที่อยู่อาศัยของพ่อค้าเหมือนอาซากุสะ สำหรับใครที่ต้องการเดินทางจากอุเอโนะไปยังอาซากุสะก็สามารถใช้บริการ Tokyo Metro Ginza Line・For Asakusa ได้เลยจ้า... โดยสามารถเดินทางมาถึงได้โดยใช้เวลาเพียง 5 นาที ค่าโดยสาร170เยนเท่านั้น สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「อ่านจบไม่มีหลง! กับวิธีการเดินทางจากสถานีรถไฟอุเอโนะไปยังสถานีรถไฟอาซากุสะ (ฉบับรถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน)」
ส่วนใครที่ต้องการเดินทางจากสถานีโตเกียว, สถานีชิบุย่า หรือสถานีกินซ่าไปยังอาซากุสะสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ "รวมวิธีการเดินทางไปยังอาซากุสะจากสถานีหลักในโตเกียว"
วิธีการเดินทางท่องเที่ยวอาซากุสะ
เนื่องจากแหล่งท่องเที่ยว ร้านจำหน่ายของฝาก และร้านอาหารส่วนใหญ่ในอาซากุสะตั้งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ เราจึงสามารถเดินเท้าท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ก็ขอแนะนำให้ลองใช้บริการรถบัส, เรือนำเที่ยว, รถลาก และจักรยานเช่าดูบ้างเหมือนกัน
รถบัส
Photo by Pixta
พาหนะแนะนำสำหรับการท่องเที่ยวอาซากุสะกันเป็นครอบครัวก็คือ “รถบัส” นั่นเองค่ะ「Megurin (เมกุริน)」คือ รถบัสนำเที่ยวที่วิ่งให้บริการตลอดทั้งปีไม่มีวันหยุด โดยวิ่งรับ-ส่งตามป้ายรถบัสภายในเขตไทโตทุกๆ 15 นาที ค่าโดยสาร 100 เยน เนื่องจากเป็นรถบัสที่ไม่มีทางต่างระดับ ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุหรือคุณหนูๆก็สามารถขึ้น-ลงได้อย่างสบายใจแน่นอน
จักรยานเช่า
นอกจากนี้ เราก็ยังสามารถขี่ จักรยานเช่า ท่องเที่ยวย่านอาซากุสะได้ในราคาเพียง 200 เยน / วันด้วยนะเออ... ภายในย่านอาซากุสะมีจุดเช่ายืมรถจักรยานอยู่ทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน สำหรับใครที่ต้องการเที่ยวย่านรอบๆอาซากุสะ เช่น สกายทรีหรืออุเอโนะ วิธีนี้ก็ไม่เลวเหมือนกันนะจ๊ะ...
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「ปั่น「จักรยานเช่า」ของเขตไทโต แล้วออกตระเวนเที่ยวอาซากุสะกันดีกว่า!」
เรือนำเที่ยว
Photo by Pixta
วิวเมืองแห่งพ่อค้าบรรยากาศเก่าแก่จากเหนือแม่น้ำซุมิดะเป็นอะไรที่ควรค่าแก่การชมให้ได้สักครั้งในชีวิต「TOKYO CRUISE」คือ เรือนำเที่ยวที่วิ่งให้บริการจากอาซากุสะไปยังฮามาริคิว・สะพานฮิโนเดะ・สวนสาธารณะริมทะเลโอไดบะ ถึงแม้ว่าค่าโดยสารจะแตกต่างกันไปตามจุดหมายปลายทาง แต่ก็นับเป็นวิธีการเดินทางยอดนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวที่สามารถเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณโดยรอบย่านอาซากุสะจากเหนือน้ำได้ในราคาเพียง 780 – 1,280 เยนเท่านั้นเอง สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「4 วิธีการเดินทางในอาซากุสะให้สนุกกว่าที่เคย」
รถลาก
Photo by Pixta
「รถลาก」คือ เกวียน 2 ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยแรงมนุษย์ โดยเรียกได้ว่าเป็นพาหนะขึ้นชื่อแห่งการท่องเที่ยวอาซากุสะเลยทีเดียว รถลาก 1 คันสามารถนั่งได้สูงสุด 2 คน เสน่ห์ของรถลากอยู่ที่พนักงานลากรถผู้รอบรู้เกี่ยวกับอาซากุสะจะคอยพาเที่ยวตั้งแต่แหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อไปจนถึงไฮไลท์เด็ดที่ไม่ค่อยมีใครรู้นี่แหละ บริษัทรถลากที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในย่านอาซากุสะอย่าง Jidaiya (จิไดยะ) นั้นมีคอร์สท่องเที่ยวให้เลือกมากมายหลายช่วงราคาตั้งแต่คอร์ส 30 นาที 7,000 เยน / คน ไปจนถึงคอร์ส 3 ชั่วโมงสำหรับเที่ยวอาซากุสะแบบจัดเต็ม (32,500 เยน / คน) เลยทีเดียว
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「ของยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็ใช้กันเมื่อมาเที่ยวที่อาซากุสะ! มาขึ้นรถลากพลังคน (Jinrikisha) เพื่อการความสะดวกสบายในการเดินทางกันเถอะ」
〜บริการและแหล่งท่องเที่ยวแนะนำในอาซากุสะ〜
“อาซากุสะ” เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดมากมายไม่ว่าจะเป็นวัด-ศาลเจ้าที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานและสวนสนุก เป็นต้น เดี๋ยวเรามาแนะนำแหล่งท่องเที่ยวโดยจำแนกตามประเภทกันดีกว่าค่ะ ^^
<วัดและศาลเจ้า>
1. Sensō-ji (วัดเซ็นโซจิ)
Photo by Pixta
Sensō-ji (วัดเซ็นโซจิ) นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่ออันดับต้นๆในโตเกียวเลยทีเดียว โดยมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1300 ปี “ประตูคามินาริ” ที่มีจุดสังเกตเป็นโคมไฟสีแดงขนาดยักษ์หนักกว่า 700 กิโลกรัมเรียกได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งวัดเซ็นโซจิเลยก็ว่าได้
เมื่อลอดผ่านประตูคามินาริเข้าไปแล้วก็จะพบกับร้านจำหน่ายของฝากและขนมญี่ปุ่นมากมายตั้งเรียงรายกันบน「ถนนนากามิเสะ」ถนนร้านค้าที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นซึ่งทอดยาวไปจนถึงโบสถ์วัด
นอกจากนี้ เซียมซี ของวัดเซ็นโซจิก็มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่ผู้คนท้องถิ่นโดยร่ำลือกันว่ามีโอกาสออก “โชคร้าย” สูงมาก วัดเซ็นโซจิที่สามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมมากมายทั้งไหว้พระ ช้อปปิ้ง และเสี่ยงดวงได้แห่งนี้จึงกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นชิลล์ๆทั้งวันไปโดยปริยาย
2. Asakusa Shrine (ศาลเจ้าอาซากุสะ)
Asakusa Shrine (ศาลเจ้าอาซากุสะ) ตั้งอยู่ห่างจากวัดเซ็นโซจิเพียงเดินเท้าไม่กี่นาทีเท่านั้น โดยเป็นศาลเจ้าชั้นสูงที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 628 เนื่องจาก งานเทศกาลซันจะมัตสึริ ที่จัดขึ้นทุกเดือนพฤษภาคมจะมีกิจกรรมแห่เกี้ยวกว่า 100 คันภายในวัด จึงบอกได้เลยว่าดูยิ่งใหญ่และควรค่าแก่การชมมากค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ศาลเจ้าอาซากุสะที่ตั้งอยู่ติดๆ กับวัดเซ็นโซจิที่หลายๆ คนอาจเดินผ่านเลยไป」
3. Ootori Shrine (ศาลเจ้าโอโทริ)
Photo by Pixta
Ootori Shrine (ศาลเจ้าโอโทริ) โด่งดังมาจาก「โทริโนะอิจิ」งานเทศกาลที่จัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี งานเทศกาลโทริโนะอิจิจัดขึ้นเพื่อขอพรจากเทพเจ้าให้ประสบโชคลาภและค้าขายเจริญรุ่งเรืองในปีที่กำลังจะถึงนี้ โดยคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายที่มารวมตัวกันเพื่อซื้อสิ่งของมงคล
4. Nishi Asakusa Hachiman Shrine (ศาลเจ้านิชิอาซากุสะฮาจิมัง)
Nishi Asakusa Hachiman Shrine (ศาลเจ้านิชิอาซากุสะฮาจิมัง) ที่สร้างขึ้นในปีค.ศ. 1700 แห่งนี้มีการจัด งานเทศกาลศาลเจ้านิชิอาซากุสะฮาจิมัง ขึ้นในวันเดียวกับงานเทศกาลซันจะ ในวันงานจะกึกก้องไปด้วยเสียงของเหล่าชายหนุ่มผู้แห่เกี้ยวและเสียงกลองไทโกะอันยิ่งใหญ่ไม่แพ้งานเทศกาลซันจะเลยทีเดียว
<สวนสนุก・ศูนย์รวมความบันเทิง>
5. Hanayashiki (ฮานายาชิกิ)
「Hanayashiki (ฮานายาชิกิ)」หรือที่เรียกกันว่าสวนสนุกที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นธีมปาร์คอันทรงเสน่ห์เรื่องบรรยากาศดั้งเดิม เนื่องจากเราสามารถชมวิวเมืองอาซากุสะจากบนเครื่องเล่นบางอย่างได้ด้วย จึงเรียกได้ว่าเป็นจุดถ่ายรูปแนะนำแห่งหนึ่งเลยค่ะ ^^
6. Tokyo Skytree (โตเกียวสกายทรี)
Tokyo Skytree (โตเกียวสกายทรี) หอคอยส่งคลื่นสัญญาณที่สร้างขึ้นในปี 2012 แห่งนี้มีความสูงถึง 634 เมตร! โดยโด่งดังในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของโตเกียวแห่งใหม่ ที่นี่ไม่เพียงแค่มีจุดชมวิวที่สามารถชมวิวเมืองโตเกียวได้เท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมความบันเทิงทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ, ท้องฟ้าจำลอง และช้อปปิ้งเซ็นเตอร์ขนาดใหญ่อีกด้วย
ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านอาซากุสะ แต่เราสามารถถ่ายรูปสกายทรีจากย่านอาซากุสะได้อย่างชัดเจนสวยงามเชียวล่ะค่ะ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
7. Edo Shitamachi Traditional Crafts Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมเอโดะชิตะมาจิ)
「Edo Shitamachi Traditional Crafts Museum (พิพิธภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมเอโดะชิตะมาจิ)」ในอาซากุสะที่โด่งดังในฐานะที่เป็นขุมทรัพย์แห่งศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมแห่งนี้จัดแสดงผลงานเกี่ยวกับวัฒนธรรมงานฝีมือที่ชาวเมืองสืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยก่อน ผลงานศิลปหัตถกรรมฝีมือช่างผู้เชี่ยวชาญอย่างเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์เครื่องครัว และฮาร์ดแวร์นั้นเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดภูมิปัญญาในการดำรงชีวิตของคนสมัยก่อนได้เป็นอย่างดี แถมเรายังสามารถช้อปปิ้งผลงานศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมอันแสนภาคภูมิใจของอาซากุสะที่โซนของฝากได้ในราคาสบายกระเป๋าด้วย ถ้าเกิดใครมีโอกาสก็บอกเลยว่าห้ามพลาด! สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ『เรียนรู้เทคนิคหัตถกรรมญี่ปุ่นที่「พิพิธภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมเอโดะชิตะมาจิ」ในอาซากุสะ」
8. Asakusa Kingyo (อาซากุสะคินเกียว)
Photo by Pixta
ร้ายแผงลอย「ช้อนปลาทอง」นับเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงานเทศกาลญี่ปุ่นเลยทีเดียว แต่ในอาซากุสะแห่งนี้มีร้านสุดพิเศษที่เราสามารถเพลิดเพลินกับการช้อนปลาทองได้ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในช่วงเทศกาลด้วยนะเออ... นอกจากกิจกรรมช้อนปลาทองแล้ว ภายในร้านก็ยังจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับปลาทองดีไซน์แสนน่ารักอีกต่างหาก สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「"ช้อนปลาทอง" ที่ร้านขายของจิปาถะ? 「อาซากุสะคินเกียว」คอนเซปต์ปลาทอง」
9. Omatsuri Museum (พิพิธภัณฑ์งานเทศกาล)
ในญี่ปุ่นเต็มไปด้วยงานเทศกาลมากมายนับไม่ถ้วน Omatsuri Museum (พิพิธภัณฑ์งานเทศกาล) คือ พิพิธภัณฑ์จัดแสดงวัฒนธรรรมงานเทศกาลของอาซากุสะที่สืบทอดต่อกันมาตั้งแต่ในสมัยก่อน ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงงานเทศกาลซันจะขนาดจิ๋วแบบจำลองและโมเดลเกี้ยว ทำให้เราสามารถสัมผัสบรรยากาศของงานเทศกาลได้อย่างใกล้ชิด สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ『ไปเยี่ยมชมเสน่ห์แห่งเมืองอาสะกุสะ 「Omatsuri museum」』
10. Mokuhankan (โมคุฮันคัง)
ภาพวาดอุคิโยเอะขึ้นชื่อระดับโลกเป็นผลงานที่สรรสร้างขึ้นโดยใช้ภาพพิมพ์「Mokuhankan (โมคุฮันคัง)」ที่ตั้งอยู่ติดกับวัดเซ็นโซจิแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ได้เพียงแค่จำหน่ายผลงานที่สรรสร้างขึ้นโดยใช้ภาพพิมพ์ไม้เท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมเวิร์คช็อปภาพพิมพ์อีกด้วย ห้องเรียนทำกิจกรรมราคา 2,000 เยน / คน (ในกรณีที่ลงทะเบียน 2 คนจะลดเหลือ 1,500 เยน / คน) เพื่อนๆลองมาสรรสร้างภาพพิมพ์ไม้ชิ้นเดียวในโลกเป็นความทรงจำระหว่างเที่ยวกันดูมั้ยเอ่ย? สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「【บริการภาษาอังกฤษ】ลองทำภาพพิมพ์แกะไม้แบบญี่ปุ่นดั้งเดิมที่「โมคุฮังคัง」อาซากุสะ」
<อื่นๆ>
11. Nakamise (ถนนนากามิเสะ)
「Nakamise (ถนนนากามิเสะ)」เป็นแหล่งช้อปปิ้งแนะนำสำหรับแวะมาระหว่างเที่ยวอาซากุสะในยามท้องว่างเลยค่ะ โดยเป็นถนนร้านค้าที่ทอดยาวอยู่ภายในบริเวณวัดเซ็นโซจิ ที่นี่เรียงรายไปด้วยร้านค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นร้านขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมของย่านอาซากุสะและร้านจำหน่ายของฝากย้อนยุคสไตล์อาซากุสะ เป็นต้น
เนื่องจากสิ่งของประดับตกแต่งถนนจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทั้ง 4 เช่น ในฤดูใบไม้ผลิจะเป็นซากุระ ส่วนฤดูร้อนจะเป็นกระดิ่งลม เราจึงสามารถเพลิดเพลินได้ทุกครั้งที่มาเยือน
12. Kappabashi Kitchen Town (ย่านเครื่องครัวกัปปะบาชิ)
ที่นี่ตั้งอยู่ห่างจาก Tokyo Metro Ginza Line · Tahara-cho Station ประมาณเดินเท้า 5 นาที「Kappabashi Kitchen Town (ย่านเครื่องครัวกัปปะบาชิ)」ที่ตั้งอยู่ระหว่างย่านอาซากุสะและอุเอโนะแห่งนี้เป็นถนนร้านค้ายาว 800 เมตรที่เรียงรายไปด้วยร้านจำหน่ายเครื่องครัวหรืออุปกรณ์เกี่ยวกับอาหารตามชื่อ “ย่านเครื่องครัว” เลยค่ะ เพื่อนๆลองแวะมาช้อปปิ้งอุปกรณ์เครื่องครัวของแท้ที่ย่านแหล่งรวมเชฟอาหารญี่ปุ่นแห่งนี้กันดูมั้ยเอ่ย? สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【อาหารญี่ปุ่นกับภาชนะ】ออกไปค้นหาภาชนะใส่อาหารญี่ปุ่นสมัยใหม่ที่ทำให้ชีวิตมีสีสัน ณ ร้าน “โทโชคามะ” ย่านคับปะบาชิ」
13. Sumida Park (สวนซุมิดะ)
「Sumida Park (สวนซุมิดะ)」ที่โด่งดังในฐานะที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ไม่ค่อยมีใครรู้ในอาซากุสะแห่งนี้เป็นสวนสาธารณะที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้อันเขียวขจีเลียบแม่น้ำซุมิดะ อนุสาวรีย์สีขาวรูปร่างสุดแปลกภายในสวนมีรูอยู่เต็มไปหมด เมื่อมองลอดรูออกไปก็จะเห็นโตเกียวสกายทรีด้วยนะเออ... สำหรับใครที่อยากผ่อนคลายระหว่างท่องเที่ยวหรืออยากถ่ายรูปโตเกียวสกายทรีในมุมแปลกใหม่ก็ขอแนะนำให้แวะมาที่นี่เลยค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「3 เหตุผลที่ควรแวะ「สวนสาธารณะซุมิดะ」สถานที่ท่องเที่ยวลับ ที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในอาซากุสะ」
14. Tokyo Asakusa Station Underground Mall (ช้อปปิ้งมอลล์ใต้ดินสถานีอาซากุสะ)
Tokyo Asakusa Station Underground Mall (ช้อปปิ้งมอลล์ใต้ดินสถานีอาซากุสะ) ที่เรียงรายไปด้วยร้านเหล้าบรรยากาศสไตล์ย้อนยุคและร้านโซบะแบบยืนกินแห่งนี้เป็นพื้นที่สำหรับผ่อนคลายของเหล่ามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานในย่านอาซากุสะ ช้อปปิ้งมอลล์ใต้ดินสถานีอาซากุสะมีบรรยากาศราวกับย้อนยุคกลับไปในอาซากุสะเมื่อหลายสิบปีก่อนเลยล่ะค่ะ ถ้าเกิดใครเบื่อหน่ายกับการท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อแล้วก็บอกเลยว่าที่นี่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่ต้องแวะมาชมให้ได้สักครั้ง
15. Asakusa Nishi-Sando Shopping Street (ถนนช้อปปิ้งนิชิซันโด)
Asakusa Nishi-Sando Shopping Street (ถนนช้อปปิ้งนิชิซันโด) ที่เพิ่งผ่านการรีโนเวทใหม่ในปี 2013 แห่งนี้เป็นถนนช้อปปิ้งซึ่งเป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันในหมู่ผู้คนท้องถิ่นมาเป็นเวลายาวนาน ที่นี่ตั้งอยู่ภายในบริเวณวัดเซ็นโซจิโดยมีเสน่ห์อยู่ที่ถนนปูพื้นไม้ดูอบอุ่นนี่แหละ บอกเลยว่าแค่ได้เดินเล่นบนถนนร้านค้าสีสันสดใสภายใต้คอนเส็ปต์ “งานเทศกาล” ก็รู้สึกเพลินแล้วล่ะค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「อาซากุสะ “นิชิซังโด” ย่านร้านค้าสุดคลาสสิคที่ปูทางเดินด้วยพื้นไม้แห่งแรกของญี่ปุ่น」
16. ทัวร์ญี่ปุ่นสำหรับนักท่องเที่ยว
อาซากุสะซึ่งเป็นแหล่งต้นกำเนิดอุตสาหกรรมวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นแห่งนี้มีทัวร์สำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมายไม่ว่าจะเป็น TOMODACHI GUIDE ที่มีผู้คนท้องถิ่นคอยพาเที่ยวไฮไลท์ของย่านอาซากุสะและ Muslim-Friendly Tour Of Tokyo By Trip Designer สำหรับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม เป็นต้น สำหรับใครที่อยากสัมผัสกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปตามแต่ละคนก็บอกเลยว่าห้ามพลาด!
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
หมดกังวลเรื่องภาษา!! กับบริการไกด์ทัวร์"ฟรี" ดี๊ดีจากอาซากุสะ
ไกด์และลูกทัวร์ สนุกกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นแบบเพื่อนกัน"TOMODACHI GUIDE"
「ทริปดีไซเนอร์」ทัวร์โตเกียวดี ๆ สำหรับชาวมุสลิม! ทั้งอาหารฮาลาล พร้อมเวลาละหมาด
17. Asakusa Culture and Tourism Center (ศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ)
ในอาซากุสะเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวมากมายนับไม่ถ้วน ถ้าเกิดประสบปัญหาไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดีหรือหลงทางขึ้นมาจะทำยังไงดีล่ะ? สถานที่ที่จะคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับปัญหาเหล่านี้ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดเซ็นโซจิเลยค่ะ Asakusa Culture and Tourism Center (ศูนย์วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวอาซากุสะ) คือ ศูนย์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวแสนสะดวกที่คอยช่วยเหลือนักท่องเที่ยวเรื่องข้อมูลภูมิศาสตร์และการท่องเที่ยวอาซากุ
แถมเรายังสามารถชมวิวเมืองอาซากุสะจากบนจุดชมวิวฟรีชั้นบนสุดได้ด้วยนะเออ... สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「ชมวิวสวย ของอาซากุสะได้ @ ศูนย์การท่องเที่ยวและวัฒนธรรมแห่งอาซากุสะ」
แหล่งช้อปปิ้งในอาซากุสะ
18.EKIMISE
“อาซากุสะ” แหล่งรวมของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่นและศิลปหัตถกรรมดั้งเดิมแห่งนี้เป็นย่านที่เหมาะสำหรับการหาซื้อของฝากสุดๆ EKIMISE คือ ช้อปปิ้งมอลล์ขึ้นชื่อของอาซากุสะที่เชื่อมต่อกับ Tobu Sky Tree Line Asakusa Station โดยตรง หลังจากเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งภายในโซนอาหารที่เรียงรายไปด้วยร้านขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมกันจนจุใจแล้วก็อย่าลืมแวะขึ้นไปบนดาดฟ้าซึ่งนับเป็นจุดชมวิวโตเกียวสกายทรีอันงดงามกันด้วยเนอะ
19. Asakusa ROX
「Asakusa ROX」คือ ช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ที่จำหน่ายเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายและของใช้ในชีวิตประจำวัน แถมยังเป็นที่ตั้งของออนเซ็น โรงแรม และฟิตเนสติดสระว่ายน้ำอีกด้วย「Matsuri Yu (มัตสึริยุ)」ออนเซ็นบนชั้น 6 - 7F แห่งนี้มีบริการที่พักหลังแช่น้ำร้อนด้วยนะเออ... สำหรับใครที่อยากผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการท่องเที่ยวหรือช้อปปิ้งก็ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ ^^
20. Don Quijote (ดองกี้โฮเต้) สาขาอาซากุสะ
สำหรับใครที่กำลังมองหาของฝากมากมายที่สามารถหาซื้อได้ในราคาสบายกระเป๋าก็ขอแนะนำให้แวะมาช้อปปิ้งที่「Don Quijote (ดองกี้โฮเต้) สาขาอาซากุสะ」ร้านค้าลดราคาแห่งนี้เลยจ้า ที่นี่จำหน่ายสินค้าราคาถูกแบบครอบจักรวาลตั้งแต่ของกระจุกกระจิกสไตล์ญี่ปุ่น เครื่องสำอางยอดนิยมในหมู่สาวๆ เครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจนถึงอาหารการกินเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「เหตุผล 5 ข้อว่าทำไมซื้อของฝากที่「ดองกี้โฮเต้」ถึงคุ้มสุดๆ!」
ดู MATCHA Coupon คูปองส่วนลดต่างๆ ของรวมถึงดองกี้โฮเต้ได้ที่บทความนี้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
อาหารขึ้นชื่อที่สามารถหาทานได้ในอาซากุสะ
21. Namiki Yabusoba (นามิกิยาบุโซบะ)
นอกจากแหล่งช้อปปิ้งแล้ว อาซากุสะก็ยังโด่งดังในฐานะที่เป็นย่านอาหารรสเลิศอีกด้วย เช่น เทมปุระ ซูชิ สุกี้ยากี้ และมนจายากิ「Namiki Yabusoba (นามิกิยาบุโซบะ)」คือ ร้านโซบะเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปีที่มีเงินอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีเวลาต่อแถวรอด้วยนะจ๊ะ...
ที่นี่จำหน่ายเมนูมากมายหลายแบบตั้งแต่ “ซารุโซบะ” ที่สามารถดื่มด่ำกับรสชาติโซบะดั้งเดิมได้, “ยามะคาเคะโซบะ” เมนูเพื่อสุขภาพยอดนิยมในหมู่สาวๆ ไปจนถึง “คาโมะนัมบัง” โซบะร้อนที่เหมาะกับฤดูหนาวเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「ถ้าพูดถึงโซบะอร่อยๆ ในย่านอาซากุสะต้องที่ร้านนามิคิยะบุอันลือชื่อมากว่าร้อยปี!」
22. Komakata Dozeu (โคมากาตะ โดเซอุ)
「Komakata Dozeu (โคมากาตะ โดเซอุ)」คือ ร้านอาหารยอดนิยมเรื่องเมนูที่ทำมาจากวัตถุดิบสุดหรูอย่างปลาโดะโจ โดยสร้างขึ้นในย่านอาซากุสะเมื่อปี 1801
「โดะโจนาเบะ」หม้อไฟมิโซะต้มปลาโดะโจคุณภาพสูงเป็นเมนูสุดหรูที่ต้องลิ้มลองกันให้ได้สักครั้งในชีวิต สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จาก「[โคมะกาตะโดเซย์-Komagata Doze] มาทานอาหารพื้นบ้านของยุคเอโดะในย่านอาซากุสะกันเถอะ !」
23. Funawa (ฟุนาวะ)
Photo by Prtimes
「Funawa (ฟุนาวะ)」ร้านขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมบนถนนนากามิเสะในวัดเซ็นโซจิแห่งนี้เป็นร้านขึ้นชื่อที่มีประวัติความเป็นมายาวนานมากกว่า 100 ปี สินค้าขึ้นชื่อประจำร้านอย่าง โยกังหัวมัน มีเสน่ห์อยู่ที่รสชาติเรียบๆทานง่ายราวกับว่าได้ทานหัวมันจริงๆเลยล่ะค่ะ สินค้าของทางร้านฟุนาวะที่มีรสชาติของวัตถุดิบดั้งเดิมเหล่านี้นับเป็นของหวานชั้นเลิศแนะนำสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่ไม่ชอบทานหวาน สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ตามล่าหาของอร่อย 6 อย่างในย่านการค้าที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น วัดอาซากุสะ (วัดเซ็นโซ)-ถนนนากามิเสะ」
24. Kamejuu (คาเมะจู)
แต่ขนมขึ้นชื่อประจำย่านอาซากุสะไม่ได้มีเพียงแค่โยกังหัวมันเท่านั้นนะจ๊ะ... โดรายากิของคาเมะจู มีเอกลักษณ์อยู่ที่เนื้อแป้งนุ่มลิ้นละลายในปากนี่แหละ โดยมีไซส์เหมาะกับการเดินไปกินไปน่าซื้อกลับไปเป็นของฝากสุดๆ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【SHITAMACHI】ถ้าพูดถึงโดรายากิล่ะก็ที่นี่เลย! ร้านดังย่านอาซากุสะ “คาเมะจู”」
ร้านอาหารแนะนำโดยฝ่ายบรรณาธิการ MATCHA <ฉบับอาหาร>
นอกจากนี้ ย่านอาซากุสะก็ยังเต็มไปด้วยร้านอาหารสุดเอกลักษณ์มากมายอีกต่างหาก เดี๋ยวเรามาพูดถึงร้านอาหารแนะนำโดยฝ่ายบรรณาธิการ MATCHA กันดีกว่าค่ะ ^^
25. Andesu Matoba (อันเดสมาโตบะ)
เมื่อเอ่ยถึงขนมปังสัญชาติญี่ปุ่นแล้วจะต้องนึกถึง “อันปัง” หรือขนมปังไส้ถั่วแดงกันอย่างแน่นอน「Andesu Matoba (อันเดสมาโตบะ)」ร้านขนมปังเก่าแก่ของอาซากุสะแห่งนี้เป็นร้านขนมขึ้นชื่อในโลกแห่งอันปัง โดยเป็นแหล่งรวมขนมปังไส้ถั่วแดงมากกว่า 20 แบบเลยทีเดียว บอกเลยว่าต้องลิ้มลองอันปังสุดแปลกอย่างอันปังคุสะดังโกะและอันปังฟักทองกันให้ได้ค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「「อันเดสมาโตบะ」ร้านขนมปังสอดไส้ถั่วแดงกว่า 20 แบบในอาซากุสะ」
26. Umezono (อุเมะโซโนะ)
「Umezono (อุเมะโซโนะ)」คือ ร้านขนมญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 160 ปี ขนมขึ้นชื่ออย่าง「อาวะเซ็นไซ」เป็นขนมชั้นเลิศแสนเรียบง่ายที่ให้โมจิต้มและถั่วแดงกวนมาแบบจัดเต็มเลยทีเดียว อุเมะโซโนะที่ตั้งอยู่ติดกับถนนนากามิเสะแห่งนี้เป็นหนึ่งในแหล่งผ่อนคลายหลังทานมื้อเที่ยงแนะนำห้ามพลาด สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「「อุเมะโซโนะ」ร้านขนมหวานญี่ปุ่นอาซากุสะ เปิดบริการมากว่า160ปี」
27. Kagurachakapuchi (คางุระชากาปุจิ) สาขาอาซากุสะ
「Kagurachakapuchi (คางุระชากาปุจิ) สาขาอาซากุสะ」คือ คาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่จำหน่ายชาเขียวชงสดใหม่ในตอนกลางวันและมอบประสบการณ์ทำพาเฟ่ต์ชาเขียวสูตรดั้งเดิมเฉพาะของตัวเองด้วยนะเออ... ส่วนตอนกลางคืนจะกลายเป็นบาร์เหล้าชาเขียวที่มีบรรยากาศแตกต่างออกไปทันที ที่นี่จึงนับเป็นคาเฟ่สุดเอกลักษณ์ที่เหมาะสำหรับการพาแฟนหรือเพื่อนๆมาเที่ยวในวันหยุดจริงๆค่ะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ลิ้มลองชาเขียวสดใหม่ที่สุดในโลกที่「คางุระชากาปูจิ อาซากุสะ」」
28. Asakusa Kagetudo (อาซากุสะคาเก็ตสึโด)
Photo by Prtimes
จัมโบ้เมล่อนปัง ขนมขึ้นชื่อของร้าน「Asakusa Kagetudo (อาซากุสะคาเก็ตสึโด)」เป็นที่กล่าวขวัญตามสื่อมากมาย ด้วยรสสัมผัสกรอบนอกนุ่มในทำให้มันกลายเป็นสินค้าขายดีระเบิดระเบ้อมากกว่า 2,000 ชิ้น / วันในวันเสาร์-อาทิตย์ไปโดยปริยาย สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ผิวสัมผัสที่กรอบนุ่ม! ไปกิน“จัมโบ้เมล่อนปัง”ของอาซากุสะคะเกะซึโดกัน」
29. Suzuki-en (ซูซูกิเอ็น) สาขาหลักอาซากุสะ
「Suzuki-en (ซูซูกิเอ็น) สาขาหลักอาซากุสะ」โด่งดังมาจาก ไอศกรีมชาเขียวรสชาติเข้มข้นที่สุดในโลก ไอศกรีมสุดเข้มข้นที่ทำมาจากชาเขียวเพียวๆนี้ถ้าได้ลองสักครั้งจะต้องติดใจกันอย่างแน่นอน
สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「5 ร้าน ของหวานเย็นๆของอาซากุสะ ที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนของโตเกียว!」
30. Chakura (ชาคุระ)
น้ำแข็งใส เป็นเมนูในดวงใจของคนญี่ปุ่นในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ประจำฤดูร้อน「Chakura (ชาคุระ)」คาเฟ่ชาเขียวแห่งนี้โด่งดังมาจากเมนูน้ำแข็งใสโรยหน้าด้วยท็อปปิ้งชาเขียว ถั่วแดง และไอศกรีม โดยมีรสสัมผัสนุ่มลิ้นละลายในปากมอบความสดชื่นรับหน้าร้อน
31. Azuma Kibi Dango (อัตสึมะคิบิดังโกะ)
Photo by Pixta
「Azuma Kibi Dango (อัตสึมะคิบิดังโกะ)」ร้านขนมญี่ปุ่นเก่าแก่บนถนนนากามิเสะแห่งนี้เป็นร้านจำหน่ายขนมขึ้นชื่ออย่างคิบิดังโกะตามชื่อร้านเลยค่ะ ผงถั่วเหลืองซึ่งมีเอกลักษณ์อยู่ที่รสหวานเรียบง่ายมีรสสัมผัสนุ่มลิ้นละลายในปากฟินสุดๆ บอกเลยว่าเหมาะกับการทานคู่กับชาเขียวเย็นในฤดูร้อนจริงๆค่ะ
32. Kurikoan (คุริโกะอัน)
“ไทยากิ” คือ ขนมญี่ปุ่นรูปปลาไทที่ทำมาจากแป้งสาลีสอดไส้ถั่วแดงกวน「Kurikoan (คุริโกะอัน)」ในอาซากุสะแห่งนี้จำหน่ายเมนูพิเศษประจำฤดูร้อนอย่าง「ไทยากิเย็น」สอดไส้วิปครีมและถั่วแดงกวน โดยได้รับความนิยมในหมู่สาวๆเป็นพิเศษเลยล่ะค่ะ
33. Asakusa naniwaya (อาซากุสะนานิวายะ)
Asakusananiwaya (อาซากุสะนานิวายะ) ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ Asakusa View Hotel แห่งนี้เป็นคาเฟ่จำหน่ายขนมขึ้นชื่ออย่าง น้ำแข็งใส รสสัมผัสนุ่มลิ้นและ ไทยากิ ที่มีรสหวานอ่อนๆของถั่วแดงกวนฟินเว่อร์ ในวันหยุด ที่นี่จะกลายเป็นร้านยอดนิยมถึงขนาดมีผู้คนมารอต่อแถวหน้าร้านกันเพียบ! จึงขอแนะนำให้แวะมาช่วงหลังเที่ยง – เย็นของวันธรรมดาจะดีที่สุด
สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับของหวานในอาซากุสะสามารถเข้าไปดูได้จาก「5 ร้าน ของหวานเย็นๆของอาซากุสะ ที่เหมาะสำหรับฤดูร้อนของโตเกียว!」
34. Kombu-no-Kawahito (คอมบุโนะคาวาฮิโตะ)
สาหร่ายคอมบุ นับเป็นวัตถุดิบที่ขาดไม่ได้ในการทำอาหารตามครัวเรือนญี่ปุ่นเลยทีเดียว Kombu-no-Kawahito (คอมบุโนะคาวาฮิโตะ) จำหน่ายสาหร่ายคอมบุรูปตัวอักษรต่างๆและกลีบดอกซากุระ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【อาซากุสะ】「คอมบุโนะคาวาฮิโตะ」สาหร่ายคอมบุแกะสลักลวดลายสวยงาม!」
35. KURAND SAKE MARKET
「KURAND SAKE MARKET」สถานที่แนะนำสำหรับคอเหล้าญี่ปุ่นแห่งนี้เป็นร้านขึ้นชื่อที่สามารถดื่มสาเกญี่ปุ่นกว่า 100 ชนิดได้ไม่อั้นโดยไม่กำหนดระยะเวลา
36. Magurobito (มากุโระบิโตะ)
ถ้าเกิดใครกำลังมองหาร้าน ซูชิ ในอาซากุสะก็ขอแนะนำเป็น「Magurobito (มากุโระบิโตะ)」ร้านซูชิบนถนนชินนากามิเสะเลยค่ะ มากุโระบิโตะที่จำหน่ายซูชิปลามากุโระรสเลิศสดใหม่แห่งนี้คึกคักไปด้วยผู้คนมากมายอยู่เป็นประจำ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ถ้าอยากทานซูชิที่อาซากุสะต้องที่นี่เลย!รวมร้านซูชิสุดเด็ด 13 ร้านที่อาซากุสะ」
37. Mizuguchi shokudou (มิสึกุจิโชคุโด)
Mizuguchishokudou (มิสึกุจิโชคุโด) ในอาซากุสะเป็นร้านอาหารชาวบ้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายในสมัยก่อน โดยเป็นร้านขึ้นชื่อในอาซากุสะที่สามารถดื่มด่ำกับอาหารในครัวเรือนญี่ปุ่นอย่าง โชกะยากิ และ นิคุจากะ คู่กับเหล้าได้ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ร้านอาหาร “มิสึกุจิ” ในอาซากุสะ 〜ย้อนวันวานอันแสนหวานของร้านอาหารชาวบ้านแบบญี่ปุ่น〜」
38. ASAKUSA KOKONOE (อาซากุสะโคโคโนเอะ)
「ASAKUSA KOKONOE (อาซากุสะโคโคโนเอะ)」จำหน่ายเมนูขึ้นชื่ออย่าง「อาเกะมันจู」ที่ทำโดยการนำมันจูไปทอดในน้ำมันร้อนๆจนกรอบอร่อย ส่วนไส้มันจูก็มีให้เลือกมากมายหลากหลายรสชาติไม่ว่าจะเป็นรสชาเขียวถั่วแดงและซากุระถั่วแดง เป็นต้น สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「วันนี้จะเอาอันไหนดีนะ มังจูทอดของอาซากุซะคุจู」
39. Omoshiro Okashi Kobo – Nakaichi (โอโมชิโระ โอกาชิ โคโบ - นากาอิจิ)
「Omoshiro Okashi Kobo – Nakaichi (โอโมชิโระ โอกาชิ โคโบ - นากาอิจิ)」จำหน่ายน้ำตาลหลากสีสันบรรจุในแพ็คเกจสุดน่ารักอารมณ์ดี ลูกกวาดหน้าตาสวยงามเหล่านี้เหมาะกับการซื้อกลับไปเป็นของฝากให้กับคุณหนูๆสุดๆ
40. Tengoku (เท็งโกคุ)
「Tengoku (เท็งโกคุ)」คาเฟ่บรรยากาศดีสไตล์ย้อนยุคแห่งนี้มีเมนูขึ้นชื่อเป็น แพนเค้ก รสเลิศ โดยตั้งอยู่บนถนนนากามิเสะ ที่นี่เป็นร้านในดวงใจของผู้คนท้องถิ่นในฐานะที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจระหว่างเที่ยวอาซากุสะ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「ดื่มด่ำความสุขเล็กๆที่「เท็งโคคุ」คาเฟ่แพนเค้กย้อนยุคย่านอาซากุสะ」
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
41. Onigiri Asakusa (โอนิงิริ อาซากุสะ ยาโดโรคุ)
ร้าน "โอนิงิริ อาซากุสะ ยาโดโรคุ" ที่ตั้งอยู่ในย่านการค้าหลังวัดอาซากุสะ คือร้านโอนิงิริที่เก่าแก่ที่สุดในโตเกียว ร้านนี้ยังเป็นร้านชื่อดังที่ได้รับการจัดอันดับใน "มิชลิน ไกด์ โตเกียว" และมีคนต่อคิวก่อนเปิดร้านทุกวัน โอนิงิริที่เรียบง่ายแต่มีความน่าคิดถึงนั้นเป็นอย่างยอดเยี่ยม
Onigiri Asakusa(โอนิงิริ อาซากุสะ ยาโดโรคุ)
ที่อยู่ : Capital Plaza Asakusa, 3-9-10 Asakusa, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://onigiriyadoroku.com/
42. Asakusa Oden Otafuku (อาซากุสะ โอเด้น โอทาฟุกุ)
ที่ร้าน "อาซากุสะ โอเด้น โอทาฟุกุ" ร้านโอเด้นเก่าแก่ที่ตั้งอยู่อย่างเงียบสงบใกล้แม่น้ำสุมิดะในอาซากุสะ คุณสามารถเพลิดเพลินกับโอเด้นแบบดั้งเดิมไปพร้อมกับชมวิวของสกายทรี ด้วยน้ำซุปที่มีกลิ่นหอมและเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์นานถึง 100 ปี ทำให้รู้สึกอบอุ่นไปทั้งกาย
Asakusa Oden Otafuku(อาซากุสะ โอเด้น โอทาฟุกุ)
ที่อยู่ : 1-6-2 Senzoku, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://otafuku.ne.jp/
ร้านค้าแนะนำโดยฝ่ายบรรณาธิการ MATCHA <ฉบับของจิปาถะและของฝาก>
นอกจากอาหารการกินแล้ว สิ่งที่ลืมไม่ได้เลยก็คือของฝากระหว่างท่องเที่ยวนั่นเอง ในอาซากุสะเต็มไปด้วยสินค้าจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่นและสินค้าศิลปหัตถกรรมที่ทำให้สัมผัสถึงฝีมือของช่างมืออาชีพมากมาย เดี๋ยวเรามาพูดถึงร้านค้าแนะนำโดย MATCHA กันหน่อยดีกว่าค่ะ ^^
41.Palm
「Palm」ที่ตั้งอยู่เลียบถนนเอโดกาวะห่างจากสถานีอาซากุสะเดินประมาณ 5 นาทีแห่งนี้เป็นร้านจำหน่ายสินค้าจิปาถะสุดเอกลักษณ์ที่เจ้าของร้านคัดสรรมาจากเกาะทางใต้ล้วนๆเลยทีเดียว สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【SHITAMACHI】「Palm」ร้านขายของจิปาถะที่เต็มเปี่ยมไปด้วย「ความชื่นชอบที่หลากหลาย」!อีกหนึ่งความน่าสนใจของอาซากุสะ」
42. Asakusa FUJIYAMA (อาซากุสะฟูจิยามะ)
「Asakusa FUJIYAMA (อาซากุสะฟูจิยามะ)」เป็นร้านจำหน่ายสินค้าจิปาถะสไตล์ญี่ปุ่นออริจินอล โดยรวมของที่ระลึกระหว่างเที่ยวเอาไว้มากมาย เช่น สินค้ากระจุกกระจิกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภูเขาไฟฟูจิและเสื้อยืดลายญี่ปุ่น เป็นต้น สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「บรรยากาศของเมืองชิตะมะจิที่อัดแน่นไว้เต็มที่ “อาซากุสะฟูจิยามะ”」
43. Tousyougama (โทโชกามะ)
「Tousyougama (โทโชกามะ)」ที่ตั้งอยู่ในย่านเครื่องครัวกัปปะบาชิแห่งนี้เป็นร้านจำหน่ายภาชนะญี่ปุ่นดีไซน์โมเดิร์น เพื่อนๆลองมาค้นหาภาชนะที่ถูกใจที่ร้านคอนเส็ปต์ “เจแปนนิสโมเดิร์น” กันดูมั้ยเอ่ย? สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「SHITAMACHI ใครที่กําลังมองหาภาชนะสไตล์ญี่ปุ่นที่ดูดี ลองมาดูที่ร้านโทโชงามะในย่านอาซากุสะได้」
44. Hinomoto Hampu สาขาอาซากุสะ
Hinomoto Hampu(ฮิโนะโมโตะฮัมปุ) สาขาอาซากุสะ คือ ร้านจำหน่ายกระเป๋าสุดเก๋ไก๋ที่ใช้แล้วจะต้องติดใจ กระเป๋าของHinomoto Hampuผ่านกระบวนการผลิตด้วยฝีมือคนล้วนๆโดยใช้ผ้าพิเศษที่เรียกว่า “ผ้าใบ” จึงนับเป็นสินค้าสุดทนทานเหมาะสำหรับการพกพาไปเที่ยวสุดๆ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「กระเป๋าผ้าใบยิ่งใช้ยิ่งแจ่ม! ร้าน「ฮิโนโมโตะฮัมปุ สาขาอาซากุสะ」」
45. Kamata (คามาตะ)
สำหรับใครที่กำลังมองหามีดเข้ามือสักเล่มก็ขอแนะนำให้แวะมาที่「Kamata (คามาตะ)」ร้านจำหน่ายมีดในย่านเครื่องครัวกัปปะบาชิเลยค่ะ ที่นี่เป็นร้านขึ้นชื่อที่มีเหล่าเชฟมือฉมังจากทั่วญี่ปุ่นแวะเวียนกันมาหาซื้อมีดคุณภาพเยี่ยมอยู่เป็นประจำ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「「คามาตะ」 ร้านขายมีดเฉพาะที่คัปปะบาชิ หาที่เหมาะกับตัวเองให้พบสัก 1 เล่ม」
46. Shibata Yoshinobu Shoten (ชิยาตะ โยชิโนบุ โชเท็น)
ร้าน "ชิบาตะ โยชิโนบุ โชเท็น" คือร้านที่จำหน่าย "โอดาเตะ มาเกะ วัปปะ" ซึ่งเป็นงานหัตถกรรมดั้งเดิมจากจังหวัดอากิตะ ร้านนี้จำหน่ายสินค้าภายใต้แนวคิด "จากพ่อแม่สู่ลูก จากลูกสู่หลาน" โดยเน้นขายสินค้าที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและถูกใจ
Shibata Yoshinobu Shoten(ชิบาตะ โยชิโนบุ โชเท็น)
ที่อยู่ : 1-17-5, Asakusa, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://magewappa.com/
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
47. Kama-asa Shoten (คะมะอะซะโชเท็น)
ที่ถนนคัปปะบาชิ โดกุ มีร้าน "คามะอะซะ โชเท็น" ซึ่งมีผ้าม่านที่ออกแบบอย่างมีสไตล์เป็นเครื่องหมาย นับเป็นร้านยอดนิยมที่ทั้งพ่อครัวและนักท่องเที่ยวที่มาเยือนญี่ปุ่นต่างเข้ามาเยี่ยมชม ในร้านมีอุปกรณ์ทำอาหารมากกว่า 1,000 ชนิด แม้ว่าจะดูเรียบง่าย แต่ทุกชิ้นล้วนทำจากวัสดุที่แข็งแรง
Kama-asa Shoten(คะมะอะซะ โชเท็น)
ที่อยู่ :2-24-1 Matsugaya, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://kama-asa.co.jp/
48. Majimaya (มาชิมายะ คาชิ โดกุเท็น)
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเครื่องมือในการทำขนมปังหรือขนม "มาชิมายะ คาชิ โดกุเท็น" เป็นทางเลือกที่แนะนำ มีแม่พิมพ์คุกกี้มากกว่า 1,000 ชนิด และยังมีแม่พิมพ์ที่เป็นของเฉพาะของมาชิมายะที่หาซื้อไม่ได้จากที่อื่น ราคาอยู่ที่ประมาณ 120 เยนถึง 1,500 เยน (รวมภาษี) ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เอื้อมถึงได้
Majimaya(มาชิมายะ คาชิ โดกุเท็น)
ที่อยู่ :2-5-4 Nishiasakusa, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://majimaya.com/
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
49. iidaya (อิอิดะยะ)
ร้าน "อิอิดะยะ" เป็นร้านค้าที่นำเข้าและจำหน่ายเครื่องมือทำอาหารจากทั่วญี่ปุ่นและทั่วโลก ได้รับความเชื่อถืออย่างมากจากทั้งเชฟมืออาชีพและลูกค้าทั่วไปที่ว่า หากมาที่นี่จะเจอเครื่องมือทำอาหารที่ต้องการแน่นอน!
iidaya(อิอิดะยะ)
ที่อยู่ :1-19-4 Asakusa, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://kappa-iida.com/
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
50. Yoroshi (โยโรชิ เคโชโด)
ร้าน "โยโรชิ เคโชโด" เป็นร้านเครื่องสำอางที่ดำเนินมาตั้งแต่ยุคไทโช โดยยึดมั่นในการใช้วัตถุดิบญี่ปุ่น และมีเครื่องสำอางที่เป็นมิตรกับผิว ภายในร้านตกแต่งด้วยการออกแบบที่ยังคงเอกลักษณ์จากยุคนั้น ซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งยุคไทโชโรมานติก
Yoroshi(โยโรชิ เคโชโด)
ที่อยู่ :1-18-1 Asakusa, Taito, Tokyo
เว็บไซต์ทางการ : https://www.yoroshi.co.jp/
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
แผนเที่ยวอาซากุสะ
ต่อไป MATCHA จะมาแนะนำแผนเที่ยวสำหรับดื่มด่ำกับการท่องเที่ยวอาซากุสะกันค่ะ ^^ แผนเที่ยวแรกเป็นแพ็คเกจราคา 5,000 เยนที่สามารถเพลิดเพลินกับการใส่ชุดกิโมโนและดื่มเหล้าญี่ปุ่นแบบไม่อั้นได้ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「เที่ยวอาซากุสะ จนทะลุปรุโปร่งด้วยงบ5,000เยน ตั้งแต่ชุดกิโมโนยันเหล้าสาเกญี่ปุ่น」
ส่วนแผนเที่ยวถัดมาเป็นแพ็คเกจสุดคุ้มที่สามารถอิ่มอร่อยกับของหวานรสชาเขียวและสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่นได้ในราคาเพียง 1,000 เยนเท่านั้น สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「เที่ยว 5 ที่ด้วยเงินแค่ 1,000 เยน 「แพลนเที่ยวอาซากุสะแบบประหยัดงบ」」
งานอีเว้นท์ในอาซากุสะ
เดือนเมษายน:Nakizumo Festival (งานเทศกาลนากิซูโม่)
ในอาซากุสะมีการจัดงานเทศกาลและงานอีเว้นท์มากมายเป็นประจำทุกปี Nakizumo Festival (งานเทศกาลนากิซูโม่) ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนเป็นงานเทศกาลที่ให้นักซูโม่อุ้มเด็กอายุประมาณ 1 ขวบหันหน้าเข้าหากันโดยตัดสินแพ้ชนะตรงที่เด็กคนไหนร้องไห้เสียงดังกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะไปนั่นเอง
เดือนพฤษภาคม:Sanja Matsuri (งานเทศกาลซันจะ)
Sanja Matsuri (งานเทศกาลซันจะ) ที่จัดขึ้นในศาลเจ้าอาซากุสะแห่งนี้เป็นงานเทศกาลชั้นนำของอาซากุสะเลยทีเดียว ในวันงานทั่วทั้งย่านอาซากุสะจะกึกก้องไปด้วยเสียงของชายหนุ่มผู้แบกเกี้ยวกว่า 100 คันด้วยกัน
เดือนกรกฎาคม:Shitamachi Tanabata Festival (งานเทศกาลชิตามาจิทานาบาตะ) / Hozuki ichi (โฮซุกิอิจิ)
ในเดือนกรกฎาคมจะมีการจัดงานอีเว้นท์สุดคึกคักขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็น「Shitamachi Tanabata Festival (งานเทศกาลชิตามาจิทานาบาตะ)」ที่ประดับตกแต่งใบไผ่ด้วยกระดาษเขียนคำอธิษฐานหลากสีสัน และ「Hozuki ichi (โฮซุกิอิจิ)」ที่มีการจำหน่ายของมงคลอย่าง ต้นโฮซุกิ ภายในวัดเซ็นโซจิ สำหรับรายละเอียดสามารถเข้าไปดูได้จากบทความ「【ฤดูร้อน 】การมาเยือนของฤดูร้อน ที่ตลาดโฮโอซุคิ วัดเซนโซ」
เดือนสิงหาคม:Asakusa Samba Carnival (อาซากุสะ แซมบ้า คาร์นิวัล)
「Asakusa Samba Carnival (อาซากุสะ แซมบ้า คาร์นิวัล)」ที่มีการเดินขบวนแซมบ้าไปทั่วทั้งเมืองจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนสิงหาคมของทุกปี
เดือนพฤศจิกายน:Tori no Ichi (โทริโนะอิจิ)
「Tori no Ichi (โทริโนะอิจิ)」คือ งานเทศกาลที่จัดขึ้นทั้งหมด 3 ครั้งในเดือนพฤศจิกายนของทุกปีที่ศาลเจ้าโอโทริ โดยมีการจำหน่ายสิ่งของมงคลที่เรียกว่า “คุมาเตะ” ที่ช่วยให้การค้าขายเจริญรุ่งเรืองและปลอดจากภัยพิบัติ
เดือนธันวาคม:Hagoita-Ichi (ฮาโกอิตะอิจิ)
ถ้าเกิดใครมีโอกาสได้เดินทางมาเที่ยววัดเซ็นโซจิในช่วงปลายปีก็จะเห็น ฮาโกอิตะ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนเลยทีเดียว “ฮาโกอิตะ” คือ ของเล่นที่เชื่อกันว่าช่วยคุ้มครองป้องกันภัยมาตั้งแต่ในอดีต สำหรับใครที่วางแผนมาเที่ยวอาซากุสะในเดือนธันวาคมก็ลองซื้อฮาโกอิตะหลากสีสันกลับไปฝากคุณหนูๆกันดูมั้ยเอ่ย?
โรงแรมแนะนำในอาซากุสะ
ในอาซากุสะมีที่พักหลายประเภทเช่น เรียวกังซึ่งเป็นที่พักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น โฮสเทลที่มีการตกแต่งฃแบบญี่ปุ่นและเกสต์เฮาส์
จองที่พักที่ "Richmond Hotel"
51. เรียวอุนโนะยุ โอยาโดะ โนโนะอาซากุสะ
"โรงแรมโอยาโดะ โนโนะอาซากุสะ" ซึ่งอยู่ใกล้ "อาซากุสะฮานะยาชิกิ" มีนำ้พุร้อนธรรมชาติ "คุโรยุ" ที่มีแร่ธาตุอุดทสมบูรณ์และซาวน่า ห้องพักมีทาทามิที่คุณสามารถผ่อนคลายด้วยเท้าเปล่า มีร้านอาหารและบริการที่ครบครัน
52. ห้องอาบน้ำวิวดี อาซาฮิยุ ดอร์มี่อิน global cabin อาซากุสะ
ห้องอาบน้ำวิวดี อาซาฮิยุ ดอร์มี่อิน global cabin อาซากุสะ ที่อยู่ห่างจากสถานีอาซากุสะเพียง 1 นาทีเดินเท้า ตั้งอยู่บนชั้นสูงสุด 10F มีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่พร้อมซาวน่าและสามารถชมวิวอาซากุสะจากอ่างอาบน้ำกลางแจ้ง จุดเด่นอีกอย่างคือมื้อเช้าที่มี "ข้าวปลาไหล" อาหารชื่อดังในอาซากุสะที่มีร้านขายอาหารปลาไหลมากมาย
53. อันดนเรียวกัง
"อันดนเรียวกัง" เป็นเรียวกังดีไซเนอร์แห่งแรกของโตเกียว ห้องพักทั้งหมดเป็นห้องแบบญี่ปุ่น มีทั้งภายนอกและภายในที่ออกแบบได้อย่างสไตล์ รวมถึงอาหารบ้าน ๆ ทำมือผู้เหญิงเจ้าของก็ได้รับความนิยม มันเป็นที่พักที่แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสกับชีวิตประจำวันของญี่ปุ่นและเมืองล่าง
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
54. คามินาริมงเรียวกัง
โรงแรม "คามินาริมงเรียวกัง" ตั้งอยู่ติดกับประตูคามินาริมง ภายในโรงแรมมีพื้นที่ที่สงบด้วยผนังดินและไม้ มีการตกแต่งด้วยวัฒนธรรมญี่ปุ่นทุกหนทุกแห่ง ที่แผนกต้อนรับมีพนักงานที่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นแม้คุณจะไม่ถนัดภาษาญี่ปุ่นก็สามารถพักอย่างสบายใจได้
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
โรงแรมแนะนำอื่น ๆ
ที่อาซากุสะยังมีสถานที่พักมากมายที่มีเอกลักษญ์อื่น ๆ อีกมากมาย ตัวอย่างเช่น "เรียวกัง & โฮสเทล คาวซันเวิล อาซากุสะ" ก็เป็นหนึ่งในนั้น
เกสต์เฮาส์ที่ทันสมัยและประหยัดอย่าง "โตเกียวฮิคาริเกสต์เฮาส์" หรือ "ซากุระโฮสเทลอาซากุสะ" เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาญี่ปุ่น มีโรงแรมเก่าแก่อย่าง "ซุเคะโรคุโนะยาโดะ ซาดะจิโย" ด้วย ลองเลือกที่พักตามงบประมาณหรืออารมณ์ของคุณ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
ข้อมูลอื่นๆที่มีประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว
ข้อควรรู้และข้อควรระวังในการท่องเที่ยวญี่ปุ่น
สำหรับใครที่กำลังมองหาที่แลกเงินเยนหรือเงินสกุลต่างประเทศก็สามารถใช้บริการแลกเงินตราต่างประเทศของธนาคารหรือตู้ ATM ตามเซเว่นอีเลฟเว่นได้เลยจ้า...
ในกรณีที่เงินสดหมดให้รีบหาตู้ ATM ที่มีสัญลักษณ์ PLUS เพียงเท่านี้เราก็จะสามารถกดเงินสดระหว่างประเทศได้อย่างง่ายดายแล้วล่ะค่ะ ^^
สำหรับใครที่อยากรู้วลีแสนสะดวกสำหรับใช้ตอนเข้าพักตามโรงแรมในญี่ปุ่นสามารถเข้าไปอ่านได้จากบทความดังต่อไปนี้
นอกจากนี้ ในญี่ปุ่นก็ยังมีบริการ「Japan Connected-free Wi-Fi」แสนสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยนะเออ... ยังไงก็ลองดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ล่วงหน้ากันได้เลย
เอ่อ...แล้วค่าอาหารที่ใช้ระหว่างเที่ยวญี่ปุ่นตกประมาณเท่าไหร่ต่อวันกันน้า? งั้นคำนวณเอาไว้ล่วงหน้าจะดีที่สุด
อ่านเพิ่มเติมได้ที่:
ค่าอาหารเฉลี่ยต่อวันระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น (ร้านสะดวกซื้อ,ร้านอาหาร,ร้านซูชิ)
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
นี่คือบัญชีของกองบรรณาธิการ MATCHA เราจะเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นที่นักท่องเที่ยวอยากรู้ รวมถึงเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่ของญี่ปุ่นที่ยังไม่มีใครรู้จัก
นอกจากนี้ บทความอาจมีลิงก์โฆษณา โปรดพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจซื้อหรือจอง